อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ

ชีสเค้กมะนาวเต้าหู้ เนื้อนุ่มหอมละมุนอร่อยละลายในปาก



ชีสเค้กมะนาวเต้าหู้

อ้วนก็ยอม ! วันหยุดนี้ชวนคนพิเศษมาทำชีสเค้กมะนาวเต้าหู้กัน ครีมชีสทำจากเต้าหู้กับน้ำเลมอน ตัดเลี่ยนด้วยแยมเลมอน อร่อยเพลินเกินห้ามใจ

          ใครที่หลงใหลเมนูชีสเค้ก โดยเฉพาะเมนูชีสเค้กเลมอน หรือ ชีสเค้กมะนาว ลองมาเพิ่มความแปลกใหม่ด้วยการใส่เต้าหู้ลงไปกันเถอะ กระปุกดอทคอมขอแนะนำเมนูชีสเค้กเลมอนเต้าหู้ สูตรจากนิตยสารแม่บ้าน ชีสเค้กไม่อบมี 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นแครกเกอร์บด ชั้นต่อมาคือครีมชีสที่ทำจากเลมอนและเต้าหู้ ชั้นบนสุดคือแยมเลมอน จะรับสักกี่ชิ้นดีคะ ?

ส่วนผสม ชีสเค้กมะนาวเต้าหู้

          • แครกเกอร์ (บดละเอียด) 100 กรัม
          • เนยสดเค็มละลาย 6 ช้อนโต๊ะ
          • นมถั่วเหลือง 50 กรัม
          • ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ
          • ครีมชีส (หั่นชิ้นเล็ก) 250 กรัม
          • เต้าหู้ขาวชนิดแข็ง (หั่นชิ้นเล็ก) 100 กรัม
          • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 150 กรัม
          • น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วยตวง
          • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
          • น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
          • เลมอนหั่นชิ้นสำหรับแต่ง

ส่วนผสม แยมเลมอน

          • เลมอน 3-4 ลูก
          • เกลือป่น 50 กรัม
          • น้ำตาลทราย 600 กรัม
          • น้ำเปล่า

วิธีทำแยมเลมอน

          • 1. ล้างเลมอนให้สะอาด ผ่าออกเป็นสี่ส่วน บีบน้ำออกให้ได้ 120 กรัม เก็บเปลือกเลมอนไว้

          • 2. ใส่น้ำเปล่า 1 ลิตร กับเกลือป่นลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่เปลือกเลมอนลงต้มจนเดือดประมาณ 5 นาที ตักขึ้นล้างน้ำเปล่าให้สะอาด แล้วนำลงต้มในน้ำเดือดอีกครั้ง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นสนิท

          • 3. ใช้มีดเลาะเนื้อเยื่อสีขาวของเลมอนออกให้ได้ 50 กรัม นำไปปั่นรวมกับน้ำเปล่า 50 กรัม จนละเอียด พักไว้

          • 4. นำผิวเลมอนสีเหลืองที่เหลือมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเปล่า 150 กรัม และน้ำตาลทราย 100 กรัม ตั้งไฟเคี่ยวจนส่วนผสมข้น น้ำเชื่อมเกาะผิวเลมอน ยกลงกรองด้วยกระชอน พักไว้

          • 5. ใส่น้ำเปล่า 100 กรัม และน้ำตาลทรายที่เหลือ และส่วนผสมน้ำเนื้อเยื่อเลมอนปั่นลงในหม้อ ตั้งไฟเคี่ยวจนเดือด ใส่ผิวเลมอนที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนส่วนผสมข้น ยกลงพักไว้ให้คลายความร้อน เทใส่ลงในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท นำเข้าแช่เย็น 1 คืน จึงนำไปใช้

วิธีทำชีสเค้กเลมอนเต้าหู้

          • 1. ผสมแครกเกอร์กับเนยสดละลาย คนให้เข้ากัน กรุใส่ภาชนะ เตรียมไว้

          • 2. ผสมนมถั่วเหลืองกับผงเจลาติน คนพอเข้ากัน นำเข้าไมโครเวฟประมาณ 25 วินาที คนจนเจลาตินละลายเข้ากันดี พักไว้

