Breaking Dawn (Twilight Saga IV) Copyright for non-commercial use ONLY
 
 

Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 12.2

เธอคิดว่าฉันจะทำตามในสิ่งที่เธอพูดอย่างนั้นเหรอ


 


 


 


แน่สิ แล้วเธอก็ตะเบ็งเสียงใส่ฉัน แต่ก็ช่างเถอะ ฉันไม่แคร์อะไรทั้งนั้น


 


 


 


 


ฉันจะไปตรวจตรารอบๆดูซะหน่อยนะ Jake ฉันไม่รู้สึกเหนื่อยเลย Seth ดีใจมากที่ฉันไม่ได้บังคับให้เขากลับบ้าน


 


 


 


 


ได้สิ ฉันจะเข้าไปดูพวก Cullens เหมือนกัน


 


 


 


 


Seth กำลังจะเริ่มออกวิ่ง Leah มองดูเขาแล้วยืนครุ่นคิด


 


 


 


 


บางทีก็อาจจะได้สักรอบสองรอบก่อนที่ฉันจะปะทะกับเธอ ....​เฮ้ Seth อยากเห็นมั้ยว่าฉันน๊อครอบเธอได้กี่รอบ


 


 


 


 


ไม่!!


 


 


 


 


Seth คำรามเสียงต่ำๆ ในขณะที่ Leah ตามเขาไป


 


 


ฉันคำรามอย่างไร้ประโยชน์ เพื่อเตือนให้ทั้งสองอยู่ในความสงบ


 


 


 


 


Leah พยายามทำทุกอย่างเพื่อตนเองเท่านั้น เธอพยายามวิ่งด้วยความเร็วต่ำที่สุด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้สึกถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวของเธอ ฉันกำลังคิดว่าเขาทั้งคู่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันไม่ได้ผลเลย เพราะมีความคิดของเธอเต็มไปหมด ถ้ามันจะต้องเป็น "เราทั้งสามคน" จริงๆ มันก็ยากเหลือเกินที่จะคิดถึงใครสักคนที่ฉันไม่ต้องการจะแลกเธอมาแทนที่


 


 


Paul เหรอ เธอเสนอ


 


 


 


ก็อาจจะนะ ฉันตอบ


 


 


เธอหัวเราะกับตัวเอง


 


 


งั้นนั่นจะเป็นเป้าหมายของฉันล่ะกัน ....​การทำตัวให้น่ารำคาญน้อยกว่า Paul 


 


 


ดี พยายามเข้านะ


 


 


 


ฉันเปลียนกลับเป็นร่างมนุษย์ เมื่ออยู่ห่างจากสนามหญ้าหน้าบ้านเพียงไม่กี่หลา ฉันไม่ได้วางแผนว่าจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานนัก ไม่ได้วางแผนว่าจะมี Leah อยู่ในหัวของฉันด้วย


 


 


ประตูเปิดก่่อนที่ฉันจะเดินก้าวเข้าไป แล้วฉันก็ต้องแปลกใจเมื่อได้เห็น Carlisle แทนที่จะเป็น Edward อยู่ด้านนอกเพื่อจะรอพบฉัน หน้าของเขาดูเหนื่อยและอ้อนล้าเต็มที หัวใจของฉันหยุดนิ่งไป ฉันพูดอะไรไม่ออก


 


 


"เธอโอเคมั้ย Jacob" Carlisle ถาม


 


 


"เกิดอะไรขึ้นกับ Bella เหรอ"


 


 


"เธอ .....​ก็เหมือนเมื่อคืนแหล่ะ นี่ฉันทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเหรอ ฉันต้องขอโทษด้วยนะ Edward บอกว่าเธอจะมาในสภาพของมนุษย์ และฉันก็มาที่นี่เพื่อต้อนรับเธอเมื่อเขาไม่สามารถที่จะละสายตาจากเธอได้ เมื่อเธอตื่น"


 


 


 


และ Edward ก็ไม่่ต้องการที่จะสูญเสียเวลาแม้แต่วินาเดียวที่จะได้อยู่กับเธอ เพราะเขาเหลือเวลาอยู่อีกไม่มากแล้ว Carlisle ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เขาก็รู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร


 


 


มันเป็นเวลาสักครู่ตั้งแต่ฉันได้นอนหลับไป ก่อนที่ฉันจะออกไปตรวจตราครั้งสุดท้าย ฉันรู้สึกได้ถึงสิ่งนั้นชัดเจนมากขึ้น ฉันก้าวไปข้างหน้าและนั่งลงบนโซฟา


 


 


 


พยายามเคลื่อนไหวให้เงียบที่สุดอย่างที่แวมไพร์ทำ Carlisle นั่งอยู่ระดับเดียวกับฉัน แต่บนโซฟาที่ถัดออกมา


 


 


"ฉันไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเธอเมื่อคืน Jacob เธอไม่รู้หรอกว่าฉันรู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเธอมากมายขนาดไหน ฉันรู้ดีว่าเป้าหมายของเธอคือการปกป้อง Bella แต่ฉันก็ติดหนี้นายที่เธอช่วยดูแลความปลอดภัยครอบครัวของฉันด้วยเช่นกัน Edward บอกเธอว่าเธอควรจะต้องทำอะไร...."


 


 


 


"อย่าไปพูดถึงมันเลยฮะ" ฉันพึมพำ


 


 


"ถ้านายต้องการ"


 


 


 


 


เรานั่งท่ามกลางความเงียบ แต่ก็ยังได้ยินเสียงพูดคุยกันเบาๆ ของ Emmett Alice และ Jasper


ส่วน Rosalie กับ Edward อยู่ใกล้ๆเธอ แต่ฉันไม่อาจบอกได้เลยว่าสิ่งนั้น....คืออะไร แต่ฉันสัมผัสได้ถึงความแตกต่างที่เปลี่ยนแปลงไป ฉันได้ยินเสียงหัวใจของเธอ มันดูผิดปกติ


 


 


 มันเหมือนกับว่าโชคชะตาของฉัน ทำให้ฉันต้องทำทุกสิ่งที่ฉันเคยสาบานว่าฉันจะไม่ทำ ในตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ และแล้วฉันก็อยู่ที่นี่ เพื่อเฝ้ารอ .......​รอเพื่อจะได้เห็นว่าเธอกำลังจะตาย


 


 


ฉันไม่ได้ต้องการจะฟังมันอีกต่อไปแล้ว


 


 


 


"เธอเป็นครอบครัวของคุณรึเปล่า" ฉันถาม Carlisle ฉันไม่ได้สังเกตมาก่อนเมื่อเขาพูดว่า ฉันจะช่วย "ครอบครัวของเขาทั้งหมด" ด้วยเหมือนกัน


 


 


 


"แน่นอนสิ Bella เหมือนลูกสาวของฉัน ลูกสาวที่ฉันรัก"


 


 


"แต่คุณกำลังจะปล่อยให้เธอตาย"


 


 


 


เขาเงียบไป จนกระทั่งฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง หน้าของเขาดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน ฉันรู้ได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไร


 


 


 


"ฉันเดาได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่" ในที่สุดเขาก็เอ่ยออกมา "แต่ฉันไม่อาจจะมองข้ามความตั้งใจของเธอไปได้ มันไม่ถูกต้องที่จะตัดสินใจแทนเธอ ... ไม่ถูกต้องที่จะบังคับเธอ"


 


 


 


ฉันต้องการที่จะโกรธเขา แต่เขากลับทำให้มันยากเกินกว่าที่ฉันคิดไว้ ราวกับว่าเขาโยนคำพูดเหล่านั้นกลับมาใส่ฉัน พวกเขาอาจจะเคยถูกมาเสมอ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ตอนที่ Bella กำลังจะตาย ฉันจำได้ดีว่ามันรู้สึกอย่างไรเมื่อฉันต้องคุกเข่าลงอย่างหมดทางสู้ต่อหน้า Sam มันเหมือนกับว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วแต่ถ้าเป็นเรื่องที่เราต้องไปเกี่ยวข้องกับการฆ่าใครสักคนที่เรารัก มันก็ไม่เหมือนกันเช่นกัน Sam ทำผิด และ Bella รักในสิ่งที่เธอไม่สมควรจะรัก 


 


 


"คุณคิดว่ามันพอมีความเป็นไปได้ที่เธอจะทำสำเร็จมั้ย ฉันหมายถึง ในฐานะแวมไพร์น่ะ เธอเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับ Esme"


 


