All Blog
South New Zealand - Day 2 Christchurch - Greymouth

เช้าวันแรกของนิวซีแลนด์ วันนี้อากาศดูจะไม่เป็นใจสำหรับการเที่ยวเลย ฝนที่ตกตลอดทั้งคืนทำให้อากาศยามเช้าหนาวจับใจ
หลังจากอาหารเช้าเราก็เก็บของขึ้นรถ เช็คเอาท์มุ่งสู่ West Coast จุดหมายวันนี้คือ Greymouth เมืองชายฝั่งตะวันตกทะเลทาสมัน
        จากไครสต์เชิร์ชใช้ทางหลวงหมายเลข 73 ผ่าน Springfield ข้ามเทีอกเขา Southern Alps ผ่านอุทยานแห่งชาติ Arthur's Pass
ฝนปรอยๆไปตลอดเส้นทาง จากที่เคยอ่านมาว่าการขับรถในนิวซีแลนด์อย่าใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ตอนแรกก็กังวล
อยู่เหมือนกันครับ แต่เมื่อขับไปก็จะเห็นป้ายจำกัดความเร็วอยู่ตลอดทาง ในเขตเมืองใหญ่จำกัดความเร็วที่ 30 กม. ต่อชั่วโมง
เขตชุมชน 50 กม. ต่อชั่วโมง ในเขตทางหลวง 100 กม. ต่อชั่วโมง แต่ถ้าขับเพลินๆในช่วง 100 กม. ก็มีเกินบ้างครับ
พอรู้ตัวก็ค่อยผ่อนคันเร่งลง คนขับรถที่นิวซีแลนด์ก็เหมือนบ้านเรา เวลามีตำรวจซุ่มอยู่ข้างหน้า รถที่สวนมาเค้าจะกระพริบไฟหน้า
เป็นสัญญานให้เราระวังตำรวจครับ พอขับเลยตำรวจ เราก็กระพริบไฟบอกรถที่สวนมาบ้าง แต่บางทีก็ไม่มีรถสวนมาเลย
ถนนในนิวซีแลนด์โล่งมากจริงๆ นานๆจะเจอรถสวนมาสักคัน ถนนก็เป็นสองเลน ไป-กลับ ตลอดทาง ไม่มีไหล่ทาง
หากเจอวิวสวยๆ อย่าไปจอดรถถ่ายรูปสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะอาจมีตำรวจโผล่มาได้ครับ หากคุณไปเที่ยวแล้วกลับมาเมืองไทย
ภายใน 2 เดือน ไม่มีใบสั่งตามมาแสดงว่าคุณรอดครับ แต่ถ้าคุณทำผิดกฎจราจร อาจมีใบสั่งส่งตรงถึงบ้าน คุณต้องไปเสียค่าปรับ
ซึ่งอัตรามหาโหด มีคนเคยโดนมาประมาณ 2 หมื่นบาทครับ หากคุณไม่จ่ายนามสกุลคุณจะติด Black List ครับ แปลว่าคนที่ใช้
นามสกุลนี้จะขอวีซ่านิวซีแลนด์ไม่ผ่านอีก 10 ปี ต่อจากนี้ครับ



 ฝ่าสายฝนถึง Springfield 

     จากไครสต์เชิร์ชขับรถท่ามกลางสายฝนปรอยๆตลอดทาง ออกจากเมืองได้ไม่นานก็เริ่มพบกับทุ่งหญ้า ฝูงวัว ฝูงแกะและต้นไม้
ที่กำลังผลัดใบ สีเหลือง สีแดง ช่างเป็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆครับ ฝูงแกะนับพันตัวบนทุ่งหญ้าสีเขียวเคยเห็นแต่ในทีวี
พอมาเห็นกับตาช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ แต่ผ่านไปสักสองสามวันเริ่มรู้สึกว่าวันไหนเจอหมารู้สึกดีใจ เพราะคิดถึงหมาที่บ้าน
     เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึงเราก็เดินทางมาถึงสปริงฟิลด์ หากยังไม่ได้ทางอาหารเช้ามาผมแนะนำให้แวะทานที่นี่ครับ
เพราะระยะทางต่อจากนี้จะไม่มีจุดแวะจนกว่าจะถึงอาเธอร์พาส หรือหากไม่ได้เติมน้ำมันมาเต็มถังจากไครสต์เชิร์ช ที่นี่จะเป็น
ที่สุดท้ายที่มีน้ำมันให้เติมก่อนที่จะข้ามเทือกเขา Southern Alps ไปฝั่ง West Coast



