Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Episode 6.3
เขากัดฟันกรอด
"เราจะอยู่นี่กันได้อีกนานเท่าไรเหรอ" ฉันถาม
"เราไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาหรอก ถ้าเธออยากอยู่นี่ต่ออีกสักสองสามสัปดาห์ก็ได้นะ แล้วเราจะไปเยี่ยม Charlie ก่อนที่เราจะไป New Hampshire เราอาจจะใช้เวลาช่วง Christmas กับ Renee ...."
ราวกับว่าเขากำลังวาดฝันถึงอนาคตที่สุดแสนจะมีความสุข .... อนาคตที่ไม่มีใครต้องมารู้สึกเจ็บปวด ลิ้นชักของฉันที่เก็บความคิดเรื่อง Jacob เอาไว้ได้ถูกแง้มขึ้นมาอีกครั้ง
นี่มันไม่ง่ายเลย ตอนนี้ฉันค้นพบแล้วว่าเป็นมนุษย์มันดีอย่างไร ความเป็นมนุษย์มันช่างน่าเย้ายวนเหลือเกิน จนทำให้ฉันชักจะอยากเปลี่ยนแผนซะแล้ว อายุ 18 หรือ 19 19 หรือ 20 มันสำคัญจริงเหรอ ตัวฉันเองก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไรในแต่ละปี และการได้อยู่ร่วมกับ Edward ในขณะที่ฉันยังเป็นมนุษย์ ... มันก็น่าสนใจเพิ่มขึ้นทุกวันๆ
"สองถึงสามสัปดาห์แหล่ะ" ฉันตกลง และแล้วดูเหมือนว่าเวลาจะไม่รอใคร ฉันจึงบอกเขาต่อไปว่า "ดังนั้น ฉันกำลังคิดว่า ... เธอก็รู้ใช่มั้ยว่าฉันพูดถึงเรื่องฝึกฝนตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วน่ะ"
เขาหัวเราะ "เธอจะช่วยหยุดความคิดนั้นไว้ก่อนจะได้มั้ย ฉันได้ยินเสียงเรือ ฉันคิดว่าพวกพนักงานทำความสะอาดกำลังมาที่นี่"
เขาอยากให้ฉันหยุดความคิดนั้นไว้ก่อน แปลว่าเขาจะไม่ทำตัวเป็นปัญหาเรื่องนั้นแล้วใช่มั้ย ฉันอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
"ให้ฉันอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนอนสีขาวกับ Gustavo ก่อนนะ แล้วเราค่อยออกไปข้างนอกกัน มันมีป่าแห่งหนึ่งทางตอนใต้..."
"ฉันไม่อยากออกไปข้างนอก ฉันจะไม่ปีนเขาไปทั่วเกาะหรอกนะวันนี้ ฉันอยากจะอยู่ดูหนังอยู่ที่นี่"
เขาเม้มปาก พยายามที่จะไม่หัวเราะกับท่าทีของฉัน "โอเค เธอสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจเธอเลย ทำไมถึงไม่เลือกสักเรื่องหนึ่งตอนฉันไปที่ประตูล่ะ"
"ฉันไม่เห็นได้ยินเสียงเคาะประตูเลย"
เขาโน้มตัวไปด้านหน้า และหยุดฟัง วินาทีต่อมาก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วเขาก็เดินไปที่ห้องโถงทันที
ฉันกำลังยุ่งอยู่ใต้ทีวีหาหนังที่อยากดู ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มมองหาจากตรงไหนดี มันมีมากกว่าร้านเช่า DVD ทั้งร้านเสียอีก
ฉันได้ยินเสียงของ Edward เบาๆ จากทางเดิน ฉันเดาว่าเขาคงพูดภาษาโปรตุเกสอยู่ และฉันก็ได้ยินคนๆหนึ่งพูดตอบโต้ด้วยภาษานี้กับเขาเช่นกัน
Edward พาพวกเขาไปที่ห้อง คนบราซิลเลี่ยนทั้งสองคนดูเตี้ยและคล้ำอย่างเหลือเชื่อเมื่อยืนอยู่ข้างเขา คนหนึ่งเป็นผู้ชายตัวกลม ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงผอมๆคนหนึ่ง Edward แนะนำฉันด้วยรอยยิ้มที่แสนจะภาคภูมิใจ และฉันได้ยินชื่อตัวเองผสมกับภาษาที่ฉันไม่เข้าใจ ฉันหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงสภาพในห้องนอนสีขาวที่พวกเขาจะเจอ ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้ฉันด้วยความสุภาพ
