
Day 3 แผนการเที่ยวของเราวันนี้คือ เช้าไปตลาดปลาฟูรุกาวา (Furukawa Aomori Fish Market) สายๆไปทะเลสาบโทวาดะ
(Towada Lake) ขากลับแวะชมวิวที่ Hakkoda Ropeway

เราเดินจากโรงแรมไปตลาดปลา Furukawa ประมาณแค่ 400 เมตรเดินลัดด้านหลังตรงลานจอดรถของโรงแรมไปซอยด้านหลัง
แล้วเดินเลียบถนนใหญ่ข้ามสี่แยกไฟแดงไป 2 แยกก็ถึงครับ ตรงแยกก่อนถึงตลาดปลามีร้านขายผักผลไม้อยู้หลายร้านน่ากินทั้งนั้น
ผลไม้สดราคาไม่แพงครับ

ร้านสาเกริมทางเช้าๆไม่เปิดครับส่วนกลางคืนก็มีแต่หนุ่มออฟฟิศ เมืองอาโอโมรินี่เงียบมากทั้งกลางวันกลางคืน แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็น
เมืองเล็กนะครับเป็นเมืองใหญ่ที่ดูเงียบมากแม้จะมีห้างสรรพสินค้าอยู่หลายห้าง
เดินเลยร้านสาเกมาไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วครับตลาดปลาฟูรุกาวา (Furukawa Aomori Fish Market หรือ Aomori Gyosai Center)
ตลาดปลาที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอาโอโมริ ซึ่งมีอีกตลาดนึงคือตลาดปลาอาอูกะ(Auga Fish Market)ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือห่างออกไป
บล็อคครึ่ง ภายในตลาดแห่งนี้จำหน่ายอาหารทะเลสดๆจากท้องถิ่น ผัดสดผักดองชนิดต่างๆ

ตลาดเปิด 7 โมงเช้าครับแต่เรามาถึงก่อนก็เข้ามาด้านในได้ครับ ภายในตลาดแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆคือส่วนที่เป็นของสดซื้อ
ไปประกอบอาหารที่บ้าน กับส่วนที่รับประทานได้ทันที เค้าก็จะแยกร้านกันชัดเจนครับ

จุดพิเศษของตลาดปลาแห่งนี้ คือให้นักท่องเที่ยวได้สร้างสรรค์ข้าวดงบูริ(donburi ข้าวราดหน้าต่างๆ)ด้วยตนเอง เรียกว่า
นกเคดง(nokkedon) จากอาหารทะเลตามฤดูกาลประจำท้องถิ่น ที่ขายอยู่ภายในตลาดเป็นประจำทุกวันที่ตลาดเปิด

เริ่มต้นด้วยการซื้อตั๋วแบ่งออกเป็นเซต 5 ราคา 540 เยน กับเซต 10 ราคา 1,080 เยน โดยตั๋วที่ได้รับสามารถนำไปแลกเปลี่ยน
เป็นอาหารทะเลต่างๆได้ทั่วตลาด(ตั๋ว 1 ใบสำหรับถ้วยขนาดปกติ และ 2 ใบสำหรับถ้วยขนาดใหญ่) ไม่ว่าจะเป็นปลาดิบ ปู หอย
สาหร่ายทะเล ไข่ปลา อาหารทะเลทอดและสินค้าอื่นๆมากมาย (ตั๋วชนิดนี้ไม่สามารถใช้นอกตลาดได้ต้องใช้ให้หมด)

เริ่มต้นก็ไปที่ร้านข้าวก่อนครับ ร้านขายข้าวจะขายข้าวสวยใส่ชามโฟมและมิโซะซุปต้องซื้อต่างหาก ร้านนี้จะมีโต๊ะให้นั่งมีน้ำชา
เขียวร้อนเย็นให้กินด้วย พอซื้อข้างเสร็จก็เดินถือชามไปร้านปลาแล้วแลือกปลาสด ปลาหมึกสดหรือของสดอื่นๆโปะข้าวมานั่งกินที่
โต๊ะ ที่โต๊ะจะมีซ้อสกับวาซาบิให้ครับ

