..... หมดลมหายใจก็ไปแต่ตัว อย่ามามัวแย่งชิงทุกสิ่งอย่าง .....ขอบคุณทุกคน ที่มาแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีความสุขกันทุกคนนะครับ....
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

ตำนานพระผุดวัดพระทอง...ของดีเมืองภูเก็ต



บล็อกที่ 39

ตอนนี้เพื่อนๆอาจจะเครียดกับสถานการณ์บ้านเมือง ที่ดูเหมือนจะลุกลามบานปลายจนยากแก่การควบคุม ก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เขาจัดการกันไป..ส่วนเพื่อนๆมาเข้าวัดกับผมดีกว่า เผื่อว่าวันนี้คุณอาจจะยิ้มได้บ้าง





เปรี้ยง...เปรี้ยง...

ครืนน...ครืนน...

เปรี้ยง..ครืน..ซู่ ซู่....




ฟ้าแลบแปลบปลาบ ฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล บ้านทุ่งนาในบ่ายวันนี้ไม่มีเด็กวิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าวเหมือนทุกวัน พอแม่เรียกลูกเล็กเด็กแดงหลบเข้าเคหาก่อนที่ทั้งลมทั้งฝนจะกระหน่ำลงมาอย่างหนัก



ภายในเรือนหลังหนึ่ง...

“ตานวย แกใช้ให้ไอ้แดงมันไปล่ามควายถึงไหนหือ ป่านนี้มันถึงยังไม่กลับบ้าน แกนี่แย่จริงๆ แทนที่จะไปเสียเอง กลับใช้ให้ลูกไป ดูซิ..ลมก็พัดแรง”

“เหอะน่า อย่าเป็นห่วงมันเลย เดี๋ยวมันก็กลับ ก็ควนมันอยู่หลังบ้านแค่นี้เอง มันจะไปถึงไหนกัน”


(ควน หมายถึงเนินดินขนาดย่อมๆ ที่น้ำอาจท่วมไม่ถึงในกรณีที่เกิดน้ำท่วม)

“น่ากลัวคราวนี้มันจะท่วมจริงๆนะตานวย ดูฟ้าซิ อุ๊ย..ตาเถรหก..” นางอุทาน ตกอกตกใจกับเสียงเปรี้ยงที่ดังขึ้นบนหลังคา

พอเห็นว่า เป็นอะไรที่หล่นใส่หลังคาแล้วกลิ้งขลุกๆมาอยู่ใต้ชายคา นางก็ลอบถอนใจ

“เวรจริง ไอ้มะพร้าวต้นนี้ ลมพัดแรงทีไร ทำเอาฉันตกอกตกใจทุกที ไม่ลูกก็ทาง หล่นใส่หลังคาอยู่ได้ นี่ถ้าไม่เห็นว่าลูกมันดกละก็ ฉันเป็นให้แกโค่นทิ้งไปนานแล้ว อ้าวไอ้แดงมาแล้วนั่นไง..”

นางหล้าชี้มือไปที่ลูกชายซึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา พร้อมลมฝนที่กระหน่ำหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม้ไร่เอนระเนน บางประเภทที่ลำต้นเปราะหน่อยก็ล้มหักโผงผางได้ยินมาแต่ไกล


“ควาย..มันตื่นเสียงฟ้าร้องนะแม่ แหม..ฉันเกือบเอามันไม่อยู่ นี่ถ้าเกิดน้ำท่วมหลายวันเห็นท่าจะแย่นะแม่นะ เพราะบนควนหญ้าระบัดไม่ค่อยจะมี”

“มันอาจจะไม่ท่วมก็ได้ลูก อ้าว..ตานวย แกไปจุดตะเกียงหน่อยซิ ข้างในนี้มันมืดแล้ว แล้วเดี๋ยวฉันจะได้ยอกน้ำชุบ** ข้าวสุกแล้วแกยกลงจากเตาเลยนะ เกลี่ยๆถ่านหน่อย แล้วเอาปลาช่อนแดดเดียวที่แขวนข้างเสาปิ้งด้วย กะเดี๋ยวจะได้กินข้าวกัน”

** (หมายถึงตำน้ำพริก)

3 คนพ่อแม่ลูกอิ่มข้าว เมื่อท้องฟ้ามืดสนิท

พื้นดินเบื้องล่างยามนั้นเจิ่งนองไปด้วยสายน้ำ ไกลออกไปนาข้าวที่กำลังเขียวชอุ่มโผล่เหลือเพียงคอรวง บางช่วงบางตอนที่เป็นที่ลุ่มหน่อยก็จมมิดไปกับสายน้ำ

2 วันผ่านไป น้ำลดอย่างรวดเร็วจนกลับคืนสู่สภาพปกติ เพราะในสมัยนั้นต้นไม้มีมากมาย เป็นที่ซับน้ำ คูคลองไม่ตื้นเขินเต็มไปด้วยขยะมูลฝอยเหมือนในปัจจุบัน ภูเขาก็ยังไม่ถูกโค่นล้านเลี่ยนเตียนโล่งเป็นหัวนกตะกรุม นายทุน-นางทุนทำไม้ยังไม่มี คนยังไม่รู้จักสนามกอล์ฟ


ธรรมชาติยังคงเป็นธรรมชาติ ถึงแม้บางครั้งธรรมชาติอาจจะพิโรธไปบ้าง แต่ก็คงไม่รุนแรงเหมือนยุคปัจจุบัน

เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส 2 คนผัวเมียตื่นแต่เช้าออกเดินตรวจเรือกสวนไร่นา ขณะที่ลูกชายคนเดียวถูกใช้ให้ไปนำควายที่ล่ามไว้บนควนออกมากินหญ้าบริเวณเรือกสวนริมคลองตามปกติ

“ไอ้แก่น ไง ติดอยู่บนควน 2 วัน 2 คืนหงอยเลยนะเอ็ง เป็นไง หญ้าบนควนหวานดีไหมวะ”




“มอ..ออ หวานกะผีอะไร มีแต่หญ้าคาหญ้างับ(ไมยราบ) บาดคอจะตาย” ถ้าไอ้แก่นพูดได้ มันคงจะตอบแบบนี้

ไอ้แดงชวนควายคุยยังกะควายมันฟังภาษาคนรู้เรื่อง เมื่อปลดเชือกที่ล่ามควายไว้กับต้นไม้ใหญ่บนควนแล้ว มันก็เดินจูงควายลงมายังที่ลุ่ม ให้หยุดกินหญ้าไปตามเรื่อง



ตรงไหนได้ยินเสียงร้องจุ๊บจิ๊บ ก็ดึงหนังสติ๊กจากย่ามเก่าคร่ำคร่าพร้อมกับก้อนดินเหนียวที่ปั้นกลมตากแดดจนแข็งเป็นลูกกระสุน ง้างหนังสติ๊กสุดแรง ปล่อยลูกกระสุนพุ่งลิ่วไปตรงจุดหมายคือนกเคราะห์ร้าย