Castle Hill

     ออกจาก Springfield เส้นทางเริ่มลาดขึ้นเขาไปเรื่อยๆมีบางช่วงผ่านสะพานข้ามแม่น้ำ สะพานที่นิวซีแลนด์ส่วนใหญ่
จะเป็น One way bridge ต้องสังเกตุป้ายเตือนดีๆครับว่าเค้าให้รถด้านไหนไปก่อน



     ใช้เวลาไม่นานนัก เราก็มาถึง Kura Tawhiti Conservation Area หรือ เรียกอีกชื่อนึงว่า Castle Hill เป็นกลุ่
หินขนาดใหญ่
เกิดจากการยุบตัวของดินจากการกัดเซาะของน้ำและน้ำแข็ง ทำให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นหินตั้งตระหง่านเป็นทุ่งหินธรรมชาติ
จากที่จอดรถเดินเข้าไปถึงกลุ่มหินประมาณ 3 กม. ครับ ไป-กลับ 6 กม. ผมจึงได้แค่ยืนดูอยู่ไกลๆเพราะฝนตกและ
พยายามทำเวลาเพื่อไม่ให้ไปถึง Punakaiki เย็นเกินไป



Arthur's Pass

     เมื่อเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ Arthur's Pass บรรยากาศ 2 ข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากทุ่งหญ้ากับภูเขาหญ้า กลายเป็นป่าดิบเขา
ความชี้นของป่าทำให้ฝนเม็ดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม สภาพป่าเขียวชะอุ่มยอดเขาสูงมีร่องรอยการถล่มของหินให้เห็นตลอดสองข้างทาง
พันธุ์พีชดั้งเดิมของนิวซีแลนด์จะเป็นพืชไม่ผลัดใบ แต่ชาวยุโรปได้นำพันธุ์พืชจากยุโรปเข้ามาปลูก ทำให้ฤดูใบไม่ร่วงที่นี่มีไม้ผลัด
ใบสีเหลืองสีแดงให้ได้เห็น เมื่อเข้าสู่กลางอุทยานจะถึงจุดแวะพัก Arthur's Pass Visitor Centerสามารถแวะเข้าห้องน้ำ
ทาอาหาร
หรือเยี่ยมชมศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีห้องนิทรรศการพันธุ์พืชและสัตว์ของอุทยานให้ชม
ถัดจากจุดนี้อีกไม่ไกลมีน้ำตกขนาด
ใหญ่ซึ่งผมไม่ทราบชื่อน้ำตกแต่สามารถมองเห็นได้จากริมทางและมีจุดจอดรถเพื่อให้เดินลงไปถ่ายภาพได้ เส้นทางต่อจากนี้ค่อน
ข้างคดโค้งและเป็นทางลงเขา และเนื่องจากฝนปรอยอยู่ตลอดเวลาทำให้ถนนลื่นการขับรถต้องใช้ความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา

เรามาถึงแยก Kumara ซึ่งเป็นทางแยกระหว่างตรงไป Hokitika หรือเลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่ Greymonth ซึ่งบางคนอาจไม่แวะเกรย์เมาท์
ตรงไปพักที่ Franz Josef เลยก็ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางครับเกือบบ่ายโมงแล้ว ผมถามสมาชิกว่าจะแวะกินข้าวที่นี่หรือไปต่อเพราะ
ใกล้ถึงเกรย์เมาท์แล้ว สมาชิกลงมติให้ไปต่อ

