Breaking Dawn (Twilight Saga IV) Copyright for non-commercial use ONLY
 
 

Midnight Sun (Twilight Saga V) - Chapter 1.1

ต้นฉบับของนิยายฉบับนี้มาจากหน้าเว็บบลอคของทางผู้แต่งโดยตรง


บลอคนี้มีไว้เพื่อผู้ชื่นชอบนิยายเรื่องนี้เท่านั้น มิได้ทำเพื่อการค้าแต่อย่างใด



1. พบกันครั้งแรก


 


 


 


นี่เป็นช่วงเวลาที่ฉันคิดว่า ตัวเองจะหลับไปซะได้


 


 


โรงเรียน ... ชีวิตนักเรียน ม.ปลาย


 


 


หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้อง ก็เป็นสถานที่ที่เรามาอยู่เพื่อไถ่บาป ถ้ามีทางไหนที่พอจะชดเชยบาปที่เราเคยก่อขึ้นมาได้ ก็ขอให้นับว่าสิ่งนี้เป็นหนทางหนึ่งด้วยเถอะ ฉันไม่คุ้นเคยกับความน่าเบื่อหน่ายเช่นนี้ แต่ทว่าทุกๆวันที่ผ่านไปก็เหมือนเช่นเดิม ..... เหมือนดั่งเช่นวันวานไม่เปลี่ยนแปลง


 


ฉันเดาว่านี่ฉันคงกำลังหลับอยู่ ถ้าการหลับถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นการที่ฉันรู้สึกเอื่อยๆเฉื่อยๆแบบนี้



ฉันได้ยินเสียงมากมายอยู่ที่หัวมุมสุดโรงอาหารนั่น จินตนาการถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ที่นั่น มันมีทางเดียวที่ฉันจะสามารถปิดเสียงเหล่านั้นได้ 


 


 


 


 


เสียงนับร้อยที่ฉันเบื่อที่จะฟัง


 


 


 


 


เมื่อมาถึงจิตใจของมนุษย์ ฉันก็ได้ยินมันหมดทุกอย่าง ตอนนี้ทุกความคิดมุ่งประเด็นไปที่นักเรียนใหม่ที่พึ่งมาที่นี่ มันใช้เวลาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่จะนั่งอ่านใจของทุกคนที่กำลังคิดถึงเธอคนนั้นอยู่ ฉันเห็นหน้าเธอซ้ำไปซ้ำมาจากทุกความคิด จากทุกมุมมอง ก็แค่มนุษย์ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ความตื่นเต้นที่มีต่อการมาถึงของเธอก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ เหมือนของเด็กเล่นที่มีแสงวิบวับ ผู้ชายเกือบครึ่งโรงเรียนกำลังจินตนาการว่าเขาเหล่านั้นมีความรักกับเธอ นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอเป็นสิ่งใหม่สำหรับพวกเขา ฉันต้องพยายามอย่างมากที่จะลบเสียงจากความคิดเหล่านี้ออกไป


 


 


 


 


 


มีแค่เพียงสี่เสียงเท่านั้น ที่ฉันให้ความสนใจ เสียงจากพี่ชายและน้องชายทั้งสี่ของฉัน ผู้ซึ่งคุ้นเคยกับการถูกละเมิดสิทธิส่วนตัวโดยฉัน ฉันพยายามให้ความเป็นส่วนตัวแก่พวกเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันพยายามไม่ฟังเสียงเหล่านั้น


 


 


 


 


 


 


พยายามให้มากที่สุด แต่ฉันก็ยังคงรับรู้ถึงมันอยู่ดี


 


 


 


 


 


 


Rosalie กำลังคิดถึงตัวเองเหมือนเช่นทุกครั้ง เธอมองตัวเองจากแสงสะท้อนของแว่นตาใครสักคน และเธอก็ภาคภูมิใจในความสมบูรณ์แบบของตัวเอง จิตใจของ Rosalie ราวกับสระน้ำที่ตื้นเขิน สามารถคาดเดาได้ง่าย มีเรื่องให้แปลกใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


 


 


 


 


