Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 

รู้ได้อย่างไรว่าแฟนเป็นคนดี



ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงก็คือ ไม่รู้ว่าผู้ชายที่มาสนใจเราเป็นคนอย่างไร เขาจะเป็นคนดีจริงหรือไม่
เขาจะสนใจเราหรือเปล่า เราจะทำให้เขาสนใจอย่างไร จึงจะไม่น่าเกลียด
และจะมีหลักในการสังเกตเพื่อนต่างเพศอย่างไรดีไม่ให้เกิดความผิดหวังในอนาคต

ก่อนอื่นคงต้องสำรวจใจตัวเองดูก่อนว่าสนใจเขามากน้อยแค่ไหน ถ้าสนใจเขามาก อยากรู้จักกับเขาจริง ๆ
ด้วยความที่เขาเป็นคนหน้าตาดี สุภาพเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน เหมือนคนที่ใฝ่ฝันถึงอยู่
จิตใจอาจจะไขว้เขวเอนเอียง มีโอกาสให้คะแนนเขาง่าย ๆ และมองข้ามข้อเสียข้อบกพร่องของเขาไปหมด
เข้าทำนอง “ความรักทำให้ตาบอด” โอกาสที่จะเห็นตัวจริงของเขาก็จะยาก ถ้าเรามีใจให้กับเขาอยู่แล้ว
ต้องพยายามปรับใจให้เป็นกลาง พยายามคิดไว้เสมอว่า คนเราทุกคนย่อมต้องมีข้อดีข้อเสีย
ไม่มีใครที่สมบูรณ์พร้อม คนที่ดีคือคนที่มีข้อเสียน้อย และมีความพร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
การพยายามหาข้อดีข้อเสียของคนเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน และเรียนรู้จากการคบเพื่อน จากการรู้จักเพื่อนต่างเพศ
แล้วหัดสังเกต วิเคราะห์ หากมีการพูดคุยปรึกษาหารือกันในหมู่เพื่อน หรือปรึกษากับพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่
ได้ฟังความคิดเห็นของหลาย ๆ คน จะเกิดการเรียนรู้ที่จะแยกแยะคนได้แม่นยำขึ้น

เมื่อสนใจเพื่อนต่างเพศ อาจจะมองเห็นแต่ข้อดีของเขา เนื่องจากอารมณ์ของเราเป็นอารมณ์ดี มีความสุข
การมองโลกในขณะนั้นก็จะเป็นสุข เป็นเรื่องดีไปหมดเหมือนกัน บางคนมองเขาดีเลิศจนเกินความเป็นจริง
เลยมองข้ามข้อเสียของเขาไป เมื่อแต่งงานอยู่ด้วยกันไปก็จะเห็นข้อเสียของเขามากขึ้น ๆ
จนในที่สุดเกิดปัญหาขัดแย้งกัน และลงเอยด้วยการแยกทาง หรือหย่าร้างกัน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะไม่ได้มีการศึกษากันให้ดี ให้เห็นถึงความเป็นตัวของตัวเองของเขาจริง ๆ

อีกประการหนึ่งก็คือ ในขณะที่สนใจกันใหม่ ๆ นั้นต่างฝ่ายต่างก็พยายามทำตัวดี เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งสนใจและ
พอใจมีการปิดบังซ่อนเร้นข้อเสียของตนเองไว้ เมื่อคบกันไปนาน ๆ เวลาเผลอตัวก็อาจแสดงตัวตนจริง ๆ
ออกมาให้เห็นได้ และเมื่ออยู่กันด้วยกันเกิดความชินชาเป็นกันเองมาก ๆ ก็ค่อยแสดงนิสัยดั้งเดิมที่ปกปิดไว้ออกมา
ส่วนใหญ่สิ่งที่ซ่อนไว้มักจะเป็นเรื่องไม่ดีเช่น ดื่มเหล้า เจ้าชู้ เล่นการพนัน เอาแต่ใจ เวลาโมโหชอบทำร้าย เป็นต้น

