อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

รีวิวหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น มหาศึกคนชนเทพ กรุตำนานลิโป้ ขุนพลผงาดฟ้า

ลิโป้ ขุนพลผงาดฟ้า: มหาศึกคนชนเทพ – กรุตำนาน (Shūmatsu no Valkyrie ibun: Ryo Fu Hō Sen Hishōden – The Legend of Lü Bu “The Flying General”, 終末のワルキューレ異聞 呂布奉先飛将伝)

  • ฉบับภาษาไทย ลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ Phoenix Comics
  • ราคาปก 145 บาท
  • จำนวน 7 เล่มจบ (ณ วันที่เขียนรีวิวนี้ ฉบับรวมเล่มภาษาไทยออกถึงเล่ม 5 นะฮะ) 
มังงะภาคแยกของ มหาศึกคนชนเทพ (Record of Ragnarok) ที่จะบอกเล่าวีรกรรมต่างๆ ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ของ “ลิโป้” ยอดขุนศึกในตำนานยุคสามก๊ก ผู้ที่ได้รับสมญานามว่า เทพสงคราม มังกรคลั่ง ก่อนที่จะกลายมาเป็นหนึ่งในตัวแทนของฝ่ายมนุษย์ที่ลงทำศึกแร็กนาร็อกต่อสู้กับฝ่ายเทพ โดยมีชะตากรรมความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติเป็นเดิมพัน 
 แต่งเรื่องโดยอาจารย์ FUKUI Takumi จากบทดั้งเดิมของอาจารย์ UMEMURA Shinya และวาดโดยอาจารย์ ONO Takeo 

                                        เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ 

 ในยุคสมัยที่ร้อนระอุที่สุดในประวัติศาสตร์จีน 4,000 ปี ในช่วงยุคที่เรียกว่า ยุคสามก๊ก ยุคสมัยที่ 3 อาณาจักรอันได้แก่ ง่อ, วุย และ จ๊ก ต่างทำศึกกันอย่างดุเดือด โดยมีเป้าหมายในการรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียว
          ในช่วงที่เหล่าทรราชต่างพากันแย่งชิงเพื่อขึ้นเป็นใหญ่นั้น ได้มีชายผู้หนึ่งผู้ที่กำราบบรรดายอดฝีมือจนได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า ชายผู้นั้นมีชื่อว่า ลิโป้ เฟยเสียง
          และนี่คือการบอกเล่าเรื่องราววีรกรรมในตำนานถึง 7 ตำนานของ ลิโป้ เฟยเสียง 

                                     ความรู้สึกหลังจากได้อ่าน  

 เป็นการ์ตูนอีกเรื่องหนึ่งที่หยิบเอาวรรณกรรม/พงศาวดารจีนสุดฮิตอย่าง สามก๊ก มาตีความดัดแปลงใหม่นั่นเอง แต่ครั้งนี้จะเน้นไปที่ตัว ลิโป้ เฟยเสียง ซึ่งเรื่องราวที่นำมาเล่านั้นจะไม่ได้ดำเนินเรื่องเป็นไทม์ไลน์ที่ต่อเนื่องนะฮะ นั่นคือ ช่วงเวลาที่เล่าจะกระโดดไปมา เช่น ตอนแรกจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 196 ที่เมืองชีจิ๋ว กับวีรกรรม หนึ่งศรหย่าศึกเล่าปี่กับอ้วนสุด ที่ ลิโป้ ได้ออกมาเผชิญหน้ากับ กิเหลง แม่ทัพใหญ่ของทัพ อ้วนสุด
          จากนั้นก็ย้อนมาเล่าเรื่องราวของวีรกรรมที่เกิดขึ้นในปี 191 กับ ยุทธการด่านเฮาโลก๋วน ที่ ลิโป้ ต้องปะทะกับ ซุนเกี๋ยน แม่ทัพใหญ่แห่งทัพซุนเกี๋ยน หนึ่งในพันธมิตรผู้ต่อต้านทัพ ตั๋งโต๊ะ จอมทรราช เป็นต้น
          ซึ่งโดยรวมแล้วก็ยังคงความมันส์ เวอร์วังและกาวเช่นเคยฮะ คือถ้าชอบการนำเสนอในแบบมหาศึกคนชนเทพในภาคหลัก ก็น่าจะสนุกกับภาคนี้เช่นกันฮะ
          ในส่วนของงานด้านภาพ มีรุนแรงพอสมควร คือฟันกันคอขาดตัวขาดกันให้เห็นจะจะฮะ ซึ่งในส่วนของลายเส้นนั้น ส่วนตัวมองว่าดูสวยกว่ามหาศึกคนชนเทพภาคหลักนะฮะ
          สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหรือติดตามสามก๊กมาก่อน อาจจะมีงงๆ บ้างนะฮะ เพราะแต่เดิมตัวละครในสามก๊กก็เยอะอยู่แล้ว แล้วในเรื่องนี้ก็แทบจะไม่ได้เล่าที่มาที่ไปของตัวละครเลย แต่เอาจริงๆ ก็ตามสไตล์ของมหาศึกคนชนเทพนะฮะ ที่ไม่ได้เน้นในส่วนของเนื้อเรื่องอยู่แล้ว และที่เอามาตีความใหม่ในเรื่องนี้ ก็ค่อนข้างที่จะตีความออกไปไกลโขอยู่เหมือนกัน (แต่ในช่วงจบตอนของแต่ละตอนนั้น จะมีการหยิบเอาบทประพันธ์เดิมมาลงสรุปไว้ให้อ่านประกอบด้วยฮะ ว่าบทประพันธ์เดิมบรรยายไว้อย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยที่เราจะได้เห็นว่ามีการตีความใหม่ที่แตกต่างจากเดิมไปอย่างไรบ้าง)
          ก็เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสามก๊กมาก่อนก็ลืมๆ มันไปก่อนนะฮะ ส่วนถ้าไม่เคยรับรู้มาก่อนเลย คุณน่าจะสนุกกับความกาวมันได้อย่างเต็มที่นะฮะ
สรุป >> สำหรับตอนนี้ก็ให้ไป 7.5 เต็ม 10 ก่อนละกันฮะ (เพราะของไทยยังออกไม่จบ และไม่ได้ตามอ่านในเวบแปลเถื่อนนะฮะ) เป็นการ์ตูนที่เหมาะกับการอ่านเอามันส์ โดยที่ไม่ต้องสนใจเนื้อเรื่องอะไรมากนัก 
                      ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Phoenix Comicsเว็บไซต์ Phoenix Comics 
 