 


 


"ฉันบอกได้แค่ว่า มันก็ยังจะพอมีโอกาสอยู่บ้างตอนนี้" เขาตอบด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา "ฉันเคยเห็นพิษของแวมไพร์ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ราวกับปาฏิหาริย์มาแล้ว แต่มันก็มีเงื่อนไขบางอย่างที่พิษของเราไม่สามารถที่จะเอาชนะได้ หัวใจของเธอทำงานหนักมากตอนนี้และถ้าหัวใจล้มเหลว ฉันก็คงไม่สามารถทำอะไรได้อีก" 


 


เสียงหัวใจของ Bella เต้นแรง ยิ่งตอกย้ำถึงคำพูดนั้นของเขา


 


 


บางทีโลกใบนี้อาจจะเริ่มหมุนกลับแล้วก็ได้ อาจจะเป็นการอธิบายได้ว่าทำไมทุกอย่างราวกับจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ฉันจะมีความหวังได้อย่างไรเมื่อสิ่งที่ฉันเห็น และได้พบเจออยู่ตอนนี้ เหมือนกับเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดอยู่แล้ว


 


 


"ไอ้นั่นกำลังทำอะไรเธอ" ฉันกระซิบ "เธอดูแย่กว่าเมื่อคืนมาก ฉันเห็นสายระโยงระยางเต็มไปหมด จากหน้าต่างนั่น"


 


 


265 


 


 




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 22:42:07 น.   
Counter : 668 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 12.1

12. คนบางคนก็ไม่เคยเข้าใจว่า “ไม่ยินดีต้อนรับ” นั้นเป็นอย่างไร


ฉันเกือบจะผล็อยหลับไปแล้ว แต่ก็ได้ยินเสียงคำรามของ Seth จนทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้น


หวัดดี หนุ่มๆ


Seth กัดฟันกรอดด้วยความโมโห


เธอมาได้ไงเนี่ย ไปให้พ้นนะ Leah


ลดเสียงลงหน่อยได้มั้ย Seth


เลิกเห่าได้แล้ว Seth นายมันก็เป็นแค่เด็กน้อยเท่านั้น


เธอกำลังคิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่ Leah


เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นี่มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ ฉันมาร่วมกับไอ้พรรคพวกห่วยๆของนายนี่ไง ไอ้พวกหมาที่คอยเฝ้าบ้านให้แวมไพร์ เธอหัวเราะอย่างเสียดสี


ไม่ เธอไม่มีทางมาร่วมกับเราได้เด็ดขาด กลับไปซะก่อนที่ฉันจะทำร้ายเธอ



เหมือนกับว่าเธอจะไล่ตามฉันทันอย่างนั้นแหล่ะ เธอหันมายิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะตั้งท่าออกวิ่ง อยากแข่งกับฉันมั้ยล่ะ พ่อหัวหน้าหมู่คนเก่ง


 


 


ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จนกระทั่งปอดของฉันพองลมไปด้วยอากาศ แล้วฉันก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังจะกรีดร้องออกมาหรือไม่ แล้วฉันก็ถอนหายใจออกมา


 


 


 


Seth ไปบอกให้พวก Cullens รู้ถึงเรื่องพี่สาวนายด้วย ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง


 


ได้เลย Seth ดีใจที่ได้ผละตัวออกไปจากสถานการณ์เช่นนี้ เขามุ่งหน้าไปที่บ้าน


 


 


 


 


เธอหันมาพูดกับฉันทันทีว่า นายคงไม่ปล่อยให้เขาไปที่บ้านแวมไพร์ใช่มั้ย


 


 


 


ฉันแน่ใจว่าน้องของเธอคงจะอยากไปอยู่กับพวกนั้นมากกว่าเธอแน่


 


 


หุบปากซะ Jacob อุ๊ย ขอโทษ ฉันแค่จะหมายความว่า หยุดพูดได้แล้ว คุณหัวหน้าหมู่


 


 


เธอมาที่นี่ทำไม


 


 


เธอคิดว่าฉันจะนั่งรออยู่บ้านในขณะที่น้องชายของฉันถูกทำตัวราวกับเป็นของเล่นของพวกแวมไพร์อยู่อย่างนี้เหรอ


 


 


 


Seth ไม่ต้องการการปกป้องจากเธอ อันที่จริงแล้ว ไม่มีใครต้องการให้เธออยู่ที่นี่


 


 


โอ้ นั่นเรื่องใหญ่เลยนะ ห๊ะ เธอตะโกนออกมาสุดเสียง บอกฉันทีว่าใครต้องการให้ฉันอยู่ที่นี่บ้าง 


 


 


อ่อ นี่แปลว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพราะ Seth ใช่มั้ย


 


 


แน่นอน ฉันก็แค่อยากจะบอกนายว่า ฉันก็เป็นคนที่ไม่มีใครต้องการอยู่แล้ว นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ฉันมาที่นี่ ถ้านายรู้ว่าฉันหมายความว่ายังไง


 


 


ฉันกัดฟันกรอด ก่อนที่จะพยายามคิดใคร่ครวญดูอีกครั้ง


 


 


Sam ส่งเธอมาเหรอ


 


 


ถ้า Sam เป็นคนสั่งให้ฉันมาที่นี่ นายก็ไม่มีทางได้ยินฉันหรอกนะ ฉันไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเขาแล้ว


 


 


 


ฉันพยายามจะวิเคราะห์คำพูดของเธอ สิ่งที่เธอประกาศก้องออกมาไม่มีอะไรเลยนอกจากความจริง


 


 


เธอจะมาขึ้นตรงกับฉันแทนเหรอ เดี๋ยวนี้นี่อ่ะนะ แน่สิ


 


 


ทางเลือกของฉันมีจำกัดมาก ฉันกำลังครุ่นคิดถึงทางเลือกที่มีอยู่ เชื่อฉันสิ ฉันไม่ได้มีความสุขกับสิ่งนี้ไปมากกว่านายหรอก


 


 


นั่นไม่จริง เพราะฉันรู้สึกได้ว่าเธอมีความรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้ ไม่ได้รู้สึกยินดี แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆ ฉันพยายามจะทำความเข้าใจ


 


 


เราสองคนถูกรบกวนจาก Seth ที่กำลังอยู่กับ Edward Edward ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆเมื่อได้รับรู้เรื่องนี้


 


 


ว้าว เขาดูแย่มากเลยนะ Seth บ่นพึมพำกับตัวเอง แวมไพร์ไม่สนใจปฏิกริยาที่มีต่อความคิดนั้นเช่นกัน เขาหายตัวไปในบ้าน Seth หมุนตัวกลับและเดินทางมาหาเรา


 


 


เกิดอะไรขึ้นเหรอ Leah ถาม เล่าให้ฉันฟังทีสิ


 


 


มันไม่จำเป็นหรอก เธอจะไม่อยู่ที่นี่


 


 


จริงๆแล้วนะ พ่อหัวหน้าหมู่ ฉันจะอยู่ที่นี่ เพราะว่าก็เห็นกันอยู่แล้วว่าฉันต้องขึ้นตรงกับใคร และฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถขัดต่อจิตใต้สำนึกตัวเองได้ ....​ที่ได้เลือกเธอเป็นหัวหน้าหมู่น่ะ


 


 


 


Leah เธอไม่ชอบฉัน แล้วฉันก็ไม่ชอบเธอ


 


 


ขอบคุณมากนะคะ กัปตัน มันชัดเจนมาก แต่มันไม่มีความหมายอะไรกับฉันหรอก ฉันจะอยู่กับน้องฉัน


 


เธอไม่ชอบพวกแวมไพร์นี่ เธอไม่คิดว่านี่จะขัดแย้งกับตัวเองเหรอเมื่อเธอมาอยู่ที่นี่น่ะ


 


 


เธอก็ไม่ชอบแวมไพร์เหมือนกัน


 


 


แต่ฉันซื่อสัตย์ต่อพันธมิตรกลุ่มนี้ แต่เธอไม่


 


 


ฉันจะรักษาระยะห่างกับพวกเขา ฉันจะคอยลาดตระเวนอยู่แถบนี้ เหมือน Seth


 


 


แล้วฉันสมควรที่จะเชื่อเธอมั้ย


 


 


เธอยืดตัวขึ้นมา พยายามจะทำให้สูงเท่าฉัน


เธอจ้องมาที่ตาฉัน ... ฉันจะไม่มีวันทรยศต่อพวกพ้องของฉัน


 