          • 3. ใส่ครีมชีส เต้าหู้ขาว โยเกิร์ต น้ำผึ้ง กลิ่นวานิลลา น้ำเลมอน และส่วนผสมนมถั่วเหลืองเจลาตินลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด

          • 4. ตักส่วนผสมที่ได้ลงในภาชนะที่กรุแครกเกอร์ไว้ นำเข้าแช่เย็นประมาณ 4 ชั่วโมง หรือจนเซตตัว นำออกจากตู้เย็น ราดแยมเลมอน ตกแต่งด้วยเลมอน จัดเสิร์ฟ

ใครเป็นสาวกชีสเค้กไม่อบ อยากชวนมาทำเมนูชีสเค้กเลมอนเต้าหู้ เบเกอรี่สุดแนว กินเท่าไรก็ไม่เลี่ยน มาพร้อมสูตรแยมเลมอน ถ้าหากทำแยมเลมอนเหลือเยอะก็เก็บใส่ภาชนะไว้ได้นะคะ เอาไว้ทาขนมปัง ทำเป็นไส้แยมโรล หรือตกแต่งหน้าเค้กก็เก๋ค่ะ 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก




 

Create Date : 16 กันยายน 2559    
Last Update : 16 กันยายน 2559 5:58:48 น.
Counter : 3213 Pageviews.  

สาว 18 สุดทน ฟ้องพ่อแม่บังเกิดเกล้า หลังโพสต์ภาพวัยเด็กของเธอลงเฟซบุ๊ก



ฟ้องร้องพ่อแม่

สาวออสเตรียวัย 18 ปี ยื่นฟ้องพ่อแม่บังเกิดเกล้า หลังจากพวกเขานำภาพถ่ายวัยเด็กของเธอกว่า 500 ภาพไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กอวดเพื่อนนับ 700 คน โดยไม่สนว่าเธอไม่เต็มใจ

          เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 เว็บไซต์เทเลกราฟ รายงานว่า เด็กสาวชาวออสเตรียรายนี้ได้ยื่นฟ้องต่อศาล กรณีพ่อแม่นำภาพถ่ายวัยเด็กของเธอกว่า 500 ภาพไปโพสต์อวดบนเฟซบุ๊ก แม้จะบอกให้ลบออกมาหลายครั้งแล้วก็ยังไม่สนใจ เธอจึงรอจนอายุครบ 18 ปีเต็ม แล้วเดินหน้าฟ้องทันที และนี่เป็นการฟ้องพ่อแม่เรื่องภาพถ่ายบนโลกออนไลน์คดีแรกของประเทศ

เด็กสาวซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อรายนี้ เผยว่า ภาพวัยเด็กที่พ่อแม่ของเธอโพสต์ลงเฟซบุ๊กนั้น ถือเป็นภาพที่น่าอายและเข้าข่ายการล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว

  "พวกเขากระทำโดยไม่รู้จักความละอายและทำโดยไม่มีขีดจำกัด พวกเขาไม่สนว่าภาพนั้นจะเป็นภาพของฉันขณะที่กำลังเข้าห้องน้ำหรือนอนเปลือยเปล่าในเปล ทุก ๆ ภาพส่วนตัวที่ถ่ายได้กลายมาเป็นภาพที่ปรากฏสู่สายตาสาธารณชน" เด็กสาวเผยกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น

อย่างไรก็ตามด้านคุณพ่อของเธอบอกว่า ตราบใดที่เขาเป็นคนถ่ายรูปพวกนี้ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับรูปก็ได้

          ทั้งนี้คดีดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลในเดือนพฤศจิกายน และเด็กสาวคนนี้ก็มีโอกาสที่จะชนะคดีด้วย โดยทางด้านนายไมเคิล รามี่ ทนายความของเด็กสาว กล่าวว่า เขาฟ้องศาลเพื่อให้พ่อแม่จ่ายค่าเสียหายให้กับลูก รวมทั้งยังให้ศาลมีคำสั่งให้พ่อแม่เอารูปลูกออกจากเฟซบุ๊กด้วย

  สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวกับการโพสต์ภาพของเด็กลงบนโซเชียลมีเดียนั้น มีความแตกต่างออกไปในประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรป อาทิ ในประเทศฝรั่งเศสซึ่งมีกฎการควบคุมที่เข้มงวด หากใครก็ตามที่โพสต์ภาพของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการที่พ่อแม่โพสต์ภาพลูกของตัวเอง อาจจะถูกปรับสูงสุดถึง 45,000 ยูโร (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศส ได้ออกมาเตือนพ่อแม่ที่โพสต์ภาพส่วนตัวของลูก ๆ ลงเฟซบุ๊กว่า เรื่องนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบทางจิตใจต่อเด็กได้




 

Create Date : 16 กันยายน 2559    
Last Update : 16 กันยายน 2559 5:50:47 น.
Counter : 1218 Pageviews.  

เพชรา เชาวราษฎร์ ในชุดไหมสีฟ้า รับเสด็จพระเทพฯ สวยสมเป็นนางเอกระดับตำนาน



เพชรา เชาวราษฎร์

เพชรา เชาวราษฎร์ ปรากฏตัวต่อสื่อครั้งที่ 2 ในรอบ 30 ปี รอรับเสด็จพระเทพฯ พร้อมเปิดใจต่อสื่อถึงการทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ศูนย์ความเป็นเลิศโรคตับ

วันที่ 13 กันยายน 2559 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทรงเป็นประธานเปิดศูนย์ความเป็นเลิศโรคตับของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยประชาชนต่างมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จกันอย่างคึกคัก ซึ่งนางเอกขวัญใจชาวไทยอย่าง เพชรา เชาวราษฎร์ ก็ได้เดินทางมาเช่นกัน หลังจากที่ห่างหายจากวงการบันเทิงไป 30 ปี ซึ่งการปรากฏตัวครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ เพชรา เชาวราษฎร์ ได้ปรากฏตัวต่อสื่อ หลังจากที่เมื่อ 7 ปีก่อน  เพชรา เชาวราษฎร์ ได้ออกรายการทางช่องโมเดิร์นไนน์ ในฐานะพรีเซ็นเตอร์โฆษณาช่วยเหลือมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

เพชรา เชาวราษฎร์

สำหรับการปรากฏตัวในครั้งนี้ เพชรา เชาวราษฎร์ มาในฐานะพรีเซ็นเตอร์ศูนย์ความเป็นเลิศโรคตับ พร้อมเปิดใจต่อสื่อมวลชนถึงการทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ดังกล่าว โดยเธอได้แต่งกายสวยสมวัยด้วยชุดผ้าไหมสีฟ้า สวยสมกับเป็นนางเอกระดับตำนาน


ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TNAMCOT

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 14 กันยายน 2559    
Last Update : 14 กันยายน 2559 5:58:43 น.
Counter : 1561 Pageviews.  

เมื่ออสรพิษถูกยกเป็นสัตว์เทพเจ้า… ‘นาคปัญจามิ’ เทศกาลบูชางูของชาวอินเดีย



ไม่รู้ว่าจะสนุกหรือหวาดเสียวก่อนดี กับเทศกาลสุดแสนจะสยองและศักดิ์สิทธิ์(ในความรู้สึกของคนที่นั่น)

อย่าง เทศกาลบูชางู หรือ “นาคปัญจามิ” ของชาวอินเดีย ที่จัดในช่วงฤดูฝน
ซึ่งล่าสุดจัดไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมานี่เองนะจ๊ะนายจ๋า
เทศกาลบูชางูนั้นเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลย

when_is_Nag-Panchami_in_2014

เทศกาลบูชางู หรือ “นาคปัญจามิ” นั้นเริ่มจากความเชื่อว่า ก่อนที่ชนเผ่าอารยันจะเข้ามาตั้งรกรากในอินเดีย
อินเดียเคยเป็นที่อยู่อาศัยของงู หรือ “นาค” ในภาษาสันสกฤตมาก่อน ตามศาสนาฮินดูที่มีความเชื่อว่า
งูนั้นเป็นสัตว์เทพเจ้า และยังเป็นสัตว์พาหนะของพระวิษณุ หนึ่งในเทพองค์สำคัญของฮินดูด้วย