ใครไม่ถนัดของสดก็ไปร้านของทอดได้ครับ เนื้อปูทอดที่นี่อร่อยสะท้านทรวงจริงๆครับเนื้อหวานมาก นอกจากอาหารทะเลแล้วก็ยัง
มีร้านขายกับข้าวเหมือนร้านข้าวแกงบ้านเราครับ กับข้าวทำใส่ทาดไว้อยากกินอะไรก็ชี้ให้เค้าตักเลยครับ

เรากลับมาเอารถที่โรงแรมแล้วเดินทางไปยังทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) ระยะทางประมาณ 62 กม. ทางขึ้นเขาชันและ
คดเตี้ยวเป็นบางช่วงครับเพราะต้องผ่านเทือกเขาฮักโกดะ (Hakkoda) แถวนี้มีสกีรีสอร์ทอยู่หลายที่ ใครสนใจมาเที่ยวฤดูหนาวก็คง
สวยไปอีกแบบครับ

ภูเขาฮักโกดะ(Mount Hakkoda) เป็นกลุ่มยอดภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอาโอโมริ(Aomori)และทะเลสาบโทวาดะ(Lake
Towada) ถือเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีชื่อเสียงของความงดงามตามฤดูกาลต่างๆ รวมถึงเส้นทางเดิน
ป่าทางธรรมชาติ และน้ำพุร้อนที่โด่งดัง

ต้นไม้แถบเทือกเขา Hakkoda จะเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนกันยายน-กลางตุลาคม จะเร็วกว่าแถบทะเลสาบ
Towada ประมาณหนึ่งสัปดาห์ และในช่วงฤดูหนาวหิมะจะตกในบริเวณภูเขาเป็นปริมาณมาก ทำให้เกิดต้นไม้แช่แข็ง

ระหว่างทางที่ขับรถมา มีฝนตกสลับแดดออกมาตลอดทางครับ แต่ขอบอกว่าเป็นเส้นทางที่ขับแล้วเพลินมากจริงๆครับ แต่สมาชิกส่วนใหญ่หลับกันหมดเพราะเส้นทางที่วกไปวนมาพาให้ง่วงนอน
เรามาถึงทะเลสาบโทวาดะแล้วครับ บริเวณนี้เป็นท่าเรือสำหรับผู้ต้องการล่องเรือเที่ยวชมทะเลสาบ มีลานจอดรถฟรี และร้าน
อาหารหลายร้าน (พิกัด 40°28'42.9"N 140°56'23.7"E) ถ้าไม่ได้ขับรถมาเองขึ้นรถบัสหน้าสถานี Aomori มาที่นี่ได้เหมือนกันครับ
เป็นรถของ JR Bus ถ้ามี JR Pass จะสะดวกกว่าเพราะค่าโดยสารแพงมากครับนั่งจาก Aomori สุดสาย Towadago 3000 เยนต่อคน
คิดตามระยะทางแต่ครงริมทะเลสาบนี่คือป้าย เนโนคูจิ(Nenokuch)
ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากมาล่องทะเลสาบ Towada แล้วก็คือการได้เดินชมธรรมชาติริมลำธารโออิราเซะ(Oirase Stream) ลำธาร
แห่งนี้อยู่เลียบไปกับริมถนนที่ราผ่านมาก่อนถึงจุดจอดรถ ลำธารนี้มีตวามยาวหลายกิโลครับแต่เส้นทางที่นิยมเดินกันคือเริ่มจาก
ทะเลสาบ Towada ไปถึงน้ำตก Choshi Ootaki ระยะทางประมาณ 1 กม. จุดเริ่มต้นของเส้นทางธรรมชาดิคือข้ามสะพานนี้ไปแล้วลง
ไปด้านข้างสะพานจะพบทางเดิน
จากบนสะพานเราจะเห็นต้นทางของลำธารโออิราเซะ(Oirase Stream) เนื่องจากทะเลสาบโทวาดะเป็นปากปล่องภูเขาไฟ
โบราณจึงอยู่สูงกว่าลำธารโอริราเซะ จึงเป็นลำธารที่ไหลออกจากทะเลสาบสู่ที่ราบเบื้องล่าง