“เฮ้อ ฝนตกน้ำท่วมที ตอไม้ตอไร่ มันหายไปไหนหมดวะ ข้าจะได้ล่ามเอ็งไว้ซักหน่อย” ไอ้แดงกวาดสายตาหากิ่งไม้ ตอไม้เมื่อจูงควายมาถึงริมคลอง หญ้าที่ถูกน้ำท่วมเมื่อ 2 วันก่อนดูจะซีดเซียวลงไป แต่ไม่ถึงกับเน่า วัวควายยังพอแทะเล็มได้

“โอ..โน่นไง เจอแล้วตอ แหม..โคลนติดเต็มเลย ข้าจะล่ามเอ็งไว้ตรงนี้นะ กินหญ้าซะให้อิ่มล่ะ กะเดี๋ยวข้าจะแว่บไปดูพ่อกะแม่หน่อย เผื่อมีอะไรเรียกใช้”



ภาพจำลองเป็นภาพเด็ก ควาย และสิ่งที่เข้าใจว่าเป็นตอไม้ (อยู่ด้านหลังวิหารวัดพระทองครับ)

ล่ามควายกับสิ่งที่คิดว่าเป็นตอไม้เรียบร้อยแล้วก็ผละไปช่วยพ่อแม่ในไร่ ถึงเวลาพักเที่ยงกลับไปเรือนกินข้าวกินปลาจนอิ่มหนำสำราญ



อีกภาพหนึ่งครับ ภาพปูนปั้น อยู่ด้านข้างของวิหาร ใกล้กับภาพแรก

ที่ใต้ถุนเรือนหลังอิ่มข้าว ไอ้แดงนั่งเอนหลังพักได้สักครู่ จู่ๆมันก็เกิดอาหารชักกระตุก ล้มเป็นล้มตายอย่างปัจจุบันทันด่วน ด่วนชนิดที่ยังไม่ทันได้สั่งเสียใครๆ ยังความเสียใจให้กับตานวยและนางหล้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

จัดการทำศพไปตามมีตามเกิด พอตกสายหน่อย ตานวยก็บอกนางหล้าว่าจะออกไปตามหาควายกับเพื่อนบ้านอีก 2-3 คน

“เอ ไปเถอะแก รีบไปรีบมานะ เดี๋ยวจะได้มาอยู่เป็นเพื่อนศพลูก”

ที่ริมคลอง...

ตานวยกับเพื่อนบ้านถึงกับชะงักกึก เมื่อเห็นร่างของไอ้แก่น ควายคู่ชีพนอนทอดกายดำสนิทบนพื้นหญ้า คล้ายร่างมันหาชีวิตไม่แล้ว

ฝูงแมลงวันบินฮือเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ตานวยเกิดประหลาดใจเมื่อเห็นควายตาย!!

มันจะต้องมีอะไรซักอย่างไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ไม่งั้นไอ้แดงลูกชายกับไอ้แก่นควายคู่ชีพจะตายในเวลาไล่เลี่ยได้อย่างไรกัน?

เดินหาสาเหตุ เข้าไปใกล้ๆ เห็นวัตถุอย่างหนึ่งที่ลูกชายนำควายไปล่ามไว้ เกิดความกลัวนึกว่าเป็นชนวนล่อฟ้า เลยตัดเชือกที่ล่ามควายเสียครึ่งหนึ่ง จัดแจงนำควายไปฝัง ตกค่ำก็นอนหลับพักผ่อน ฝันไปว่า...


ที่เด็กและควายตายนั้น เพราะว่าได้เอาเชือกล่ามควายไปผูกไว้กับเศียรพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงพิโรธ บันดาลให้ถึงแก่ชีวิต



“โอ..เป็นแบบนี้นี่เอง”

ตานวยตื่นขึ้นกลางดึก เหงื่อกาฬทะลัก!

ตื่นเช้ารีบเล่าฝันให้เมียฟัง

“โธ่..แดงลูกแม่” นางหล้าครวญคร่ำน้ำตาซึม

ข่าวคราวสาเหตุการตายของไอ้แดงแพร่สะพัดไปยังหูเพื่อนบ้าน พากันแตกตื่นไปยังริมคลอง

เมื่อได้เห็นสิ่งนั้น ก็ช่วยกันตักน้ำมารดล้างขัดสีเอาโคลนตมที่ห่อหุ้มอยู่ออกจนหมด ครั้นแล้วก็พบว่า สิ่งนั้นเป็นเศียรพระพุทธรูปจริงๆ และเป็นทองคำเหลืองอร่ามด้วย ยิ่งสร้างความแตกตื่นโกลาหลให้กับเพื่อนบ้าน แห่แหนกันมา เอาดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชามืดฟ้ามัวดิน (ถ้าเป็นสมัยนี้ แน่นอนต้องขอหวยแถมพ่วงท้ายด้วย)

และชาวบ้านส่วนหนึ่งยังชักชวนกันไปบอกให้เจ้าเมืองทรงทราบ

ความทราบไปถึงเจ้าเมือง ซึ่งสมัยนั้นประทับอยู่ที่บ้านดอน




ระยะทางจากบ้านทุ่งนาในที่พบเศียรพระพุทธรูปไปถึงบ้านดอนประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าเมืองทราบดังนั้น ก็รับสั่งให้ข้าราชบริพารทำการขุดขึ้นมา เพื่อจะได้นำมาประดิษฐานไว้บูชาข้างบน

แต่ขุดอย่างไรก็ไม่สามารถขุดได้ เพราะเกิดเหตุมหัศจรรย์ มีตัวต่อตัวแตนโผล่ขึ้นมาอาละวาดต่อยผู้ที่ขุดอย่างเอาเป็นเอาตาย!

คนแล้วคนเล่าโดนพิษเหล็กไนลงไปนอนชักดิ้นชักงอ ที่แพ้พิษเหล็กไนตายไปก็มี ส่วนผู้ที่มากราบไหว้บูชาแต่ไม่ได้ลงมือขุดนั้น น่าแปลก ว่าตัวต่อตัวแตนไม่ทำอันตรายแต่อย่างใด

กลุ่มที่มาขุด เมื่อพบกับอุปสรรค จึงพากันกลับไปเรียนให้เจ้าเมืองทรงทราบ เจ้าเมืองจึงสั่งให้ระงับเสีย โดยรับสั่งให้ทำที่บังแดดลมฝนไว้แทน เพื่อที่ชาวบ้านจะได้กราบไหว้บูชา

ชาวบ้านจึงเรียกพระที่พบว่า พระผุด มาตั้งแต่บัดนั้น!!