000_Del6239088

ความพิเศษของเทศกาลนี้ อยู่ตรงที่วิธีการบูชางูของชาวอินเดียนี่ละ…ในวันนาคปัญจามิ
จะมีการนำงูใส่ตะกร้าสานอันเล็ก ออกมาตั้งหน้าบ้านหรือตามท้องถนน
เพื่อรับการบูชาจากผู้ที่มีจิตศรัทธา หากบ้านไหนไม่มีงู สามารถใช้รูปปั้นงูทดแทนได้

การบูชานั้นจะใช้ของเหลวสีขาว ที่เกิดจาก นม หรือโยเกิร์ต ผสมกับน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง และเนย
เทราดลงไปบนตัวงูเป็นๆ แถมงูบางตัวกำลังแผ่แม่เบี้ยพร้อมที่จะฝังเขี้ยวใส่ใครก็ได้ทุกเวลา

NagPan
worldreligionnews.com

การราดโยเกิร์ตหรือน้ำนมบนตัวงู ชาวอินเดียเชื่อว่าจะทำให้พวกเขาหลุดจากบาป นำมาซึ่งศิริมงคล
และความสุขของตนเองและครอบครัว

https://www.scoopwhoop.com

ที่มา : astrosage.com




 

Create Date : 14 กันยายน 2559    
Last Update : 14 กันยายน 2559 5:54:40 น.
Counter : 2135 Pageviews.  

สูตรอาหารเช้าเมนูฮิต อร่อยอิ่มท้องมัดใจชาวออฟฟิศ



สูตรอาหารเช้าเมนูฮิต

  ตอนเช้าอย่าปล่อยให้ท้องว่าง ! มาจดสูตรอาหารมื้อเช้ายอดนิยมของชาวออฟฟิศ หาซื้อง่ายแต่ทำกินเองได้ ไม่ต้องง้อใคร

     ก่อนถึงเวลาทำงานมนุษย์เงินเดือนอย่ามองข้ามอาหารเช้านะคะ เพราะเป็นมื้อสำคัญในการเติมพลังงานให้ร่างกายและสมองให้พร้อมที่จะทำงานได้ตลอดวัน ถ้าหากนึกไม่ออกว่าจะกินอะไรดี กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 16 สูตรอาหารเช้าเมนูฮิตที่เพื่อน ๆ คุ้นเคยทั้งนั้น หาซื้อง่ายและอร่อย ราคาพอเหมาะว่าแต่มีเมนูอะไรบ้าง... ติดตามชมกันเลยค่ะ

สูตรอาหารเช้าเมนูฮิต

1. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

     เมนูอาหารเช้าสุดฮิตขวัญใจชาวออฟฟิศที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยลิ้มลองอันดับต้น ๆ ขอยกตำแหน่งให้กับเมนูข้าวเหนียวหมูปิ้ง สูตรจาก เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา สูตรนี้มาพร้อมกับวิธีทำหมักหมูนุ่มอร่อยเหาะ ต่อให้หัวเหม็นแค่ไหนก็ยอมฝ่าดงควันไปซื้อจงได้

ส่วนผสม หมูปิ้ง หมูย่าง

     • เนื้อสะโพกหมู หรือเนื้อสันนอกหมู 1 กิโลกรัม
     • รากผักชี 25 กรัม
     • กระเทียมไทย (แกะเปลือก) 2 หัว
     • พริกไทยเม็ด 1+1/2 ช้อนชา
     • น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม
     • หัวกะทิ 1+1/2 ถ้วยตวง
     • ซีอิ๊วดำ 3 ช้อนชา
     • ซีอิ๊วขาว 8 ช้อนโต๊ะ
     • ซอสปรุงรสฝาเขียว 6 ช้อนโต๊ะ
     • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
     • ไข่แดง 1 ฟอง
     • น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ
     • ไม้สำหรับเสียบหมู

