จากการวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติในสหรัฐอเมริกาพบว่า คนส่วนใหญ่ไม่สามารถกำจัดน้ำหนักส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นปีละ 2-3 กิโลกรัม ที่พวกเขาได้รับในช่วงเทศกาลปลายปีได้ จนกลายเป็นปัจจัยสำคัญของโรคอ้วนที่พบในผู้ใหญ่ แต่คุณไม่จำเป็นต้องปล่อยให้ตัวเองติดอยู่ในวงจรกับดักของการสังสรรค์นี้แต่อย่างใด หากทำตามเคล็ด(ไม่)ลับเหล่านี้ อาหารแคลลอรีสูงที่ควรหลีกเลี่ยง สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักตัวมักจะเกิดจากอาหารยอดนิยมในงานปาร์ตี้ที่มีไขมันสูง เพราะไขมันช่วยให้อาหารมีความกรอบร่วน รสชาติดี สีสวย และให้กลิ่นหอมเย้ายวน ซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับงานปาร์ตี้ แต่เนื่องจากไขมันเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมากกว่าโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตถึง 2 เท่า อันเป็นสาเหตุของความอ้วน
เพราะการรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงเกินวันละ 500 กิโลแคลอรี เพียงแค่สองสัปดาห์น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1-2 กิโลกรัม ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง โดยต้องจำไว้ว่า น้ำมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 แคลอรี น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะให้พลังงาน 135 กิโลแคลอรี ซึ่งจะต้องเผาผลาญด้วยการเดิน 30นาที
และต่อไปนี้เป็นตัวอย่างอาหารไขมันสูงที่เรามักพบในงานเลี้ยง ซึ่งเราควรหลีกเลี่ยง
- อาหารทอด เช่น ทอดมัน ข้าวตังทอด ข้าวเกรียบทอด หมูแดดเดียว ไก่ทอด อาหารผัดต่างๆ - หนังและไขมันสัตว์ เช่น ไส้กรอก เบคอน ขนมจีบ คอหมูย่าง - ซุปข้น เช่น ซุปเห็ด ซุปแครอท ซุปข้าวโพด - น้ำสลัด และครีมต่างๆ เช่น วิปปิ้งครีม แซนด์วิชสเปรด - อาหารที่มีส่วนผสมของเนย เช่น ขนมเค้ก คุ้กกี้ พิซซ่า ชอคโกแลต พาย โดนัท - กะทิเข้มข้น เช่น แกงเขียวหวาน แพนง ข้าวเหนียวมูน ไอศกรีมกะทิ สังขยา - ถั่วต่างๆ เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง - เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งให้พลังงานเกือบเท่าไขมันคือ 1 กรัม = 7 กิโลแคลอรี โดยแอลกอฮอล์จะถูกนำไปเก็บสะสมเป็นไขมันในร่างกายของเรา
การจัดปาร์ตี้สุขภาพเก๋ๆ ที่บ้าน ถ้านึกสนุกที่จะลุกขึ้นมาจัดปาร์ตี้เอง...ก็อยากจะแนะนำอาหารสำหรับรับรองแขกที่มีรสชาติอร่อย ดีต่อสุขภาพ แถมยังเหมาะที่จะเป็นอาหารปาร์ตี้ในเทศกาลแห่งความสุข ดังนี้
- อาหารประเภทข้าว ถ้าอยากเสิร์ฟข้าวในงานปาร์ตี้อาจจะใช้ข้าว 2-3 สี เช่น ข้าวสีนิล ข้าวสีเขียวจากใบเตย ข้าวสีแดงจากบีทรูท ข้าวสีเหลืองจากขมิ้น เพื่อให้ดูสนุกสนานเข้ากับบรรยากาศ
