คุณสมบัติพิเศษของนวนิยายเรื่องนี้ คืออลังการของภาษาซึ่งมีกลิ่นอายของล้านนา และอุดมด้วยจินตภาพอันวิจิตร และ ด้วยคุณสมบัติพิเศษดังกล่าวข้างต้น "เจ้าจันท์ผมหอมฯ" จึงเป็นนวนิยายที่มีความดีเด่น และได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ.๒๕๓๔
เรื่องเจ้าจันทร์ผมหอมเป็นเรื่องของเจ้าหญิงเมืองเหนือองค์หนึ่งผู้ผูกพันธ์รักใคร่กับเจ้าหล้าอินทะ แต่เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ของเจ้าจันทร์ ได้ตกลงยกเจ้าจันทร์ให้กับพ่อเลี้ยงผู้มั่งคั่งคนหนึ่ง ตอนเป็นเด็ก เจ้าจันทร์เกิดล้มป่วยเจ้าพ่อเจ้าแม่จึงได้บนกับพระธาตุไว้และจะไว้ผมยาวถวายเพื่อเป็นพุทธบูชา
เจ้าจันทร์เลี้ยงผมมาเป็นระยะเวลา 5 ปีซึ่งผมของนางมีกลิ่นหอมเป็นที่ตรึ่งใจแก่ผู้ที่ได้เข้าใกล้ชิด เมื่อถึงกำหนดที่เจ้าจันทร์ต้องเดินทางไปแก้บนที่พระธาตุอินทร์แขวน และจำต้องเดินทางไปสักการะพระธาตุโดยอาศัยเดินทางไปกับพ่อเลี้ยง ไม่เช่นนั้น ก็จะเดินทางไม่ได้เพราะต้องใช้ทั้งขบวนช้างม้า เดินทางกันเป็นเวลานานซึ่งต้องอาศัยกำลังทรัพย์จากพ่อเลี้ยง และในระหว่างการเดินทางพ่อเลี้ยงนั้นก็ดูแลเจ้าจันทร์เป็นอย่างดีหวังจะเอาชนะใจเจ้าจันทร์ แต่เจ้าจันทร์ก็ไม่สามารถทำใจให้รัก พ่อเลี้ยงได้ เพราะเธอรักมั่นอยู่กับอีกชายหนึ่งแล้ว
ในเรื่องจะมีบทค่าวพรรณาความในใจ ความทุกข์ยากลำบากจากการเดินทางการพลัดพรากจากคนที่รักระหว่างความรักกับหน้าที่ที่จะต้องประคับประคองความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมือง
ซึ่งต้องอาศัยพ่อเลี้ยงในที่สุดเจ้าจันทร์ได้ตั้งจิตบนพระธาตุอีกครั้งหนึ่งว่า
หากผมหอมนี้ปูลอดพระธาตุได้ นางจะกลับไปหาชายคนรัก
หากปูลอดพระธาตุไม่ได้ นางจะแต่งกับพ่อเลี้ยง
สุดท้ายเมื่อผมลอดไม่ได้เจ้าจันทร์จึงได้ปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุนั้นและตัดสินใจแต่งงานกับชายที่ไม่ได้หมายปอง
เรื่องราวของเจ้าจันทร์ผมหอม เป็นคติสอนใจได้ดี ในเรื่องของสัจจะธรรมแห่งชีวิต ความใฝ่ฝัน กับ ความเป็นจริง เมื่อเจ้าจันทร์ได้อธิษฐานเพื่อหวังที่จะได้กลับไปแต่งงานกับ เจ้าหล้าอินทะ ตามความใฝ่ฝัน แต่เมิ่อคำอธิษฐานไม่สำฤทธิ์ผล นางจึงต้องยอมอยู่กับความเป็นจริง นั่นคือ แต่งงานกับพ่อเลี้ยงที่นางไม่ได้รักแต่รักนาง....