 

Create Date : 12 มีนาคม 2566    
Last Update : 12 มีนาคม 2566 13:37:06 น.
Counter : 714 Pageviews.  

เมนูขนมฝรั่งเศส รวมสูตรขนมหวานละมุนพร้อมเปิดร้านคาเฟ่

รวมสูตรขนมฝรั่งเศส เมนูขนมยอดนิยมอร่อยหอมหวาน เหมาะทั้งทำกินและทำขายในร้านคาเฟ่และร้านขนมหวานทั่วไป 
 ใครอยากเปิดร้านคาเฟ่หรือร้านขนม อยากให้ลองมาส่องเมนูขนมฝรั่งเศส เบเกอรี่ เผื่อเป็นทางเลือกทำขายที่คุ้มค่ามากกว่าสั่งมาขาย มีทั้งเอแคลร์ ครัวซองต์ มาเดอลีน ชูครีม อัลมอนด์ตูเล่ เป็นต้น ขายคู่กับเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ อิตาเลียนโซดา ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ 

                                      จุดเด่นของขนมหวานฝรั่งเศส 

ปกติขนมหวานฝรั่งเศสจะมีรสชาติหวานแหลมเพื่อกินคู่กับชาร้อน หน้าตาของขนมจะเน้นความสวย ขั้นตอนการทำมีความละเมียดละไมประดิดประดอย ส่วนใหญ่จะเป็นขนมอบ และมีตั้งแต่ขนมที่ทำง่ายอย่างมาเดอลีน ที่หน้าตาเป็นรูปเปลือกหอย เอแคลร์ ชูครีม จนไปถึงขนมทำยากอย่างครัวซองต์ ที่ต้องรีดแป้งและทำเป็นชั้นแล้วอบจนพองฟู มาการอง ที่ต้องทำฝาให้มีขาสวยงาม ถ้าเป็นเค้กจะเน้นเค้กสีสันสดใสจากผลไม้ต่าง ๆ เนื้อเค้กจะเน้นเป็นเค้กช็อกโกแลตและแบ่งเป็นหลายชั้นมีความซับซ้อน มีหลากหลายหน้าตา ทั้งเป็นทรงกลม แท่งสี่เหลี่ยม หรือเป็นรูปหัวใจ 

                                  เมนูขนมฝรั่งเศส 

1. ครัวซองต์ (Croissant) 

                                                                     ภาพจาก : ครัวป้ามารายห์
 ครัวซองต์ (Croissant) มีต้นกำเนิดมาจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ถูกดัดแปลงมาจาก คิปเฟล (Kipferl) ขนมรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเลียนแบบสัญลักษณ์บนธงของเติร์กที่ชนะในสงครามประมาณปี ค.ศ. 1683 ต่อมาแพร่หลายในฝรั่งเศสช่วงปี ค.ศ. 1770 เนื่องจากพระนางมารี อ็องตัวแน็ต เจ้าหญิงจากกรุงเวียนนา เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แล้วทรงย้ายมาประทับอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้สั่งให้เชฟทำขนมคิปเฟลขึ้นมา แต่มีการดัดแปลงเนื้อสัมผัสและมีการแปลงโฉมใหม่เป็นครัวซองต์นั่นเอง สำหรับครัวซองต์นี้เป็นสูตรจาก ครัวป้ามารายห์ สามารถนวดด้วยมือหรือใช้เครื่องก็ได้ หอมเนยสด ทำชิ้นเล็กหรือใหญ่ตามชอบ สามารถสอดไส้คาวหรือหวานได้อีกด้วย 