การที่จะรู้ว่าเพื่อนต่างเพศที่เราสนใจนั้นมีธาตุแท้เป็นอย่างไร
เป็นเรื่องยากแต่ก็มีหลักการใช้ในการพิจารณา ดังนี้

1. ลักษณะนิสัยของเขา เริ่มต้นตั้งแต่รู้จักกันใหม่ ๆ
วิธีที่เขาเริ่มติดต่อกับเรานั้นเหมาะสมอย่างไร สุภาพเรียบร้อยและให้เกียรติเรามากน้อยแค่ไหน
ควรต้องหัดสังเกตเขาในหลาย ๆ สถานการณ์ ทั้งที่เขาแสดงออกต่อตัวเราและที่เขาแสดงออกต่อเพื่อน ๆ ของเขา
หรือเพื่อน ๆ ของเราด้วย ถ้ามีโอกาสได้ไปทำความรู้จักกับเขาที่บ้าน ก็อาจได้เห็นนิสัยของเขาที่บ้านด้วย
กลุ่มเพื่อนของเขาก็พอจะบอกนิสัยเขาด้วยทางอ้อม เพราะคนที่คบเป็นเพื่อนกันนั้น มักจะมีอะไรคล้าย ๆ กัน เช่น
รักเรียนเหมือนกัน หรือชอบกีฬาเหมือนกัน

2. พื้นอารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร
เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน อารมณ์เย็น โกรธง่าย หายเร็ว หรือโกรธลึก ฝังใจ ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย ใจน้อย ขี้งอน ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ต้องสังเกตเอง โดยดูจากปฏิกิริยาเวลาคบกันไปนาน ๆ ดูการแสดงออกของเขาในสถานการณ์ต่างๆ เช่น
ภายในครอบครัว กับเพื่อน ๆ ของเขาเอง หรือเวลาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันบางอย่าง เช่น
ถ้าเราจำเป็นต้องเลื่อนนัดของเขาอย่างกะทันหัน เขามีปฏิกิริยาอย่างไร
หรือจำเป็นต้องปฏิเสธการขอร้องบางอย่างของเขา เขามีการแสดงออกอย่างไร

ถ้าเพื่อนของเรา แสดงอารมณ์หรือรู้สึกรุนแรง ขาดการยับยั้ง ขาดการไตร่ตรอง หรือเรียกร้องจะเอาให้ได้ตามใจ
ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฟังเหตุผลของเราเลย แบบนี้ควรคบกันห่าง ๆ ดีกว่า เพราะถ้ายิ่งสนิทกันมากขึ้น
เราจะต้องเป็นฝ่ายเดือดร้อนเอาใจเขาฝ่ายเดียว ในที่สุดเราเองจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหว

3. ความคิดของเขา
เราคงพอใจที่จะสนิทสนมกับเพื่อนที่รู้จักคิด มีความคิดในทางที่ดี มองโลกในแง่ดี มีความรอบคอบ รู้จักไตร่ตรอง
รู้จักพิจารณาก่อนจะทำอะไรลงไป สังเกตได้จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไปของเขา การคิดของเขา
คนที่ทำอะไรขาดการยั้งคิด หรือคิดไม่ดี ก็มักจะทำไม่ดี ผลก็มักจะไม่ดีไปด้วย
จึงควรเลือกคบสนิทกับคนที่มีความคิดในทางที่ดี บางทีเขาก็อาจชักจูงให้เราคิดดีด้วยเหมือนกัน
ก็จะได้ประโยชน์จากการคบเขาในการพัฒนาตัวเอง

4. คุณธรรมของเขา
เราสามารถประเมินได้จากพฤติกรรมของเขาเช่นกัน ดูว่าเขามีความรู้จักผิดชอบชั่วดีมากน้อยแค่ไหน
เห็นอกเห็นใจคนอื่นเพียงใด มีพฤติกรรมก้าวร้าวเอาแต่ใจตัวเอง โดยไม่คิดถึงหัวอกคนอื่น
หรือทำผิดศีลธรรมกับคนอื่น ๆ หรือไม่ เขาอาจไม่แสดงออกในเรื่องนี้กับเราเพราะเขาต้องการให้เราชอบเขา
แต่เขาไม่สามารถปิดบังความไร้ศีลธรรม ไร้คุณธรรม ไร้มนุษยธรรม ที่เขาจะแสดงออกต่อบุคคลอื่น ๆ ได้หมด
เราจะสังเกตได้เสมอ