เปรียบเสมือนโลกไซเบอร์ และ โลกแห่งความเป็นจริง เมื่ออยู่ในโลกไซเบอร์ อาจจะเป็นโลกแห่งความเพ้อฝันของใครหลาย ๆ คน วาดภาพในโลกไซเบอร์ไว้สวยสดงดงาม หากแต่ในโลกแห่งความเป็นจริง อาจจะไม่สวยสดงดงามดังที่ได้วาดไว้ ดังนั้น....ก็ขอให้ทุกท่าน มองเห็นสัจจะธรรมจากเรื่องราวของเจ้าจันทร์ไว้เป็นคติสอนใจกัน
วิกิพีเดีย เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2461 เจ้าจันท์เป็นเจ้าหญิงล้านนาคนงาม เธอเดินทางไปบูชาพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดที่อยู่ในเขตพม่าใกล้เมืองเชียงใหม่ ด้วยความตั้งใจว่าจะตัดผมหอมบูชาพระธาตุ ตำนานเล่าว่าผู้ใดที่ปูผมลอดพระธาตุได้ จะสมหวังในสิ่งใดก็ตามที่ตั้งใจไว้ และสำหรับเจ้าจันท์แล้ว เธอกำลังต้องการให้ความหวังที่มีอยู่เป็นจริงอย่างเหลือเกิน
เจ้าจันท์เดินทางไปกับบริวารและพ่อเลี้ยง ผู้ที่เจ้าพ่อและเจ้าแม่เห็นดีงามว่าควรแต่งกับเจ้าจันท์ แต่เจ้านางน้อยนี้มีคนรักอยู่สุดใจแล้ว และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างพ่อเลี้ยงกับเจ้าพี่อินทะ ผู้พร้อมทั้งรูปโฉมและโคลงหวานแล้ว พ่อเลี้ยงก็เป็นประหนึ่งยักษ์มารที่เจ้าจันท์ชิงชังนัก
การเดินทางไปพระธาตุนี้ จึงเป็นเรื่องตัดสินชีวิตและหัวใจของเจ้าจันท์ ที่จะได้เรียนรู้หัวใจตนเอง และได้รู้จักน้ำใจพ่อเลี้ยงที่แม้จะรักเธอเพียงใด ก็ได้ให้สัจจะว่าหากเจ้าจันท์ปูผมหอมลอดพระธาตุได้ เขายินดีจะให้เจ้าจันท์แต่งงานกับชายคนรัก
ขอขอบคุณเพลงประกอบจากยูทูบเพลง เจ้าจันทน์ผมหอม ขับร้องโดยคุณสุนทรี เวชชานนท์
ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพประกอบจากเวบ Postjung เฟสบุคโพสต์โดย คุณละอ่อนในกรุง
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก วิกิพีเดีย เจ้าจันทน์ผมหอม นิราศพระธาตุอินแขวน
ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาชมและให้กำลังใจ
ขอขอบคุณของแต่งบล็อกจากป้าเก๋า(ชมพร)
ขอขอบคุณบีจีสวยๆจากคุณทาสบอยค่ะ
ขอขอบคุณหัวใจที่ให้จากทุกๆท่านทำให้พองโตค่ะ
พบกันใหม่บล็อกหน้านะคะ
พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจทีโย ในภาษามอญ หมายความว่า หินรูปหัว
ฤๅษี พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่ที่เมืองไจโท (Kyaikto) อำเภอสะเทิม
เขตรัฐมอญของประเทศพม่า บนยอดเขาพวงลวง เหนือระดับน้ำทะเล
3,615 ฟุต ลักษณะเด่นของพระธาตุอินทร์แขวนคือ มีลักษณะเป็นก้อน
หินสีทองขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่
เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมาอย่าง
เหลือเชื่อ พระธาตุอินทร์แขวนนับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่า
ต้องไปสักการะ และยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ ที่คนเกิดปีนี้ต้องไป
นมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต
มีตำนานเล่าขานกันในสมัยพุทธกาลว่า ฤๅษีติสสะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับพระ
เกศาจากพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงมอบให้ไว้เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์
ให้ประชาชนสักการะ เมื่อครั้นได้มาแสดงธรรมเทศนา ณ ดินแดน
สุวรรณภูมิ ผู้ที่ได้รับมอบพระเกศาต่างก็นำไปบรรจุในสถูปเจดีย์ ส่วน
ฤๅษีติสสะกลับนำไปซ่อนไว้ในมวยผม เมื่อเวลาล่วงเลยถึงคราวที่ฤๅษีติ
สสะจะต้องละสังขารเต็มที เขาตั้งใจไว้ว่าจะนำพระเกศาไปบรรจุไว้ใน
ก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายกับศีรษะของเขา ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์)
จึงช่วยเสาะหาก้อนหินดังกล่าวจากใต้ท้องมหาสมุทรและนำมาวางหรือ
แขวนไว้บนภูเขาหิน บางตำนานก็เล่าว่า มีฤๅษีองค์หนึ่งซ่อนพระเกศาที่
ได้รับมาจากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้นมาโปรดสัตว์ในถ้ำไว้ในมวยผมมาเป็น
เวลานาน เมื่อใกล้ถึงวาระที่จะต้องละสังขารจึงตัดสินใจมอบพระเกศาให้
กับพระเจ้าติสสะ กษัตริย์ผู้ครองนครแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรของลูกศิษย์ที่
นำมาฝากให้ฤๅษีช่วยเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก แต่ก่อนอื่นพระเจ้าติสสะต้องหา
ก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายศีรษะของฤๅษี โดยมีพระอินทร์เป็นผู้ช่วยค้นหา
จากใต้สมุทรนำมาวางไว้ที่หน้าผา
หล่งข้อมูลอ้างอิง https://topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2012/07/M12325106/M12325106.html
จขบ.-v]ksp6fwx9jk'0y's;yf
มาอ่านเรื่องราวของเจ้าจันทน์ผมหอมค่ะ
แม้นางจะไม่สมหวังในความรัก แต่นางก็โชคดีมากนะคะที่พ่อเลี้ยงรักเธอ
เรื่องสัจจะวาจาเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าจะยุคใดสมัยใดค่ะ