2. มาเดอลีน (Madeleine) 

 มาเดอลีน (Madeleine) หรือมาเดอแลน มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1755 ถือกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส โดยหญิงสาวคนหนึ่งมีชื่อว่า Madeleine Paulmier ได้ทำขนมถวายในงานเลี้ยงของกษัตริย์โปแลนด์ โดยเธอใช้เปลือกหอยแทนพิมพ์ในการอบ ซึ่งแขกทุกคนต่างชื่นชอบในหน้าตาและรสชาติ จนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สำหรับมาเดอลีนสูตรนี้เป็นสูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ใช้แป้งเค้กทำตัวขนม ใส่เนยแท้ มีความหวานจากน้ำตาลทราย จุดเด่นคือหน้าตาคล้ายเปลือกหอย 

                                                                  คุกกี้ชูครีม 

คุกกี้ชูครีม หรือ ชูว์ โอ คราแคลง (Choux Au Craquelin) สูตรจาก โรงเรียนสอนทำขนม เชฟลูคัส เบคกิ้ง สตูดิโอ แปลงร่างแป้งชูเคลือบน้ำตาลคลาแคลงหวานกรุบกรอบ บีบคัสตาร์ดวานิลลาลงไป โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง 
                                      ภาพจาก : โรงเรียนสอนทำขนม เชฟลูคัส เบคกิ้ง สตูดิโอ

                                             แอปเปิลตาแตง (Apple Tatin) 

                                 ภาพจาก : โรงเรียนสอนทำขนม เชฟลูคัส เบคกิ้ง สตูดิโอ
แอปเปิลตาแตง (Apple Tatin) หรือพายแอปเปิล สูตรจาก โรงเรียนสอนทำขนม เชฟลูคัส เบคกิ้ง สตูดิโอ ถือกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส ที่โรงแรมขนาดเล็ก เมืองรูอ็อง โดยเมนูนี้เกิดจากความบังเอิญของเชฟสาวที่เป็นเจ้าของโรงแรมเคี่ยวแอปเปิลจนมีกลิ่นไหม้ เลยแก้ไขด้วยการโปะแป้งพายด้านบนแล้วเอาไปอบจนสุก เสร็จแล้วก็คว่ำหน้าลงโชว์หน้าแอปเปิล แขกที่ได้ชิมต่างติดใจในรสชาติ กลายเป็นเมนูขนมหวานขึ้นชื่อของโรงแรม โดยแอปเปิลตาแตงนี้เป็นสูตรของโรงเรียนสอนทำขนม เชฟลูคัส เบคกิ้ง สตูดิโอ มีทั้งความหอมของคาราเมลและความฉ่ำของแอปเปิล ตัดเลี่ยนด้วยพายกรอบ  

ส่วนผสม แป้งพัฟ 

  1. แผ่นแป้งพัฟ ขนาด 1 ปอนด์ 

ส่วนผสม ไส้แอปเปิลคาราเมล 

  1. แอปเปิล 4-5 ลูก

  2. น้ำตาลทราย 125 กรัม

เนย 70 กรัม 
                                                                         วิธีทำไส้แอปเปิลคาราเมล 

  1. ปอกแอปเปิล เอาแกนออก แล้วตัดเป็นชิ้นขนาด 1 เซนติเมตร

  2. เทน้ำตาลลงในกระทะ

  3. ตั้งไฟจนน้ำตาลเป็นคาราเมลสีน้ำตาลอ่อน

  4. ใส่เนยแล้วผสมกัน

ใส่แอปเปิลลงไปและตั้งไฟกลางต่ออีก 5 นาที ยกลงจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็น 
​​​​​​​                                                                               วิธีทำแอปเปิลตาแตง 

  1. รีดแป้งพัฟออก ตัดแผ่นแป้งโดยใช้ที่ตัดวงกลมขนาด 16 เซนติเมตร

  2. วางแอปเปิลทีละชิ้นลงในแม่พิมพ์ให้เป็นเกลียวสวยงาม

  3. เทคาราเมลที่เหลือด้านบน แล้ววางแป้งพัฟคลุมบนแอปเปิล

อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 40 นาที 
                                               ​​​​​​​ภาพจาก โรงเรียนสอนทำขนม เชฟลูคัส เบคกิ้ง สตูดิโอ 
 อร่อยกรอบ…จนหยุดไม่ได้ กับเมนูแอปเปิลตาแตง พายแอปเปิลจากฝรั่งเศส หอมคาราเมลเข้มข้น ปิดท้ายด้วยรสหวานฉ่ำจากแอปเปิล ใครสนใจลองไปทำตามกันดู  ​​​​​​​






 




 

Create Date : 12 มีนาคม 2566    
Last Update : 12 มีนาคม 2566 13:25:40 น.
Counter : 627 Pageviews.  