 


 


นี่ไม่ใช่พวกพ้องของเธอ นี่มีแค่ฉันที่ทำตามแต่ใจตัวเองเท่านั้น ทำไมพวกเธอถึงปล่อยให้ฉันอยู่ตามลำพังไม่ได้


 


 


 Seth ก้าวขึ้นมาข้างหน้า


 


 


ฉันไม่ได้ทำตัวมีประโยชน์เลยเหรอ Jake


 


 


นายไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญนักหรอกนะ ไอ้หนู แต่ว่าถ้านายกับ Leah ต้องอยู่กันเป็นแพคคู่แบบนี้ ทางเดียวที่จะกำจัดเธอได้ คือนายต้องกลับบ้าน


 


 


อ้ากส์ Leah เธอทำลายมันหมดเลย


 


 


ใช่ ฉันรู้ดี เธอบอกเขา


 


ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากคำสามคำนั้น และมันมากกว่าที่ฉันคาดคิดไว้ ฉํนไม่ต้องการจะรู้สึกแบบนั้น ไม่ต้องการสงสารเธอ ฉันรู้ดีว่าพรรคพวกของเราทำให้เธออึดอัด แต่เธอก็ทำให้การเข้าไปล่วงรู้ความคิดของเธอเป็นราวกับฝันร้าย เพราะเธอฝังความขมขื่นไว้ในทุกอณูของที่นั่น


 


 


Seth ก็รู้สึกผิดเช่นกัน Jake นายจะไม่ส่งฉันกลับบ้าน ใช่มั้ย Leah ก็ไม่แย่เท่าไรหรอก จริงๆนะ ฉันหมายความว่า การที่เรายอมให้เธออยู่ที่นี่ ก็ทำให้เรามีขอบเขตลาดตระเวนที่กว้างขึ้นนะ และนี่ก็ทำให้พรรคพวกของ Sam เหลืออยู่แค่เจ็ดคนเท่านั้น ไม่มีทางที่เขาจะโจมตีเราหรอก บางที่นี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้


 


 


นายก็รู้ว่าฉันจะไม่เป็นหัวหน้าหมู่ ไม่นำพวกพ้องแบบนี้ Seth


 


 


นายก็ไม่จำเป็นต้องนำเรานี่ Leah เสนอ


 


ก็ดูเพอร์เฟ็คต์ดีนี่ กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้


 


 


Jake Seth คิด ฉันจะอยู่ที่นี่ ฉันชอบพวก Cullens พวกเขาก็เหมือนคนธรรมดาสำหรับฉัน ฉันจะปกป้องพวกเขาเพราะว่านี่เป็นสิ่งที่เราสมควรจะทำ


 


 


 


บางทีนายอาจจะอยู่ที่นี่ได้ ไอ้หนู แต่พี่สาวของนายไม่ และนายก็จะไปทุกที่ที่นายไป....


 


 


 


ฉันต้องหยุดพูด เพราะฉันเห็นอะไรบางอย่าง ....​บางอย่างที่ Leah ไม่อยากจะนึกถึงมัน


 


 


Leah จะไม่ไปไหนหรอก


 


 


ฉันคิดว่านีเกี่ยวกับ Seth เสียอีก ฉันคิดด้วยความสมเพชและขมขื่น


 


 


เธอเหลียวขึ้นมามองฉัน แน่สิ ฉันมาที่นี่เพือ Seth


 


 


และเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนอยู่กับ Sam


 


 


ฉันไม่ต้องอธิบายเรื่องตัวเองให้เธอฟังหรอกนะ ฉันแต่ต้องการจะทำสิ่งที่ฉันบอกนายไปเท่านั้น ฉันจะอยู่กับพวกนาย พรรคพวกของนายที่นี่ Jacob แค่นั้นแหล่ะ


 


 


ฉันถอยห่างจากเธอ และคำถาม


 


 


โอ้ แย่ล่ะสิ ฉันไม่เคยต้องการที่จะกำจัดเธอ เธอยิ่งเกลียดฉันเท่าไร เธอก็ยิ่งไม่ชอบพวก Cullens เท่านั้น และมันก็เพียงพอที่เธอจะฆ่าพวกแวมไพร์ซะเดี๋ยวนี้ และก็มากพอที่เธอจะโกรธที่ฉันต้องการจะปกป้องพวกนั้นมากกว่า แต่เหตุผลทั้งหมดนี่เทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่เธอเป็นอิสระต่อ Sam แล้ว


 


 


 


Leah ไม่ได้ชอบฉัน เธอรัก Sam และก็ยังคงรักอยู่ และการที่่ได้รับรู้ว่าเขาต้องการที่จะให้เธอหายไปซะยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดเกินกว่าที่เธอจะทนอยู่กับมันได้ แต่ตอนนี้เธอมีทางเลือกแล้ว เธอก็คงต้องเลือกทางนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นทางที่ทำให้เธอต้องเหมือนหมาเฝ้าบ้านของพวก Cullens ก็ตามที


 


 


 


ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้ ฉันแน่ใจว่าฉันอยากจะลองฆ่าตัวตายดูก่อนด้วยซ้ำ


 


 


เดี๋ยวก่อน Leah.....


 


 


ไม่ นายสิ ฟังก่อน Jacob เลิกเถียงกับฉันได้แล้ว ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องนาย โอเคมั้ย ฉันจะทำทุกอย่างที่นายต้องการยกเว้นเสียแต่ว่านายจะไล่ให้ฉันกลับไปอยู่กับ Sam แล้วต้องทนกระอักอ่วนเรื่องของแฟนของเขาที่เขาไม่สามารถเลิกคิดถึงเธอได้ ถ้านายอยากให้ฉันไป  ....​ นายต้องฆ่าฉันเท่านั้น


 


 


 


 


ฉันคำรามเป็นเวลานาน ด้วยความโมโห ฉันเริ่มรู้สึกเห็นใจ Sam ทั้งๆที่เขาทำไม่ดีกับฉัน กับ Seth ไม่สงสัยเลยว่า เขาต้องคอยสั่งให้พรรคพวกของเราตรวจตราดูรอบๆ เขาจะทำอะไรได้ล่ะ


 


 


 


Seth นายจะโกรธฉันมั้ย ถ้าฉันฆ่าพี่สาวนายซะ


 


 


เขาพยายามทำเป็นครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ อ๋อ ก็เป็นไปได้นะ


 


 


ฉันถอนหายใจ


 


 


 


โอเค ทำไมเธอไม่ทำตัวให้เป็นประโยชน์สักหน่อยล่ะ เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เราหนีออกมาเมื่อคืนนี้


 


 


ก็มีแต่เสียงคำรามเต็มไปหมด แต่นายก็คงได้ยินมันแล้ว เสียงมันดังมากพอที่จะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงของพวกนายเลย Sam กำลังวางแผนว่าน่าจะไปคุยกับพวกผู้ใหญ่ก่อนตอนเช้า เราสมควรที่จะไปรวมตัวกันและคิดถึงแผนการนี้ ฉันคิดว่าเขาคงไม่โจมตีเร็วๆนี้หรอก โดยเฉพาะเมื่อนายกับ Seth มาเตือนพวกแวมไพร์ก่อนแบบนี้


 


 


เธอตัดสินใจที่จะโดดนัดรวมตัวเช้านี้ ฉันถาม


 


 


เมื่อเราต่างแยกย้างกันออกไปเพื่อลาดตระเวน ฉันก็ขอตัวกลับบ้าน เพื่อบอกแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น


 


 


แย่แล้ว เธอบอกแม่เหรอ Seth สบถ


 


 


Seth หยุดเรื่องของนายไปก่อน เล่าต่อซิ LEah


 


 


แล้วฉันก็กลายร่างกลับเป็นมนุษย์ แต่เรื่อง กลุ่มของเราแตกเป็นสองพวกก็ยังคงอยู่ในหัวของฉัน ท้ายที่สุดแล้ว ฉันชั่งน้ำหนักระหว่างความปลอดภัยของ Seth กับผลประโยชน์ที่ฉันจะได้รับเมื่อกลายเป็นคนทรยศ แล้วมาเข้าพวกกับแวมไพร์กับพวกนาย นายก็รู้แล้วว่าฉันตัดสินใจอย่างไร ฉันทิ้งโน้ตไว้ให้แม่ ฉันหวังว่าเราจะได้ยินมันเมื่อ Sam รู้เรื่องนี้เข้า


 


 