- อาหารประเภทเส้น นอกจากข้าวแล้วก็อาจจะจัดให้มีอาหารเส้นอย่างน้อย 1 ชนิด เช่น สปาเก็ตตี้ขี้เมา เส้นหมี่หมูย่าง ขนมจีน น้ำเงี้ยว
- ส่วนกับข้าวควรปรุงโดยใช้น้ำมันน้อยๆ อย่างการอบ ต้ม นึ่ง ย่าง ยำ หรืออาจจะดัดแปลงสูตรอาหารต่างๆ ให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าแขกที่มางานปาร์ตี้ไม่ใช่ผู้ป่วย จึงไม่จำเป็นต้องทำอาหารไขมันต่ำทุกจาน อาจมีอาหารทอดได้หนึ่งหรือสองชนิด โดยถ้าไม่ลืมเลือกใช้น้ำมันคุณภาพดีในการปรุงก็ถือว่าดีต่อสุขภาพ รวมถึงเน้นผัก สมุนไพร และเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม เพราะกลิ่นของอาหารจะช่วยให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้น เช่น พล่าปลาแซลมอน ผัดบรอกโคลีราดซอสปู แกงเผ็ดเป็ดย่างใส่แอปเปิลใช้กะทิธัญพืช น้ำพริกลงเรือและผักสด ลาบเห็ด ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง กุ้งอบเกลือ ปลาย่างซีอิ้ว ไก่อบซอสมะนาว ยำหมูย่าง
- ซุป ควรเป็นซุปน้ำใสที่ไม่ใส่ครีมหรือกะทิ เช่น ต้มยำโป๊ะแตก ซุปเห็ดสามอย่างน้ำแดง ฟักตุ๋นเห็ดหอม
- อาหารกินเล่น ก็อาจจะเป็นมะม่วงน้ำปลาหวาน เมี่ยงคำ แซนด์วิชเปิดหน้า ยำสาหร่ายญี่ปุ่น ข้าวปั้น ปีกไก่อบ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ยำส้มโอ
- สลัดและผลไม้ มุมสลัดและผลไม้จะช่วยให้งานปาร์ตี้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น โดยจัดน้ำสลัด 3-4 ชนิดไว้ให้เลือก เช่น น้ำสลัดชนิดใส น้ำสลัดงา น้ำสลัดผลไม้ น้ำสลัดซีอิ้วญี่ปุ่น และอย่าลืมวางเมล็ดธัญพืชอบไว้ข้างมุมสลัดสำหรับให้โรยหน้า เช่น เม็ดบัวอบ เมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ดฟักทอง
- ขนมหวานประเภทไขมันต่ำ เช่น เต้าทึง ผลไม้ลอยแก้ว เฉาก๊วย กล้วยบวดชี นมสด
- มุมเครื่องดื่ม เลือกน้ำสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมและสีสวยจากธรรมชาติ เช่น น้ำอัญชัน น้ำเก๊กฮวย น้ำกระเจี๊ยบ น้ำตะไคร้ ต้มแบบไม่ต้องใส่น้ำตาล แต่มีน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลไม่ฟอกสีใส่โถแก้วสวยๆ วางไว้ให้เติมความหวานได้ด้วยตัวเองตามใจชอบ
- ภาชนะสวยๆ จัดเป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับปาร์ตี้สุขภาพ เพื่อใช้จัดอาหารที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ที่สำคัญอย่าลืมเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่สดใหม่ เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพงานปาร์ตี้สุขภาพแล้ว 10 วิธีเลี่ยงน้ำหนักตัวเมื่อไปงานเลี้ยง 1. ไม่ควรมาถึงงานเลี้ยงแบบหิวจัด นักจิตวิทยาชาวนิวยอร์กท่านหนึ่งกล่าวว่า การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้คุณสามารถรักษาวินัยในการเผชิญกับสิ่งล่อใจได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้คุณจึงไม่ควรไปงานเลี้ยงใดๆ ในขณะที่กำลังมีอาการหิวจัด แต่ควรรับประทานของว่างหรือขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมก่อนไปงานเลี้ยง หรือหากไปถึงงานในขณะที่หิวควรดื่มน้ำรองท้อง เพื่อให้น้ำลงไปเติมพื้นที่ในกระเพาะอาหารก่อน เพื่อจะได้ไม่ตักอาหารอร่อยๆ ใส่จนเต็มจาน
2. เบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง หลายคนลืมไปว่าในช่วงปลายปีแบบนี้ จะมีการจัดงานเลี้ยงฉลองเทศกาลมากกว่าปริมาณอาหารในงานเสียอีก นักจิตวิทยานิวยอร์กท่านนั้นจึงบอกไว้ว่า "อย่ามองและคิดถึงงานเลี้ยงในลักษณะของงานแห่งการไปกินอาหาร" ควรพุ่งจุดสนใจในการไปงานเลี้ยงไปที่การพบปะเพื่อนฝูงและความสนุกสนานอื่นๆ มากกว่าการไปรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว เช่นจัดให้มีคาราโอเกะ หรือการเต้นรำ นอกเหนือจากการรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน
3. รับประทานให้ถูกวิธี การเคี้ยวอาหารช้าๆ จะเติมพื้นที่ในกระเพาะอาหารด้วยจำนวนอาหารที่น้อยกว่าการเคี้ยวแบบเร็วๆ หรือคุณอาจจะเคยบอกตัวเองว่า เวลาไปงานเลี้ยง คุณจะรับประทานอาหารเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแรกเท่านั้น เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องนั่งรับประทานอาหารตลอดงาน แต่ความคิดนี้เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งที่เกิดได้ขึ้นบ่อยในงานเลี้ยง เพราะหากคุณจำกัดเวลาในการรับประทานอาหารให้เหลือเพียงช่วงสั้นๆ อาจจะยิ่งทำให้คุณต้องเคี้ยวอาหารให้หมดเร็วขึ้น โดยการตักอาหารเข้าปากแบบคำต่อคำอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นคุณจึงควรควบคุมจำนวนอาหารที่รับประทาน ด้วยการวางช้อนส้อมบนจานทุกครั้งหลังตักอาหารเข้าปาก เพราะการถือช้อนส้อมไว้กับมือตลอดเวลา จะยิ่งกระตุ้นให้คุณตักอาหารเข้าปากบ่อยมากขึ้นกว่าการวางช้อนส้อมลง
4. กำหนดและนับจำนวนชิ้น ในงานเลี้ยงบางงานจะมีการเสิร์ฟของว่างที่ทำมาเป็นชิ้นเล็กๆ แบบพอดีคำ โดยใช้ไม้คล้ายไม้จิ้มฟันเสียบไว้ให้ง่ายต่อการหยิบรับประทาน หากคุณไปงานเลี้ยงแบบนี้ คุณควรกำหนดว่าจะรับประทานจำนวนกี่ชิ้น และไม่ลืมที่จะนับจำนวนของไม้จิ้มฟันที่ติดมากับชิ้นอาหารที่คุณหยิบรับประทาน
5. รับประทานบุฟเฟต์อย่างฉลาด เมื่อคุณต้องรับประทานอาหารที่เสิร์ฟแบบบุฟเฟต์ ให้เลือกใช้จานขนาดเล็กที่สุดที่เจ้าภาพจัดไว้ให้และไม่ตักอาหารใส่จานแบบ โปะ รวมถึงควรเลือกอาหารที่รับประทานง่ายและย่อยง่ายที่สุด เช่น อาหารประเภทผัก ผลไม้ หรือกุ้งคอกเทล (กุ้งที่ทำให้สุกแล้วเป็นชิ้นๆ) แต่ต้องไม่ลืมที่จะเลือกซอสสำหรับจิ้มให้เหมาะสมด้วย
6. จำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป ไม่ใช่เพื่อควบคุมพลังงาน (แคลอรี) เพียงอย่างเดียว แต่เพื่อจะได้มีสติในการควบคุมสิ่งที่คุณจะเลือกรับประทานด้วย แต่หากรู้สึกการไม่ถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในมือทำให้คุณดูผิดปกติจากแขกคนอื่นๆ ขอแนะนำให้ถือแก้วน้ำเปล่าหรือคลับโซดา