ถึงสักที Greymouth
     ฝั่ง West Coast มีภูมิประเทศที่แตกต่างจากฝั่ง East Cost โดยสิ้นเชิง ทุ่งหญ้าและฝูงแกะหายไปตั้งแต่เข้าเขตุ Arthur's Pass
ต้นไม้ผลัดใบแทบไม่มีให้เห็น เมืองชายทะเล Greymouth เป็นเมืองใหญ่พอสมควร เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆในนิวซีแลนด์ จากไครสต์
เชิร์ช คุณสามารถนั่งรถไฟสาย Trans Alpine มาที่นี่ได้ จากข้อมูลเที่ผมได้มาเป็นเส้นทางที่สวยมากเพราะผ่านภูเขาหิมะมาตลอดทาง
และเป็นพาหนะที่นิยมในฤดูหนาวที่ถนนลื่นเพราะน้ำแข็ง
     ในที่สุดก็มาถึงที่พัก Charles court motel ที่ผมจองไว้ล่วงหน้า ห้อง 2 ห้องนอนมีครัวและอุปกรณ์ครัวครบด้านหลังติดทะเล แต่
ทะเลที่นี่คลื่นแรงและเป็นหาดหินครับ หลังจากเก็บของและทานมื้อกลางวันเสร็จเราก็เดินทางกันต่อมุ่งหน้าสู่ อุทยาน Paparoa เพื่อ
ไปยัง Punakaiki จุดที่เป็นที่ตั้งของ Pancake rock



     ก่อนเดินทางต่อไปยัง Punakaiki ต้องแวะเติมน้ำมันก่อน เพราะตั้งแต่รับรถมาเมื่อวานผมยังไม่ได้เติมน้ำมันเลยปั้มน้ำมันที่
นิวซีแลนด์ ต้องบริการตัวเองนะครับเติมเสร็จก็ดูจำนวนเงินที่มิเตอร์แล้วเดินเข้าไปจ่ายเงินในร้านสะดวกซื้อเกือบทุกปั๊มจะมีร้าน
สะดวกซื้ออยู่ในปั้มครับ ยกเว้นตามเมืองเล็กๆอาจเป็นแค่ร้านขายของชำเล็กๆ หรือร้านขายของที่ระลึกครับที่ปั๊มนี้ผมได้เจอกับ
ครอบครัวคนไทยที่มาขับรถเที่ยวเหมือนกัน เค้ามาจาก Punakaiki และกำลังจะไป พักที่ Franz Josefซึ่งผมจะไปในวันพรุ่งนี้ แต่
หลังจากนี้ผมก็ได้พบกับครอบครัวนี้อีกหลายครั้งครับ



     ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เราก็เดินทางมาถึง Punakaiki เมื่อจอดรถแล้วเราต้องเดินฝ่าสายฝนปรอยๆเข้าไปด้านใน
ผมซื้อเสื้อกันฝนจากเมืองไทยแบบใช้แล้วทิ้งไม่ต้องแบกกลับ เดินผ่านเขตุป่าเข้าไปด้านใน มีพันธุ์ไม้แปลกตาหลายชนิด
ที่ขึ้นเฉพาะที่นี่ที่เดียวในโลก เดินประมาณสัก 10 นาที เราก็มาถึง Pancake Rocks เป็นกลุ่มหินซึ่งเกิดจากการกัดเซาะ
ของลมและน้ำทะเล ทำให้เกิดเรียงตัวกันเป็นชั้นๆเหมือนขนม Pancake

