บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
All Blogs
 

ความสามารถส่วนตัวที่เจ้าของกิจการควรจะมี...

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)





จากภาพ ผมสรุปจาก ความคิดเห็นของเพื่อนๆในห้องสีลม ที่เป็นเจ้าของกิจการ และได้มาเสนอแนะแนวความคิดต่างๆไว้ในกระทู้หนึ่ง...

เจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร้จส่วนใหญ่ เป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน แต่ถ้าพูดอย่างนี้ บางทีอาจจะทำให้ไม่เข้าใจได้กระจ่างว่า ควรจะมีความสามารถทางด้านใดบ้าง ถึงจะมีความสามารถรอบด้าน จากรูปเป็นการสรุปความสามารถของเจ้าของกิจการ ที่เป็นพื้นฐาน ในการคิด ในการตัดสินใจ ในการก่อตั้งกิจการ

วิสัยทัศน์ เป็น มุมมองเพื่อมองไปยังอนาคต ว่าจะสามารถทำ หรือ ต้องจัดการอะไรในปัจจุบันเพื่อให้ดำรงกิจการสืบไปถึงอนาคต...

ความสามารถวิเคราะห์ จะทำให้สังเคราะห์ข้อมูลที่มีมากมายในปัจจุบัน ให้มาเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญกับธุรกิจ หรือ หาช่องทางธุรกิจใหม่ๆได้

ความคิดรอบด้าน เป็นแนวความคิดเพื่อสามารถมองเห็นภาพรวม และ รายละเอียดในแต่ละส่วนได้อย่างชัดเจน

สัญชาตญาณของเจ้าของกิจการก็สำคัญ เพราะ บางอย่างไม่สามารถใช้ข้อมูลมาเป็นตัวตัดสินใจได้ เจ้าของกิจการบางท่านจะใช้ สัญชาตญาณ ความรู้สึก หรือ สัมผัสที่ 6 ในการตัดสินใจ

ความเข้าใจในธรรมชาติ หรือ ความเปลี่ยนแปลงไป จะทำให้เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนรอบข้าง ลูกน้อง สถานการณ์ ซึ่งจะเป็นตัวสนับสนุนการทำกิจการอย่างมาก

ส่วนความสามารถอื่นๆ ผมคิดว่า เพื่อนๆสามารถมองได้เห็นภาพชัดอยู่แล้ว เพราะว่ามันมีความหมายของตัวของมันเอง ...

เอาใจช่วยกับเพื่อนๆที่อยากเป็นเจ้าของกิจการครับ ฝีกทักษะ ความสามารถกันเข้าไว้นะครับ หากอยากจะเป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จ...

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)





 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 13:38:28 น.
Counter : 2299 Pageviews.  

จิตใจของเจ้าของกิจการ ที่ต้องมี....

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)






จิตใจของเจ้าของธุรกิจ มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ และ การจัดตั้งธุรกิจอย่างมาก เช่นกัน จากความคิดเห็นของเพื่อนๆที่เป็นเจ้าของกิจการที่ให้ความคิดเห็นมารวมรวมได้ว่า

เจ้าของกิจการควรจะมี จิตใจที่ ซื่อสัตย์ และ จริงใจ เพราะความซื่อสัตย์นั้นจะทำให้เรามีเครดิตหรือความน่าเชื่อถือ

จิตใจที่หนักแน่น และ อดทน จะทำให้การดำเนินกิจการนั้นสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆได้

ใจสู้ และ ต่อสู้เพื่อความสำเร็จ เป็นหนึ่งในความสามารถเฉพาะตัวที่จะทำให้สามารถทำในสิ่งที่ยากๆให้สำเร็จลงได้

มีความพยายาม ขยัน และ มุ่งมัน เป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เจ้าของกิจการ สามารถทำในสิ่งที่ต้องการทำให้สำเร็จ และ สามารถขยายกิจการต่างๆได้มากขึ้น

มีแรงจูงใจ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง จะทำให้เจ้าของกิจการสามารถสร้าง หรือ จัดตั้งกิจการขึ้นมาได้

การจะเป็นเจ้าของกิจการนั้น ควรมีจิตใจการนึกคิดการกระทำที่เหนือกว่าคนธรรมดา แต่ เรื่องเหล่านี้ สามารถฝึกกันได้ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนตัวคุณให้เหมาะกับการเป็นเจ้าของกิจการมากขึ้น ลองดูครับว่า คุณขาดเรื่องใดกันบ้าง หรือมีเรื่องอื่นๆ เสริมก็ช่วยเสริมให้ด้วยนะครับ...