7. เป็นคนช่างเลือก เมื่อถึงช่วงเวลาของการเสิร์ฟของหวาน หรือต้องเลือกของหวานจากบุฟเฟต์ ควรจำกัดปริมาณของหวาน หรือเลือกของหวานที่คุณคิดว่าจะทำให้คุณอ้วนยากกว่าชนิดอื่น บางคนอาจจะมีการตั้งกฎเกณฑ์ส่วนตัวไว้ว่า หากจะต้องรับประทานของหวานประเภทให้พลังงาน(แคลอรี) ก็จะเลือกรับประทานแต่ชอคโกแลตเท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่คุณผู้หญิงและคนส่วนใหญ่มักจะลืมกันก็คือควรชิมรสชาติของขนมหรือของหวานทีละนิด เพราะคนส่วนใหญ่มักจะกัดชิมขนมคำโตๆ และเคี้ยวอย่างรวดเร็ว เมื่อหมดชิ้นหนึ่งก็ต่อด้วยการชิมชิ้นต่อไปด้วยคำโตๆ เช่นเดิม ซึ่งการชิมแบบนี้ก็กลายเป็นการรับประทานขนมอย่างจริงจังโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
8. นำขนมหรือของหวานของคุณไปเอง หากคุณกำลังจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์ของเพื่อนหรือของสำนักงาน ที่มีการอนุญาตให้นำอาหารและของหวานมาร่วมด้วย คุณควรนำขนมหรือของหวานไปเอง เพื่อจะได้มีทางเลือกที่เหมาะสมกับตัวเอง หรือหากคุณจะนำผลไม้ไปแทนของหวานได้ก็ยิ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตัวคุณเองและเพื่อนๆ ในงานเลี้ยง
9. จำกัดปริมาณการชิมอาหารเวลาปรุง หากคุณต้องปรุงอาหารบ่อยๆ ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง พยายามลดจำนวนการชิมให้น้อยลง เพราะหลายคนมีปัญหาเรื่องความอยากอาหาร ซึ่งเกิดมาจากการชิมหรือรับประทานอาหารจากการปรุงอยู่ตลอดเวลา โดยหนึ่งในวิธีลดจำนวนการชิมลงก็คือควรปรุงอาหารตามตำราหรือคู่มือที่มีการระบุปริมาณเครื่องปรุงต่างๆ ที่แน่นอน หรือหากจำเป็นต้องชิมก็ควรชิมหลังจากผสมเครื่องปรุงต่างๆ แล้วทั้งหมด แทนที่จะชิมทุกครั้งที่ใส่เครื่องปรุงแต่ละอย่าง และควรใช้ช้อนที่มีขนาดเล็กตักปริมาณน้อยเพื่อการชิมเท่านั้น
10. เดินออกกำลัง เมื่อสมาชิกทุกคนในครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลวันหยุด คุณสามารถทำให้วันหยุดในช่วงเทศกาลเป็นวันหยุดที่มีการทำกิจกรรมพิเศษในครอบครัว เช่น เดินออกกำลังด้วยกันเพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานหลังจากที่ทุกคนได้รับประทานอาหารชุดใหญ่ไปแล้ว รวมถึงยังเป็นการช่วยจัดการความคิดให้คุณได้คิดถึงการควบคุมสิ่งที่รับประทานเข้าไปด้วย
หวังว่าเคล็ดลับต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่อีกต่อไป
กรอบสวยๆ จากคุณ KungGuenter ข้อมูลจาก//www.healthtodaythailand.com/
|
.
..
...
นับถอยหลัง
...
..
.
..................
ปีใหม่มา ให้นับน้อย ถอยอีกหนึ่ง
ก่อนชีวาตม์ ขาดผึง ลงร่วงผลอย
เร่งทำดี เติมชีวิต ก่อนปลิดลอย
คิดให้บ่อย ทำให้หนัก ค่อยพักยาว.