ตร.ไซเบอร์ เตือนซื้อของออนไลน์ระวังเจอเพจปลอมหลอก แนะ 11 ข้อไว้เอาตัวรอด

ตำรวจไซเบอร์ เตือนระวังเพจเฟซบุ๊กปลอมเลียนแบบเพจจริงหลอกขายสินค้าออนไลน์ หลังพบคนตกเป็นเหยื่อเกือบ 2 พันรายต่อสัปดาห์ ชี้ปลอมเพจเหมือนจนคนเชื่อ พร้อมแนะ 11 ข้อซื้อของออนไลน์ ไม่ให้ถูกหลอก 
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ประชาสัมพันธ์เตือนภัย กรณีการหลอกลวงขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ระวังเจอเพจในเฟซบุ๊กปลอม ลอกเลียนแบบของเพจในเฟซบุ๊กจริง ดังนี้ ที่ผ่านมาได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) พบว่า มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้าเฉลี่ยกว่า 1,900 รายต่อสัปดาห์ ส่วนใหญ่สินค้าที่มักถูกหลอกลวง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ ผลไม้ บัตรคอนเสิร์ต รถจักรยานยนต์มือสอง และปลาแซลมอน เป็นต้น โดยภัยจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่การซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า หรือซื้อสินค้าแต่ได้รับสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ หรือได้ไม่ตรงปก หรือซื้อสินค้าแต่ได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไปจนถึงการใช้หลักฐานการโอนเงินปลอมเพื่อหลอกลวงผู้ขาย เป็นต้น 
โดยส่วนใหญ่มิจฉาชีพมักจะสร้างความน่าเชื่อถือของร้านค้า การการันตีสินค้า การรีวิวสินค้าปลอม รวมไปถึงการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง นอกจากนี้ยังมีการสร้างเพจในเฟซบุ๊กปลอม ตั้งชื่อลอกเลียนแบบให้เหมือน หรือคล้ายคลึงกับเพจในเฟซบุ๊กที่มีการซื้อขายสินค้าจริง โดยการคัดลอกรูปภาพสินค้า และเนื้อหาจากเพจจริงมาใช้ เมื่อหลอกลวงผู้เสียหายได้หลายราย ก็จะเปลี่ยนชื่อเพจหรือสินค้าไปเรื่อยๆ หรือสร้างเพจปลอมขึ้นมาใหม่ ยกตัวอย่างเช่น มีผู้เสียหายถูกหลอกลวงซื้อโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์ซิมเน็ตรายปี ผ่านเพจปลอม Moblie2you ซึ่งเพจจริงคือ Mobile2youmbk หรือกรณีปลอมเพจหลายเพจขายทุเรียนของดาราท่านหนึ่ง เป็นต้น 
ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 
ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 
โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา บช.สอท. ได้เร่งปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง มีปฏิบัติการสำคัญเมื่อต้นเดือน มี.ค. 66 ระดมตรวจค้นกว่า 40 จุด ทั่วประเทศ ภายใต้ยุทธการ “ ปิด Job - Shop ทิพย์ ” หลอกขายสินค้าและบริการผ่านโลกออนไลน์ มีประชาชนหลายรายได้รับความเสียหายหลายล้านบาท สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับกว่า 30 ราย ตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก 

อย่างไรก็ตาม การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงแม้จะมีข้อดีหลายๆ ประการ ไม่ว่าจะสะดวกสบาย มีให้เลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าแต่ละแหล่งได้ ติดตามโปรโมชั่นต่างๆ ได้ ที่สำคัญสามารถสั่งซื้อได้ตลอดเวลา แต่ก็เป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ หลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชนโดยมิชอบ

จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ พร้อมแนวทางการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่มีหน้าร้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง ควรซื้อจากร้านค้าที่เป็นทางการเท่านั้น

2. ระมัดระวังการซื้อสินค้าราคาถูก จำไว้ว่า ของฟรีไม่มีในโลก ของถูกต้องถูกอย่างมีเหตุผล

3. หากซื้อสินค้าผ่านเพจในเฟซบุ๊ก ต้องระมัดระวังเพจปลอม หรือเพจลอกเลียนแบบ โดยเพจจริงควรจะมีผู้ติดตามสูง มีการสร้างขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และมีรายละเอียดการติดต่อร้านชัดเจน อย่างน้อยสามารถโทรศัพท์ติดต่อไปสอบถามได้

4. ตรวจสอบความโปร่งใสของเพจว่า มีการเปลี่ยนชื่อมาก่อนหรือไม่ ผู้จัดการเพจอยู่ในประเทศหรือไม่

5. ตรวจสอบว่ามีสินค้าจริงหรือไม่ โดยขอดูภาพหลายๆ มุม สอบถามรายละเอียดสินค้าที่เกี่ยวข้อง ผลิตจากที่ใด เงื่อนไขการรับประกัน วิธีการใช้งาน เป็นต้น

6. ตรวจสอบการรีวิวสินค้า ผู้ที่เคยสั่งซื้อได้รับสินค้าหรือไม่ คุณภาพสินค้าเป็นอย่างไร ระวังการรีวิวปลอม ควรตรวจสอบตัวตนผู้รีวิวว่าเป็นอวตารหรือไม่

