Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Episode 7.1
7. สิ่งที่ไม่คาดคิด (Unexpected) ความดำมืดปกคลุมร่างกายฉันราวกับหมอกร้าย ฉันเห็นตาสีแดงสดของพวกเขาส่องประกายด้วยแรงปรารถนา ....แรงปรารถนาที่จะฆ่า ริมฝีปากเผยอออก เผยให้เห็นฟันที่แหลมคม บางคนคำราม บางคนยิ้ม ฉันได้ยินเสียงเด็กคนหนึ่งร้องครวญครางข้างหลังฉัน แต่ฉันไม่กล้าหันไปมอง ถึงแม้ว่าฉันอยากจะรู้ใจจะขาดว่าเขายังปลอดภัยอยู่หรือไม่ แต่ฉันก็ไม่กล้าละสายตาจากสิ่งที่ฉันมองอยู่ตรงนี้ พวกนั้นเคลื่อนกายเข้ามาใกล้มากขึ้น เสื้อคลุมสีดำปกคลุมการเคลื่อนไหวของพวกมัน ฉันเห็นมือที่แสนจะซีดบิดเบี้ยวของพวกนั้น พวกมันเริ่มที่จะแยกออกจากกัน ล้อมพวกเราจากทุกทิศทาง พวกเรากำลังจะตาย และแล้วแสงก็สว่างวาบไปหมด ทำให้บรรยากาศรอบตัวแปรเปลี่ยนไป แต่ไม่มีอะไรจะหยุดไม่ให้พวก Volturi ค่อยๆขยับมาฆ่าพวกเราได้ เหตุการณ์ทุกอย่างราวกับรูปภาพที่ฉันเห็น แต่ทันใดนั้น ฉันรู้สึกกระหายเหลือเกิน ความตกใจกลัวแปรเปลี่ยนเป็นแรงกระหายในเลือดยิ่งทำให้ฉันเคลื่อนไหวไปข้างหน้า รอยยิ้มบนหน้าของฉัน เสียงคำรามดังรอดออกมาจากไรฟัน ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝัน ห้องทั้งหมดเป็นสีดำ อากาศช่างร้อนเหลือเกิน เหงื่อไหลเต็มเส้นผมฉันไปหมด และไหลย้อยลงมาถึงที่คอ ฉันคว้าจับผ้าห่มข้างๆ และพบว่ามันว่างเปล่า "Edward?" แต่แล้ว นิ้วของฉันก็เจอกับบางอย่างที่แบนทื่อ เป็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกพับครึ่งไว้ ฉันหยิบเอากระดาษโน้ตขึ้นมา และลุกขึ้นเดินหาแสงไฟ โน้ตแผ่นนั้นระบุจ่าหน้าถึง Mrs.Cullen ฉันหวังว่าเธอจะไม่ตื่นขึ้นมาและพบว่าฉันหายตัวไป แต่ถ้าเธอตื่นขึ้น ฉันจะรีบกลับมาในไม่ช้า ฉันออกเดินทางไปที่แผ่นดินใหญ่เพื่อล่าเท่านั้น กลับไปนอนเถอะ ฉันจะกลับมาที่นี่เมื่อเธอตื่นขึ้นอีกครั้ง ฉันรักเธอ ฉันถอนหายใจ เรามาที่นี่เกือบจะสองอาทิตย์แล้ว ดังนั้นฉันจึงคาดไว้แล้วว่าเขาจะต้องออกไปบ้าง แต่ฉันไม่ได้สังเกตวันเวลาที่ผ่านไปเลย ดูเหมือนว่าเราจะมีชีวิตอยู่เหนือกาลเวลา ...เวลาที่ค่อยๆผ่านไปท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะวิเศษนี้ ฉันเช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผาก รู้สึกตัวตื่น ถึงแม้ว่านาฬิกาจะบอกเวลาว่าเป็นตีหนึ่งแล้วก็ตามที ฉันรู้ว่าฉันไม่เคยหลับในที่ที่ร้อนและเหนียวเหนอะหนะขนาดนี้ ถ้าฉันจะปิดไฟและหลับตาลง ฉันก็แน่ใจว่าฉันจะเห็นสัตว์ประหลาดสีดำพวกนั้นในหัวของฉันอย่างแน่นอน ฉันจึงตื่นขึ้นและเดินอย่างไร้จุดหมายไปในความมืด เดินไปเปิดไฟ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ช่างกว้างใหญ่และว่างเปล่าเหลือเกินเมื่อไม่มี