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ยิ้ม เธอจ้องมาที่ฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจปนกังวล และตาก็เธอก็เบิกกว้างด้วยความกลัว ก่อนที่ฉันจะมีปฏิกริยาอะไร Edward ก็พาพวกเขาไปที่ห้องนั้น
เมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็อยู่เพียงลำพังแล้ว เขาเดินมาหาฉันและโอบฉันไว้
"เธอมีอะไรเหรอ" ฉันกระซิบถามทันที จำได้จากท่าทีที่ดูตกใจกลัวของเธอ
"เธอถูกเลี้ยงดูมาให้มีญาณพิเศษน่ะ หรือเธอจะเรียกว่า "รู้ถึงการมีตัวตนอยู่" มากกว่าพวกที่อาศัยอยู่ในโลกปัจจุบันน่ะ เธอสงสัยว่าฉันเป็นใคร ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะ" เขายังคงไม่กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น "เขามีตำนานของตัวเองกันที่นี่ด้วย พวก Libishomen หรือพวกปีศาจกระหายเลือด ที่จะลวงหญิงสาวที่ความงดงามเป็นเลิศให้ตกเป็นเหยื่อเท่านั้น"
หญิงสาวที่มีความงดงามเป็นเลิศเหรอ ... นั่นทำให้ฉันรู้สึกเขินนะ
"เธอดูตกใจกลัวมากเลย" ฉันเอ่ยออกมา
"ผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาเป็นห่วงเธอนะ"
"ฉันน่ะเหรอ"
"เธอกลัวว่าทำไมฉันอยู่กับเธอที่นี่เพียงลำพังแค่สองคนน่ะ" เขาหัวเราะออกมาเบาๆ และมองไปที่หนังจำนวนมากมายที่อยู่ตรงหน้า "อ่าว แล้วทำไมเธอถึงไม่เลือกล่ะว่าเราจะดูอะไรกันดี นั่นเป็นสิ่งที่มีแต่มนุษย์เขาทำกันนะ"
"แน่นอน ฉันมั่นใจว่าเธอคงจะเชื่อสนิทใจว่าเธอเป็นมนุษย์ถ้าเรานั่งดูหนังด้วยกัน" ฉันหัวเราะออกมา แล้วก็รวบต้นคอเขาเอาไว้ ยืดตัวขึ้น เขาต้องโน้มตัวลงมาเพื่อให้ฉันสามารถจูบเขาได้ แล้วเขาก็ยกตัวฉันขึ้น เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องก้มลงมาจูบฉัน"
"ห...นั..ง" ฉันพึมพำเบาๆขณะที่ริมฝีปากของเขาไล่ลงมาที่ลำคอของฉัน และฉันก็หมุนผมเขาเล่น
ทันใดนั้นเองฉันได้ยินเสียงกรอบ และเขารีบวางฉันลงทันที Kaure ยืนตัวแข็งอยู่ที่ห้องโถง ขนนกติดอยู่ที่ผมของเธอเต็มไปหมด ในมือของเธอมีถุงใส่ขนนกถุงใหญ่ หน้าตาของเธอดูตกใจกลัวอย่างมาก เธอจ้องมาที่ฉันในขณะที่ฉันรู้สึกเขินและก้มมองลงต่ำ และแล้วผู้หญิงคนนั้นก็มีสติขึ้นมาและพึมพำอะไรบางอย่างเป็นภาษาที่ฉันไม่คุ้นเคย แต่ฉันก็พอจะเข้าใจว่าเป็นคำขอโทษ Edward ยิ้มให้เขาและตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นมิตร เธอหันไปทางด้านอื่นทันทีและเดินผ่านห้องโถงไป
"เธอกำลังว่าฉันคิดว่าเธอคิดอะไรอยู่ ใช่มั้ย" ฉันพึมพำ
เขาหัวเราะในประโยคอันแสนจะงงงวยของฉัน "ใช่แล้ว"
"นี่" ฉันเลือกหนังแบบเดาสุ่ม "ใส่แผ่นนี้สิ และทำเป็นว่าเรากำลังดูหนังเรื่องนี้อยู่"
หน้าปกดูเป็นหนังเพลงโบราณ
"เหมาะกับการฮันนีมูนมากๆ" เขาเห็นด้วย
ในขณะที่ตัวเองบนจอกำลังเต้นไปรอบๆด้วยบทเพลงแนะนำตัว ฉันกลิ้งไปกลิ้งมาบนโซฟา ระดมจูบไปบนแขนของ Edward
"เราจะกลับไปที่ห้องสีขาวได้รึยัง" ฉันถามอย่างเว้าวอน