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)





 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 13:41:06 น.
Counter : 2786 Pageviews.  

โมเดล ธุรกิจการผลิต

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)





โมเดล ธุรกิจการผลิต มันเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจทั่วไปรับรู้ แต่ผมจะชี้มุมมองเกี่ยวกับโมเดลนี้ให้ดู...

การผลิต ต้องการวัตถุดิบเพื่อการผลิต ซึ่งวัตถุดิบนับเป็นปัจจัยหลักของธุรกิจการผลิต การสต๊อกสินค้าจำนวนมาก จะทำให้เกิดการขาดเงินสดหมุนเวียน เนื่องจากเงินจะจมไปกับจำนวนสต๊อกวัตถุดิบ ซึ่งการควบคุมสต๊อกวัตถุดิบ จึงเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง

วัตถุดิบที่สั่งซื้อนั้นหากสามารถสั่งซื้อได้ในราคาถูก จะทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก ดังนั้น บริษัทฯใหญ่ๆจึงมีแผนกจัดซื้อเพราะต้องการลดต้นทุนการผลิต...

จากภาพทางด้านซ้าย คือการซื้อวัตถุดิบมาเพื่อการผลิต ดังนั้น หากสต๊อกวัตถุดิบมีจำนวนมาก จะทำให้เกิดการรั้งของธุรกิจเกิดขึ้น ทำนองเดียวกันกับสต๊อกสินค้าถ้าสต๊อกสินค้ามากๆ ก็จะทำให้เกิดการรั้งของธุรกิจเกิดขึ้น...

หากมีระบบการจัดซื้อดีๆ จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง... ซึ่งหากมีระบบการขายดีๆ ก็จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะทำทางข้างใด ก็จะทำให้กำไรเพิ่มมากขึ้น...

ในส่วนกลางที่ผมทำเป็นรูปคนนั้น เจ้าของกิจการหรือหัวหน้างานมีส่วนที่จะผลักดันทิศทางการผลิตหรือธุรกิจ ให้ดำเนินได้ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน คนทำงานส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่ฉุดรั้งธุรกิจ ต้องมีการควบคุมให้ดี ไม่อย่างนั้น ธุรกิจจะเกิดปัญหา

สรุปแล้ว ถ้าทำให้ด้านบนดีอย่างเดียว ก็จะทำให้มีแรงฉุดธุรกิจได้ดีขึ้น ถ้าลดด้านล่างให้เกิดปัญหา หรือ ทำให้มันน้อยลง จะทำให้มีแรงผลักได้มากขึ้น ด้านซ้ายทำให้ค่าใช้จ่ายลด ด้านขวาทำให้มีรายได้เพิ่ม ซึ่งถ้ามองในมุมทุกๆด้าน จะทำให้ธุรกิจสามารถวิ่งได้เร็ว และ ไกลกว่าคนที่มองเพียงด้านใดด้านหนึ่ง...

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)





 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 13:42:41 น.
Counter : 6497 Pageviews.  

"คลีนิคหมอฟัน..." - สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการจัดตั้ง

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)



ผมบอกก่อนว่าผมไม่ใช่คนทำร้านทันตกรรมนะครับ ไม่ได้เป็นหมอด้วย แต่เป็นคนที่ใช้บริการทำฟัน ผมเป็นคนกลัวการทำฟันมากๆครับ มันฝังใจตั้งแต่เด็กๆแล้วกระมัง ดังนั้น ผมเลยมองในมุมของคนกลัวหมอฟัน เพราะหากคุณสามารถทำให้คนกลัวหมอฟันเข้าร้านคุณได้เป็นประจำแล้ว ผมว่าคลีนิคคุณก็สามารถให้บริการกับทุกๆคนได้ครับ

วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย


คนที่จะเข้าร้านหมอฟันมี 3 ประเภท คือ
1. คนที่มีปัญหาทางด้านเหงือหรือฟัน ซึ่งต้องการรับการรักษาเพื่อให้ทุเลาความเจ็บปวด
2. คนที่ต้องการให้ฟันมีคุณภาพดี ซึ่งอาจจะมีปัญหาจากการทานยาตอนเด็กๆ หรือ มีปัญหาจากฟันเอง
3. มาตรวจรักษาฟันตามปกติเป็นประจำ ขูดหินปูน (ซึ่งมีอยู่จำนวนน้อยมาก)

ดังนั้น คุณเก่งทางด้านไหน ก็เลือกเอาครับว่า คุณจะเน้นกลุ่มเป้าหมายใด แล้วสร้างให้แนวทางนั้นๆ ให้ดีเลิศ แต่ก็ต้องมีความสามารถและทำทางด้านอื่นได้ดีไม่แพ้กันด้วย ถึงจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน... อย่างเช่น หากคุณเก่งทางด้านรักษาฟันที่เป็นปัญหา ซึ่งเป็นจำนวนลูกค้าที่เข้าร้านมากที่สุด คุณก็ต้องมุ่งเน้นโฆษณาทางด้านนี้ให้มากที่สุด แต่ถ้าคุณเน้นเรื่องการดูแลฟันให้ดีกว่าเดิม จำนวนลูกค้าจะน้อยกว่า แต่สามารถทำกำไรได้ดีกว่า ก็ต้องสร้างให้ลูกค้าเห็นว่า คุณเก่งทางด้านนี้ โดดเด่นทางด้านนี้ เพื่อที่จะดึงกลุ่มเป้าหมายมาใช้บริการให้มาก แต่ก็ต้องเก่งทางด้าน ดูแลรักษาฟันไปด้วย เพราะยังไงแล้ว ก็ต้องให้บริการลูกค้าโดยทั่วไปด้วยครับ..


คราวนี้ผมขอแยกออกเป็นประเด็นโดยรวมแล้วครับ...




การตบแต่งร้าน


การตบแต่งร้านมีผลอย่างมากกับความรู้สึกของผู้เข้าร้าน หากไม่มีการแข่งขันแถวนั้น จะไม่มีปัญหาทางด้านนี้มากนัก แต่หากคุณจะเบียดเข้าไปในสถานที่ๆมีร้านเก่าแก่อยุ่แล้ว ก็ต้องเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งผมจะเน้นทั้งภายนอกและภายในครับ

สภาพร้านภายนอก

ร้านภายนอกต้องดูมีความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า สถานที่นี้เป็นสถานที่สะอาดปลอดภัย น่าเชื่อถือ และ ไว้วางใจได้ และ ตบแต่งแบบดูดีแต่ไม่ใช่หรูหรา เพื่อบอกว่าร้านเราราคาไม่แพง

สภาพร้านภายใน

ภายในควรจะโปร่งหน่อย สะอาด ใช้สีขาวในการตบแต่ง
และ ภายในต้องป้องกันเสียงของเครื่องมือในห้องรับแขกให้น้อยที่สุด เพราะ คนกลัวหมอฟันอย่างผม จะกลัวเสียงเครื่องมือเป็นอย่างมาก ยิ่งรอนาน ยิ่งได้ยินเสียงเหล่านี้เยอะทำให้เสียว ไม่กล้า แล้วก็ฝังใจว่า ถ้าฉันโดนอย่างนี้จะทำอย่างไร การทำห้องไม่ให้มีเสียงดังเล็ดลอดออกมาได้นั้น จะทำให้ลูกค้าเห็นว่า ที่นี่เป็นที่ๆน่าทำฟัน ไม่ใช่โรงพยาบาลนรก ครับ...