Edward อยู่ด้วย ฉันเดินมาหยุดที่ห้องครัว ตัดสินใจว่าฉันอาจจะต้องการอาหารเพื่อทำให้จิตใจสงบลง ฉันเดินหาวัตถุดิบไปรอบๆจนพบกับสิ่งที่จำเป็นทุกอย่างที่จะทำไก่ทอด ฉันจึงทอดไก่ในกะทะ กลิ่นของมันโอเคเลยเดียว ฉันรู้สึกวิตกกังวลน้อยลงเมื่อเสียงน้ำมันกระเด็นทำลายความเงียบไปได้บ้าง เพราะกลิ่นของมัน ฉันจึงเริ่มกินไก่ในกะทะเลย ซึ่งมันก็ทำให้ลิ้นฉันเกือบไหม้ พอกัดไปได้ห้าถึงหกคำ มันก็เริ่มเย็นกำลังพอดี ฉันเริ่มเคี้ยวช้าลง มีรสชาติอะไรแปลกไปเหรอ ฉันค่อยๆลิ้มรสไก่ แต่ก็ไม่รับรู้ถึงรสอะไรเลย ฉันสงสัยอย่างมากจึงลองกัดดูอีกครั้ง อ้ากส์ นั่นมันแย่มากเลย ฉันบ้วนมันลงอ่างล่างมือ และทันใดนั้นเองกลิ่นของไก่และน้ำมันก็ทำให้ฉันรู้สึกวิงเวียน ฉันหยิบทั้งจานเทลงไปที่ถังขยะ และเปิดหน้าต่างเพื่อระบายกลิ่นออก ลมเย็นที่พัดผ่านเข้ามาทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน แต่ฉันไม่ต้องการที่จะกลับไปห้องที่แสนจะร้อนนั่นอีกครั้ง ดังนั้นฉันจึงเปิดหน้าต่างและเดินไปห้องที่ดูทีวี ฉันนั่งลงบนโซฟา เปิดหนังเรื่องเดิมที่เราเคยดูด้วยกันมาแล้ว และผลอยหลับไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเพลงเปิดเรื่อง เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พระอาทิตย์ก็อยู่กลางท้องฟ้าแล้ว แต่มันก็ไม่สว่างพอที่จะปลุกฉันขึ้นมา มือเย็นๆของเขาโอบรอบตัวฉัน ดึงฉันไปหาเขา และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ท้องของฉันก็บิดมวน รู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกต่อย "ฉันขอโทษนะ" Edward พึมพำในขณะที่เช็ดเหงื่อบนหน้าผากฉัน "ฉันขอโทษที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบว่าเธอจะร้อนแค่ไหนเมื่อฉันไม่อยู่ ฉันจะให้เขามาติดแอร์ก่อนที่เราจะไปจากที่นี่" ฉันไม่สามารถจดจ่อฟังในสิ่งที่เขากำลังพูด "ขอโทษนะ" ฉันสลัดตัวเขาออก เขาปล่อยตัวฉันโดยอัติโนมัติ "Bella?" ฉันวิ่งไปที่ห้องน้ำพร้อมกับมือรีบปิดปากเอาไว้ ฉันรู้สึกแย่มากๆ ฉันไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าฉันกำลังอยู่กับเขาในขณะที่ฉันอาเจียนลงในโถชักโครก "Bella? เธอเป็นอะไรรึเปล่า" ฉันไม่อาจตอบเขาได้ เขากอดฉันไว้ด้วยความกังวล ปัดผมของฉันออกไม่ให้ปรกหน้า และรอจนกระทั่งฉันหายใจได้อีกครั้ง "โอ๊ย ไอ้ไก่บ้านั่น" ฉันคร่ำครวญ "เธอโอเคมั้ย" เสียงเขาดูเครียดมาก "ฉันสบายดี แค่อาหารเป็นพิษน่ะ เธอไม่ต้องดูมันหรอก ไปเถอะ" "อย่าเลย Bella" "ไปให้พ้น" ฉันคร่ำครวญอีกครั้ง ยันกายให้ลุกขึ้นเพื่อจะได้ปล่อยให้สิ่งนั้นไหลออกจากปากฉัน เขาช่วยฉันอย่างอ่อนโยน ไม่สนใจต่อท่าทีที่ฉันไล่เขาไป