วิธีหมักหมูปิ้ง หมูย่าง

     • 1. แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 ซม. ความกว้างประมาณ 4-5 ซม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ (หรือหั่นตามความถนัด)
     • 2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดจนละเอียดเข้าด้วยกัน
     • 3. ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง (ส่วนกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยเก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง) ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป
     • 4. หลังจากหมักหมูทิ้งไว้ครบเวลาแล้ว นำเนื้อหมูออกจากตู้เย็นมาเสียบด้วยไม้
     • 5. นำน้ำที่เหลือจากหมักหมูไปผสมกับกะทิที่เหลือให้เข้ากัน เตรียมไว้
     • 6. เปิดเตาย่างให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นนำหมูขึ้นปิ้งบนเตา (หมั่นคอยดู) พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง แล้วใช้แปรงจุ่มส่วนผสมกะทิที่ผสมไว้ทาให้ทั่วด้านบน พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับมาทาซอสอีกครั้ง ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน แต่ไม่ควรปิ้งให้แห้ง เพราะน้ำในเนื้อหมูจะระเหยไปกับความร้อน ทำให้หมูเหนียวและแข็ง

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรหมูปิ้ง หมูย่าง เนื้อนุ่มรสเด็ด อร่อยพร้อมทำขาย

++++++++++++++++++++

สูตรอาหารเช้าเมนูฮิต

2. น้ำเต้าหู้

     สำหรับชาวออฟฟิศที่รักสุขภาพคงไม่พลาดเครื่องดื่มน้ำเต้าหู้แน่นอน สูตรจาก RinS CookBookสูตรนี้เด็ดตรงที่ใส่ถั่วลิสงกับอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันด้วย ถ้าใส่เครื่องก็อิ่มท้องมากขึ้น

ส่วนผสม น้ำเต้าหู้

     • ถั่วเหลือง 450 กรัม
     • ถั่วลิสง 1 ถ้วย
     • อัลมอนด์ 1 ถ้วย
     • น้ำเปล่า
     • น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว

วิธีทำน้ำเต้าหู้

     • 1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
     • 2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3) แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
     • 3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
     • 4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ
     • 5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำน้ำเต้าหู้ โฮมเมดสูตรเข้มข้น ทำดื่มเองดีกว่าไม่เสียอารมณ์

++++++++++++++++++++

สูตรอาหารเช้าเมนูฮิต

3. ปาท่องโก๋

     ปาท่องโก๋จิ้มสังขยาหรือจิ้มนมข้นหวานก็เป็นอีกเมนูอาหารเช้ายอดนิยมของมนุษย์เงินเดือน หรือใครจะกินคู่กับน้ำเต้าหู้ก็ทำให้อุ่นลิ้นอิ่มสบายท้องมากขึ้นด้วย

ส่วนผสม ปาท่องโก๋

     • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ถ้วย
     • เกลือป่น 1 ช้อนชา
     • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
     • ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา
     • ผงฟู 1 ช้อนชา
     • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำ (อุณหภูมิห้อง) 1+1/2 ถ้วย
     • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
     • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
     • แป้งสาลีอเนกประสงค์ (สำหรับโรยกันติด)

วิธีทำปาท่องโก๋

     • 1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกันลงในอ่างผสม ใส่ยีสต์แห้งลงไปคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
     • 2. ผสมน้ำอุ่น น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
     • 3. เทส่วนผสมของเหลว (ข้อ 2) ลงในส่วนผสมแป้ง (ข้อ 1) นวดด้วยมือหรือเครื่องนวดแป้งให้เข้ากันประมาณ 10 นาที จากนั้นนำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ คลุมแป้งพักไว้ประมาณ 6 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
     • 4. โรยแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงบนพื้นผิวที่จะนวดแป้งแล้วนำแป้งมารีดเป็นแผ่นบาง ๆ ใช้มีดตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดเท่ากัน ๆ
     • 5. ใช้ไม้แตะน้ำเปล่าแล้วแตะลงตรงกลางแป้ง จากนั้นนำแป้งอีกชิ้นมาประกบซ้อนกันเบา ๆ พักไว้สักครู่
     • 6. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อน ยืดแป้งตามยาวเล็กน้อยแล้วนำลงทอดจนสุกเหลืองกรอบและลอยขึ้นมา ช้อนตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรปาท่องโก๋ นวดเองทอดเอง หอมกรอบร้อน ๆ กี่คู่ถึงจะพอ