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ...ฉันฉีกกรอบรูปของอีกห้องไปเรียบร้อยแล้ว ...เราควรจะจำกัดการทำลายข้าวของอยู่เพียงแค่บริเวณเดียวของบ้าน Esme จะได้เชิญเรามาพักที่นี่อีกครั้งในอนาคต" ฉันยิ้มกว้าง "แปลว่าจะมีการทำลายข้าวของอีกใช่มั้ย" เขาหัวเราะกับท่าทีของฉัน "ฉันคิดว่ามันจะปลอดภัยยิ่งขึ้นถ้าเราไตร่ตรองกันไว้ก่อน มากกว่าที่จะรอให้เธอมาขู่ทำร้ายฉันอีกครั้ง" "มันก็แค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น" ฉันเห็นด้วย แต่ชีพจรฉันเต้นเร็วเหลือเกิน "มีอะไรเกิดขึ้นกับหัวใจของเธอเหรอ" "ไม่มีอะไรนี่ หัวใจของฉันแข็งแรงจะตาย ราวกับม้าเลย" ฉันหยุดก่อนที่จะเอ่ยต่อไปว่า "เธออยากให้ฉันไปเซอร์เวย์ที่โซนที่เราสามารถทำลายข้าวของได้เดี๋ยวนี้เลยมั้ย" "บางทีมันอาจจะเป็นการดีกว่าถ้าเรารอจนกระทั่งเราอยู่กันตามลำพังนะ เธออาจจะไม่สังเกตว่าฉันทำลายเฟอร์นิเจอร์พังไปเท่าไรแล้ว แต่มันจะทำให้พวกเขากลัว" แต่อันที่จริง ฉันลืมไปแล้วว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องด้วย "อ่อ งั้นก็ได้" Gustavo และ Kaure เดินไปมาภายในบ้านอย่างเงียบๆ ในขณะที่ฉันอดทนรอจนแทบจะรอไม่ไหวอยู่แล้ว ฉันจึงพยายามสนใจหนัง "เราจะมีความสุขด้วยกันตลอดกาล" บนจอทีวีต่อไป ฉันเริ่มที่จะรู้สึกง่วงนอน ทั้งๆที่ Edward ก็บอกฉันแล้วว่าฉันพึ่งนอนไปครึ่งวันเต็มๆ Edward ลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงของ Gustavo เขากอดฉันไว้ในขณะที่ตอบโต้ Gustavo เป็นภาษาโปรตุเกส เขาพยักหน้าและเดินไปที่ประตูอย่างเงียบๆ "พวกเขาทำเสร็จแล้ว" Edward บอกฉัน "ซึ่งนั่นก็แปลว่าเราอยู่ตามลำพังแล้วใช่มั้ย" "เธอจะกินข้าวกลางวันก่อนมั้ย" เขาเสนอขึ้นมา ฉันกัดปากแน่น ด้วยอารมณ์กลืนไม่เข้าคากไม่ออก แต่ฉันก็หิวมากๆ เขาเอื้อมไปจับมือฉัน และพาฉันไปทีี่ห้องครัว เขาอ่านสีหน้าท่าทางฉันได้ดีถึงแม้ว่าจะอ่านใจฉันไม่ได้ก็ตาม "นี่ชักจะไม่ไหวแล้วนะ" ฉันบ่นเมื่อฉันรู้สึกอิ่มมากๆ "เธออยากไปว่ายน้ำกับปลาโลมาก่อนมั้ย เพื่อจะผลาญแคลอรี่ไง" เขาถาม "ฉันว่าไว้ทีหลังดีกว่า ฉันมีไอเดียที่ดีกว่านั้นที่จะเผาผลาญแคลอรี่" "คืออะไรเหรอ" "อ๋อ มี กรอบรูปน่าเกลียดอันหนึ่งหลืออยู่น่ะ" ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ เขาก็อุ้มฉันไว้ ...และริมฝีปากของเขาก็ทำให้ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น เขาแบกฉันไปที่ห้องสีฟ้าด้วยความรวดเร็ว
Free TextEditor
Create Date : 21 มกราคม 2552 |
Last Update : 21 มกราคม 2552 19:18:36 น. |
|
22 comments
|
Counter : 927 Pageviews. |
|
 |
|
ตอนนี้อยากแปล Midnight Sun มาก
เพราะอ่านจบแล้ว กรี๊ดดดดดด สุดๆๆ
ทำให้ต้องกลับไปอ่าน Twilight อีกรอบ
ถ้าอ่านคู่กัน จะเวิร์คมากเลยค่ะ
เลยคิดว่า ตอนที่แปล Midnight Sun เนี่ย
จะยกบางส่วนของ Twilight มาด้วย
จะได้รู้ว่าสองคนนี้เค้าคิดว่าอีกคนคิดยังไงกันแน่ :)
ขอตัวไปทานข้าวสักครู่นะคะ