7. ก่อนโอนชำระเงินค่าสินค้า ให้ตรวจสอบประวัติของร้าน และชื่อหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินว่า มีประวัติไม่ดีหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ Google, Blacklistseller เป็นต้น

8. เมื่อชำระเงินแล้ว ควรติดตามการจัดส่งจากผู้ซื้อ หรือขอดูหลักฐานการส่งสินค้า เพื่อยืนยันว่าส่งสินค้าให้จริง

9.กรณีการจ่ายเงินปลายทาง ควรเปิดตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงิน ตรวจสอบว่าชำรุด หรือตรงกับที่สั่งหรือไม่

10. กดรายงานบัญชี หรือเพจในเฟซบุ๊กปลอม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นหลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อ

11. หากสินค้ามีปัญหาให้รวบรวมพยานหลักฐาน เช่น ข้อความการสนทนา หลักฐานการชำระเงิน คำสั่งซื้อสินค้า แล้วติดต่อกับผู้ขายให้แก้ไขปัญหา ส่งสินค้าคืน หรือเคลมสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด.

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ตร.ไซเบอร์ เตือนซื้อของออนไลน์ระวังเจอเพจปลอมหลอก แนะ 11 ข้อไว้เอาตัวรอด




 

Create Date : 12 มีนาคม 2566    
Last Update : 12 มีนาคม 2566 12:58:04 น.
Counter : 421 Pageviews.  

จีนคัดนางในอย่างไรที่ว่าโหด จาก 5,000 มีแค่ 50 ได้เป็นสนมจักรพรรดิ ใช้เกณฑ์อะไรคัดตัว

เรื่องราวในพระราชวังจีนมีให้เล่ามากมายไม่จบสิ้น แต่หัวข้อที่คนสนใจก็ยังไม่พ้นเรื่อง “นางใน” โดยสมัยราชวงศ์หมิงเป็นช่วงที่พระราชวังคับคั่งไปด้วยบุคลากรในพระราชวัง โดยเฉพาะนางกำนัล ตามบันทึกแล้วช่วงเวลานั้นมีนางกำนัลในพระราชวังมากถึง 9,000 คน ขณะที่การคัดเลือก “นางใน” ก็เข้มข้นอย่างมาก 
 
ตามบันทึกเรื่องการคัดเลือกนางในไปจนถึงพระสนมในพระราชวังจีน แต่ละราชวงศ์มีรายละเอียดแตกต่างกัน สำหรับราชวงศ์หมิง ว่ากันว่าจักรพรรดิหงอู่ (จูหยวนจาง) จำเป็นต้องป้องกันภัยจากบรรดาญาติของพระสนมและพระมเหสี การคัดเลือกพระสนมและพระมเหสีจึงต้องมาจากสามัญชนทั้งหมด บันทึกหลายแห่งบอกเล่าสถานการณ์บ้านเมืองเมื่อถึงช่วงคัดเลือกว่า ชาวบ้านต่างหวั่นวิตก รีบจับคู่แต่งงานกันเพื่อหลีกเลี่ยงถูกคัดเลือกอันเป็นผลให้ประชากรเพิ่มขึ้น 
ขณะที่ราชวงศ์ชิงมุ่งรักษาสายเลือดในราชวงศ์ซึ่งเป็นชนชั้นปกครอง จึงเป็นราชวงศ์ที่เลือกพระสนมและพระมเหสีจากคนในตระกูล 8 กองธง (สมัยราชวงศ์ชิงแบ่งกองทหารเป็น 8 กลุ่ม ผู้ควบคุมจะเป็นผู้มีสัมพันธ์หรือเป็นญาติในตระกูลของจักรพรรดิและพระญาติในราชวงศ์ชิง) โดยคัดเลือกทุก 3 ปี พิธีคัดเลือกนางในครั้งแรกของราชวงศ์ชิงจัดในรัชศกซุ่นจื้อปีที่ 11 หลังจากจักรพรรดิซุ่นจื้อเป็นต้นมา บุตรีของขุนนาง 8 กองธงทั้งที่เป็นแมนจู มองโกล และชาวฮั่นที่มีอายุ 13-17 ปี ต้องเข้ารับคัดเลือก หากยังไม่ผ่านการคัดเลือกมีข้อกำหนดห้ามแต่งงานเด็ดขาด แต่เมื่อใดที่อายุเกิน 17 ปีและไม่เคยได้รับเลือกถึงจะแต่งงานได้ สำหรับผู้รับผิดชอบดูแลงานคือกระทรวงการคลัง 
นอกจากนี้ จ้าวกว่างเชา ผู้เขียนและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังต้องห้ามบันทึกในหนังสือ “ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม อธิบายว่า เน่ยอู้ฝู่ (กรมวัง) จะเป็นฝ่ายคัดเลือกสตรีจากเปาอี ของ 3 กองธงระดับสูง (ครอบครัวข้าทาสของหัวหน้ากองธงซึ่งเป็นชนชั้นสูง) เข้าวังเพื่อเป็นนางกำนัลในราชสำนักด้วย ย่อมเข้าข่าย “คัดสาวงาม” เช่นกัน โดยกลุ่มนี้ก็มีสิทธิได้เลื่อนขั้นเป็นพระสนมหากต้องตาองค์จักรพรรดิ เมื่อให้กำเนิดพระโอรสก็ได้ขึ้นเป็นพระมเหสี 
สำหรับจำนวนพระมเหสี และพระสนมสมัยราชวงศ์หมิงมี 12 ระดับ ขณะที่จักรพรรดิคังซี แห่งราชวงศ์ชิงมี 8 ระดับ แม้ผู้ได้รับคัดเลือกจะถือว่ามีสิทธิเป็นถึงพระมเหสี แต่จำนวนไม่น้อยมักเกรงกลัวชีวิตที่ต้องไปอยู่ในมุมที่โดดเดี่ยวไม่เป็นที่รู้จัก หรือใช้ชีวิตวัยสาวอย่างเงียบเหงาในฐานะพระสนมของฝ่ายในในพื้นที่พระราชวังอันกว้างขวาง ที่เกรงกลัวย่อมไม่ใช่ปราศจากต้นตอ หากพิจารณาว่าสวัสดิการของนางกำลังมีมากมาย แต่ด้วยความเข้มงวดของราชวงศ์หมิง นางกำนัลแม้เสียชีวิตก็ไม่ได้ออกจากวัง สำหรับนางกำนัลที่สูงอายุ ร่างกายอ่อนแอจะโดนส่งไปอยู่ที่อานเล่อถัง (สมัยราชวงศ์ชิงเรียกว่าจี๋อานสั่ว) ตลอดชีวิต 
คราวนี้คงต้องพูดถึงรูปแบบการคัดเลือกที่ว่าเข้มงวดของราชวงศ์หมิง ไม่เพียงแค่เข้มในแง่เกณฑ์แล้ว ในแง่จำนวนก็ถือว่าคัด 1 จาก 100 เลยทีเดียว 