Leah เงี่ยหูฟังไปทางทิศตะวันตก


 


 


 


ใช่แล้ว เราหวังเช่นนั้นเหมือนกัน ฉันเห็นด้วย


 


 


นั่นแหล่ะเรื่องทั้งหมด แล้วเราจะทำอะไรกันล่ะตอนนี้ เธอถาม


 


 


ฉันคิดว่า ตอนนี้เราก็ได้แต่เฝ้าระวังสถานการณ์ไปก่อน นั่นคือทุกสิ่งที่เราพอจะทำได้ เธอน่าจะงีบสักหน่อยนะ Leah


 


 


นายก็ควรจะไปนอนได้แล้ว


 


 


261


 


 


 


 




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 19:55:56 น.   
Counter : 847 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 11.3

Blog นี้มีไว้เพื่อผู้ที่ชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้เท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อการค้าแต่อย่างใด


และแล้วเราก็เดินทางข้ามถนน และมุ่งหน้าไปสู่ป่าที่มีบ้านของตระกูล Cullens ตั้งอยู่



 Edward จะได้ยินเรารึยัง




บางทีเราควรจะคิดอยู่ในใจว่า .... เรามาอย่างสันตินะ




เอาเลย




Edward เขาเรียกชื่อนั้น Edward คุณอยู่ที่นั่นมั้ย เอาล่ะสิ ตอนนี้ฉันชักรู้สึกว่าตัวเองโง่ขึ้นมาแล้ว




นายก็ดูโง่เหมือนกันแหล่ะ




คิดว่าเขาจะได้ยินเรามั้ย




ตอนนี้เราอยู่ใกล้กว่าหนึ่งไมล์แล้ว ฉันคิดว่าเขาได้ยินนะ




เฮ้ Edward ถ้านายได้ยินฉัน ก็รีบมาได้แล้ว คุณผีดูดเลือด นายมีปัญหาแล้ว




เราเจอปัญหาแล้วต่างหาก Seth แก้ให้ถูกต้อง




แล้วเราก็เดินลุยไปในสนามหญ้า ในบ้านดูมืดไปหมดแต่ไม่ว่างเปล่า Edward ยืนอยู่กับ Emmett กับ Jasper




“Jacob Seth เกิดอะไรขึ้นเหรอ”




ฉันเดินไปอย่างช้าๆ และถอยหลังสองสามก้าว กลิ่นของพวกนั้นแรงมากจนทำให้ฉันรู้สึกร้อนในจมูกไปหมด Seth ยืนรีๆรอๆอยู่สักครู่ แล้วเขาก็เดินมาอยู่ข้างหลังฉัน




เพื่อจะตอบคำถามของ Edward ฉันหวนไปคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ... ตอนที่ฉันเผชิญหน้ากับ Sam




และ Seth ก็ร่วมคิดไปกับฉัน เพื่อจะเติมช่องว่างความทรงจำที่ขาดหายไป




เราหยุดเมื่อถึงตอนที่เกี่ยวกับ “สิ่งที่น่าเกลียดชัง” เพราะว่า Edward โมโหมาก และกระโจนลงมาทันที






“พวกนั้นต้องการที่จะฆ่า Bella เหรอ” เขาถามอย่างเกรี้ยวกราด





Emmett และ Jasper ที่ยืนอยู่ข้างเขา เผยให้เห็นฟันอันแหลมคม ขณะที่กระโจนเข้ามาหาฉัน





“ไม่ใช่พวกเขา เป็นคนอื่นนะ พรรคพวกเขากำลังมาแล้ว”





Emmett หันไปหา Edward ในขณะที่ Jasper จ้องอยู่ที่เราทั้งสองคน




“พวกนั้นมีปัญหาอะไรเหรอ” Emmett ถาม





“ปัญหาเดียวกับฉันน่ะ” Edward ตอบ “แต่พวกเขามีวิธีของเขาที่จะจัดการกับมัน เรียกคนอื่นเถอะ โทรหา Carlisle เขาและ Esme ต้องกลับมาเดี๋ยวนี้”




พวกเขาแยกกระจัดกระจายไปหมด




“พวกเขาอยู่ไม่ไกลแล้ว” Edward เอ่ยด้วยเสียงตายด้านเหมือนแต่ก่อน




ฉันต้องไปดูซะหน่อย Seth เอ่ย ตรวจตราทางทิศตะวันตกน่ะ





"นายจะเป็นอันตรายหรือเปล่า Seth"​Edward ถาม


 


 


 


Seth กับฉันหันมามองหน้ากัน


 


 


 


 


ไม่น่านะ เราคิดพร้อมกัน แล้วฉันก็เสริมว่า แต่บางที่ฉันควรจะไปมากกว่า ....​เผื่อไว้ว่า


 


 


 


 


พวกนั้นไม่ยุ่งกับฉันหรอก ฉันมันก็เป็นแค่เด็กสำหรับพวกนั้นน่ะ Seth ชี้แจง


 


 


 


นายก็เป็นเด็กสำหรับฉัน ไอ้เด็กน้อย


 


 


 


แต่ฉันต้องเป็นคนไป นายต้องอยู่ร่วมมือกับพวก Cullens ที่นี่


 


 


 


เขารีบเร้นกายไปในความมืด ฉันจะไม่ออกคำสั่งให้ Seth ไปออกตรวจตราบริเวณรอบๆ ดังนั้นฉันจึงปล่อยเขาไป


 


 


 


Edward กับฉันยืนจ้องหน้ากันในความมืด ฉันได้ยินเสียง Emmett พึมพำทางโทรศัพท์ Jasper กำลังเฝ้าดูไปในทิศที่ Seth พึ่งเดินทางไป Alice ปรากฏกาย หลังจากที่จ้องมองมาที่ฉันด้วยความสงสัยได้สักพัก แล้วเธอก็ไปอยู่ข้างๆ Jasper ฉันเดาว่า Rosalie คงอยู่ข้างใจกับ Bella เพื่อปกป้องเธอจากภัยอันตรายต่างๆ


 


 


 


 


"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันติดหนี้นาย Jacob" Edward กระซิบ


"ฉันไม่เคยขออะไรแบบนี้จากนายเลย"


 


 


ฉันคิดถึงสิ่งที่เขาพึ่งจะขอร้องฉันไป เมื่อมันเป็นเรื่องของ Bella คงจะไม่มีเส้นทางไหนที่เขาไม่กล้าข้ามไป ไม่ นายเคยขอร้องฉัน 


 


เขาคิดถึงเรื่องนั้น แล้วก็พยักหน้า "ฉันคิดว่านายคงจะพูดถูกเกี่ยวกับเรื่องนั้น"


 


 


ฉันถอนหายใจอย่างหนักหน่วง อ๋อ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จะไม่ทำอะไรเพื่อนายใช่มั้ย 


 


"ใช่"​เขาพึมพำ


 


 


ขอโทษที่ฉันไม่ได้ทำตามที่นายขอร้องไป ฉันบอกนายแล้วว่าเธอไม่ยอมฟังฉันหรอก


 


 


"ฉันรู้ ฉันก็ไม่เชื่อจริงๆว่าเธอจะยอมรับ แต่..."


 


 


นายก็ต้องลอง ฉันเข้าใจแล้ว เธอดีขึ้นมั้ย


 


 


"แย่กว่าเดิมอีก" เขาถอนหายใจ


 


ฉันไม่ต้องการปล่อยให้คำพูดเรานั้นเงียบหายไป ฉันรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินเสียง Alice


 


 


"Jacob เธอจะช่วยเปลี่ยนเป็นมนุษย์หมาป่าหน่อยได้มั้ย" Alice ขอร้อง "ฉันแค่อยากรู้่ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น"


 


 


ฉันส่ายหัวในขณะเดียวกับที่ Edward ตอบเธอ


 


 


"เขาต้องอยู่เชื่อมต่อความคิดกับ Seth น่ะ"


 


 


"อ๋อ แล้ว เธอจะใจดีพอที่จะบอกฉันได้มั้ยว่าอะไรเกิดขึ้น"


 


 


 "พวกนั้นคิดว่า Bella กำลังจะกลายเป็นปัญหา พวกเขาคาดการณ์ถึงภัยอันตรายที่เป็นไปได้ที่จะมาจาก....สิ่งที่เธออุ้มท้องอยู่ พวกเขารู้ว่ามันเป็นหน้าที่ที่จะต้องกำจัดสิ่งนั้นออกไป Jacob กับ Seth แยกออกมาจากพวกนั้นเพื่อเตือนพวกเรา พวกนั้นวางแผนจะโจมตีเราคืนนี้"