5. ความเป็นตัวของตัวเอง
สมัยนี้ไม่ว่าหญิงชายมักจะต้องมีบทบาทในสังคมพอ ๆ กัน ทั้งการเรียน การทำงาน และการรับผิดชอบต่อลูกต่อ
ครอบครัว ผู้หญิงก็ต้องทำงานด้วย สามีภรรยาจะมีบทบาทพอ ๆ กัน ซึ่งต้องอาศัยความเป็นตัวของตัวเองสูง
สภาพความเป็นผู้นำผู้ตามอาจมีพอ ๆ กัน เราต้องรู้จักนำและตามให้เหมาะสม ต้องพึ่งตัวเองได้ด้วย
และสามารถเกื้อกูลกันได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน คงต้องสังเกตลักษณะบุคลิกภาพของเขาว่า
เขามีความเป็นตัวของตัวเองมากน้อยแค่ไหน พึ่งตัวเองได้หรือไม่
เขาสามารถจะเป็นผู้นำในบางสถานการณ์ได้หรือไม่
และในบางครั้งเขาเปิดโอกาสให้เราเป็นตัวของตัวเองมากน้อยขนาดไหน
ความพอเหมาะในข้อนี้เป็นเรื่องยาก ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่าย
ผู้ชายบางคนชอบเป็นผู้นำมาก ต้องการแฟนเป็นผู้ตาม ถ้าผู้หญิงมีความเป็นผู้นำมากเกินไปเขาก็คงไม่ชอบ

6. การรู้จักวางแผนการ
ลองสังเกตดูว่าเขาเป็นคนมีหลักการแค่ไหน มีการรู้จักวางแผน เตรียมการล่วงหน้าอย่างรัดกุม
ป้องกันปัญหาต่าง ๆ ไว้บ้าง และรู้จักคิดถึงอนาคตระยะสั้นระยะยาว ทั้งต่อตัวเอง และต่อคนที่เขารักด้วย
ถ้าเราคบคนแบบนี้ก็หายห่วงได้
คนที่รู้จักวางแผน รู้จักคิดและสามารถทำได้อย่างที่คิดนั้น เป็นคนที่มีหลักน่าคบกัน

คงต้องดูต่อไปด้วยว่า นอกจากเขาจะคิดวางแผนเป็นแล้ว เขามีความพยายามที่จะทำให้สำเร็จผลตามแผนที่เขา
วางไว้หรือไม่ บางคนเก่งแต่คิดพอทำแล้วไม่ได้เรื่องแบบนี้ต้องคบห่าง ๆ จะดีกว่า
คนบางคนเป็นคนขี้คุย เวลาให้ทำจริง ๆ อาจทำไม่ได้ การที่เขาทำได้จริงตามคำพูด แสดงถึงความรับผิดชอบ
ความหนักแน่น และความอุตสาหะ อดทนหลายอย่าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของคนที่เราต้องการจะเป็นแฟนด้วย
เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการสังเกตด้วยเหมือนกัน

7. ความสม่ำเสมอ
เวลาเราคบใครคงชอบที่จะให้เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย คงเส้นคงวา ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์
ความสม่ำเสมอแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง หนักแน่น มั่นคง อดทนและมีระเบียบวินัยของตัวเอง
คนที่แสดงความเสมอต้นเสมอปลายได้ เมื่อคบไปนาน ๆ ก็จะสามารถประเมินได้ง่าย ๆ ว่าเขาเป็นคนอย่างไร
เพราะเขามักจะไม่มีอะไรปิดบัง ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่สม่ำเสมอแสดงว่าเขาปิดบังอะไรอยู่
แต่เขาไม่สามารถปิดบังได้ตลอด