ลำธารโออิราเซะเป็นทางระบายน้ำจากทะเลสาบโทวาดะ(Lake Towada) โดยเริ่มต้นจากท่าเรือเนโนคูจิ(Nenokuchi) เชื่อมต่อไปยังเมืองยาซูมิยะ(Yasumiya) สามารถเดินป่าไปตามเส้นทางเลียบลำธารตอนบนระหว่าง Nenokuchi และ Ishigedo ซึ่งมีระยะทาง
รวม 9 กิโลเมตรแล้วนั่งรถบัสย้อนกลับมาได้แต่เราไม่ได้เดินไปขนาดนั้นครับ

ต้นลำธารมีประตูกั้นชะลอน้ำ Nenokuchi Watergate น้ำตรงนี้ใสมากครับคาดคะเนด้วยสายตาคาดว่าน่าจะลึกพอสมควรครับ ที่ประตูระบายน้ำนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าครับแต่มีโซ่กั้นและมีภาษาญี่ปุ่นพร้อมสัญลักษณ์ว่าห้ามขึ้น การเดินป่าเส้นทางนี้ถ้ายังไม่ได้กิน
อะไรก็ควรกินไปก่อนและพกน้ำไปสักขวดครับ

เส้นทางเดินเลียบลำธารเป็นทางเดินง่ายๆแต่มีบางช่วงที่ต้องขึ้นไปเดินบนถนนเส้นที่เราขับรถมา ต้องเดินระวังหน่อยครับเพราะ
เป็นทางโค้งและถนนก็แคบมากด้วย

ลำธารโออิราเซะ(Oirase Stream) เป็นลำธารจากภูเขาที่งดงามในเขครอยต่อระหว่างจังหวัดอาโอโมริ(Aomori) และจังหวัด
อากิตะ(Akita) ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้ร่วงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ลำธารแห่งนี้ไหลไปตามหุบเขาโออิราเซะ
(Oirase Gorge)

ลำธารแห่งนี้ไหลไปตามหุบเขาโออิราเซะ(Oirase Gorge) ท่ามกลางต้นไม้อันเขียวชอุ่มในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แล้วจะเปลี่ยน
เป็นสีเฉดเหลืองแดงในฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน ระหว่างทางมีน้ำตกซึ่งไหลออกมาจากผนัง
ของหุบเขากว่า 12 แห่งด้วยกัน

เส้นทางเดินป่าโออิราเซะเชื่อมต่อระหว่าง Nenokuchi และ Ishigedo ด้วยสถานีรถบัสหลายจุดด้วยกัน เราสามารถเลือกเดินชมธรรมชาติในเส้นทาง Oirase Gorge trail โดยลงรถ Bus ระหว่างทางแล้วเดินสวนลำธารไปยังทะเลสาบ
หรือเลือกเดินจากทะเลสาบลงไปตามกระแสน้ำแล้วขึ้นรถบัสกลับ หรือจะเดินทั้งไปและกลับก็ได้ครับเพราะรถบัสนานๆมาคัน
ประมาณชั่วโมงละคันครับ

ช่วงเวลาที่เราไปคือสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม ใบไม้เพิ่งเริ่มเปลี่ยนสีจึงมีสีเขียวกับสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ครับ ต้นที่แดงแล้วมี
น้อยมากครับ

ระยะทางตลอดเส้นทางเดินป่าของ Oirase Stream Walking 9 กม. แต่เราไม่มีเวลาทั้งวันเลยเลือกเดินแค่ 1 ป้ายรถประจำทาง
ประมาณเกือบ2 กม. จากทะเลสาบ มาที Choshi Grand Waterfall ตรงนี้มีจุดจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยว

และไฮไลท์ของเส้นทางนี้ก็คือน้ำตก Choshi Ootaki Waterfall น้ำตกที่เกิดจากการไหลผ่านพื้นที่ต่างระดับของลำธาร Oirase
จุดนี้คนมาถ่ายรูปกันมากมายจริงๆครับ