 


 


Alice สบถออกมา แล้วก็ถอยห่างไปจากฉัน Emmett กับ Jasper หันมามองหน้ากัน และตาพวกเขาก็สอดส่ายไปในป่า


 


 


ยังไม่มีใครมาที่นี่หรอก Seth รายงาน พวกนั้นยังคงเงียบสงบจากทางทิศตะวันตก


 


พวกนั้นอาจจะไปรอบๆก็ได้ 


 


 


ฉันจะไปตรวจดูรอบๆ


 


 


"Carlisle กับ Esme กำลังกลับมาแล้ว" Emmett เอ่ย "ใช้เวลายี่สิบนาทีมากที่สุด" 


 


 


"เราควรจะไปตั้งรับกัน" Jasper เอ่ย


 


 


Edward เห็นด้วย "เราไปข้างในกันเถอะ"


 


ฉันจะไปตรวจตรารอบๆกับ Seth ถ้าฉันไปไกลเกินไปกว่าที่นายจะได้ยินความคิดของฉัน ก็ฟังเสียงหอนของฉันล่ะกัน"


 


 


"โอเค"


 


 


พวกเขากลับไปที่บ้าน ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปข้างใน ฉันก็ออกวิ่งไปทางทิศตะวันตก


 


ฉันยังไม่ค่อยเจออะไรเลย Seth บอกฉัน


 


ฉันจะวิ่งเป็นครึ่งวงกลม พยายามเคลื่อนไหวเร็วๆ เราไม่ต้องการให้พวกเขามีโอกาสแอบผ่านเราไป


 


 


Seth ออกวิ่งไปด้วยความเร็ว


 


 


เราวิ่งท่ามกลางความเงียบ แต่ละนาทีที่ผ่านไป ฉันได้ยินเสียงรอบๆตัวเขา เป็นเสียงเขาพูดพึมพำกับตัวเอง


 


 


เฮ้ มีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวมาเร็วมาก เขาเตือนฉันหลังจากที่เงียบไปนานกว่าสิบห้านาที


 


 


ฉันกำลังจะไป


 


นายอยู่นิ่งๆไว้ ฉันไม่คิดว่าจะเป็นพรรคพวกของเรานะ เสียงมันแตกต่างไปน่ะ


 


 


Seth


 


 


แต่เขาก็เดาได้จากกลิ่นที่ลอยมาตามลม ฉันอ่านใจเขา


 


 


แวมไพร์ พนันได้เลยว่าน่าจะเป็น Carlisle


 


 


Seth ถอยหลังกลับ แต่มันอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้


 


 


ไม่ พวกนั้นแหล่ะ ฉันจำกลิ่นได้ ฉันจะไปอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง


 


 


Seth ฉันไม่คิดว่า


 


 


แต่เขาก็หายไปแล้ว


 


 


ฉันวิ่งไปรอบๆขอบทางทิศตะวันตกด้วยความวิตกกังวล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาภายใต้การดูแลของฉัน Leah คงจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆเลยทีเดียว


 


แต่เขาใช้เวลาไปเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น ไม่ถึงสองนาทีฉันก็รู้สึกถึงเขาในหัวอีกครั้ง


 


 


ใช่แล้ว Carlisle กับ Esme แหล่ะ พวกเขาแปลกใจมากที่เจอฉัน พวกเขาอยู่ด้านในแล้วตอนนี้ Carlisle ฝากขอบคุณมา


 


 


เขาเป็นคนดีจริงๆ


 


 


ใช่ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมเราถึงทำถูกต้องในเรื่องนี้


 


 


หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ


 


ทำไมนายดูเศร้าจัง Jake ฉันพนันกับนายได้เลยว่า Sam จะไม่พาพรรคพวกของเรามาคืนนี้หรอก เขาไม่ต้องการจะปฏิบัติภารกิจที่เหมือนกับฆ่าตัวตายแบบนี้


 


 


ฉันถอนหายใจ มันดูเหมือนว่าจะไม่สำคัญแล้ว


 


เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ Sam ใช่มั้ย


 


 


นายคิดว่า Bella กำลังจะตาย Seth กระซิบ


 


ใช่ เธอกำลังจะตายจริงๆ


 


 


น่าสงสาร Edward มาก เขาคงแทบเป็นบ้าเลยทีเดียว


 


 


ก็นะ คงใกล้เป็นแล้วแหล่ะ


 


 


ชื่อของ Edward ทำให้ฉันหวนนึกถึงความทรงจำอื่นๆที่เกี่ยวกับเขา Seth อ่านมันด้วยความประหลาดใจ


 


แล้วเขาก็คำราม โอ้ ไม่มีทาง นายคงจะไม่ นายก็รู้นี่นา ฉันไม่เชื่อเลยว่านายบอกว่านายจะฆ่าเขา นี่มันอะไรกันเนี่ย นายต้องบอกเขาว่า "ไม่" สิ


 


 


หุบปากซะ นายมันโง่ที่สุด พวกเขาจะเข้าใจผิดว่า พรรคพวกของเรากำลังมานะ


 


อุ๊บส์ โทษที


 


 


ฉันค่อยๆเคลื่อนไหวไปรอบๆบ้าน อย่าพึ่งคิดอะไรอื่นตอนนี้เลย Seth เราต้องตรวจตราบริเวณรอบๆตอนนี้เลย


 


 


ไม่ใช่ ไม่ใช่น่ะ ฉันคิดขณะวิ่งเข้าไปใกล้บ้าน โทษทีนะ Seth ยังเด็กไปน่ะ เขาลืมไป ไม่มีใครจะมาโจมตีเราหรอก


 


 


เมื่อฉันเข้าไปใกล้บริเวณบ้าน ฉันก็เห็น Edward จ้องออกมาจากหน้าต่าง ฉันเลยวิ่งเข้าไป เพื่อจะให้มั่นใจว่าเขาได้รับข้อความจากฉัน


 


 


มันไม่มีอะไรหรอก .... นายได้ยินใช่มั้ย


 


 


เขาพยักหน้าครั้งหนึ่ง


 


 


มันคงจะง่ายกว่านี้มากถ้าการสื่อสารนี้ไม่ใช่เป็นไปแค่ทางเดียว แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ฉันค่อนข้างดีใจที่ฉันไม่ต้องไปอยู่ในหัวของเขา


 


เขามองข้ามไหล่ของเขาไป มองไปในบ้าน เขาโบกมือให้ฉันไปโดยปราศจากการมองไปทิศนั้นอีกครั้ง แล้วก็เร้นกายหายไปจากสายตาของฉัน


 


 


เกิดอะไรขึ้นน่ะ


 


 


เหมือนว่าฉันกำลังจะได้คำตอบ


 


 


ฉันนั่งอยู่นิ่งๆที่สนามหญ้าและตั้งใจฟัง ด้วยหูของฉัน ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของ Seth ที่อยู่ห่างออกไปไกลหลายไมล์ด้วยซ้ำไป และมันก็ง่ายเหลือเกินที่จะได้ยินเสียงจากบริเวณในบ้าน


 


 


"มันไม่มีอะไรหรอก" Edward อธิบายด้วยน้ำเสียงตายด้าน แค่พูดซ้ำสิ่งที่ฉันบอกเขา "Seth แค่ไม่พอใจกับเรื่องอื่นน่ะ และเขาลืมไปว่าเขากำลังรอฟังสัญญาณจากเขาอยู่ เขาเด็กมากๆ"


 


"ก็ดีที่พวกเรามีเด็กแบเบาะคอยเฝ้าป่าให้" เสียงของ Emmett มั้ง ฉันคิด


 


"คืนนี้พวกเขาช่วยเราไว้มากนะ Emmett" Carlisle เอ่ยออกมา "และเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มาก"


 


 


"ใช่ ผมรู้ ผมก็แค่รู้สึกอิจฉาพวกเขาน่ะ ผมก็อยากออกไปข้างนอกเหมือนกัน"


 


 


"Seth ไม่คิดว่า Sam จะโจมตีเราเดี๋ยวนี้หรอก ไม่แน่ๆ เมื่อพวกเราได้รับการเตือนภัยก่อนแล้ว และพวกนั้นพึ่งจะเสียสมาชิกไปสองคนด้วย"


 


 


"แล้ว Jacob คิดว่ายังไงล่ะ" Carlisle ถาม


 