การบริการ และ การให้คำปรึกษา


คลีนิกฟันเป็นงานบริการดังนั้น หัวใจของนักบริการที่ดีต้องมี คุณต้องให้แน่ใจว่า พนักงานทุกคนมีวิสัยทัศน์ และ จิตวิญญาณในการบริการ ซึ่งอาจจะให้เขาอ่านวิสัยทัศน์ของการบริการก่อนเริ่มงานทุกวัน อันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ การทำเช่นนี้ จะทำให้เขามีใจที่อยากให้บริการ ถึงแม้นทำแรกๆจะขัดๆ แต่ถ้าทำไปนานเข้า จิตใต้สำนึกของเขาจะทำให้เขามีจิตใจที่อยากบริการให้กับทุกคนอย่างจริงใจ...

คำปรึกษา หรือ คำแนะนำ ต้องมีให้กับลูกค้าอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย คนทำงานบ่อยๆ ให้คำแนะนำบ่อยๆ มักคิดไปเองว่า คนนี้ได้รับคำแนะนำไปแล้ว ไม่ต้องแนะนำอีกก็ได้ แต่ความเป็นจริง ควรจะแนะนำเขาบ่อยๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่เนื้อหาอย่างเดียวกัน ถ้าในใบประวัติของเขาสามารถบันทึกประวัติที่เราแนะนำไปแล้วด้วย จะทำให้เรารู้ว่าเขาได้คำแนะนำอะไรไป แล้วเขาได้ทำตามแนะนำหรือไม่ โดยการคุยเพื่อหาว่า เขาได้ทำในสิ่งที่ควรทำหรือยัง และบอกถึงคุณและโทษของการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้วย เพื่อให้เขามีใจที่จะทำ แต่อย่าไปบังคับ หรือ ตวาดเขาหละ จะทำให้เขากลัวแล้วไม่กล้ามาอีก แต่ต้อง คุยให้ดี เป็นเพื่อน เป็นมิตร เป็นกลัยาณมิตร กับเขา เป็นที่ปรึกษาไม่ใช่เป็นพ่อเป็นแม่ที่คอยแต่จะสั่งให้เขาทำโน่น ทำนี่...

เครื่องไม้เครื่องมือ

อุปกรณ์เครื่องมือ ควรจะดูแลให้สะอาดเรียบร้อยอยู่ทุกวันทุกเวลา การทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้งานเป็นสิ่งที่ต้องดูแลให้ดีมากที่สุด ตามกรรมวิธี แต่ถึงกระนั้นโต๊ะ เก้าอี้นั่งของลูกค้า รวมถึงตู้เก็บสิ่งของต่างๆนั้น ก็ควรจะเช็ดถูทุกวันตอนเช้าก่อนเปิดกิจการ เพราะ จะทำให้ดุสะอาด และต้องรักษาสภาพ ทั้งสี และ เครื่องมือในจุดต่างๆ ให้ดูใหม่อยู่เสมอ เพราะมันจะสื่อถึงความทันสมัยของเครื่องมือ ถึงแม้นเครื่องมือจะเก่าเป็นสิบๆปี แต่หากสีสรรยังใหม่ สะอาด ก็จะสามารถทำให้ความรู้สึกของลุกค้ารับรู้ว่ามันทันสมัยได้เช่นกัน...

ลักษณะของทันตแพทย์และผู้ช่วย

การเอาใจใส่ของทันตแพทย์ เป็นจุดขายที่สำคัญว่า ลูกค้าอยากจะมาใช้บริการ หรือ จะกลับมาใช้บริการต่อหรือไม่ การพูดคุยกับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ การแนะนำหรือ การถ่ายทอดความรู้ง่ายๆ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ดูแลของทันตแพทย์ ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ช่วยที่หน้าตายิ้มแย้ม คุยด้วยอย่างโอบอ้อมอารีย์จะช่วยส่งเสริมให้กับการบริการได้เป็นอย่างดี