8. ความใจกว้าง
เราจะโชคดีมาก ถ้าได้รู้จักคนที่ใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น (และของเราด้วย)
คนใจกว้างจะเรียนรู้ได้สูง และประสบผลสำเร็จในการเรียนและการงานได้มาก
การยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กจนติดเป็นนิสัย
คนใจกว้างจะมีคนนิยมชมชอบเยอะ มีเพื่อนมาก เพราะเขาไม่เอาแต่ใจตัวเองฝ่ายเดียว
และรู้จักมองในแง่ดีของคนอื่น เป็นคุณสมบัติของคนที่ดี

9. ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
คนที่เป็นที่รักของใคร ๆ มักมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีการ “ให้” ได้เหมาะสม
ไม่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงใจของคนอื่น
เวลาคบกันใหม่ ๆ เขาอาจแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเรา
แต่พอรู้จักกันนาน ๆ เขาอาจเป็นฝ่าย “รับ” จากเรา และเรียกร้อง แบบนี้ต้องระวังให้จงดี
อย่าคิดว่าการที่เรารักเขา จะต้องเป็นฝ่ายให้เขาฝ่ายเดียว การคบกันต้องเป็นฝ่าย “ให้” และ “รับ” อย่างเหมาะสม
ถ้าเขาไม่รู้จักให้เลยแสดงว่าเขาไม่ได้มีลักษณะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยธรรมชาติแต่อาจเสแสร้งทำในระยะแรก ๆ

10. ความเข้มแข็งของจิตใจ
การจะรู้จักความเข้มแข็งของจิตใจเป็นเพื่อนเราได้ ต้องคอยสังเกตเวลามีสถานการณ์ที่ทำให้เขาไม่สบายใจ
เครียดหรือวิตกกังวล แล้วดูว่าเขาคิดและตัดสินใจอย่างไร คนเรามีการแสดงออกไม่เหมือนกัน
คนที่มีความเข้มแข็งของจิตใจจะสู้ปัญหา มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย
ใช้สติปัญญาไตร่ตรองหาหนทางแก้ไขอย่างรอบคอบ มองถึงข้อดีข้อเสีย รู้จักปรึกษาผู้อื่น
รู้จักเอาความคิดเห็นผู้อื่นมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา และเมื่อปัญหาผ่านพ้นไปแล้ว ก็สามารถทบทวนเรียนรู้
จากประสบการณ์ในอดีต เพื่อป้องกันกับปัญหาต่อไปในอนาคต


ปัญหาใหญ่ที่ทำให้เกิดความแตกร้าวในครอบครัว เกิดจากสามีหรือภรรยา ที่มีสภาพ 4 ประการคือ
* ติดเหล้า (หรือยาเสพติด)
* เจ้าชู้
* เล่นการพนัน
* ทัศนคติไม่ตรงกัน

ซึ่งลักษณะ 4 ประการนี้ สามารถสังเกตได้ในตัวเพื่อนที่คบกัน ลองดูว่าเขามีแนวโน้มจะเป็นประการใดบ้าง
เขาชอบใช้บุหรี่ เหล้า หรือยากล่อมประสาทตัวใดหรือไม่ เขาชอบจีบผู้หญิง
หรือแสดงความสนใจให้ความหวังกับคนอื่น ๆ ในฐานะแฟนพร้อม ๆ กันหลายคนหรือไม่
เขาสนใจการพนันบ้างหรือไม่ บางครั้งลองถามถึงทัศนคติที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ก็จะได้แนวคิดของเขาเช่นกัน

ปัญหาเรื่องทัศนคติที่ไม่ตรงกัน เป็นเรื่องที่พบได้เสมอเนื่องจากคนเรานั้นไม่เหมือนกัน จึงควรรู้จักเขาให้ดีว่า
เขาเป็นคนอย่างไร ความไม่เหมือนกันนั้นเป็นอุปสรรคมากน้อยเพียงใด จะปรับเข้าหากันได้หรือไม่
และจะอดทนกับสิ่งที่ไม่เหมือนกันนี้ได้หรือไม่