อยู่มาไม่นาน มีชีตาผ้าขาวรูปหนึ่ง เดินทางมาพักที่เมืองถลาง รู้ว่ามีพระพุทธรูปทองคำอยู่กลางทุ่งนา ท่านกลัวว่าถ้ารู้ถึงหูโจรผู้ร้าย มันคงจะพากันมาตัดเศียรไปขายเป็นแน่ จึงชักชวนชาวบ้านแถวนั้นให้ช่วยกันเก็บเปลือกหอยสารพัดชนิดมาเผาไฟจนสุก แล้วตำจนละเอียดทำเป็นปูนขาวผสมทรายโบกพอกเอาไว้ ไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นเศียรพระพุทธรูปทองคำ!!

ครั้นเวลาผ่านไป เมืองถลางถูกข้าศึกคือพม่าบุกเข้าโจมตีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว จนต้องเสียเมืองให้แก่พม่า เจ้าเมืองต้องอพยพหนีไปอยู่ทางภูเก็ต พร้อมส่งคนสนิทไปเรียนให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชทรงทราบ

สาเหตุที่ไปกราบเรียนเพราะในสมัยนั้นเมืองถลางขึ้นตรงต่อเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อเจ้าเมืองนครฯทรงทราบ ก็ตีระฆังหง่างเหง่งระดมไพร่พลยกกองทัพมาช่วยกู้เมืองถลางในทันทีทันใด!!

ฝ่ายพม่าหรือพี่หม่อง เมื่อยึดเมืองถลาง กวาดทรัพย์สินอื่นๆจนหมดสิ้นแล้ว เกิดนกรู้ รู้ว่าเมืองถลางยังมีพระพุทธรูปทองคำมีค่า อันหมายถึงพระผุดซุกซ่อนอยู่ จึงสั่งให้ทหารออกตามหาจนพบ เมื่อพบก็สั่งให้ทำการรื้อสิ่งที่ตาชีผ้าขาวพอกไว้ออกจนหมด

หัวหน้าหม่องพอเห็นว่าข้างในเป็นเศียรพระพุทธรูปทองคำสุกปลั่ง ถึงกับตาลุกเท่าไข่ห่าน ร้องอุทานใหญ่โต

“โฮ้โฮทอง ! ทองจริงๆนะเนี่ย เอาโว้ยพวกเรา ขุด..”

หัวหน้าสั่ง ลิ่วล้อรีบปฏิบัติตามเอาใจลูกพี่ บางคนถกโสร่งไปขุดไป เพราะอากาศมันร้อน

ขุดไปได้ไม่นาน สิ่งมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้นอีกอย่างแล้ว!!

คราวนี้ไม่ใช่ตัวต่อแตนเหมือนครั้งแรก แต่เป็น...




มดคันไฟตัวเล็กๆ

ผุดโผล่ขึ้นมาจำนวนมากมาย พุ่งขึ้นมาจากดิน ตำนานเล่าว่าพุ่งขึ้นมาเป็นสายเท่ากับลำตาล (หลับตานึกเอาเองแล้วกันว่าจะขนาดไหน)

มันคันเหล่านั้นกัดพม่าไม่เลือกที่ โดยเฉพาะที่..ที่...

“โอ๊ย โอ๊ย ขะ ขะ..ไข่กู”

หม่องหนุ่มคนหนึ่งร้องลั่น “ไม่ไหวแล้ว คัน คันเหลือเกิน..” หม่องฉกรรจ์อีกคนร้องเสริม ถกโสร่งเกาไข่เสียงดังแกรกกราก

ขุดไป เกาไข่ไป คนที่ล้มก็ล้มไป คนที่ยังใจสู้ก็ขุดต่อ

คุณผู้อ่านจินตนาการเอาเองก็แล้วกันว่ามันจะแสบสันขนาดไหน เมื่อโดนมดคันกัดตรงนั้น ยิ่งพี่หม่องแต่ก่อนนุ่งแต่โสร่ง กางเกงนงกางเกงในก็ไม่มีใส่ คราวนี้จะไปเหลืออะไร

“เฮ้ย..หยุดทำไม ? ขุดต่อซิวะ” หัวหน้าหม่องร้องสั่งเสียงลั่น

มองพวกที่โดนมดกัดลงไปนอนกุมเป้าร้องโอดโอย ครั้นนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ดีดนิ้วเพี๊ยะ

“เฮ้ย! เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่โว้ย เอาเอ็ม 79 ถล่ม แล้วก็กลิ้งล้อยางรถยนต์มาเผา เอ๊ย !ไม่ใช่ จุดไฟเผาแมร่งเฉยๆก็ได้”

ว่าแล้วก็สั่งให้ลูกน้องจุดไฟเผามดทันที!!

เสร็จกันคราวนี้ มดตาย แต่ดินร้อนขุดไม่ได้ เชลยไทยถูกสั่งให้ไปตักน้ำมารดดินให้เย็น พอดินเย็นพม่าก็ลงมือขุดอีก มดคันที่ยังอยู่ก็กัดอีกอย่างไม่ย่อท้อ!!

แต่ในที่สุด ผลแห่งความพยายามของพม่าก็ขุดไปจนถึงพระศอ(คอ) ยิ่งได้เห็นความสวยงามมากยิ่งขึ้น

แต่ฝ่ายชั่วหรือจะชนะฝ่ายดี ผลสุดท้ายเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชก็ยกกองทัพมาถึง พม่ากลัวเสียงปืนใหญ่ อีกอย่างมีกำลังพลน้อยกว่าเลยแตกกระจัดกระจายเลิกการขุดค้นหอบโสร่งหนีลงเรือไปคนละทิศละทาง

พระก็ถูกขุดค้างไว้แค่พระศอเท่านั้น!!

และในปีนั้นเอง ได้มีพระธุดงค์รูปหนึ่ง เดินธุดงค์มาจากเมืองเหนือ นัยว่ามาจากเมืองสุโขทัย มาปักกลดที่นี่ และได้เห็นหลวงพ่อพระผุดเป็นพระพุทธรูปโผล่เพียงพระศอ และเป็นทองคำด้วย ท่านทรงเห็นว่าสิ่งนี้มีค่ามาก จึงริเริ่มให้มีการสร้างวัดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีเจ้าอาวาสองค์แรกชื่อหลวงพ่อสิงห์

ต่อมาได้มีการจัดสร้างกุฏิ โรงครัว หอฉัน และศาลาการเปรียญ สำเร็จเป็นวัดโดยสมบูรณ์ ผูกพัทธสีมาเรียบร้อย วัดนี้ชาวบ้านเรียกว่าวัดนาใน บ้าง วัดพระผุด บ้าง วัดพระหล่อคอ บ้าง มีหลายชื่อสุดแท้แต่ใครจะเรียก

และหลวงพ่อพระผุดนี้ก่อมากว่า 100 ปีแล้ว (อาจจะมากหรือน้อยกว่านั้น ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจ) ต่อมามีการก่ออิฐถือปูนสวมหลวงพ่อครึ่งพระองค์เพื่อให้สูงขึ้น โดยองค์จริงนั้นซ่อนอยู่ข้างใน และสร้างวิหารสำหรับประดิษฐานหลวงพ่อพระผุดในภายหลัง

กาลต่อมาเมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช พระองค์ท่านได้เสด็จประพาสจังหวัดภูเก็ตและได้เสด็จมาทอดพระเนตรพระผุดองค์นี้และได้ทรงพระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดพระทอง” ชาวบ้านชาววัดจึงเรียกขานวัดนี้ว่า “วัดพระทอง” มาจนถึงทุกวันนี้



ปัจุบัน วัดพระทองมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศแทบจะทุกวันมิได้ขาด ผู้คนเหล่านี้แวะเวียนมากราบไหว้พระผุด เพื่อเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว



เช่นผมซึ่งวันนี้ได้มาไหว้พระ และถ่ายรูปประกอบเรื่อง

หากเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อย่าลืมนะครับ แวะมาเที่ยวชมกราบไหว้พระผุดวัดพระทองกัน แล้วความสงบสุขความร่มเย็นจะเกิดขึ้นภายในจิตใจท่านเนิ่นนานสืบไป!