++++++++++++++++++++
สูตรอาหารเช้าเมนูฮิต

8. ข้าวไข่เจียว

     และแล้วก็มาถึงเมนูอาหารเช้าสุดฮิตอย่างเมนูข้าวไข่เจียว ใส่หมูสับเพิ่มโปรตีน ถ้าใครชอบกินเผ็ดก็สั่งใส่พริกขี้หนูไปด้วยเลย กินกับซอสพริกอร่อยเหาะ ใครมาแย่งก็ไม่ยอม

ส่วนผสม ข้าวไข่เจียว

     • ไข่ไก่ 2 ฟอง
     • หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
     • พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
     • ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
     • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
     • ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
     • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
     • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
     • ข้าวสวย

วิธีทำข้าวไข่เจียว

     • 1. ตีไข่ไก่ผสมกับหมูสับ พริกขี้หนู และต้นหอมซอย ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส และพริกไทยป่นคนให้เข้ากัน
     • 2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ส่วนผสมไข่ลงทอดให้สุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย

++++++++++++++++++++

สูตรอาหารเช้าเมนูฮิต

9. ต้มเลือดหมู

     สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่อยากจัดเต็มมื้อเช้าคงไม่พลาดเมนูต้มเลือดหมูกับข้าวสวยร้อน ๆ ซดน้ำซุปสลับกับข้าว แถมยังมีน้ำจิ้มมาตัดเลี่ยน เคลียร์พุงให้พร้อมรอวันพรุ่งนี้เลยจ้า

ส่วนผสม ต้มเลือดหมู

     • หมูสับ 100 กรัม
     • ตับหมู 100 กรัม
     • กระเพาะหมู 100 กรัม
     • เลือดหมู (หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม) 1 ก้อน
     • น้ำซุป 3 ถ้วย
     • ใบตำลึง หรือใบปวยเล้ง 1/2 ถ้วย
     • ใบขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อน) 1 ต้น
     • ตั้งฉ่าย 1 ช้อนชา
     • กระเทียมเจียว (โรยหน้า)
     • พริกไทยป่น (โรยหน้า)

วิธีทำต้มเลือดหมู

     • 1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือด ใส่เนื้อหมูสับ ตับหมู และกระเพาะหมูลงลวกในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
     • 2. ใส่ตำลึง หรือใบปวยเล้งลงลวกน้ำร้อนแล้วตักใส่ชาม เตรียมไว้
     • 3. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนเดือด ใส่เลือดหมูลงต้มสักครู่จากนั้นตักใส่ชามตามด้วยเครื่องในที่ลวกไว้ ตังฉ่าย และใบขึ้นฉ่าย ตักน้ำซุปร้อน ๆ ลงในชาม โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และพริกไทยป่น พร้อมรับประทาน

ส่วนผสม น้ำจิ้มต้มเลือดหมู

     • พริกชี้ฟ้าเหลือง 2 เม็ด
     • กระเทียม 1/2 ช้อนโต๊ะ
     • เกลือป่นเล็กน้อย (ปรุงรส)
     • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา

วิธีทำน้ำจิ้มต้มเลือดหมู

     • 1. โขลกพริกชี้ฟ้าเหลือง และกระเทียมเข้าด้วยกันจนละเอียดดี ปรุงรสด้วยเกลือป่นเล็กน้อย
     • 2. ใส่น้ำส้มสายชู คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้รับประทานกับต้มเลือดหมู

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มเลือดหมู หอม ๆ ร้อน ๆ กับน้ำจิ้มรสเด็ด

++++++++++++++++++++




 

Create Date : 13 กันยายน 2559    
Last Update : 13 กันยายน 2559 6:06:07 น.
Counter : 2181 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.