สิ่งหนึ่งที่ทันตแพทย์ต้องมีให้ได้คือ การทำอย่างศิลปะ ต้องทำฟันอย่างนุ่มนวล บางอย่างหากลูกค้าต้องเจ็บบ้าง ก็ควรบอกให้เตรียมใจไว้เล็กน้อย หรือ บางอาการที่อาจจะเกิดกับลุกค้าก็ควรบอกให้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ อย่างเช่น เวลาเขามาถอนฟัน แพยท์อาจจะต้องบอกเขาก่อนเลยว่า จะมีเสียเหมือนฟันแตกนิดๆนะ เวลาถอนอาจจะรู้สึกเจ็บหน่อยนะ... หรือ มันเป็นฟันกรามนะค่ะ ต้องใช้แรงดึงมากหน่อยนะค่ะ... คำพูดเหล่านี้ถ้าได้บอกให้ลุกค้ารับรู้ก่อนจะทำให้เขาได้เตรียมใจได้ดีขึ้นเป็นต้น

การรักษาหรือลูกค้าเป็นเด็กเล็กๆ ต้องหลอกล่อเก่ง ต้องมีของเล่นไว้ล่อบ้างอย่างเช่นลูกโป่ง หรือ ตุ๊กตาอุลตร้าแมนตัวเล็กๆ เวลาที่ใช้กับเขาก็ควรเร็วที่สุด แต่จะถี่หน่อยพ่อแม่ก็จะยอมพามา ขอให้ลุกๆไม่ร้องไห้มาก และอยากมาหาหมอเป็นพอ ซึ่งทั้งแพทย์และผู้ช่วยมีส่วนที่จะทำให้เด็กๆมีความรู้สึกอยากที่จะมา หากดุด่าเด็กๆที่เขาซน หรือ ที่เขาร้องไห้โยเย บางทีอาจจะต้องลาจากกันไปตลอดเลยก็ว่าได้...





ระบบทะเบียน+ประวัติ


ทะเบียนและประวัติของลุกค้าเป็นสิ่งสำคัญ การที่แพทย์บันทึกทุกอย่างที่รักษา คงไม่พอเสียแล้ว ควรจะบันทึกสิ่งที่นอกเหนือจากการรักษาด้วย อย่างเช่น คำแนะนำที่ควรให้กับลูกค้าแต่ละคน แบ่งออกเป็นข้อๆ แล้วมีเครื่องหมายกาในทะเบียนประวัติว่า คุยกับเขาเรื่องใดไปแล้ว และต้องตรวจสอบความเข้าใจของเขาด้วย หรือ การบันทีกว่า ลูกค้าคนนี้นั้น ชอบอะไร เด็กคนนี่ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เวลานัดเขาชอบมาสาย หรือ มาเร็วกว่าปกติ เหล่านี้เป็นต้น เพื่อคุณจะได้มีข้อมูลของลูกค้าว่า ควรจะปฏิบัติอย่างไรกับเขาครับ...

ติดตามงานและเป็นเลขาให้กับลูกค้า

การทำฟันหรือรักษาฟันนั้นส่วนใหญ่ลูกค้าคิดว่าเป็นเรื่องรองไม่ใช่เรื่องหลัก ดังนั้น การให้บริการไปต้องติดตามผล และ ติดตามการนัดกับลูกค้า ทำตัวเสมือนเลขาของลูกค้าทุกราย โดยการโทรนัดหมายลูกค้าว่า เขามีนัดวันนั้นเวลานี้ ทางหนึ่งคือเตือนความจำเขา อีกทางหนึ่งก็เพื่อยืนยันเวลาของการทำงานว่า เขาจะมาทำแน่นอนหรือไม่ หากมีลูกค้าท่านอื่น จะได้มีคิวให้เขาได้ทำไป ข้อมูลลูกค้าจะบอกได้เลยว่า คนนี้ชอบมาสาย คนนี้ชอบมาก่อนเวลา ซึ่งเห็นไม๊ครับว่า สามารถเอามาใช้งานกับเรื่องเหล่านี้ได้เลย หากจัดเก็บข้อมูลเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ไว้ในทะเบียนประวัติ