ตัวอย่างที่จ้าวกว่างเชา หยิบยกมาเล่าคือการคัดในสมัยรัชศกเที่ยนฉี่ปีที่ 1 ซึ่งจักรพรรดิซีจงจะจัดพิธีอภิเษกสมรส จี้เสี่ยวหลานบันทึกใน “หมิงอี้อานหวงโฮ่วไว่จ้วน” ว่า ตอนต้นจะคัดเลือกสตรีอายุ 13-15 ปี รวมแล้ว 5,000 คนจากทั่วอาณาจักร จากนั้นจึงมาตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวด

บันทึกเล่าว่า “ต้องมีฟันเรียงกันได้ระเบียบ ขันทีตรวจสอบตามเกณฑ์ กล่าวว่าฟันบางคนยาวไป ฟันบางคนสั้นไป ฟันบางคนอ้วนไป ฟันบางคนผอมไป สตรีเหล่านี้ล้วนถูกคัดออก ต้องกลับบ้าน 1,000 คน

วันถัดมา เหล่าสตรียืนเหมือนวันก่อน ให้ขันทีสำรวจใบหู ดวงตา ปาก จมูก ผม ผิว แขนขา เอว ไหล่ หลัง หากลักษณะใดลักษณะหนึ่งมิได้คุณสมบัติจะมิได้รับคัดเลือก อีกทั้งให้สตรีเหล่านั้นขานเชื้อชาติ แซ่ ปีเกิด อายุ หากฟังเสียงแล้วค่อนข้างคล้ายบุรุษ เสียงอ่อนแรงไป เสียงต่ำไป เสียงตะกุกตะกัก จะถูกตัดออกทั้งหมด มีผู้ที่ถูกคัดออก 2,000 คน

วันถัดมา ขันทีนำอุปกรณ์วัดมาวัดขนาดมือเท้าของสตรี เมื่อวัดเสร็จให้เดินวนไปมาหลาย 10 ก้าวเพื่อดูความสมบูรณ์ โดยจะคัดสตรีที่ข้อมือสั้นไป เท้าใหญ่ไป กิริยาหลุกหลิกออก ในรอบนี้คัดออกอีก 1,000 คน

ที่เหลือ 1,000 คน จะได้รับเรียกเข้าวัง ให้นางในเป็นผู้คัดเลือกด้วยการพาเข้าห้องมิดชิด สำรวจหน้าอก ดมกลิ่นรักแร้ มัดผิวหนังดูริ้วรอย ผู้ที่ได้รับคัดเลือกมีเพียง 300 คนเท่านั้น ทั้งหมดได้เป็นนางใน

ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่อยู่ในพระราชวัง จะโดนสังเกตลักษณะนิสัยและการพูดจาอย่างละเอียดเพื่อวิเคราะห์ลักษณะต่างๆ รวมกันว่าเป็นคนแข็งกระด้างหรืออ่อนโยน ไร้สติปัญญาหรือเฉลียวฉลาด ดังนั้นผู้ที่ได้รับเลือกมีเพียง 50 คน ทั้งหมดได้เป็นพระสนม”