หมายเหตุผู้เขียน..ตำนานพระผุดนี้ ข้อมูลบางอย่างอาจจะคลาดเคลื่อน ขาดตกบกพร่องไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่เท่าที่ผมเล่ามานี้ ก็ได้ฟังจากปากคนจีน คนไทยแก่ๆ เล่าสืบต่อกันมา หากผิดพลาดประการใด ผมผู้เขียนขออภัยไว้ด้วย

อนึ่ง..ชื่อของครอบครัวชาวนานั้น เป็นชื่อที่ผู้เขียนสมมุติขึ้น เพราะตำนานไม่ได้ระบุไว้ว่าชื่ออะไร?


งานเขียนชิ้นนี้ บางช่วงตอนได้นำมารีไรท์ใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเคยลงตีพิมพ์ครั้งแรกที่..นิตยสารเรื่องผี ฉบับที่ 157 ปักษ์แรก เดือนมีนาคม พ.ศ. 2537

อ่านเรื่องจบแล้วก็ชมภาพกันอย่างจุใจเลยนะครับ











อุโบสถวัดพระทอง



ปืนใหญ่โบราณ



พิพิธภัณฑ์วัดพระทอง ข้างในบรรจุของเก่าแก่ไว้มากมาย เข้าไปชมได้ แต่เขาห้ามถ่ายรูปนะครับ



ทางขึ้นไปชมพิพิธภัณฑ์



รูปปั้นสัตว์ต่างๆหลังวิหาร



มณฑปอดีตเจ้าอาวาส



เจอน้องกุ๊กไก่ข้างมณฑป 2 ตัว น่ากิน เอ๊ย..น่ารัก พอบอกว่าน่ากินรีบชิ่งหนีเลยเห็นไหม?



ลูกน้ำเต้าอินเดียข้างวิหาร เมื่อก่อนผู้มาเยือนมือบอนมักจะมาจารึกชื่อไว้บ่อยๆ จนทางวัดต้องติดป้ายห้าม!



ใครหนอมายืนทำเท่ห์อยู่ตรงนี้



เบื่อจริง ดูต้นกระเช้าสีดาข้างวิหารสดชื่นกว่าดูคนเขียนเป็นไหนๆ 555



ลาละครับ อนาคตมีคุณค่า เมื่อบอกลา...บุหรี่

ขอบคุณ บีจี สวยๆ จาก ทาสบอย





 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2553
62 comments
Last Update : 14 กันยายน 2555 21:26:47 น.
Counter : 7777 Pageviews.

 

อ๋อ...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
เข้าใจแระพี่ติณคนหล่อ

เล่าอะไรให้พี่ติณฟังมาจากเรื่องจริงของน้องปรายเอง
ตอนอยู่กรุงเทพปรายย้ายไปทำงานที่ใหม่ แถวๆอ่อนนุชหรือ
สุขุมวิท 50 นั่นแหละค่ะ
ขณะที่กำลังนอนกึ่งหลับกึ่งตื่น
ปรายก็ฝันว่า มีผู้หญิงคนนึง
สวยมากแล้วก็ยิ้มให้น้องปราย
ลักษณะการแต่งตัวของผู้หญิง
คนนี้ใส่ชุดสมัยโบราณ เค้าพูด
กับปรายประมาณว่า มาอยู่ใหม่หรอ แล้วก็ยิ้มให้...

พอตอนเช้าปรายตื่นขึ้นมา
ก็งงๆนิดหน่อย แต่ก็พยายาม
สอบถามคนที่ทำงานว่าแถวนี้
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรหรือเปล่า
ก็ได้ความมาว่า อพาร์ทเม้นท์
ที่ปรายอยู่ อยู่ใกล้กับศาลย่านาค
หรือแม่นาคพระโขนงนั่นเอง
หลังจากนั้นปรายก็เลยไปไหว้
ย่านาค พี่ติณรู้มั้ย ผู้หญิงคนนั้น
ที่มาหาปราย หน้าเดียวกับ
ย่านาคเด๊ะเลย... พูดแล้วขนลุก

 

โดย: ปราย IP: 180.180.117.235 18 พฤษภาคม 2553 12:01:15 น.  

 

อ๋อ...พระเลยโผล่อยู่เพียงครึ่งเดียวจนบัดนี้...พวกเราก็เข้าใจผิดไปคิดว่า "ไอ้แดง"มันถูกยิงหัว ที่แท้มันเอาควายไปผูกไว้กับเศียรพระนี่เอง...โธ่ ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยใครเขาทำกันอย่างนั้นล่ะไอ้แดง...แล้วใครจะช่วยตานวยต้อนควายละทีนี้...ฮึ่ม

 

โดย: panwat 18 พฤษภาคม 2553 12:09:12 น.  

 

ดอกไม้สีแเดงมีครับพี่
เดี๋ยวผมเอามาลงให้ดูแน่นอนครับ
ปีนี้ผมถ่ายภาพดอกคูนและดอกหางนกยูงเพียบเลยครับ


ตำนานพระผุดผมเคยอ่านจากหนังสือ
แต่ตัวผมเองยังไม่เคยไปเยือนภูเก็ตเลยครับ




 

โดย: กะว่าก๋า 18 พฤษภาคม 2553 13:06:17 น.  

 

ปล. หมิงหมิงทานข้าวไม่ค่อยเก่งเลยครับ
นี่เพิ่งเลิกนมแม่ได้สามวัน
ก็ยังทานไม่เยอะอยู่ดีครับ 555

เวลาทานข้าวต้องมีขนมกรอบ
เช่น ข้าวเกรียบกุ้ง หรือสาหร่าย หรือ ขนมขาไก่
ไม่งั้นไม่ทานอีกต่างหาก

เฮ้อ --- มึนเลยครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 18 พฤษภาคม 2553 13:07:56 น.  