      ใกล้ๆกันมีหลุมที่เรียกว่า Blowholes ด้านล่างมีโพลงถ้ำเมื่อคลื่นซัดมาน้ำจะดันเข้าโพลงถ้ำเกิดแรงดันทำให้น้ำพุ่งขึ้นมาด้าน
บนหน้าผาบริเวณนี้สูงไม่ต่ำกว่า 100 เมตร แต่แรงดันน้ำมหาศาลยังทำให้น้ำพุ่งขึ้นมาด้านบนได้
ผมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงใน
Punakaiki เมื่อออกมาด้านนอกร้านค้าต่างๆปิดหมดทั้งที่เพิ่ง 5 โมงเย็นในลานจอดรถมีรถเหลือไม่กี่คัน ในฤดูใบไม้ร่วงอย่างนี้อีก
ทั้งฝนตกด้วยทำให้มืดเร็ว หากมาเที่ยวในฤดูร้อนจะมืดประมาณ 3 ทุ่มครับ



     เราเดินทางกลับมายัง Greymouth ก่อนเข้าที่พักแวะ Supermarket ซื้ออาหารสดเพิ่มเติมเพื่อไปทำมื้อเย็นและมื้อเช้า

โปรแกรมสำหรับวันพรุ่งนี้

  • ออกจากเกรย์เมาท์ แปดโมงเช้า
  • ถึง Franz Josef ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชม Franz Josef Glacier และ Fox Glacier จองไว้รอบ 11.00 น.
  • เดินเท้าเข้าไปดูส่วนปลายสุดของธารน้ำแข็ง Franz Josef
  • เดินทางไป Fox Glacier เข้าที่พัก



Create Date : 20 สิงหาคม 2555
Last Update : 23 กันยายน 2556 8:39:48 น.
Counter : 2100 Pageviews.

0 comment
South New Zealand - Day 1 Bangkok - Christchurch


หนีร้อนตะลอนนิวซีแลนด์
     หลังจากใช้เวลาเตรียมการมาหลายเดือน ปรับเปลี่ยนแผนมาหลายรอบ ก็ถึงเวลาที่เราจะลัดฟ้าไปเยือนซีกโลกใต้สักที
พวกเราเดินทางด้วยสายการบิน AirAsia จองมาด้วยราคาโปรโมชั่น กรุงเทพ - ไครสต์เชิร์ช - กรุงเทพ
ด้วยราคารวมโหลดกระเป๋าที่นั่ง Hot Seat และอาหารบนเครื่องไม่ถึง 2 หมื่นบาทต่อคน พวกเรามาถึงสุวรรณภูมิก่อน
เวลาเครื่องอก 3 ชั่วโมง ที่ต้องเผื่อเวลามากขนาดนี้เพราะไม่แน่ใจว่าช่วงก่อนสงกรานต์คนเดินทางกันมากมายจะวุ่นวายขนาดไหน
แต่เราก็ใช้เวลาไม่นานในการ Check-In และผ่าน ตม. และเนื่องจากเราจองตั๋วมาแบบ Fly Thru ไม่ต้องไปรับโหลดกระเป๋า
ที่กัวลาลัมเปอร์ หลังชั่งน้ำหนักกระเป๋าเสร็จก็ต้องนำไปโหลดช่องพิเศษ คือช่องสัมภาระขนาดใหญ่ จากนั้นผ่าน ตม.
ซึ่งแถวคนไทยวันนั้นสั้นมากหรือจะเรียกว่าไม่มีคิวเลยก็ได้ จากกรุงเทพเรานั่ง Thai AirAsia ไปลงที่กัวลาลัมเปอร์
เครื่องออก 6 โมงกว่า ถึงกัวลาลัมเปอร์สามทุ่มครึ่ง เวลาที่มาเลเซียเร็วกว่าบ้านเราชั่วโมงนึง ลงเครื่องเราก็เข้าช่องพิเศษ
สำหรับต่อเครื่องไม่ต้องผ่าน ตม. เพื่อตรวจเอกสารและออก Borading Pass สำหรับเที่ยวบิน AirAsia X
กัวลาลัมเเปอร์ - ไครสต์เชิร์ช นั่งรออีกชั่วโมงกว่า ก็ได้เวลาเดินทาง เครื่องออกจาก กัวลาลัมเปอร์ ห้าทุ่มครึ่ง
ถึงไครสต์เชิร์ช ประมาณบ่ายสองครึ่งของอีกวัน เวลาที่นิวซีแลนด์เร็วกว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมงก็ประมาณ 9 โมงเช้าบ้านเรา