คุณสมบัติ 10 ประการนี้ ลองฝึกสังเกตในหมู่เพื่อน ๆ บ่อย ๆ ก็จะเก่งในการวิเคราะห์คน
คนที่มีลักษณะเพียบพร้อมดีไปหมดนั้นอาจพบไม่มาก แต่ถ้าได้พบและรู้จักคบด้วย จะได้ประโยชน์ต่อตัวเอง
เพราะจะได้เรียนรู้และถ่ายทอดสิ่งดี ๆ มาจากเขา ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น


การจะมองให้เห็นนิสัยใจคอคนได้ดีนั้น มีหลักดังนี้

ประการแรก
เพื่อน ลองสังเกตเพื่อน ๆ ของเขาดู คนเรามีลักษณะอย่างไร ดูได้จากเพื่อน ดังนี้
* เพื่อนมักมีลักษณะคล้าย ๆ เขา คนเรามักจะคบคนที่มีอะไรคล้าย ๆ กัน

* เพื่อนมักจะเรียนรู้และเลียนแบบกัน ในหมู่เพื่อนจะมีการถ่ายทอดแบบอย่างทั้งนิสัยใจคอ
ความคิดและการกระทำจากกันและกันเสมอ จะสังเกตได้ว่าเพื่อน ๆ เขาคิดคล้าย ๆ เขา
การแสดงออกของเพื่อนเขาก็จะสะท้อนถึงตัวเขาด้วยเหมือนกัน ถ้าเพื่อนเขาติดเหล้าติดยาเสพติด เกเรชอบเที่ยว
ไม่รักเรียน ตัวเขาก็จะมีแนวโน้มเป็นแบบนั้นด้วยเช่นกัน

* เพื่อนเขาจะช่วยบอกลักษณะนิสัยที่แท้จริงของเขาได้
การที่เราได้รู้จักเพื่อนของเขาก็จะได้ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวจากเพื่อน ๆ เขาด้วยเช่นกัน


ประการที่สอง
พ่อแม่ ถ้าได้มีโอกาสรู้จักครอบครัวของเขา ก็จะได้เรียนรู้ รู้จักเขามากขึ้น นั่นคือจะได้ทราบว่า
เขาได้รับการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนมาอย่างไร มีความอบอุ่นในชีวิตคอรบครัวดีหรือไม่
ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสุขภาพจิต และพัฒนาการบุคลิกภาพของเขามาตั้งแต่เด็ก
ลักษณะนิสัยใจคอและพฤติกรรมบางอย่างถ่ายทอดกันได้จากพันธุกรรม และการเรียนรู้ เข้าลักษณะ
“ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น” ยกตัวอย่างเช่น เด็กผู้ชายที่มีพ่อแม่ติดเหล้า มักจะติดเหล้าและยาเสพติดด้วย
เด็กที่มีพ่อแม่ชอบดุด่า เฆี่ยนตีรุนแรง เวลามีลูกตัวเองก็อาจทำโทษลูกรุนแรงเหมือนกัน
เด็กที่ชีวิตขาดความอบอุ่น มักจะแสวงหาความรัก ความอบอุ่นจากภายนอก
เมื่อถึงวัยรุ่นอาจจะขาดความยั้งคิดพิจารณาที่ดี ได้แฟนไม่เหมาะสมได้ง่าย

ถ้าจะมีแฟนคงต้องหาโอกาสไปทำความรู้จักกับครอบครัวเขาด้วย
นอกจากจะได้ประโยชน์จากการเรียนรู้นิสัยใจคอเขามากขึ้นแล้ว ยังทำให้เป็นที่รู้จักของครอบครัวเขาด้วย
ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นที่เปิดเผย และควรเปิดโอกาสให้เขาได้รู้จักครอบครัวของเราด้วยเหมือนกัน
การที่ผู้ใหญ่ได้รู้จักเขา ก็จะช่วยให้ข้อคิดเห็น ช่วยมองเขาในสายตาของผู้ใหญ่ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า
ท่านอาจให้คำแนะนำตักเตือนหรือข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อเราด้วย