 

อ๋อออออออ เรื่องมันเป็นมาอย่างนี้นี่เอง ฮี่ๆๆ
เกริ่นนำที่บ้านซะตกอกตกใจ
รีบมาทันใด เกาที่ไหนไม่เกา 555

ว๊าว...ฉกน้องรักจากพี่อัยย์
มาเจิมซะด้วย ระวังเหอะ
จะถูกพี่อัยย์งอนเอา อิอิอิ

สิงหาที่ไปนี้ ไม่แน่
อาจให้พี่ติณนำทางไป
กราบมนัสการซักครั้งค่ะ

วันนี้มีเรื่องกวนใจหลายเรื่อง
ไว้คุยกันนะคะ

 

โดย: JinnyTent 18 พฤษภาคม 2553 14:37:22 น.  

 

ติณ...

เราก็พอทำได้งูๆปลาๆ ตามคำแนะนำของติณ เราไปหาเพิ่มเติมที่เขาบอกบ้าง เช่น นาฬิกา ช่อง Comment ทำเอาหลายครั้งจนเหนื่อยใจนะ

บ้างอย่างก็ทำไม่ได้ เช่นเอารูปตั้งตรงกลางบล็อก ทำตัวหนังสือวิ่ง และอื่นๆ อีกมาก...

กั่วป่าฝนตกนะ แต่ไม่ตกหนัก ตอนนี้ก็ยังตกอยู่เลย

ตอนนี้วีดวาด..ไปเที่ยว กทม และลงไปกระบี่ ไม่ค่อยได้เล่นบล็อก เห็นว่าจะกลับกั่วป่าพรุ่งนี้...

 

โดย: กาแฟ..ชา..ย 18 พฤษภาคม 2553 14:40:15 น.  

 

เริ่มอ่านเรื่องคุณปลาย พอถึงตอนที่หาตอผูกไอ้แก่น ทำให้นึกถึงเรื่องพระผุด ขึ้นมาเลย พออ่านต่อไปถึงได้รู้ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ทำให้ต้องนึกถึงรูปที่เคยไปถ่ายเอาไว้มุมเดียวกันว่าไม่รู้อยู่ไหน
คงต้องไปถ่ายไหมซะแล้ว 555 ข้ออ้างในการเที่ยวไง

 

โดย: cengorn 18 พฤษภาคม 2553 16:23:10 น.  

 

สวัสดียามเย็นค่ะตามไปเที่ยววัดทำบุญกับพี่ติณด้วยค่ะ บีจีมองแล้วเย็นตาจังค่ะ ลูกน้ำเต้าดกจัง
มีปืนโบราณด้วยที่วัดนั้นมีรูปปั้นเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรไหมค่ะ
เพราะเคยเห็นมักจะอยู่คู่กัน

 

โดย: kobnon 18 พฤษภาคม 2553 17:45:26 น.  

 

มาไหว้พระผุดวัดพระทองด้วยค่ะ

หน้าร้อนนี้ผ่านหลายที่ เห็นกระเช้าสีดา ตายคาไม้ใหญ่เยอะเลยค่ะ กว่าจะโตได้เนาะ ใช้เวลาตั้งนาน แต่ที่นี่สวยดีค่ะ

ทำไมเวลาเราไปไหน ชอบจารึกชื่อไว้เนาะ เพื่อ ??

ลูกเลื่อนเปิดเทอมค่ะ เป็น 24 พ.ค (ตามสถานการณ์บ้านเมืองค่ะ) แปลว่าดุ๊กเค้าเรียนตามเกณฑ์ หมอกเกิดปลายปี 38 ค่ะ ปีนี้โดดไป ม.4 แต่ส่วนใหญ่เพื่อนเค้าก็เกิด ปี 37 กัน

จัดให้ตามคำขอค่ะ...

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 18 พฤษภาคม 2553 18:07:53 น.  

 

เพิ่งกลับมา
งั้นเดี๋ยวไปใหม่..คราวหน้าให้คุณติณและครอบครัว
นำเที่ยวในเมืองภูเก็ตนะคะ



 

โดย: เริงฤดีนะ 18 พฤษภาคม 2553 18:19:03 น.  

 

ตาลายจ้ะ พื้นบีจี.กะตัวหนังสือมัน...อ่านยากนิดนึง

ว่าแต่

มีเอ็ม 79 กะกลิ้งยางรถยนต์ด้วย

ทันสมัยสุดริด

 

โดย: นักล่าน้ำตก IP: 180.210.216.68 18 พฤษภาคม 2553 18:34:03 น.  

 

อัพๆๆๆ.. ไว จริง ๆน่ะโก้

ได้รู้ความเป็นมาของวัดพระทองก็วันนี้แหล่ะ ..

มีภาพประกอบเยอะดี .. ชอบ
ลูกน้ำเต้าอินเดียเคยเห็นมาเหมือนกันแต่ตอนเด็ก ๆไม่รู้ว่าต้นอะไร
มีคนบอกว่ามันคือ " ต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ " เราก็เชื่อสนิทเลย ...

 

โดย: เขาพิงกัน 18 พฤษภาคม 2553 19:27:24 น.  

 



สวัสดีครับ พอดีว่าเปิดเจอเพลงนี้แล้วมีข้อความที่โดนใจมากอยู่ท้ายเพลง ลองเปิดดูนะครับและขอโทษที่รบกวนนะครับ

 

โดย: veerar 18 พฤษภาคม 2553 19:50:58 น.  

 

มาอ่านตำนานค่ะ
ถ้าได้ไปภูเก็ตอีก คงจะหาโอกาสไปวัดนี้
เห็นรูปที่ถ่ายแล้ว ถ้าไม่ได้อ่านตำนานก่อน คงงงๆว่าทำไมมีพระครึ่งองค์

 

โดย: HoneyLemonSoda 18 พฤษภาคม 2553 21:27:52 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ติณ






 

โดย: กะว่าก๋า 19 พฤษภาคม 2553 7:43:55 น.  

 

 

โดย: nompiaw.kongnoo 19 พฤษภาคม 2553 13:46:08 น.  

 

แวะมาส่งพี่ติณเข้านอน
จินกำลังปิดร้าน
พรุ่งนี้ที่ทำงานหยุด 2 วัน
โรงเรียนน้องเต็นท์ก็หยุด 2 วันค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: JinnyTent 19 พฤษภาคม 2553 22:25:48 น.  

 



เรามาอธิษฐานจิตให้คนไทย
มีความรักความเมตตามาสถิตย์ในดวงจิตของทุกฝ่าย
คุยกันด้วยเมตตาและด้วยสติปัญญา
ลดช่องว่างในหัวใจคนไทยกันนะคะ♥

 

โดย: cengorn 19 พฤษภาคม 2553 23:44:53 น.  

 


Peace Now.

 

โดย: เริงฤดีนะ 20 พฤษภาคม 2553 2:19:55 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่






 

โดย: กะว่าก๋า 20 พฤษภาคม 2553 6:51:40 น.  

 

เคยอ่านเรื่องตำนานของพระผุดเหมือนกันค่ะ มาเที่ยวัดด้วยคนนะคะ

 

โดย: แม่น้องกะบูน 20 พฤษภาคม 2553 19:44:53 น.  