ผ่าน ตม. นิวซีแลนด์

     มาถึงแล้วนิวซีแลนด์ ก่อนเดินทางผมตรวจสอบสภาพอากาศจากเวปพยากรณ์อากาศของนิวซีแลนค์ว่าจะมีฝน
มาถึงก็เจอฝนจริงๆ ทำให้ไม่เห็นยอด Mount Cook ตอนเครื่องบินกำลังจะลงที่ Christchurch ลงจากเครื่องผ่าน ตม.
เค้าขอเอกสารจองตั๋วเครื่องบินขากลับ ก็ยื่นให้เค้าดู และขอดูใบจองที่พักคืนแรก พอดีผมจองที่พักผ่าน //www.booking.com มา
เพราะคิดว่าจองมาก่อนจะได้ไม่เสียเวลาไปหาที่พัก และอีกอย่างผมต้องการห้อง Family room ซึ่งมีน้อยกว่าห้องธรรมดา
จองก่อนเดินทางน่าจะสะดวกกว่า ซึ่งการจองห้องผ่าน booking.com ดีตรงที่เราสามารถยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนได้ก่อนเดินทาง
เพราะเค้ายังไม่คิดเงินเรา โดยให้เราไปจ่ายเมื่อเข้าพัก ที่พักที่นิวซีแลนด์มีทั้งแบบ Guest house และ Motel แต่แบบ
โรงแรมจะไม่ค่อยมี หรือมีตามเมืองใหญ่ๆอย่าง Christchurch, Queenstown, Dunedin แต่ผมว่าแบบ Motel สะดวกสุด
เพราะคุณสามารถเอาท้ายรถเสียเข้าหน้าห้องพักแล้วขนกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นลงได้เลย
     เมื่อผ่านเจ้าหน้าที่ ตม. แล้วก็มารอรับกระเป๋าที่สายพาน จากนั้นต้องไปผ่านอีกด่านนึง นั่นคือด่านศุลกากร และเนื่องจาก
ผมเอาอาหารและเครื่องปรุงไปทำกินเอง เราก็เลือเข้าช่อง declare หรือมีของต้องสำแดง ถ้าจะนำอาหารไปปรุงเองควรแยกกระเป๋า
ใบนึงออกมาจากเสื้อผ้า เพราะจะสะดวกในการเปิดตรวจ เค้าจะดูของคุณทุกชิ้น ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้าคุณสามารถแจ้งว่าเป็น
เครื่องแต่งกายแล้วเข้าเครื่องสแกนได้เลยไม่ต้องเปิดตรวจ ยื่นกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่แล้วแจ้งเค้าว่า Dry Food เจ้าหน้าที่จะเปิดกระเป๋า
ตรวจของข้างในด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แล้วเค้าก็เก็บของเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม ผ่านด่านศุลกากรได้ ก็ออกประตูสู่นิวซีแลนด์จริงๆแล้ว