นักท่องเที่ยวที่ดูจะเยอะกว่าชาติอื่นๆที่ Choshi Ootaki Waterfall นี้น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจีนตรับ มีประมาณ 2 บัสที่จอดจุดจอด
รถนอกนั้นก็เป็นคนญี่ปุ่นวัยเกษียณที่ขับรถมาเที่ยวกัน

Goryo Waterfall หนึ่งในน้ำตกสิบกว่าสายที่ไหลจากหุบเขาโออิราเซะ(Oirase Gorge) ลงสู่ลำธารโออิราเซะ(Oirase Stream)
อยู่ไม่ไกลจาก น้ำตก Choshi Ootaki Waterfall ขากลับเราไปรอรถ JR Bus ที่ป้าย Grand Waterfall อยู่ตรงข้ามลานจอดรถอีกฝั่ง
ของลำธารเพื่อกลับไปลานจอดรถริมทะเลสาบนั่ง 1 ป้ายเท่านั้นครับลงป้าย Nenokuchi เนื่องจากเรามี JR Pass อยู่แล้วก็ขึ้นได้เลย
ครับไม่ต้องเสียตังค์อีก
มาถึงก็หาอะไรกินกันก่อนครับค่อยไปกันต่อ มีร้านอาหารอยู่หลายร้านเมนูขึ้นชื่อก็พวกเมนูอาหารที่ทำจากปลาสดครับ นอกจาก
อาหารแล้วขนมที่นี่อร่อยหลายอย่างส่วนใหญ่ก็แปรรูปจากแอ๊ปเปิ้ลครับ

อิ่มกันแล้วก็เดินทางกันต่อครับไปจุดที่เรียกว่าโอกุเสะ(Okuse) ระยะทาง 9.5 กม. จากตรงนี้ (พิกัด 40.429662, 140.895472)
พิกัดนี้คือลานจอดรถครับจอดรถเสร็จก็เดินไปทางริมทะเลสาบได้เลยครับแต่ถ้านั่งรถบัสก็นั่งไปลงป้าย Towadako

เป็นลานจอดรถที่มีสีสันมากครับ ค่าจอดรถตรงนี้ 500 เยน แต่ตรงริมทะเลสาบที่เราจอดเมื่อเช้าไม่เลยตังค์นะครับ อาคารสีส้มๆ
ซ้ายมือคือห้องน้ำครับเดินมาทางห้องน้ำแล้วเลี้ยวซ้ายจะเห็นร้านค้าเยอะๆเดินไปทางร้านค้าแล้วตรงไปทางทะเลสาบเลยครับ
เดินมาชมวิวริมทะเลสาบใบไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสีมากนัก มาถึงตรงนี้พบกับทัวร์จีน 2 บัสที่เจอที่น้ำตก หากนั่งเรือล่องทะเลสาบ
เค้าจะพามาวนๆแถวนี้ด้วยครับแต่ไม่แน่ใจว่าจอดให้ขึ้นหรือเปล่า
ทะเลสาบโทวาดะ(Lake Towada) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติโทวาดะ ฮาจิมันไท(Towada-Hachimantai National Park)
และยังทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น ทะเลสาบแห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นิยมที่สุด
แห่งหนึ่ง

รอบๆทะเลสาบโทวาดะเป็นป่าหนาทึบระยะกว้างหลายร้อยเมตรเหนือระดับผิวน้ำ บริเวณรอบๆก็ยังคงสภาพเป็นธรรมชาติ ยกเว้น
เมืองเล็กๆที่ชื่อว่ายาซูมิยะ(Yasumiya) ที่ได้รับการพัฒนา เป็นศูนย์กลางการขนส่ง

จากริมทะเลสาบมีทางเดินขึ้นเขาเตี้ยๆ ไปยังศาลเจ้าโทวาดะ(Towada Shrine)ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโต เข้ามาก็รู้สึกเย็นเลยครับ
เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนที่มีอายุนับร้อยปีแต่ละต้นมีขนาดสูงใหญ่มาก ลงจากศาลเจ้าไม่ต้องเดินกลับทางเก่าครับเลี้ยวซ้ายจะไป
ออกบริเวณร้านค้าใกล้ลานจอดรถเลย