จะเห็นได้ว่าการคัดเลือกนางในสมัยราชวงศ์หมิงมีเกณฑ์หลักเน้นไปที่ “ความงาม” ขณะที่ราชวงศ์ชิงเน้นพิจารณาจากชาติตระกูลและคุณธรรมเพื่อบ่งบอกว่าจักรพรรดิให้ความสำคัญกับคุณธรรมไม่ได้ลุ่มหลงกามารมณ์

จักรพรรดิคังซีในราชวงศ์ชิงมีพระมเหสีและพระสนม 55 คน โดยชิงกงซู่เหวิน ระบุไว้ว่าเมื่อรัชศกคังซีปีที่ 49 จักรพรรดิตรัสแก่ต้าเสวียซื่อว่า นางกำนัลสมัยราชวงศ์หมิงที่มีถึง 9,000 คน ขันทีอีก 100,000 คน อาหารการกินไม่พอแจกจ่าย บางวันถึงกับมีคนอดตาย ในสมัยนั้นจึงเหลือแค่ 400-500 คน นอกจากนี้ ในสมัยราชวงศ์ชิง นางกำนัลที่ถวายงานครบวาระสามารถกลับบ้านและแต่งงานได้.

อ้างอิง :

จ้าวกว่างเชา. ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม. แปลโดย อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช และชาญ ธนประกอบ. กรุงเทพฯ : มติชน, 2560




 

Create Date : 12 มีนาคม 2566    
Last Update : 12 มีนาคม 2566 12:48:51 น.
Counter : 507 Pageviews.  