ซื้อซิมโทรศัพท์

     เมื่อผ่านศุลกากรออกมาด้านนอก ผมก็มองหา Counter โทรศัพท์ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเราต้องโทรติดต่อบริษัทรถเช่า
ทางด้านซ้ายมือของประตูทางออกมาโถงด้านนอกจะมีเคาท์เตอร์บริษัท Vodafone ซื้อซิมการ์ดแบบเติมเงิน ราคาซิม 25 NZD
เติมเงินต่ำสุด 20 NZD เล่น Net ได้ 100 Mbs หากเงินหมดสามารถเติมเงินเพิ่มได้ที่ Supermarket ตรงเคาท์เตอร์จ่ายเงิน
บอกเค้าว่า Top up Vodafone ขั้นต่ำ 20 NZD เมื่อจัดการเปลี่ยนซิมเสร็จ ผมก็โทรไปยังบริษัทรถเช่าว่าเรามาถึงแล้ว
แต่พระเจ้า เค้าพูดอะไรกลับมาฟังไม่รู้เรื่องเลย ทั้งสำเนียงทั้งพูดเร็ว พูดกันอยู่นานรู้แต่ว่าให้ไปรอที่จอดรถตรงไหนสักแห่ง



i-SITE ที่พึ่งแรก

     เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องผมเลยต้องหาตัวช่วย ตอนซื้อซิมโทรศัพท์ผมเห็นสำนักงานการท่องเที่ยวของ นิวซีแลนด์อยู่ใกล้ๆร้าน Vodafone
ก็เลยเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือว่าผมไม่เข้าใจสิ่งที่บริษัทรถเช่าพูด เจ้าหน้าที่ขอเบอร์โทรบริษัทรถเช่าแล้วโทรติดต่อให้
จากนั้นเรียกตำรวจหญิงช่วยนำผมไปรอที่จุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ใจดีพาไปส่งแล้วยืนรอจนรถตู้ของบริษัทรถเช่า
มารับผมไปยังสำนักงาน
     กล่าวถึง i-SITE นิดนึงครับ เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ที่ผมคิดว่ายอดเยี่ยมมาก คุณสามารถหาข้อมูล
ของทุกเมือง สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก รถ เรือ ต่างๆได้จากที่นี่ หรือขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้ทุกเมืองที่คุณผ่านไปจะมี i-SITE
ตั้งอยู่ในจุดหลักของเมือง แม้กระทั่งเมืองเล็กๆก็ตาม
     มาถึงสำนักงานของบริษัทรถเช่าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนัก เค้าจะขอดู Voucher ที่คุณทำการจองรถมา เจ้าหน้าที่จะขอ
ใบขับขี่สากล Passport และใบขับขี่ของไทยไปถ่ายเอกสาร แล้วให้กรอกข้อมูลในใบรับรถ จากนั้นพาไปตรวจสอบสภาพรถ
อย่าลืมถ่ายภาพรอบคันไว้ด้วยนะครับ ถ้าได้กล้องแบบที่มีวันที่ยิ่งดี เผื่อมีปัญหาตอนคืนรถจะได้มีหลักฐานว่ามีร่องรอยก่อนรับรถ



     รับรถเสร็จก็มุ่งหน้าสู่ที่พักคืนแรก ผมเช่า GPS เพิ่มจากบริษัทรถเช่าแต่ มีปัญหามากเมื่อใช้ที่ Christchurch เพราะเนื่องจาก
เมืองถูกทำลายจากแผ่นดินไหว 2 ครั้ง ทำให้ใจกลางเมืองมีแต่ซากปรักหักพัง ถนนสายต่างๆถูกปิดห้ามรถผ่านในบางช่วง
ทำให้ GPS สับสนในการนำทางมากเพราะมันพยายามแนะนำเราให้ขับผ่านเข้าไปกลางเมืองจุดที่มีการปิดถนน
คืนแรกผมพักที่ Southern Comfort Motel เลขที่ 53 ถนน Bealey Avenue ผมจองห้อง Family Room มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
มีครัวและเครื่องครัวให้พร้อม เมื่อเช็คอินเก็บกระเป๋าเสร็จก็ได้เวลาออกสำรวจเมือง Christchurch