บางคนมาถอนฟัน ก็ควรจะโทรไปถามว่า เหงือที่ถอนมาหายดีหรือยัง เป็นการเอาใจใส่เขาว่าเราเป็นห่วงสุขภาพของลูกค้านะ ลูกค้าบางรายชอบเช่นนั้น เพราะเป็นการทำให้เขารู้สึกว่า เขาได้รับการดูแลอย่างดี แต่บางคนไม่ชอบ ซึ่งในทะเบียนประวัติก็ควรจะมีข้อมูลเหล่านี้ด้วย เพื่อจะได้ให้บริการได้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

การรักษารากฟัน ต้องตามให้เขามารักษาให้ตามตารางเวลา การโทรนัดเพื่อเตือนลูกค้าเป็นสิ่งจำเป็นเพราะงานทางด้านนี้เป็นงานบริการ และ การรักษารากฟัน แรกๆลูกค้าอาจจะกระตือรือล้นที่จะมาทำ แต่พอรากฟันเริ่มอยู่ตัว ไม่มีอาการเจ็บ ลูกค้าจะเริ่มไม่เห็นความสำคัญ ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของคลีนิคที่จะต้องโทรนัดเพื่อให้เขามาทำจนเสร็จครับ อย่าทิ้งลูกค้า ต้องตามให้เขาได้รับการรักษาให้เสร็จสิ้นครับ...





อัตราค่าบริการ


หากการบริการของคุณเหมือนกับการบริการของคลีนิคทั่วไป คุณก็เก็บค่าบริการเหมือนทั่วไป แต่หากการบิรการของคุณดีกว่าที่อื่น และ ลูกค้าชื่นชอบการบริการเหล่านี้ ผมก็แนะนำว่า คุณก็ควรจะจัดเก็บให้เหมาะกับการบริการ แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าที่ลูกค้ามองว่า สิ่งทีเขาได้รับนั้น คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ซึ่งนี่เป็นหัวใจว่า เขาจะกลับมาทำฟันกับคุณอีกหรือไม่ หากเขามองว่าเขาได้ไม่คุ้มกับที่จ่ายไป เขาจะไม่มาอีกเลย มันเป็นศิลปะของการคิดราคา หากวิจัยลูกค้าได้ และ ราคายุติธรรม ให้มากกว่าลูกค้าคาดหวัง ยังไงแล้วคุณก็จะได้รับการยอมรับจากลูกค้าครับ..


ขอให้โชคดีในการประกอบธุรกิจนะครับ..

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)





 

Create Date : 28 มิถุนายน 2548    
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 13:42:11 น.
Counter : 4516 Pageviews.  

จะทำ e-Commerce อยากให้คุยกันในเรื่องเหล่านี้ก่อน...

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)



1.วัตถุประสงค์ และ จุดมุ่งหมาย
a.ความต้องการและวัตถุประสงค์ของทุกคน
b.ระยะเวลาของ web ว่าจะอยู่รอดนานเท่าใด
c.คุณจะอยู่ร่วมหัวจมท้ายกับ web นี้ตลอดไปหรือไม่
d.คุณต้องการอะไรจากการทำ e-commerce นี้
e.คุณจะยอมเสียสละเวลาในการเข้าร่วมรับผิดชอบใน web นี้มากน้อยเพียงใด


2.กลุ่มเป้าหมายของ web
a.ต้องการขายสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไปในไทยหรือไม่
b.ต้องการขายสินค้าให้กับต่างชาติด้วยหรือไม่
c.ต้องการให้ขายส่งสินค้าด้วยหรือไม่


3.กลุ่มจัดการดำเนินการ
a.คุณอาสาที่จะอยู่ในกลุ่มจัดการและ ดำเนินการหรือไม่
b.คุณคิดว่าน่าจะจ้างพนักงานมาดูแล web นี้หรือไม่
c.เราจะควบคุมราคาสินค้าของสมาชิกร้านค้าได้หรือไม่
d.เราจะควบคุมการไม่จ่ายเงินของผู้ซื้อสินค้าได้อย่างไร


4.การตลาด
a.การโปรโมท web จะทำอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
b.จะหาคนมาร่วมลงสินค้าเพื่อขายกับเราได้อย่างไร


