 |
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
 |
|
|
ที่มาชื่อ “ปากีสถาน” เหมือนหรือต่างอย่างไรจากชื่อประเทศลงท้ายด้วย “สถาน” ในเอเชียกลาง
หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อประเทศในเอเชียกลางกันมาบ้าง อย่าง คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน คีร์กีซสถาน และคงสงสัยอยู่บ้างว่าทำไมประเทศเหล่านี้ถึงลงท้ายด้วยคำว่า “สถาน”
ไมเคิล ไรท์ นักวิชากรประวัติศาสตร์และไทยคดีศึกษา ให้คำอธิบายว่า ชื่อประเทศในเอเชียกลางเป็นมรดกจากภาษาเปอร์เซีย (อิหร่าน) ซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน ญาติของภาษาสันสกฤต รวมถึงภาษาในตะวันตก
คำว่า “สฺตาน” (Stan) ในภาษาเปอร์เซีย ตรงกับ “สฺถาน” (Sthan) ในภาษาสันสกฤต และตรงกับภาษาอังกฤษหลายคำ เช่น Stand (ยืน) และ Station (ที่ยืนหรือสถานี)
คำเหล่านี้ล้วนมาจากรากศัพท์เดิมว่า Sta อันหมายถึง “ยืน”, “อยู่”, “นิ่ง” ก่อนจะพัฒนาไปสู่ความหมายอื่น ๆ ตั้งแต่ ที่ยืน สถานที่ ไปจนถึง “ประเทศ”
สมัยโบราณ ชาวเปอร์เซียเคยขยายอำนาจมาจากที่ราบสูงอิหร่านทางตะวันตก สู่พื้นที่เอเชียกลาง รวมถึงภาคเหนือของอินเดีย ทำให้ภาษาเปอร์เซียแพร่กระจายและกลายเป็นภาษาราชการทั่วดินแดนใต้อาณัติของพวกเขา
ด้านชาติพันธุ์ เอเชียกลางประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์หลักๆ คือ ชนชาวเตอร์กิก (Turkic people) หรือพวกเติร์ก ที่มีชาติพันธุ์แยกย่อยอีกมากมาย พวกเขาทั้งสามารถสถาปนารัฐของตนเอง ทั้งถูกปกครองโดยมหาอำนาจ
กระทั่งสหภาพโซเวียตสลายตัว สาธารณรัฐทั้ง 5 ในเอเชียกลางที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของโซเวียต จึงได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1991 กลายเป็นประเทศคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และคีร์กีซสถาน
ชื่อประเทศข้างต้น มาจากชื่อชนชาติกลุ่มใหญ่ทั้ง 5 ชาติพันธุ์ในเอเชียกลาง ได้แก่ ชาวคาซัค (Kazakh) ชาวอุซเบก (Uzbek) ชาวทาจิก (Tajik) ชาวเติร์กเมน (Turkmen) และชาวคีร์กีซ (Kyrgyz)
คำว่า “สถาน” (Stan) ที่ลงท้ายชื่อประเทศ มีเพื่อบอกอัตลักษณ์ทางชนชาติบนดินแดนของตนเอง เช่น คาซัคสถาน ก็คือ “ประเทศของชาวคาซัค” นั่นเอง
ส่วนชื่อปากีสถานเป็นข้อยกเว้นสำหรับหลักการข้างต้น เพราะเป็นชื่อจากตัวอักษรแรกของชื่อแคว้นในประเทศ คือ ปัญจาบ (Punjab) อัฟกาเนีย (Afghania) แคชเมียร์ (Kashmir) อิสลามาบาด (Islamabad) สินธ์ (Sindh) และ “คำสุดท้าย” ของแคว้นบาลูจิสถาน (Baluchistan) รวมกันเป็น “Pakistan”
มีความหมายว่า ดินแดนของชนบริสุทธิ์ แคชเมียร์: ผู้รอดชีวิตเผยนาทีเหตุกราดยิงในแคชเมียร์ของอินเดีย สังหารนักท่องเที่ยวดับ 26 คน - BBC News ไทย ทหารเรือชาวอินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างการฮันนีมูน มัคคุเทศก์ทัวร์ผู้เป็นเสาหลักของบ้าน และนักธุรกิจที่มาพักผ่อนพร้อมกับภรรยาและลูก ๆ ของเขา คือเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีนองเลือด ที่คร่าชีวิตผู้คนถึง 26 ราย ในดินแดนแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มมือปืนเปิดฉากยิงเข้าใส่นักท่องเที่ยวในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในเมืองพาฮาลกัม (Pahalgam) ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีทัศนียภาพงดงามท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย จนได้รับขนานนามว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งอินเดีย" ผู้มาเยือนจากหลากหลายรัฐของอินเดียถูกสังหาร และอีกจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันตัวเลขผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากทางการ นี่นับเป็นการโจมตีครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา ณ พื้นที่ขัดแย้งแห่งนี้ และยังนำความแหลกสลายมาสู่หลายครอบครัว | | |
ย้อนที่มา 70 ปีแห่งความขัดแย้งในแคชเมียร์ ระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน
หลังจากเหตุสังหารประชาชน 26 คน โดยมือปืนในแคว้นแคชเมียร์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ดินแดนบนเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ ซึ่งเป็นเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างอินเดียและปากีสถานมานานกว่า 7 ทศวรรษ ได้กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง
นับตั้งแต่เป็นเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 บริติชอินเดียเดิมได้แยกตัวออกเป็นสองประเทศ คืออินเดียและปากีสถาน ทั้งสองประเทศซึ่งล้วนมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองได้ทำสงครามกันมาแล้วสองครั้งจากประเด็นพิพาทเหนือดินแดนแห่งนี้ซึ่งมีคนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ทั้งสองประเทศต่างก็อ้างกรรมสิทธิเหนือดินแดนแห่งนี้
ประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ปี 1947
นับตั้งแต่อินเดีย และปากีสถานได้รับเอกราชจากการปกครองอังกฤษในปี 1947 อดีตผู้ปกครองรัฐจัมมูและแคชเมียร์ได้รับทางเลือกให้สามารถเข้าร่วมรัฐที่พวกเขาต้องการได้ กล่าวคือจะเลือกไปรวมกับอินเดียหรือปากีสถานก็ได้
ในตอนนั้น ฮารี ซิงห์ มหาราชาผู้ปกครองแคชเมียร์ซึ่งเป็นชาวฮินดู เป็นประมุขของดินแดนที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมแห่งนี้ เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะไปเข้าร่วมกับประเทศใด ฮารี ซิงห์ จึงลงนามในข้อตกลง "หยุดนิ่ง (standstill)" เป็นการชั่วคราวเพื่อที่จะรักษาบริการด้านการคมนาคมขนส่งและบริการอื่น ๆ กับปากีสถานต่อไป
ต่อมาในเดือน ต.ค. 1947 มีกลุ่มชนเผ่าจากปากีสถานได้บุกรุกเข้ามาในแคว้นแคชเมียร์ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากรายงานว่ามีการโจมตีชาวมุสลิม รวมถึงความผิดหวังจากกลยุทธ์การยืดเวลาของฮารี ซิงห์
ฮารี ซิงห์ จึงขอความช่วยเหลือทางทหารจากอินเดีย
การเกิดใหม่ของปากีสถาน หลังแยกอินเดียเป็นสองประเทศ | 8 Minute History EP.136
ถอดบทเรียนอินเดีย-ปากีสถาน โศกนาฏกรรมที่เกิดจากความต่างทางศาสนา | 8 Minute History EP.137 - YouTube
“สาธารณรัฐอิสลามแห่งปากีสถาน” ชื่อประเทศที่ตอนแรกไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อสร้างเป็นรัฐอิสลาม
Create Date : 25 เมษายน 2568 |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2568 7:32:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 48 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
|
|