Christchurch กับซากปรักหักพัง

     ผลกระทบจากแผ่นดินไหว 2 ครั้ง คือ กันยายน 2553 และ กุมภาพันธ์ 2554 ทำให้ไครสต์เชิร์ชแทบกลายเป็นเมืองร้าง
บริเวณ Cathedral Square ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ กลายเป็นพื้นที่อันตราย(Red Zone) ห้ามรถยนต์เข้าและห้ามอยู่อาศัย
     หลังจากชมซากปรักหักพังของไครสต์เชิร์ชแล้วก็ได้เวลาหาเสบียงสำหรับมื้อเย็นและการเดินทางในวันถัดไป
วันแรกของการขับรถในไครส์เชิร์ช ผมขอบอกว่ามั่ว งง หลงทิศ มากๆ GPS ก็พาหลงทางแบบวนกันเข้าซอยเล็กซอยน้อย
สุดท้ายผมก็มาถึงถนน Riccarton แล้วก็มาเจอ The Park n Save Supermarket ซึ่งกว่าจะถึงก็ทุ่มกว่าฝนเริ่มปรอยๆ
อากาศเย็นสุดขั้วเลยครับ แต่ได้ไออุ่นในซุปเปอร์มาร์เก็ต ค่อยยังชั่วหน่อย ที่นี่มีฝั่ง Plaza และโรงหนังด้วยนะครับแต่ขอบอกว่า
เค้าปิดกันตั้งแต่ 6 โมงเย็น หลัง 6 โมงผู้คนพากันเข้าบ้านหมดแล้วครับ เราได้เสบียงสำหรับการเดินทางพอสมควร
ทั้งข้าวสาร น้ำมันพืช ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ ผมเตรียมกระเป๋าเก็บความเย็นที่ซื้อจากร้าน ซี พี เฟรชมาร์ทมาด้วยเอาไว้ใส่ของสด
และเนื่องจากอากาศเย็นจึงทำให้เราเก็บเนื้อสัตว์ใส่รถไปกับเราได้ พอถึงที่พักก็เอาแช่ช่องแช่แข็งเพื่อตะลอนวันต่อไป



     ซื้อของเสร็จก็ได้เวลากลับที่พักทำอาหารเย็นและวางแผนการเดินทางในวันรุ่งขึ้น โปรแกรมของเราพรุ่งนี้คือ

  • จากไครสต์เชิร์ชใช้ทางหลวงหมายเลข 73 ข้ามเทิอกเขา Southern Alps ผ่านอุทยานแห่งชาติ Arthur's Pass
  • จาก Arthur's Pass มุ่งสู่ West Coast ถึง Greymouth เช็คอินที่พัก
  • จาก Greymouth ไป Punalaili อุทยานแห่งชาติ Paparoa
  • กลับเข้าที่พัก


กลับเข้าที่พัก



Create Date : 20 สิงหาคม 2555
Last Update : 23 กันยายน 2556 8:38:46 น.
Counter : 4029 Pageviews.

0 comment
South New Zealand - ก่อนออกเดินทาง



      เกือบหนึ่งปี สำหรับการวางแผนการเดินทางทริปนี้ของเรา การขับรถเที่ยวเกาะใต้ของนิวซีแลนด์เป็นอีก
หนึ่งจุดหมายปลายทางที่อยู่ในใจมาหลายปี และเนื่องจากนิวซีแลนด์เป็นประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย
จึงไม่ยากที่จะหาข้อมูลในการเตรียมตัว อีกทั้งนิวซีแลนด์เองเป็นประเทศที่มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวดีเยี่ยม
ข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆและสถานที่ท่องเที่ยวคุณสามารถจองผ่านเวปไซต์ได้เลย