 

ดูแลตัวเองด้วยนะคะพี่ติณ
จินกำลังปิดร้าน ปิดเร็วกว่าทุกวัน
วันนี้ถนนเงียบเชียบ
ทุกวันไม่กล้าออกไปไหน
เพราะเมื่อวานมีเหตุการณ์ตื่นตระหนก
วันนี้ป้องกันเอาไว้ก่อนค่ะ

หดหู่เช่นกันค่ะ
อารมณ์เหนือสติกันไปแล้ว
ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่าง
บอบช้ำน้อยที่สุด
โดยเฉพาะจิตใจคน
ต่างก็บอบช้ำพอกัน

ส่งพี่ติณเข้านอนเลยนะ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: JinnyTent 20 พฤษภาคม 2553 21:52:09 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่







 

โดย: กะว่าก๋า 21 พฤษภาคม 2553 7:40:12 น.  

 

ชอบ BG ของพี่จังค่ะ ขอตามเข้าวัดด้วยคนนะคะ น้ำเต้าเจอน้ำเต้า สาวก็ว่าน้ำเต้าแปลกๆ ที่แท้ก็ของอินเดียนะเอง ขอบคุณที่แวะมาบอกค่ะ

 

โดย: sawkitty 21 พฤษภาคม 2553 7:40:16 น.  

 

ก็ได้แต่หวังว่าหลังพายุ
ฟ้าจะสดใสเสียทีนะครับพี่ติณ
แม้ว่ามันจะยากมากก็ตามที

 

โดย: กะว่าก๋า 21 พฤษภาคม 2553 12:17:50 น.  

 

 

โดย: cengorn 21 พฤษภาคม 2553 15:40:49 น.  

 

สวัสดีตอนเย็นค่ะ ..โก้ติณ

ใช่ ๆ ๆ .. มึน ๆเซ็ง ๆ ปวดหัวตุ๊บ ๆมา 2 วันแล้ว ..
โน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่ก็มีปัญหาต้องเข้า 0 เสียตังค์อีกแว้ว ..
ตอนนี้เลยใช้คอมพ์ของน้องสาวไปพลาง ๆ สงสัยดูข่าวใน ทีวี แล้วอินเกินไป เลยทำให้เราเป็นแบบนี้ ...

 

โดย: เขาพิงกัน 21 พฤษภาคม 2553 16:13:50 น.  

 

เชียงใหม่ก็แดดออก
ฝนโปรยค่ะ ให้เห็นเม็ดฝน
แต่แผ่นดินไม่เปียก แปลกดี

 

โดย: JinnyTent 21 พฤษภาคม 2553 16:20:00 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะปลายแป้นพิมพ์ (ยิ้มแป้น)
+------------------------------------+

แวะมาทักทายคนไทยที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ค่ะ


รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย.....


โดยฉะแพะ อะกึ๊ย! โดยเฉพาะคนไทยใส่แว่นตา(ทำ)เท่ อะคึ่ ๆ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 21 พฤษภาคม 2553 16:26:59 น.  

 

น่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ

มองโลกในแง่ดี นี่ก็คลี่คลายบ้างแล้ว อีกตั้ง 2 วันต้องดีขึ้นกว่านี้แน่

ระบบขนส่งมวลชนทั้งหลายยังไม่ 100 % (รถเมล์ รถไฟฟ้า ใต้ดิน เรือ) กว่าจะถึงวันจันทร์คงเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้

จากเหตุการณ์นี้...มีคนลำบากแย่กว่าเราเยอะเลยค่ะ เราเหมือนปลาซิวปลาสร้อยไปเลย เล็กน้อยมาก (สงสารบ้านคน ร้านค้า ที่โดนเผา)

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 21 พฤษภาคม 2553 16:41:45 น.  

 

หวัดดีค่ะ..คุณปลายไม่ได้เข้ามาหลายวัน มัวแต่ยุ่ง ๆตามประสาแม่ ดีเด่น..(ตั้งเอง) ลูกจะเปิดเทอม ทำไมลูกไม่ยุ่ง..มีแต่แม่ยุ่ง เฮ้อ ไปกันได้เสียที..เพิ่งมีความเป็นส่วนตัว ..เพิ่งจะได้นั่งหน้าคอม จริง ๆเอาวันนี้เอง ..บ้านเมืองก็วุ่นวาย ที่บ้านโน้นคงเงียบดีเนาะ อยู่ไกลสมรภูมิ ที่นี่โดนเคอฟิว กับเขาไปด้วย ..
เดี๋ยวนี้บล็อกมีสีสรร ขึ้นนะ .คะ อ่านเรื่องราวแล้วก็ สนุกดี เพิ่งเห็น น้ำเต้าลูกดก ขนาดนี้ .. อืม..ขอให้มีความสุขกับวันหยุดนะคะ..

 

โดย: tifun 21 พฤษภาคม 2553 17:33:25 น.  

 


พูดถึงหอยจุ๊บแจงแล้ว อยากกินขึ้นมาทันที แต่ในท้องตลาดหายากเต็มที่ค่ะพี่ ไม่เห็นมีขาย แต่ถ้าทำกินกันเองที่บ้าน พ่อกับแม่ต้องกินเยอะ ไม่อยากให้กินเป็นแกงกะทิ มากไปเพราะทั้งสองคนเป็นไขมันสูงค่ะ อาหารที่เป็นมัน ๆ จึนต้องงดไปค่ะ แต่วันนี้กินปลาเผาซะอิ่มเลยค่ะ พ่อจัดให้ แกงส้มด้วยค่ะเจ้าอร่อย...นอนหลับฝันดีน่ะค่ะพี่ติณ

วัดพระทองไม่ได้ไปหลายปีแล้วค่ะพี่ติณ องค์ท่านยังคงงามเหมือนเดิมค่ะ

 

โดย: aenew 21 พฤษภาคม 2553 22:47:16 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่






 

โดย: กะว่าก๋า 22 พฤษภาคม 2553 8:02:41 น.  

 

ผมไม่ไ่ด้ออกบ้านมาจะครบอาทิตย์แล้วครับพี่ติณ
เลยไม่รู้ว่าในเมืองเป็นยังไงบ้างน่ะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 22 พฤษภาคม 2553 8:31:15 น.  

 

คุณติณให้ภาพของท้องทุ่งเหมือนสัมผัสได้ จนได้กลิ่นไอดิน ได้ยินเสียงลม มะพร้าวตกบนหลังคา...