รีวิวซีรีส์ เพียงรักแรกพบ Fall in love ซีรีส์รักจีนโรแมนติก ยุคสาธารณรัฐ

#คุยเรื่องซีรีส์ที่ชอบมาก#FallInLove #รักแรกเจอเผลอจนหมดใจ #เพียงรักแรกพบ 

ซีรีส์จีนปี 2021 ที่ดูจบแล้วชอบมากเพราะสนุกมาก เรื่อง Fall In Love ชื่อไทยในช่อง Youku Thai ตั้งว่า รักแรกเจอเผลอจนหมดใจ ใน TrueID ตั้งชื่อว่า เพียงรักแรกพบ 
พระเอก เฉินซิงซวี่ ในบท ถานเสวียนหลิน ทหารหนุ่มนักรบแห่งกองทัพตระกูลถาน เป็นคนฉลาด จอมวางแผน ภายนอกคือเป็นคนเจ้าเล่ห์ บุคลิกดูเหมือนฉลาดแกมโกง แต่จริงๆแล้วผ่านประสบการณ์ชีวิตอันเลวร้าย เมื่อบิดาเสียชีวิต ถานเสวียนหลินต้องออกมาเป็นผู้นำดูแลนายทหารนักรบตั้งแต่อายุเพียงสิบห้าปี 
กองทัพตระกูลถานต้องกลายเป็นกองทัพไร้สังกัดหลังบิดาเสียชีวิต กลายเป็นกองทัพรับจ้าง ออกรบตามแนวหน้าตั้งแต่ยังวัยรุ่น ผ่านความเจ็บปวดและความรับผิดชอบมากมาย ตามร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลจากสงคราม ฉากหน้าที่ดูเหมือนร้าย กะล่อน เจ้าเล่ห์ จอมวางแผน แต่จริงๆแล้วเป็นคนจิตใจดี รักพวกพ้องและมีความรับผิดชอบ 
 นางเอก จางจิ้งอี๋ รับบท มู่หว่านชิง บุตรสาวคนโตของมหาเศรษฐีตระกูลมู่แห่งเซี่ยงไฮ้ มารดาของเธอเป็นภรรยาเอก แต่สิบปีก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้พี่ชายคนโตของเธอเสียชีวิต มารดาแยกทางกับบิดา มู่หว่านชิงเดินทางไปใช้ชีวิตและเติบโตที่ประเทศญี่ปุ่นกับมารดา ในขณะที่บิดามีภรรยาใหม่เป็นหญิงรับใช้ของมารดาเธอ และมีบุตรสาวอีกหนึ่งคนคือ มู่หว่านถิง 
พระรอง หลินเยี่ยนจวิ้น รับบท สวีกวงเย่า บุตรชายของนายทหารผู้ตรวจการใหญ่ตระกูลสวี มีอำนาจทางการเมืองการทหารใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ขณะนั้น บุคลิกเป็นชายหนุ่มฉลาด สุขุม ใจเย็น เป็นมือขวาของนายพลผู้พ่อในการดูแลเซี่ยงไฮ้ ร่วมกับเพื่อนสนิทนายทหารหนุ่มอีกสองคน จากตระกูลนายทหารอีกสองตระกูลที่มีอำนาจรองลงมาจากตระกูลสวี คือ เผยเซ่าจวิน ตระกูลเผย และ ซูหงเชิน คุณชายนายทหารจากตระกูลซู
บทฝ่ายหญิงอีกสองคนที่มีความสำคัญต่อเรื่องราว คือ ถานซางอวี๋ น้องสาวของพระเอก ที่ประทับใจชื่นชอบในเผยเซ่าจวิน คุณชายนักรบตระกูลเผย และ กู้เยว่ชวง หญิงสาวที่พระเอกช่วยชีวิตไว้ ปัจจุบันเป็นดาราสาวสวยที่มีชื่อเสียงแห่งเซี่ยงไฮ้ 
พระเอกนางเอกพบกันครั้งแรกบนเรือระหว่างเดินทางกลับมาเซี่ยงไฮ้ มู่หว่านชิงนำโถเถ้ากระดูกของมารดากลับสู่บ้านเกิดเพื่อทำพิธีศพและตั้งใจสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของพี่ชายในอดีต
          ถานเสวียนหลิน เดินทางมาพร้อมแผนการที่ร่วมมือกับผู้บัญชาการทหารอู่เซี่ยง เพื่อทำการปฏิวัติเพื่อเข้าควบคุมอำนาจในเซี่ยงไฮ้ 
ระหว่างอยู่บนเรือมู่หว่านชิงบังเอิญได้พบเห็นเหตุการณ์ที่ถานเสวียนหลินฆ่าหญิงสาวที่ร่วมเดินทางมาด้วยเพื่อปิดปากหลังจากหญิงสาวคนนั้นคิดทรยศ
          ถานเสวียนหลินจึงจับมู่หว่านชิงเป็นตัวประกัน แต่เมื่อมาถึงเซี่ยงไฮ้ มู่หว่านชิงหลบหนีจากการจับกุมตัวของถานเสวียนหลินไปได้พร้อมหยิบกระเป๋าเดินทางของถานเสวียนหลินที่มีแผนที่ในการวางแผนการปฏิวัติ สลับไป และได้รับการช่วยเหลือจากสวีกวงเย่า เพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักและเติบโตขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก ช่วยเหลือและพามู่หว่านชิงกลับมาที่บ้านตระกูลมู่ ในวันเดียวกันกับที่ตระกูลมู่จัดงานเลี้ยงใหญ่เชิญแขกสำคัญของเซี่ยงไฮ้มาร่วมงานกันหมด 
ถานเสวียนหลินจึงปรึกษากับผู้บัญชาการอู๋ เปลี่ยนแผนปฏิวัติ โดยลงมือทันทีในคืนนั้นระหว่างที่นายทหารและคนใหญ่คนโตของเซี่ยงไฮ้มารวมกันที่งานเลี้ยงกันหมด ทหารจากกองทัพตระกูลถานจึงเคลื่อนไหวเข้าควบคุมกองกำลังทหารของเซี่ยงไฮ้ได้ทุกจุด
          เมื่อแผนปฏิบัติการสำเร็จถานเสวียนหลินจึงเดินทางไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงเพื่อประกาศตัวเป็นผู้บัญชาการทหารคนใหม่ของเซี่ยงไฮ้ และที่นั่นในงานเลี้ยง ถานเสวียนหลินได้พบกับมู่หว่านชิง หญิงสาวที่พบบนเรือโดยสาร และรู้ความจริงว่าเธอคือบุตรสาวคนโตของ มู่กัง มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดแห่งเซี่ยงไฮ้นั่นเอง 
 ติดตามเรื่องราวต่อในซีรีส์ที่สนุกมาก เรื่องนี้ยาว 36 ตอนจบ เนื้อเรื่องสนุกทั้งปมเรื่องการกลับมาสืบหาความจริงของนางเอก และต้องมาสู้รบตบมือกับคุณนายอดีตคนใช้ของมารดาพร้อมน้องสาวต่างมารดาที่ชื่นชอบสวีกวงเย่าและต้องการแต่งงานกับเขา แต่สวีกวงเย่านั้นชอบและผูกพันกับมู่หว่านชิง
          ปมของพระเอกคิดว่าการตายของพ่อพระเอกในอดีตต้องมีเงื่อนงำที่ทำให้พระเอกยอมอดทนวางแผนกลับมามีอำนาจในเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง แต่นายทหารที่มีแต่กองกำลังที่รบเก่งนั้นไม่เพียงพอเมื่อขึ้นสู่อำนาจ พระเอกจอมวางแผนจึงต้องคิดการหาความร่วมมือ และเป้าหมายของพระเอกคือร่วมมือกับนางเอกนั่นเอง 
น้องหลินเยี่ยนจวิ้นถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Fall In Love ก่อนเรื่อง Crush เสน่ห์จากสายตาและบุคลิกน่ารักที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงเป็นที่ชื่นชอบ และติดตามผลงานน้องต่อไปเรื่อยๆ 
ส่วนนางเอก จางจิ้งอวี๋ เธอหน้าตาน่ารัก แสดงเก่ง เคมีเข้ากับเฉินซิงซวี่ดีมาก 
                                       ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก 优酷Youkuเฟซบุ๊ก TrueID 
 




 

Create Date : 11 มีนาคม 2566    
Last Update : 11 มีนาคม 2566 12:40:57 น.
Counter : 799 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.