ก่อนกลับเราแวะไปที่จุดชมวิวคังโคได(Kankodai) กันก่อนครับพิกัด 40.440849, 140.917749 เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา จุดนี้
ไม่มีรถประจำทางผ่านครับทางค่อนข้างแคบและชัน แต่ก็ไม่ค่อยมีรถขึ้นมาหรือวิ่งสวนลงมากนัก
วิวจากจุดชมวิว Kankodai มองเห็นทะเลสาบ Towada ได้แบบเต็มๆตากับป่าที่กำลังเริ่มเปลี่ยนสี หากมาหลังจากนี้สักสัปดาห์น่า
จะได้ชมสีสันงดงามกว่านี้

เราสามารถขับรถวนลงไปตามถนนเส้นนี้โดยไม่ต้องย้อนกลับทางเดิมจะไปเชื่อมกับถนนเส้นหลักเส้นทางเดิมที่เรามาเมื่อเช้า พอ
เจอสามแยกเลี้ยวซ้ายแล้วไปเลี้ยวขวาอีกทีตรงสะพานที่เราเดินชมเส้นทางลำธารโออิราเซะ
เราใช้เส้นทางเดิมกลับแต่จะแวะขึ้นกระเช้าที่ Hakkoda Ropeway กันก่อน แต่แผนก็ต้องเปลี่ยนครับ เพราะกะเวลาแล้วถ้าขึ้นกระเช้าคงถึงอาโอโมริมืดยิ่งฤดูนี้ 5 โมงก็มืดแล้วเราเลยตัดสินใจไม่ขึ้นดีกว่า

อีกอย่างอากาศก็เริ่มครึ้มเหมือนฝนจะตกครับ มีบางช่วงที่ลงเม็ดปรอยๆด้วย ช่วงขึ้นเทือกเขา Hakkoda ใบไม้มีสีสันมากขึ้นตลอด
เส้นทางช่วงไหนมีจุดจอดรถได้ ก็จอดถ่ายภาพไปตลอดทางครับ
เทือกเขา Hakkoda และบริเวณรอบทะเลสาบ Towada เป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai National Park
ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อจังหวัด Aomori และจังหวัด Akita



สีสันของเทือกเขา Hakkoda บริเวณจุดจอดรถระหว่างทาง(พิกัด 40.649355, 140.850491) ใกล้ๆกันนี้มีบ่อน้ำพุร้อน
Jigokunuma Swamp และเรียวกังอยู่ด้วยครับ

ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นเส้นทางเทรลเดินไปสู่ยอดเขา Hakkoda จุดที่มีสถานีรถกระเช้า ใครอยากจะลองเดินดูก็ได้ครับแต่ผมไม่รู้ว่า
มันกี่กิโลครับ ใช้ Google Street View ดูได้ครับมีวิวตลอดเส้นทางแต่พล็อตหาระยะไม่ได้ตครับ
ได้เวลากลับสู่อาโอโมริ เราขับผ่าน Hakkoda Rope Way ไปอย่างเสียดายแต่ก็ไม่เป็นไรครับเพราะสิ่งที่เห็นวันนี้ก็คุ้มค่ากับการ
มาเยือน Aomori แล้ว เรามีนัดคืนรถตอน 6 โมงเย็นพาสมาชิกไปส่งโรงแรมก่อนแล้วไปคืนรถถึงร้านเลยเวลาไปเล็กน้อยครับ
พรุ่งนี้เราจะอำลา Aomori ไปจังหวัดอิวาเตะ(Iwate) ล่องเรือโตรกผา Geibikei Gorge แล้วต่อไปจังหวัดมิยางิ(Miyagi) ไปนอน
ค้างที่ Naruko-Onsen ครับ เราจะนั่ง Shinkansen กัน 2 รอบ ซึ่งเราสำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้าแล้ว พบกันใหม่รีวิวตอนหน้าครับ