 


"เขาก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นสัญญาณที่ดียังไงนะฮะ"


 


ต่อจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย ฉันพยายามฟังเสียงหายใจของทุกคน และฉันสามารถจะแยกเสียงของ Bella ออกจากทุกคนได้ เพราะว่ามันดูอ่อนแรง และเหนื่อยมาก ฉันสามารถได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้น ...​ดูเหมือนว่ามันจะเต้นเร็วมาก ไม่เหมือนปกติเลย


 


 


"อย่าแตะต้องเธอนะ นายจะทำให้เธอตื่น" Rosalie กระซิบ


 


มีบางคนถอนหายใจ


 


 


"Rosalie" Carlisle พึมพำ


 


"อย่าเริ่มหาเรื่องฉันเลย Carlisle เราเคยเปิดโอกาสให้คุณมาก่อนหน้านี้แล้ว และนั่นคือทั้งหมดที่เราจะยอมให้เกิดขึ้นได้"


 


 


ดูเหมือนว่า Rosalie และ Bella ใช้คำเรียกแทนตัวเองเป็นพหูพจน์แล้วตอนนี้ เหมือนกับว่าเขากำลังจะฟอร์มทีมของตัวเองอย่างนั้นแหล่ะ


 


 


 


ฉันค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ตัวบ้านมากขึ้น ฉันแอบมองไปที่ห้องด้านหน้า และหวังว่าคงจะได้เจออะไรเหมือนที่ฉันพึ่งได้เจอเมื่อตอนกลางวัน แต่มันก็เปลี่ยนไปมากเหลือเกินทำให้ฉันสับสนในตอนแรก ในวินาทีนั้นเองฉันคิดว่าฉันมองเข้าไปผิดห้องแล้ว


 


 


หน้าต่างกระจกหายไปหมด ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันเป็นเหล็กแทนแล้ว เฟอร์นิเจอร์ถูกลากหายไปหมด และฉันก็ได้เห็น BElla นอนอยู่อย่างงุ่มง่ามที่เตียงเล็กๆอันนั้น ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เตียงธรรมดา แต่เป็นเตียงที่มีล้อ เหมือนในโรงพยาบาล และฉันก็เห็นสายต่างๆตามร่างเธอเต็มไปหมด ท่อที่ต่อจากร่างกายของเธอ มีมอนิเตอร์คอยอ่านผล


 


เธอไอเล็กน้อยเหมือนว่าเธอไม่อาจหลับได้โดยง่าย ทั้ง Edward และ Rosalie รีบกระโจนเข้าไปหาเธอเมื่อเห็นร่างกายของเธอเขย่า และเธอพึมพำด้วความหวากลัว Rosalie รีบเอามือจับที่หน้าผาก Bella ในขณะที่ Edward ไม่ขยับเลย เขาหันหลังให้ฉัน แต่ท่าทางของเขาต้องมีอะไรแน่ เพราะ Emmett รีบกระโจนเข้ามาอยู่ระหว่าง Rosalie กับ Edward ก่อนที่ฉันจะกระพริบตาด้วยซ็ำ เขาเอื้อมมือไปจับ Edward ไว้ 


 


 


"ไม่ใช่คืนนี้ Edward เรามีเรื่องอื่นให้กังวลพออยู่แล้ว"


 


 


Edward หันออกไปจากเขา และสีหน้าเขาก็ดูตกอยู่ในความเจ็บปวดทรมานอีกครั้ง ตาของเขามองมาที่ฉัน แล้วก็เหลียวไปมองคนอื่น


 


 


ฉันวิ่งกลับในป่า วิ่งไปหา Seth วิ่งหนีจากสิ่งที่ฉันเห็นอยู่เบื้องหลังของฉัน


 


 


 


"แย่ลง ใช่แล้ว เธอดูแย่ลงมาก" 




 

Create Date : 30 มกราคม 2552   
Last Update : 31 มกราคม 2552 11:50:23 น.   
Counter : 1068 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 11.2


Blog นี้มีไว้เพื่อผู้ที่ชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้เท่านั้น มิได้มีจุดประสงค์เพื่อการค้าแต่อย่างใด




หางของเขาแกว่งไปมาในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงคำพูดฉันอยู่ แล้วเขาก็เดินมาเผชิญหน้ากัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ฟันของเขาอยู่ใกล้ฉันมากๆ ฉันไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ฉันตัวสูงกว่าเขาแล้ว




หัวหน้าหมู่มีได้เพียงคนเดียวเท่านั้น แล้วพรรคพวกของเราก็เลือกฉัน คืนนี้นายจะทำให้เราแตกกันใช่มั้ย นายจะหันหลังให้พี่น้องของนาย หรือว่านายจะหยุดความไร้สาระนี่ซะและกลับมาร่วมมือกับเราอีกครั้ง ทุกๆคำพูดราวกับว่าเป็นประกาศิตจากผู้บังคับบัญชา แต่มันไม่อาจบังคับฉันได้





ฉันรู้เลยว่าทำไมถึงมีหัวหน้าหมู่ได้แค่คนเดียวเท่านั้น ร่างกายของฉันท้าทายต่อปฏิกิริยานี้ โดยสัญชาตญาณแล้วความรู้สึกต่อต้านนี้จะถูกเก็บไว้ แต่สัญญาณดิบของหมาป่ากลับกำลังทำให้ฉันอยากต่อสู้กับมัน




ฉันพยายามมีสมาธิเพื่อจะควบคุมปฏิกิริยาของตัวเอง ฉันจะไม่ต่อสู้กับ Sam เขายังคงเป็นพี่ชายของฉันถึงแม้ว่าฉันกำลังจะปฏิเสธเขาก็ตามที




มีหัวหน้าหมู่ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ฉันไม่ได้คัดค้านกับคำพูดนี้ แต่ฉันกำลังจะเลือกทางของตัวเอง




นายยังเป็นพวกของเราอยู่รึเปล่า Jacob




ฉันหลบตา




ฉันไม่รู้ Sam แต่ฉันรู้ว่าสิ่งนี้....





เขาผงะไปเมื่อรู้สึกได้ถึงอำนาจจากเสียงของหัวหน้าหมู่ในตัวฉัน มันมีผลต่อเขามากกว่าที่เสียงของเขามีผลต่อฉัน เพราะว่าฉันเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำของเขา






ฉันจะอยู่ระหว่างนายและพวก Cullens ฉันจะไม่ยอมทนดูพรรคพวกของเราฆ่าผู้บริสุทธิ์เด็ดขาด ถึงแม้ว่ามันดูยากที่จะเรียกพวกนั้นว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่พวกนั้นก็เป็นจริงๆ




พรรคพวกของเราทำได้ดีกว่านั้น นำพวกเขาไปสู่หนทางที่ถูกต้องเถอะ Sam





ฉันหันหลังให้เขา แล้วก็เริ่มออกวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว อย่างน้อย Leah ก็คงเป็นคนเดียวที่ไล่ตามฉันทัน และฉันก็ได้เริ่มออกวิ่งก่อน





ฉันวิ่งต่อไปเรื่อยๆ เสียงคำรามของพวกเขาค่อยๆเบาลง พวกนั้นยังไล่ตามฉันไม่ทัน




ฉันต้องเตือนพวก Cullens ก่อนที่พรรคพวกของฉันจะมาหยุดฉัน ถ้าพวก Cullens ได้เตรียมตัวก่อนแล้วล่ะก็ อาจจะมีเหตุผลที่ทำให้ Sam ลองคิดดูอีกสักครั้งก่อนที่มันจะสายเกินไป




ฉันมุ่งหน้าไปสู่บ้านหลังนั้น บ้านที่ฉันยังคงรังเกียจมันอยู่ ละทิ้งบ้านของฉันไว้เบื้องหลัง บ้านที่ไม่ได้เป็นของฉันอีกต่อไปแล้ว เพราะฉันหันหลังให้มัน




และแล้วฉันก็จับความรู้สึกของใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังฉันได้ มันไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นความกระตือรือร้น ไม่ใช่การไล่ตาม แต่เป็นการติดตาม




รอก่อนสิ ขาฉันไม่ยาวเท่านายนะ




Seth นายคิดอะไรอยู่เนี่ย กลับบ้านไปซะ




เขาไม่ตอบ แต่ฉันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกตื่นเต้นของเขา ฉันเห็นมันในตาของเขา




ฉันไม่รู้สึกตัวเลยว่าตัวเองกำลังเคลื่อนไหวช้าลง และทันใดนั้นเองเขาก็มาหยุดอยู่ข้างๆฉัน





ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ Seth ที่นี่ไม่มีที่สำหรับนาย ไปให้พ้น




หมาป่าผิวสีแทนตัวนั้นคำรามออกมา ฉันจะระวังหลังให้นาย Jacob ฉันคิดว่านายพูดได้ถูกต้องและฉันจะไม่ยืนอยู่ข้างหลัง Sam เมื่อ....