หลังจากปากฉันสะอาดดีแล้ว เขาอุ้มฉันไปที่เตียงและนั่งลงข้างๆฉันอย่างระมัดระวัง "อาหารเป็นพิษเหรอ" "ใช่" ฉันไอออกมา "ฉันทำไก่กินเมื่อคืนน่ะ มันรสชาติแย่มาก ฉันเลยทิ้งมันไป แต่ฉันก็กินเข้าไปสองสามคำน่ะ" เขาวางมือบนหน้าผากของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก "เธอรู้สึกอย่างไรบ้างตอนนี้" ฉันคิดทบทวนสักครู่หนึ่ง "เริ่มเป็นปกติแล้วล่ะ จริงๆแล้วฉันรู้สึกหิวนิดหน่อยน่ะ" เขาปล่อยให้ฉันรอประมาณชั่วโมงหนึ่ง และหาน้ำให้ฉันดื่มก่อนที่เขาจะไปทอดไข่ ฉันรู้สึกเกือบจะเป็นปกติแล้ว แค่เหนื่อยนิดหน่อยจากการที่ตื่นเอากลางดึก เขาเปิดช่อง CNN เราช่างไม่รู้เหตุการณ์อะไรเลย สงครามโลกครั้งที่สามอาจจะเกิดขึ้นแล้วก็ได้โดยที่เราไม่รู้อะไรเลย ฉันนอนหนุนตักเขา ฉันรู้สึกเบื่อกับข่าว เลยหมุนตัวขึ้นไปจูบเขา เหมือนเมื่อตอนเช้าฉันรู้สึกปวดท้องมากๆเมื่อขยับตัว ฉันผละออกจากเขา รู้ดีว่าคราวนี้ฉันวิ่งไปห้องน้ำไม่ทันแน่ ฉันเลยวิ่งไปที่อ่างล้างจานที่ห้องครัวแทน เขาจับผมฉันไว้อีกครั้ง "บางทีเราควรจะไปหาหมอที่ Rio นะ" เขาเสนออย่างเป็นกังวลในขณะที่ฉันกำลังบ้วนปาก ฉันส่ายหัวน้อยๆ และเดินไปที่ห้องโถง หมอหมายถึงเข็ม "ฉันจะดีขึ้นหลังจากได้แปรงฟันน่ะ" เมื่อในปากของฉันมีรสชาติดีขึ้น ฉันก็หากล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกระเป๋าเดินทางที่ Alice เตรียมมาให้ฉัน มันมีผ้าพันแผล ยาระงับความเจ็บปวด และนี่ไงสิ่งที่ฉันต้องการ ยา Pepto-Bismol มันอาจจะทำให้ท้องของฉันรู้สึกดีขึ้น และทำให้ Edward ใจเย็นลงด้วย แต่ก่อนที่ฉันจะเจอ Pepto ฉันเจออะไรบางอย่างที่ Alice แพคมาให้ฉัน ฉันหยิบกล้องสีฟ้าใบเล็กๆ ฉันจ้องสิ่งนั้นที่อยู่บนมือของตัวเองเป็นระยะเวลานาน ลืมทุกอย่างสิ้น แล้วฉันก็เริ่มนับในหัวของฉัน ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้กล่องเล็กๆใบนั้นร่วงหล่นไปในกระเป๋าเดินทาง "เธอดีขึ้นมั้ย" Edward ถามฉันผ่านประตู "เธอป่วยอีกรึเปล่า" "ทั้งใช่ แล้วก็ไม่" ฉันบอก เสียงของฉันเย็นยะเยือก "Bella ให้ฉันเข้าไปได้มั้ย" เขาเป็นห่วงฉันมากๆแล้วตอนนี้ "โอ...เค" เขารีบเข้ามาหาฉัน นั่งลงบนพื้นข้างกระเป๋าเดินทาง สิ่งเขาเห็นคือฉันนั่งนิ่ง จ้องไปข้างหน้า สายตาว่างเปล่า เขานั่งลงข้างฉัน มือเขาแตะหน้าผากฉันอีกครั้งหนึ่ง "มีอะไรผิดปกติเหรอ" "นี่กี่วันผ่านมาแล้วตั้งแต่เราแต่งงานกัน" ฉันกระซิบถาม "สิบเจ็ด" เขาตอบโดยอัตโนมัติ "Bella นี่มันอะไรกัน" ฉันเริ่มนับอีกครั้ง นับนิ้ว เตือนให้เขารอก่อน และเอ่ยนับตัวเลขออกมาด้วยตัวเอง ฉันเคยผิดพลาดเรื่องวันมาก่อน เราอยู่นี่นานกว่าที่ฉันคิด ฉันเริ่มนับอีกครั้ง "Bella" เขากระซิบถามอย่างร้อนรน "ฉันใกล้จะบ้าแล้ว" ฉันจะพยายามที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แต่มันไม่เวิร์คเอาซะเลย ดังนั้นฉันจึงเอื้อมไปหยิบกระเป๋าเดินทาง และมองหาจนกระทั่งเจอกล่องสีฟ้าใบนั้นอีกครั้ง และถือมันไว้แน่น เขาจ้องมองฉันด้วยความสับสน "อะไรเนี่ย นี่เธอกำลังจะบอกฉันว่าเธอปวดท้องเมนส์เหรอ" "ไม่ใช่อย่างนั้น Edward ฉันกำลังพยายามจะบอกเธอว่า เมนส์ของฉันมาเลทไปห้าวันแล้ว" สีหน้าของเขายังไม่เปลี่ยน เหมือนกับฉันไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย "ฉันไม่คิดว่าตัวเองอาหารเป็นพิษหรอกนะ" ฉันพูดเสริม "ความฝัน" ฉันพึมพำกับตัวเอง "นอนมากเกินไป ร้องไห้ แล้วก็อาหารนั่น โอ๊ยๆๆๆๆ" สายตาของ Edward ว่างเปล่า ราวกับว่าเขามองไม่เห็นฉันอีกต่อไป โดยสัญชาตญาณ มือของฉันจับที่ท้อง "โอ้" ฉันกรีดร้องอีกครั้ง ฉันผละไปจับเท้าของตัวเอง ปัดมือที่แน่นิ่งของ Edward ฉันดึงวัตถุสีฟ้าออกจากกล่อง แล้วจ้องไปที่ท้องตัวเอง "มันเป็นไปไม่ได้" ฉันแทบไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการตั้งครรภ์หรือเด็กทารกมาก่อนเลยทั้งชีวิต แต่ฉันก็ไม่ได้โง่ ฉันเคยดูหนังและรายการทีวีมากมายแล้วก็รู้ดีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันเคยเข้าใจเลย มันเลทไปแค่ห้าวันเอง ถ้าฉันตั้งครรภ์จริง ร่างกายของฉันคงยังไม่รับรู้ถึงมันหรอก ฉันจะยังไม่มีอาการป่วยตอนเช้า พฤติกรรมการกินอาหารและการนอนของฉันก็ยังไม่น่าเปลี่ยนไป ฉันมองไปที่ท้องของตัวเอง หมุนตัวไปมา ตรวจสอบมันจากทุกมุม ฉันใช้นิ้วสัมผัสไปที่ท้อง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าใต้ผิวของฉันมันแข็งมากๆ "มันเป็นไปไม่ได้" ฉันเอ่ยอีกครั้ง มีเมนส์หรือไม่มีเมนส์ (และฉันรู้ดีว่าเมนส์ฉันผิดปกติแน่นอน เพราะมันไม่เคยมาเลทเลยตลอดทั้งชีวิตฉัน) ไม่มีทางที่ฉันจะตั้งครรภ์ได้เลย เพราะฉันเคยมีเซ็กซ์กับคนเพียงคนเดียวเท่านั้นแล้วเขาก็เป็นแวมไพร์ ฉันอาจจะกรีดร้องออกมา แวมไพร์ที่ยังคงแน่นิ่งอยู่บนพื้น โดยปราศจากวี่แววว่าจะขยับอีกครั้ง ดังนั้นมันน่าจะมีคำอธิบายอื่นสิ มีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับฉัน อาจจะเป็นโรคที่แปลกประหลาดของทางอเมริกาใต้ก็ได้ อาจจะมีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ แค่อาการมันเกิดขึ้นเร็วมาก.... และแล้วฉันจะจำอะไรบางอย่างได้ เช้าวันนั้นที่ฉันทำวิจัยเกี่ยวกับแวมไพร์ ในเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า แวมไพร์ A-Z รู้สึกว่าจะเป็นเวลาหลังจากที่ Jacob พยายามบอกอะไรบางอย่างแก่ฉัน .. ใช่แล้วเขาบอกฉันว่า Edward เป็นแวมไพร์ ตำนานเกี่ยวกับเรื่องนี้มีอยู่ทั่วโลก