ฟันของกระบือตัวนั้นให้แง่คิดครับ
มันคงไม่ต้องทำฟัง ขูดหินปูน
ไม่ต้องหาแคลเซียมมาบำรุง ยังแข็งแรงไม่ผุกร่อน

ประวัติของวัดพระทองละเอียดดีครับ
เป็นบันทึกของท้องถิ่นที่ควรจดจำ
เด็กรุ่นหลังควรได้เข้ามาอ่าน เพื่อความภาคภูมิใจในท้องถิ่นครับ

 

โดย: Insignia_Museum 22 พฤษภาคม 2553 9:21:03 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะพี่ติณ ได้หยุดยาวมาหลายวันเบื่อเลยสงสัยว่าวันจันทร์ไปทำงานคงหยิบจับอะไรไม่ถูก เพื่อนไม่มีร้านค้าบริเวณย่านนั้นเลยค่ะ น่าสงสารพวกเขานะค่ะหมดตัวกันเลย และคนตกงานอีกเป็นพันๆ คน
กบเคยไปไหว้กรมหลวงชุมพรที่จังหวัดชุมพรที่เคารพท่านมากเพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันด้วยค่ะกบจบพณิชยการพระนครตรงสนามม้านางเลิ้งเห็นพระรูปท่านที่จังหวัดไหนเป็นต้องแวะไปไหว้ท่านช่วยคุ้มครองประเทศของเราให้รอดพ้นสิ่งชั่วร้ายค่ะ

 

โดย: kobnon 22 พฤษภาคม 2553 9:48:14 น.  

 

โอ้...กุงเทพ เมืองฟ้า...ตะกอน...

 

โดย: แม่อ้วนคนสวย 22 พฤษภาคม 2553 10:16:35 น.  

 

ตั้งแต่กลับมาจากภูเก็ต ก็ยังไม่ได้เข้าที่ทำงานเลยค่ะ
เพราะรัฐบาลประกาศปิดยาว 2+ 3 วันนั่นเอง
แต่ในส่วนของ พม. นายๆออกพื้นที่เยียวยาทุกวัน
เห็นใจ จนท.คนที่รับผิดชอบโดยตรง
เราได้ช่วยเขาบ้างก็คิดว่าวันจันทร์นี่แหละ
คงจะมีคำขอให้ส่ง จนท.ไปช่วยรับและตรวจเอกสาร case ที่มายื่นเรื่องที่ศูนย์เยียวยา


Fadas






 

โดย: เริงฤดีนะ 22 พฤษภาคม 2553 11:12:34 น.  

 

ติณ...

เราเป็นคนที่ไม่กิน ทุเรียน มา 10 กว่าปีเลยไม่คอยรู้ว่า สาลิกา เป็นแบบใหน

ส่วนเรื่องลง นาฬิกา นั้นเราเข้าไปในบล๋อกตกแต่ง แล้วก็เอา code ไปใสใน script area ส่วนเรื่องตัววิ่งยังทำไม่เป็นเลย

กับข้าววันนี้น่ากินจัง..ของเรา แกงส้มปลายอดมะพร้าว(หล้งบ้าน)

เท่านี่ก่อนนะ....

 

โดย: กาแฟ..ชา..ย 22 พฤษภาคม 2553 14:42:55 น.  

 

 

โดย: veerar 22 พฤษภาคม 2553 18:00:08 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ติณ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมน๊า
อ่านเรื่องที่พี่ติณพิมพ์มานี่สนุกตลอดเลยค่ะ แล้วจะแวะมาเยี่ยมใหม่นะค่ะ
อากาศร้อน การเมืองร้อน คนก็ร้อนนนนน

 

โดย: thinkcraft 22 พฤษภาคม 2553 19:13:51 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่







 

โดย: กะว่าก๋า 23 พฤษภาคม 2553 7:18:24 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: เขาพิงกัน 23 พฤษภาคม 2553 7:57:44 น.  

 

ทักทายตอนสายวันอาทิตย์ค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 23 พฤษภาคม 2553 9:15:53 น.  

 

ถ้าขึ้นบล็อกใหม่ ตัวหนังสือน่าจะโตได้กว่านี้นะ

นักล่าฯปวดตาเหมือนกัน ตัวเล็กๆ

อย่างว่า...วัยมัน...เอ่อ...ไม่เอา ไม่พูด

 

โดย: นักล่าน้ำตก 23 พฤษภาคม 2553 11:18:07 น.  

 

นั่งอ่านตำนานพระผุดแล้วขำอ่ะ
บางตอนก็เหลือเชื่อนะคะ แต่อ่านเพลินดีค่ะ อิๆ

ป.ล. ทั้งบีจี ทั้งตัวหนังสือ ชวนตาลายมากค่ะลุงปลายฯ

 

โดย: พจมารร้าย 23 พฤษภาคม 2553 13:14:31 น.  

 

มาอ่านตำนานวัดพระทองอีกรอบ อ่านเพลินเลยละคะ มีความสุขตลอดวันหยุดนะคะพี่

 

โดย: sawkitty 23 พฤษภาคม 2553 15:57:43 น.  

 

อะแน่..แอบไปบริจาคเลือดมาเหรอค่ะพี่ติณ
ร่วมอนุโมทนาด้วยค่ะ

เป็นไรไปปะเนี่ย
ช่วงนี้ดูเก็บเนื้อเก็บตัวจัง

แหะ..บริจาคเลือดเสร็จ
มองหน้าสาว ๆ (เห็นว่ามีแต่สาว ๆ อิอิ)
เดาว่า พี่ติณไม่ต้องซดไมโล
หลังบริจาคเลือดละ
กำลังใจตรึม ฮะ ฮะ

 

โดย: JinnyTent 23 พฤษภาคม 2553 20:22:28 น.  

 


สงสัยจะยุ่งนะนี่ เลยแวะเอาองุ่นมาฝากคะ

 

โดย: cengorn 23 พฤษภาคม 2553 21:40:51 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่






 

โดย: กะว่าก๋า 24 พฤษภาคม 2553 7:44:57 น.  

 


Last movie at "Siam"
คำถามที่น่าสนใจและดีมากจากคุณ"ติณ" บล็อค 82/2553 ของเรา



ทีมงานท้าพิสูจน์ไปดูมาแล้วเมื่อวานนี้
ปรากฏว่า ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง "Iron Man 2" ค่ะ
แล้วเลยไปดูในโรงที่ FS มาบุญครอง
โอ๊ย!!!มันก็ยิง+เผากันถล่มทะลายเลย..
ตกลงเรื่องแรกที่เข้าฉาย ก็ขึ้นต้นว่า Battle..สงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1944 ..
เลยปิดฉากลงด้วยละคร ไม่ใช่ซิ..
ปิดฉากลงด้วยชีวิตจรองที่โศกเศร้า...เสียหาย
เหลือแต่พื้นกับเสาที่วิศกรบอกว่า..ยังใช้ได้
แตซ่อมกับสร้าง..
สร้างใหม่ถูกกว่า...แต่ก็หลาเงินเหมือนกันค่ะ..จบข่าว.

 

โดย: เริงฤดีนะ 24 พฤษภาคม 2553 10:44:59 น.  

 

อืม..สวัสดีครับ....เป็นไปตามสถานการณ์นะครับพี่

 

โดย: panwat 24 พฤษภาคม 2553 11:58:38 น.  