อ๋อ ใช่สิ นายต้องไปยืนอยู่ข้างหลัง Sam และกลับไปที่ La Push ทำทุกอย่างตามที่ Sam สั่ง





ไม่



ไปเดี๋ยวนี้ Seth




นั่นเป็นคำสั่งเหรอ Jacob




คำถามของเขาทำให้ฉันหยุดชะงัก




ฉันจะไม่ออกคำสั่งอะไรทั้งนั้น ฉันแค่บอกในสิ่งที่นายก็รู้ดีอยู่แล้ว




เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างๆฉัน ฉันจะบอกนายในสิ่งที่ฉันรู้นะ ฉันรู้ดีว่านี่มันเงียบสนิทจนเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น นายไม่สังเกตเหรอ





ฉันกระพริบตา หางของฉันแกว่งไปมาอย่างวิตกกังวล





พวกเขายังไม่ได้ถอยกลับไป Seth บอกฉัน




ฉันรู้ดี ตอนนี้พรรคพวกของเราคงขึ้นสัญญาตเตือนภัยแล้ว พวกเขาคงจะใช้จิตใจเพื่อมองทุกอย่างให้ได้ชัดเจน แต่ฉันก็ไม่อาจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังคิดอยู่ได้ในตอนนี้ ฉันได้ยินแค่ Seth เท่านั้น





ดูเหมือนกับว่าจิตใจของฉันไม่ได้เชื่อมต่อกับพวกนั้นแล้ว เดาว่าคงไม่มีเหตุผลที่พ่อของพวกเราจะรู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะว่ามันไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะแบ่งแยกพรรคพวกของเรา โดยเฉพาะแยกออกมาเหลือแค่สองตัวแบบนี้ ว้าว นี่มันเงียบจริงๆนะ ฉันว่าดีนะ นายว่าไงล่ะ ฉันคิดว่าแบบนี้มันง่ายกว่า แค่อยู่กันสามคน หรือสองคน





Seth นาย หุบปากซะ




ได้ครับ หัวหน้า




หยุดพูดแบบนั้น ตอนนี้มีแค่พรรคพวกเดียวเท่านั้น แล้วก็แค่ “ฉัน” เท่านั้น นายกลับบ้านไปได้แล้ว





ถ้าไม่มีสองกลุ่มแล้วทำไมเราได้ยินกันเองแต่ไม่ได้ยินคนอื่นๆล่ะ นี่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากเมื่อนายหันหลังให้ Sam แบบนั้น




นายก็เข้าใจนิ แต่อะไรก็ตามที่เปลี่ยนไป ก็สามารถเปลี่ยนกลับไปได้เหมือนกัน




เขาลุกขึ้นและเตรียมมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ไม่มีเวลาที่เราจะมาทะเลาะกันตอนนี้แล้ว เราควรรีบไปก่อนที่ Sam ....




เขาพูดถูก ไม่มีเวลาสำหรับมาทะเลาะเรื่องทำนองนี้แล้ว ฉันเริ่มออกวิ่งอีกครั้ง





ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ เขาคิด ฉันไม่ได้ติดตามนายเพราะว่าฉันพึ่งจะได้รับการแต่งตั้ง




นายจะไปไหนก็ได้ตามที่นายปรารถนา ยังไงมันก็ไม่สำคัญสำหรับฉันหรอก




แต่เราก็ยังคงวิ่งต่อไปด้วยกัน ถ้าฉันไม่สามารถรับรู้ความคิดของพรรคพวกเราได้แล้ว มันก็จะยิ่งทำให้เรื่องทุกอย่างยุ่งยากขึ้นไปอีก เพราะว่าฉันไม่


สามารถที่จะเตือนให้พวก Cullens รู้ตัวก่อนพวกนั้นจะโจมตีได้อีกแล้ว





เราจะออกลาดตระเวน Seth เสนอ




และถ้าเกิดเราเจอกับพรรคพวกเราล่ะ เราจะต้องโจมตีพี่น้องเราด้วยมั้ย




ไม่ พวกเราแค่จะเตือนพวกนั้นและถอยไป




เป็นคำตอบที่ดี แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ ... ฉันไม่คิดว่า......




ฉันรู้ เขาเห็นด้วย ฉํนไม่คิดว่าฉันจะสู้กับพวกเขาได้เหมือนกัน แต่พวกเขาก็คงจะไม่อยากที่จะทำร้ายพวกเราด้วย นั่นอาจจะเพียงพอที่ทำให้เราหยุดพวกเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พวกนั้นก็เหลือแค่แปดคนแล้ว





อย่า.....มองโลกในแง่ดีเกินไปเลย มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกประสาทขึ้นไปอีก





ไม่มีปัญหา นายต้องการให้ฉันคิดว่าหายนะกำลังจะเกิดขึ้น หรือว่าแค่หุบปากซะ





แค่หุบปากซะ




โอเค





จริงเหรอ ดูไม่เหมือนอย่างนั้นเลยนะ




แต่แล้วในที่สุดเขาก็เงียบไป


241






 

Create Date : 30 มกราคม 2552   
Last Update : 30 มกราคม 2552 9:03:34 น.   
Counter : 566 Pageviews.  


Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 11.1

11. สองสิ่งที่อยู่ในลิสต์สิ่งที่ฉันไม่อยากทำมากที่สุด





Sam เริ่มบอกรายละเอียดกับคนอื่นๆ ในขณะที่ฉันอยู่ที่พื้น



Embry กับ Quil ยืนอยู่ข้างๆฉัน รอให้ฉันฟื้นขึ้นมา



ฉันรู้สึกได้ถึงแรงปรารถนาที่ต้องการจะเอาชนะมัน แต่ฉันก็ต่อสู้กับมันอย่างไร้ประโยชน์ และยังคงทุรนทุรายอยู่บนพื้นเหมือนเดิม




ทุกคนหวาดกลัวไปหมด เราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าคืนนี้เราทุกคนจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่ เราจะสูญเสียใครไป จิตวิญญาณของใครที่ต้องสูญเสียไปตลอดกาล ครอบครัวไหนจะต้องเป็นผู้สูญเสียและโศกเศร้าในเช้าวันรุ่งขึ้น




ใจของฉันกำลังครุ่นคิดไปในทางเดียวกับพวกเรา พร้อมกันเป็นหมู่คณะ เราต่างวิตกกังวลกับเรื่องเดียวกัน แล้วฉันก็ลุกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ




Embry และ Quil รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น




จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกท้าทายต่องานที่เราได้รับมอบหมาย เรายังจำถึงคืนนั้นที่เราดูพวก Cullens ฝึกซ้อมการต่อสู้กับพวกแวมไพร์เกิดใหม่ได้ดี Emmett เป็นคนที่แข็งแรงที่สุด แต่ Jasper อาจจะเป็นปัญหากับเรามากกว่า เขาเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้า ทั้งพลัง ความเร็ว และการมุ่งจะเอาชีวิตล้วนรวมเป็นหนึ่ง เขามีประสบการณ์ในการต่อสู้มากี่ศตวรรษแล้วนะ และมันก็เกินพอที่จะให้พวก Cullens คนอื่นๆ ปฏิบัติตามสิ่งที่เขาชี้แนะ





ฉันจะจัดการพวกนั้นเอง ถ้านายอยากยืนดูอยู่ด้านข้าง Quil เสนอ มีความตื่นเต้นในใจของเขามากกว่าคนอื่นๆ เมื่อ Quil ดู Jasper สอนพวกเราคืนนั้น เขาก็อยากจะทดสอบกับพวกแวมไพร์แทบตาย สำหรับเขาแล้วนี่เหมือนการแข่งขัน ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นการเอาชีวิตไปเสี่ยง แต่เขาก็ไม่สนใจ Paul ก็ชื่นชอบในการต่อสู้เหมือนกัน รวมถึงเด็กๆอย่าง Collin กับ Brady ด้วย Seth ก็คงจะเป็นเหมือนพวกนั้นถ้าศัตรูคราวนี้ไม่ใช่เพื่อนของเขา