รู้จักนิวซีแลนด์

      นิวซีแลนด์เป็นประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้ประกอบด้วนเกาะใหญ่ 2 เกาะ และเกาะเล็กๆอีกจำนวนหนึ่ง
มีเมืองหลวงชื่อเวลลิงตัน นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่อยู่ห่างไกลประเทศอื่นๆมากที่สุด ประเทศที่อยู่ใกล้ที่สุดคือประเทศ
ออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ 2000 กม. โดยมีทะเลทาสมันกั้นกลาง ดินแดนเดียวที่อยู่ทางใต้คือทวีปแอนตาร์กติกา
และทางเหนือคือ นิวแคลิโดเนีย ฟิจิและตองกา เกาะเหนือและเกาะใต้ถูกแบ่งโดยช่องแคบ Cook ซึ่งมีความกว้าง 20 กม.
และเป็นจุดที่แคบที่สุด พื้นที่ทั้งหมดของประเทศคือ 268,680 ตารางกิโลเมตร มีขนาดเล็กกว่าประเทศอิตาลีและญี่ปุ่นเล็กน้อย
มีพื้นที่หลายแห่งที่สวยงามน่าตื่นใจและถูกนำใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนต์ เช่นภาพยนต์เรื่อง The Loard of The Ring
และ The Last Samurai สกุลเงินที่ใช้คือ New Zealand Dollar (อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 25.4 บาท ต่อ NZD)

สภาพภูมิอากาศ
ประกอบด้วย 4 ฤดูกาลได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ โดยทั่วไปอุณหภูมิจะค่อนข้างเย็นตลอดปี
ในฤดูหนาวจะมีหิมะตกโดยเฉพาะเกาะใต้ แต่เ้กาะเหนืออากาศจะอบอุ่นกว่า


วางแผนการเดินทาง

      เมื่อกำหนดการเดินทางได้ว่าจะไปเที่ยวช่วงฤดูไหน ควรจัดแผนการเดินทางแบบคร่าวๆเพื่อจะได้วางแผนถูกว่าเราจะใช้เวลากี่วัน
หากจะขับรถเที่ยวรอบเกาะใต้ ผมคิดว่าควรมีเวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ เมื่อกำหนดช่วงเวลาเดินทางได้แล้ว
สิ่งที่ต้องทำอันดับต่อไปคือจองตั๋วเครื่องบิน เพราะต้องใช้ในการขอวีซ่า มีสายการบินเดียวที่บิน กรุงเทพ - ไครสต์เชิร์ช
คือ Emirates นอกนั้นต้อง VIA ตอนผมไปใช้บริการ AirAsia แต่น่าเสียดายที่ยกเลิกบินรูท กัวลาลัมเปอร์ - ไครส์เขิร์ชไปแล้ว



ตัวอย่างแผนการเดินทาง


Route 1 Christchurch - Fox Glacier - Christchurch (5 Days)



Route 2 Christchurch - Queenstown - Christchurch (5 Days)




ขอ VISA ไม่ยากอย่างที่คิด
      การขอวีซ่านิวซีแลนด์ สามารถยื่นขอด้วยตนเองหรือส่งททางไปรษณีย์ที่ แผนกวีซ่าสถานฑูตนิวซีแลนด์ ชั้น 15
อาคารเอ็มไทยทาวเวอร์ ออลซีซันเพลส ถนนวิทยุ สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการขอวีซ่ามากรอกรายละเอียดก่อนได้ที่
//www.immigration.govt.nz/migrant/general/formsandfees/formsandguides/visit.htm
ค่าธรรมเนียมวีซ่า 3,000 บาทต่อคนและ 3,700 บาท กรณีขอวีซ่าแบบครอบครัว สามารถชำระค่าธรรมเนียมด้วยบัตรเครดิต
วีซ่า มาสเตอร์การ์ด หรือ ตั๋วแลกเงินธนาคาร แคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย "สถานฑูตนิวซีแลนด์(สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง"
ไม่มีการคืนค่าธรรมเนียมไม่ว่าผลการพิจารณาจะอนุมัติหรือไม่ ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 10 วัน










Create Date : 20 สิงหาคม 2555
Last Update : 23 กันยายน 2556 8:37:41 น.
Counter : 2226 Pageviews.

5 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

นักบัญชีขี้บ่น
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]