 

เฮ้ย!!!
กว่าจะอ่านจบ

พี่ก็เข้าใจเอาเรื่องมาผูกเข้ากันดีนะครับ
อ่านไปเรื่อยๆก็เพลินดีเหมือนกัน

ยังงัยก็ผลิตผลงานอ่านเพลินออกมาเรื่อยๆละกันนะครับ
เดี๋ยวแวะเข้ามาอ่านอีกรอบแน่นอน
ฮ่าๆๆๆๆ

ผมล่ะชอบไอ้แก่นจังเลยพี่
ฮ่าๆๆๆๆ

ขอบคุณมากๆนะครับที่แวะไปเที่ยวด้วยกัน

 

โดย: zerxiustor 24 พฤษภาคม 2553 15:01:42 น.  

 

นึกว่าหายไปไหนซะแล้วคะ เงียบเชียบผิดปกติ
พูดถึงเรืองให้เลือดนะ มีเพื่อนเป็นฝรั่งผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์(พวกเพื่อนๆมักจะเรียกว่าไอ้ยักษ์กระบองจิ๋วนะ นายนี่รู้เรื่องว่าหมายถึงอะไรโกรธซะจนเลิกโกรธไปเลย) เป็นโรคกลัวเข็ม เราก็ไม่รู้ว่าจะมีอาการขนาดนั้น
คือไปตรวจร่างกายประจำปีกัน เจ้าคนนี้ก็บอกกับพยาบาลว่าขอเจาะเลือดเป็นอย่างสุดท้าย
ต่างคนก็ต่างตรวจเสร็จแล้วก็นัดกันไปกินข้าวข้างโรงพยายาล นั่งๆไป หน้าตาเริ่มซีด แล้วก็ซีด คิดไหมว่าฝรั่งนะตัวขาวอยู่แล้วนะแต่นี่ซีด ชนิดที่เรียกว่านึกว่าเสียชีวิตสัก 2วันแล้วก็ได้
ตกลงพวกเราเลยต้องพากลับไปนอนพักที่โรงพยาบาลอีกรอบ ซึ่งก็เป็นเรื่องขำสุดๆ จนถึงทุกวันนี้เลย

 

โดย: cengorn 24 พฤษภาคม 2553 19:38:15 น.  

 

อ่านแล้วบายใจ น้องก็ดีใจเช่นกันครับท่านพี่
ยินดีๆครับ

 

โดย: zerxiustor 24 พฤษภาคม 2553 21:40:50 น.  

 

ไอเดียเริ่มบรรเจิด เริ่มไปแต่งเรื่องราวแปลกๆแตกออกไป

แ่ต่น้องๆใครเขาจะไปต่อคุณปลายได้อะ...ยากอยู่นา

 

โดย: นักล่าน้ำตก 24 พฤษภาคม 2553 21:41:44 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ติณ








 

โดย: กะว่าก๋า 25 พฤษภาคม 2553 7:51:25 น.  

 

พี่ติณ ไปอ่านนิยายตอนใหม่เร็ว อิอิ

 

โดย: JinnyTent 25 พฤษภาคม 2553 8:50:03 น.  

 

มาจูงพี่ควายไปแปรงฟันนะ...
อิอิ

(พอสบายดีแล้วเริ่มป่วน)

 

โดย: แม่อ้วนคนสวย 25 พฤษภาคม 2553 9:16:19 น.  

 

ทานข้าวเที่ยงยังอ่ะพี่ติณ
ปะ ๆๆ ไปทานหนมจีนแกงไตปลากัน

ช่วงนี้เป็นบ้าอาหารปักษ์ใต้
เสาร์-ทิตย์ที่ผ่านมาก ซัดอาหาร
ปักษ์ใต้ สองวันซ้อน แซ่ปอีลี้เด้อ

วันนี้ไปอุดหนุนนิยายขายดียังอ่ะ
รีบไปนะ เค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว อิอิ

 

โดย: JinnyTent 25 พฤษภาคม 2553 11:06:09 น.  

 

เอ ถามนิดสิคับเรื่องพระผุดอ่ะค่ะ ว่า เค้ามีห้ามเอามาบูชาที่บ้านไหม

 

โดย: สงสัย IP: 203.156.166.44 23 สิงหาคม 2553 15:42:08 น.  

 

ตอบคำถามคนสงสัยนะครับ

ผมไม่ทราบเหมือนกัน ว่าเขาเอามาบูชาได้ไหม ถ้าไปวัดพระผุด ส่วนมากก็ไปไหว้พระ หย่อนเงินเข้ากล่องค่าน้ำค่าไฟ ดูเหมือนจะเคยเห็นเหมือนตู้ขายวัตถุบูชา แต่ก็ไม่เคยถาม หรือเคยดูว่าให้บูชาพระอะไรบ้าง เอาไว้ไปคราวหน้าจะถามให้นะครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 25 สิงหาคม 2553 8:37:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปลายแป้นพิมพ์
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]




หลังบ้านโกติณ มีกินตลอดปี

ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา
ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
ไม่ยึดติดกับอะไรมากเกินไป

ชอบเที่ยวทะเล ภูเขา น้ำตก
ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า
ดูหนัง ฟังเพลงลูกทุ่ง
(ถ้ามีโอกาสนะ)

เวลาว่างชอบถักร้อย
ซึ่งหมายถึงชอบนำพยัญชนะ
ตั้งแต่อักษร ก. ถึง ฮ.นกฮูก
พร้อมสระ วรรณยุกต์
มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว
บันทึกเก็บไว้อ่านเองบ้าง
ให้คนอื่นอ่านบ้าง
แล้วแต่โอกาส

มีความสุขมาก
เมื่อได้เขียน เขียนและเขียน
อะไรก็ได้ที่อยากจะเขียน
(โลกนี้มีอะไรตั้งมากมาย
เขียนให้ตายก็ไม่มีวันหมด)

วัตถุประสงค์หลัก
ของการมีบล็อก
เป็นของตัวเองวันนี้
ก็เพื่อที่จะเก็บงานเขียน
ทั้งอดีตและปัจจุบัน
ไว้เป็นหมวดหมู่

และตามบันทึก
เรื่องราวที่น่าสนใจ
เรื่องราวหลากหลาย
ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เก็บเป็นความทรงจำที่ดี
ตราบที่ยังมีชีวิต
อยู่ในโลกอันแสนสวยใบนี้

ใครที่หลง
เข้ามาในบล็อกของผม
คงได้อะไรไปบ้าง
ไม่มากก็น้อย
มีความสุขทุกๆ วัน
ตลอดไปนะครับ

งานเขียนเรื่องสั้น
ทุกเรื่องในบล็อกนี้
เป็นงานที่มีลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย
ห้ามมิให้ผู้ใดนำไปทำซ้ำ
หรือดัดแปลงในเชิงธุรกิจ
นอกจากจะได้รับอนุญาต
จากผู้เขียนแล้วเท่านั้น
New Comments
Friends' blogs
[Add ปลายแป้นพิมพ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.