Jake Quil ถองสีข้างฉัน นายจะวางแผนยังไงน่ะ





ฉันส่ายหัวช้าๆ ไม่อาจที่จะฝืนคำสั่งได้เลย รู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นตุ๊กตาที่ถูกชักใย เท้าหนึ่งเดินไปข้างหน้า อีกเท้าก้าวตาม





Seth เดินตามมาอยู่ด้านหลัง Collin กับ Brady ในขณะที่ Leah ไม่สนใจน้องชายของตัวเองเลย เพราะกำลังวางแผนกับคนอื่นอยู่ ฉันรู้ดีว่า Leah ไม่อยากให้ Seth มาร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย เธอมีความรู้สึกของความเป็นเพศแม่ที่ต้องการจะปกป้องน้องชายตัวเอง เธอหวังว่า Sam จะส่งเขากลับบ้าน Seth ไม่ได้รับรู้ว่า Leah อยากให้เขาทำอะไร ตอนนี้เขาก็เป็นตุ๊กตาที่ถูกชักใยเหมือนกับฉัน




บางทีถ้านายหยุดขัดขืนนะ Embry กระซิบบอก




แค่มีสมาธิถึงแผนการของเราเท่านั้น เราก็จะสามารถจัดการพวกมันได้ Quil บ่นกับตัวเอง ราวกับต้องการเรียกความเชื่อมันก่อนศึกใหญ่จะเริ่ม




ฉันรู้ดีว่า มันง่ายขนาดไหนที่จะคิดถึงเฉพาะส่วนของตัวเองเท่านั้น มันไม่ยากที่จะจินตนาการว่าตัวเองกำลังโจมตี Jasper กับ Emmett อยู่ ฉันเห็นพวกเขาเป็นศัตรูมานานแล้ว ฉันคงจะจัดการพวกเขาได้ตอนนี้เหมือนกัน




ฉันพยายามลืมว่าพวกเขาปกป้องสิ่งเดียวกันกับที่ฉันต้องการปกป้อง ฉันต้องลืมเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องการอยากให้พวกเขาชนะ




Jake Embry เอ่ยเตือนฉัน พยายามโฟกัสกับศึกครั้งนี้




เท้าของฉันเคลื่อนไหวแบบเฉื่อยๆ




ไม่มีเหตุผลที่นายจะต่อสู้กับมันนะ Embry กระซิบอีกครั้ง




เขาพูดถูกต้อง สุดท้ายฉันก็ต้องทำตามอย่างที่ Sam ต้องการ




มันมีเหตุผลที่ดีสำหรับอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าหมู่ เราต้องเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน คิดพร้อมกัน เพื่อทำให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด แล้วนั่นก็หมายความว่าต้องให้สมองใช้งานได้ด้วย ไม่ใช่เป็นแบบนี้




แล้วถ้าเกิดว่า Sam ผิดล่ะ ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้อีกแล้ว ไม่มีใครค้านกับคำสั่งของเขาได้




ยกเว้นเสียแต่ว่า




และแล้วก็มีสิ่งที่ฉันไม่เคยต้องการจะคิดถึงมัน แต่ตอนนี้ขาของฉันราวกับถูกผูเอาไว้ ฉันนึกถึงข้อยกเว้นนี้ ด้วยความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ไม่ใช่สิ ด้วยความรู้สึกยินดีต่างหาก




ไม่มีใครสามารถจะขัดคำสั่งของหัวหน้าหมู่ได้ ... ยกเว้นฉัน





ฉันไม่ได้ได้รับอะไรทั้งนั้น แต่ว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิน สิ่งที่ฉันไม่เคยอ้างใช้สิทธิ์กับมัน



ฉันไม่เคยต้องการจะเป็นผู้นำ  ไม่ต้องการแบกรับความรับผิดชอบไว้บนบ่า Sam สามารถทำได้ดีกว่าฉันเยอะ




แต่คืนนี้เขากำลังจะทำผิด




และฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกิดมาเพื่อคุกเข่าให้เขา





สายสัมพันธ์หลุดจากร่างของฉัน ในวินาทีที่ฉันนึกถึงสิทธิที่ฉันมีมาตั้งแต่กำเนิด




ฉันรู้สึกได้ถึงอิสรภาพ และอำนาจของหัวหน้าหมู่ที่แทบจะไม่มีผลต่อฉัน พรรคพวกของเราต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้า และตอนนี้ฉันไม่มีพรรคพวกแล้วนี่นา ในวินาทีนั้นเอง ความรู้สึกโดดเดี่ยวนี้ทำให้ฉันรู้สึกยินดีอย่างมาก





ฉันไม่มีพรรคพวกแล้วตอนนี้




แต่ฉันรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นมากในขณะที่เดินไปหา Sam ที่กำลังวางแผนกับ Paul และ Jared เขาหันมาหาฉัน ตาหรี่ลง




ไม่ ฉันบอกเขาอีกครั้ง




เขาได้ยินทันที ได้ยินทางเลือกฉันที่ราวกับว่าเป็นการตัดสินใจที่มาจากหัวหน้าหมู่ในความคิดของฉัน




เขาถอยหลังกลับไป ด้วยความรู้สึกตกใจ




Jacob นายทำอะไร



ฉันจะไม่ฟังคำสั่งนายอีกแล้ว Sam ไม่ใช่เรื่องนี้ เรื่องที่นายตัดสินใจผิดแบบนี้



เขาจ้องมาที่ฉันด้วยความตะลึง นายกล้า ... กล้าเลือกศัตรูแทนที่จะเลือกครอบครัวของนายงั้นเหรอ



พวกเขาไม่ใช่ ฉันส่ายศีรษะช้าๆ อย่างต้องการความกระจ่าง พวกเขาไม่ใช่ศัตรูของเรา พวกเขาไม่เคยเป็นอย่างนั้น จนกระทั่งฉันคิดว่าจะทำลายพวกเขาจริงๆ คิดโดยรอบคอบแล้ว ฉันก็เลยรู้ได้ว่าพวกนั้นไม่ใช่ศัตรูของเรา



นี่ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเขา เขาตวาดใส่ฉัน มันเกี่ยวกับ Bella เธอไม่เคยเป็นคนรักของนาย เธอไม่เคยเลือกนาย แต่นายก็ยังจะทำลายชีวิตตัวเองเพื่อเธอ




คำพูดเหล่านั้นมันช่างเจ็บปวด แต่ก็เป็นความจริง ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ




นายอาจจะพูดถูกก็ได้ แต่นายกำลังทำลายพรรคพวกของเราเพราะเธอ Sam ไม่ว่าคืนนี้พวกเขาจะรอดตายกี่คน แต่พวกนั้นก็จะฆ่าฆาตกรตายคามือเหมือนกัน




เราต้องปกป้องครอบครัวของเรา




ฉันรับรู้การตัดสินใจของนาย แต่ไม่ต้องตัดสินใจแทนฉันแล้ว




Jacob นายจะหันหลังให้เผ่าพันธุ์ของนายไม่ได้นะ




คำสั่งของหัวหน้าหมู่ไม่มีผลต่อฉันอีกต่อไป




ฉันจ้องไปในตาคู่นั้นของเขา บุตรชายของ Ephraim Black ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำตามคำสั่งบุตรชายของ Levi Uley




เหตุผลนี้เองเหรอ Jacob Black  Paul กับ Jared คำรามอยู่ข้างกายเขา ถึงแม้ว่านายจะต่อสู้กับฉันได้ แต่พรรคพวกของเราจะไม่มีวันทำตามคำสั่งของนาย



สู้กับนายงั้นเหรอ ฉันไม่ได้ต้องการจะสู้กับนายนะ Sam




แล้วนายมีแผนอย่างไรกันล่ะ ฉันคงไม่ยอมถอยไปยืนอยู่เฉยๆเพื่อที่จะให้นายเสียสละเผ่าของเราด้วยการปกป้องลูกของแวมไพร์ตนนั้นหรอกนะ


 




ฉันไม่ได้บอกให้นายถอยไปยืนเฉยๆ




ถ้านายออกคำสั่งให้คนอื่นตามนายไป...




ฉันจะไม่มีวันทำแบบนั้น


 


 


 


235





 

Create Date : 28 มกราคม 2552   
Last Update : 28 มกราคม 2552 12:32:26 น.   
Counter : 517 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  

BaTT~TaBB
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add BaTT~TaBB's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com