Danag, Hebrew, Romaninan, Italian ฉันจำมันได้อย่างเลือนรางเหลือเกิน แล้วฉันก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับอัตราการเกิดของทารก ไม่หรอก ที่รัก ฉันไม่ได้มีชู้นะ ผู้หญิงที่เธอเห็นนั่นมันเป็นสัตว์ประหลาดกระหายเลือด ฉันโชคดีเหลือเกินที่หนีออกมาทัน มีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทำไมเธอถึงกล่าวหาว่าฉันมีชู้ล่ะ แค่เพราะว่าเธอกลับมาบ้านหลังจากไปออกเรือมาสองปี และฉันตั้งท้องน่ะเหรอ นั่นมันสัตว์ประหลาด เขาล่อลวงฉันด้วยอำนาจแวมไพร์ที่ลึกลับ.... นั่นเป็นคำจำกัดความของสัตว์ประหลาดที่สามารถทำให้เหยื่อตั้งครรภ์ได้ ฉันส่ายหัวออกมาเบาๆ ...ไร้สาระน่ะ แต่ ฉันคิดถึง Esme กับ Rosalie แวมไพร์ไม่สามารถมีลูกได้นี่นา ถ้ามันเป็นไปได้ Rosalie ก็คงหาทางได้แล้ว ตำนานเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนั่นอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่า ....เออ มันไม่เหมือนกันนะ แน่นอนว่า Rosalie ไม่สามารถมีลูกได้ เพราะร่างกายของเธอถูกแช่แข็งตั้งแต่เธอเปลี่ยนจากมนุษย์เป็นอมนุษย์ ร่างกายของเธอไม่ได้เปลียนแปลงไปเลย และร่างกายของผู้หญิงต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับลูกที่จะเกิดขึ้นมา การเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักรเล็กๆน้อยๆ จนกระทั่งท้องใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับเด็กที่อยู่ในครรภ์ แต่ร่างกายของ Rosalie เปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว แต่ร่างกายของฉันสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ และมันก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ฉันจับท้องตัวเองเบาๆและสัมผัสถึงก้อนแข็งๆที่ฉันสัมผัสไม่เจอเมื่อวาน และผู้ชายล่ะ ฉันนึกถึง Charlie Chaplin ที่มีลูกตอนเขาอายุเจ็ดสิบ ผู้ชายไม่มีกำหนดระยะเวลา "มีบุตร" ซะหน่อย แน่นอน ใครจะไปรู้ว่าแวมไพร์สามารถเป็นพ่อคนได้ ในเมื่อคู่ของมันไม่สามารถจะมีได้ จะมีแวมไพร์ตัวไหนกันที่จำเป็นจะทดสอบทฤษฎีนี้กับผู้หญิงกันล่ะ ฉันคิดได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น
Create Date : 21 มกราคม 2552 |
Last Update : 21 มกราคม 2552 22:16:03 น. |
|
19 comments
|
Counter : 680 Pageviews. |
|
 |
|
บางทีภาษาอาจจะมีประหลาดๆบ้าง เพราะว่าแต๊ปแปลสดนะคะ ไม่ค่อยได้อ่านทวน แต่ก็อ่านพอจะรู้เรื่อง
อ่าว ทำไงดีล่ะทีนี้ อยู่ๆดี Bell มาพบว่าตัวเองท้องซะแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ต่อไปล่ะเนี่ย
โปรดติดตามตอนต่อไปวันพรุ่งนี้ค่ะ :)
ตอนสุดท้ายของเล่มหนึ่งแล้ว
ประมาณ หนึ่งในหกของเล่ม 555+