5.รายได้ / ค่าใช้จ่าย / บัญชี
a. งบประมาณที่จะลงมาจากที่ใด
b. ท่านจะลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่าใดในส่วนที่คุณคิดว่าพอดีในการทำงานร่วมกันในครั้งนี้
c. ต้องการหาเงินจาก web นี้หรือไม่ เพราะเหตุใด
d. ต้องการมีระบบบัญชีเพื่อควบคุมรายรับ-จ่ายหรือไม่
e. ต้องการหาเงินจาก banner ที่ลงโฆษณาด้วยหรือไม่
f. ต้องการตัดเงินจากบัตรเครดิตด้วยหรือไม่
g. หากมีเงินเหลือ คุณคิดว่าเราควรทำอย่างไร
h. หากขาดทุน คุณคิดว่า จะทำอย่างไร


6. สมาชิกที่จะมาลงขายสินค้า
a. ของที่ขายจะทำเพื่อกลุ่มโดยเฉพาะหรือไม่..
b. สามารถให้บุคคนอื่นที่อยู่ในธุรกิจร่วมลงใน web หรือไม่
c. การสมัครสมาชิกเข้ามาในกลุ่มต้องเสียเงินค่าสมัครหรือไม่
d. ต้องเสียค่าสมาชิกรายปีหรือไม่
e. ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นในการขายสินค้าผ่าน web ให้กับ web เราหรือไม่
f. สมาชิกสามารถเห็นข้อมูลของสมาชิกอื่นได้หรือไม่
g. สมาชิกสามารถมองเห็นข้อมูลของ web เรื่องรายได้ ค่าใช้จ่าย ได้หรือไม่
h. สมาชิก ต้องเป็นคนในห้องสีลม เพียงอย่างเดียวหรือไม่..


7. สมาชิกที่มาซื้อสินค้า
a. ต้องลงทะเบียนก่อนการซื้อหรือไม่ เพราะเหตุใด
b. ต้องการรวบรวมข้อมูลการซื้อหรือไม่
c. มีบริการอื่นๆเสริมให้หรือไม่
d. มีการจัดส่งเมล์ Update ข้อมูลหรือไม่
e. มีการเก็บประวัติการซื้อ เพื่อทำ CRM หรือไม่


8. การขายสินค้า
a. ต้องการจัดกลุ่มประเภทสินค้าหรือไม่
b. ต้องการขายสินค้าของสมาชิกผ่าน web หรือไม่
c. ต้องการจัดส่งสินค้าที่สั่งเองหรือไม่.. เพราะเหตุใด
d. ต้องการจ้างพนักงานเพื่อดูแลอย่างเป็นระบบหรือไม่
e. ต้องการให้มีการประมูลใน web ด้วยหรือไม่


9. การพัฒนา web
a. ใช้ภาษาใดเพื่อเขียน web ต้องระบุ หรือ ปล่อยตามสบาย
b. ใช้ Database ใดในกาเก็บข้อมูล
c. การปรับปรุงเป็นแบบรับผิดชอบคนกลุ่มเดียว หรือ สามารถให้หลายๆคน ปรับปรุงได้ตามความรับผิดชอบ
d. ต้องมี web page เป็น ภาษาอังกฤษ หรือไม่
e. ต้องมีระบบค้นหาสินค้าหรือไม่


10. ตัวเสริมใน web
a. มีกระทู้ ถาม-ตอบ ใน web หรือไม่
b. มี Chat ใน web หรือไม่
c. มี link ใน web เพื่อไปที่อื่นๆ หรือไม่
d. สามารถส่ง e-card ได้หรือไม่


11. ข้อมูลเพื่อกลุ่มสมาชิกร้านค้า
a. ต้องการมีบทความทางด้านการบริหาร หรือไม่
b. ต้องการมีบทความทางด้านการตลาด หรือไม่
c. ต้องการมีบทความทางด้านการบริการ หรือไม่
d. จะมีการจัดสัมนาวิชาการให้กับสมาชิกร้านค้าหรือไม่ และ ต้องเก็บเงินกับสมาชิกหรือไม่


(คำถามนี้ผมคิดเมื่อปี ค.ศ.2003 ส่งเมล์ให้กับคนในสีลม)

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2548    
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 13:44:29 น.
Counter : 2433 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.