ประการที่สาม
เวลาในการคบกันให้รู้จักเขามากนั้น คงต้องใช้เวลาเพื่อศึกษาเขาพอสมควร เพราะในระยะแรก ๆ นั้น
คนเราอาจพยายามจะทำดีต่อกัน พยายามปกปิดข้อเสียและจุดอ่อนของตน แต่เมื่อเวลาผ่านไป
ธรรมชาติ และธาตุแท้ของเขาจะค่อยโผล่ออกมาให้เห็นทีละน้อย
โดยปกติ 1-2 ปีแรกของการคบกันนั้น มักจะเห็นแต่สิ่งที่ดีในตัวเขา ปีที่ 3 - 5 จะเห็นข้อเสียเขาบ้าง
และถ้าเลย 5 ปีขึ้นไป ก็จะเห็น “ตัวจริง” ของเขามากขึ้น
ดังนั้นจึงควรคบกันนาน ๆ อย่างน้อย 5 ปี เพื่อจะได้ “รู้จัก” เขาจริง ๆ ถ้าจะตกลงใจร่วมชีวิตกับใคร
เราคงต้องการความมั่นใจว่ารู้จักเขาดีพอแล้ว เวลา 5 ปี ที่รู้จักกันก่อนก็มีความเหมาะสมมาก
เพราะจะได้เตรียมตัวเตรียมใจได้ล่วงหน้า ถ้าพบข้อบกพร่อง ข้อที่ไม่ถูกใจก่อน
ลองสำรวจใจตัวเองดูว่าจะสามารถยอมรับข้อเสียนั้น ๆ ได้หรือไม่
อย่าคิดว่าจะเปลี่ยนนิสัยของเขาได้เพราะเป็นไปได้ยาก ถึงแม้เขาจะพยายามเปลี่ยนก็จริงแต่ก็เปลี่ยนได้ไม่นาน

ถึงแม้จะคบกันเป็นเวลาหลาย ๆ ปี นิสัยบางอย่างก็ยังอาจถูกปกปิดไว้ได้ สังเกตจากในชีวิตจริงของครอบครัว
สามีภรรยาที่แต่งงานกัน มักจะมีปัญหาในปีที่ 7 หลังจากแต่งงาน เรียกว่า ระยะพ้นปีที่ 7
นั่นคือส่วนมากพอถึงปีที่ 7 ต่างก็จะเห็น “ธาตุแท้” ของกันและกัน จะทนกันได้หรือไม่
จะยอมรับข้อบกพร่องของกันได้หรือไม่ก็จะเห็นได้ในปีนี้
ถ้าผ่านพ้นปีนี้ไปได้ด้วยดีแสดงว่ามีการปรับตัวเข้าหากันได้ ชีวิตคู่ก็มักจะยืดยาวต่อไป

สำหรับวัยรุ่นคิดว่า ถ้าจะใช้เวลา 7 ปี สำหรับการศึกษากัน ก่อนจะตกลงปลงใจแต่งงานอยู่กินกันฉันสามีภรรยา
ก็มีเหตุผลดี อย่างน้อยก็อาจได้เห็นนิสัยใจคอที่แท้จริงของเขา
และเมื่อถึงตอนนั้น คงจะมีอายุมากพอที่จะใช้วิจารณญาณได้ดี นั่นคือ อายุ 20 ปี ขึ้นไปนั่นเอง

ที่มา //fc.anamai.moph.go.th




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2552
2 comments
Last Update : 23 พฤษภาคม 2552 19:00:33 น.
Counter : 605 Pageviews.

 

ระยะทางพิสูจน์ม้า..กาลเวลาพิสูจน์คน

 

โดย: น้ำหนึ่ง IP: 58.9.159.158 23 พฤษภาคม 2552 20:35:51 น.  

 

ตั้งสติก่อนสตาร์ทค่ะ

เคยเลิกกับแฟนต้นปีที่ 7 เหมือนกันค่ะ หุหุ

 

โดย: จานสลัด 28 พฤษภาคม 2552 21:46:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.