Emmett กำลังอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อคิดถึงแมตช์ยกน้ำหนักที่เขาแพ้ให้กับ Jasper เมื่อคืน มันทำให้เขาต้องใช้ความอดทนที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อรอให้ถึงเวลากเลิกเรียนแล้วจะได้ไปขอท้าแข่งอีกครั้ง ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองกำลังบุกรุกแอบฟังความคิดของเขา เพราะว่าเขาไม่เคยคิดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อนที่จะได้ตะโกนออกมาเสียงดัง หรือทำมันลงไปทันที บางทีฉันอาจจะแค่รู้สึกผิดที่แอบอ่านความคิดของคนอื่นเพราะว่าฉันรู้ดีว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ฉันได้รู้สิ่งนั้น ถ้าจิตใจของ Rosalie เหมือนสระน้ำที่ตื้นเขินแล้วล่ะก็ จิตใจของ Emmett ก็เหมือนทะเลสาปที่ไร้เงา ใสราวกับแก้ว


 


 


 


 


และ Jasper กำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ฉันต้องถอนหายใจออกมา




Edward Alice เรียกชื่อฉัน ในหัวของเธอ ทำให้ฉันสนใจเธอทันที





มันก็เหมือนกับการที่เธอเรียกชื่อฉันดังๆนั่นแหล่ะ ฉันดีใจที่ชื่อของฉันออกจะดูโบราณไปซะหน่อยสำหรับยุคสมัยนี้ แต่ฉันก็รำคาญเหมือนกัน เพราะเมื่อใครก็ตามคิดถึงชื่อนี้ ฉันก็หันไปฟังโดยอัตโนมัติ





ตอนนี้ฉันไม่ได้หันไปฟัง Alice กับฉันสามารถพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวได้อย่างดี หายากมากที่ใครจะจับเราได้ ฉันจ้องลงไปที่แผ่นพลาสเตอร์




เขาเป็นอย่างไรบ้าง เธอถามฉัน





ฉันทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ก็แค่ทำปากเปลี่ยนไปเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันต้องแสดงออกอย่างมากมาย ฉันก็เคยทำหน้าตาแบบนี้เพราะแค่รู้สึกเบื่อๆเหมือนกัน





เสียงของ Alice ปลุกฉันขึ้นมาจากความคิดของตัวเอง และฉันก็ได้เห็นในใจของเธอว่าเป็นอย่างไร เธอกำลังเฝ้าดู Jasper ในมโนภาพของเธอ มีอันตรายอะไรเหรอ เธอลองค้นหาไปข้างหน้า พยายามก้าวล่วงเข้าไปที่อนาคตอันใกล้ พาดผ่านหลายๆมโนภาพเบื้องหลังฉัน




ฉันหันศีรษะอย่างช้าๆไปทางซ้าย ราวกับว่ากำลังหันไปมองอิฐที่กำแพง ถอนหายใจ และหันไปทางวา ไปดูรอยแตกบนเพดาน มีแค่ Alice เท่านั้นที่รู้ว่าฉันกำลังส่ายหัวอยู่




เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น บอกฉันนะถ้ามีอะไรแย่ๆเกิดขึ้น





ฉันแค่เคลื่อนลูกตา ไปทางด้านบนเพดาน และมองลงมา





ขอบคุณนะที่ทำเพื่อฉัน





ฉันรู้สึกดีที่ไม่ได้ตอบรับเธอออกไปดังๆ จะให้ฉันพูดอะไรกันล่ะ ด้วยความยินดีงั้นเหรอ มันแทบจะไม่ใช่แบบนั้นเลย ฉันไม่ได้รู้สึกดีที่จะมานั่งฟัง Jasper คร่ำครวญแบบนี้ นี่มันจำเป็นจะต้องทดลองอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ จะไม่ปลอดภัยกว่าเหรอถ้าเราจะยอมรับว่าเขาไม่มีทางรับมือกับความกระหายเลือดได้อย่างที่พวกเราทุกคนทำ และเลิกผลักขีดจำกัดความอดทนของเขาซะ ทำไมเราถึงต้องก้าวไปเผชิญหน้ากับหายนะด้วย





นี่ก็สองอาทิตย์แล้วตั้งแต่หนสุดท้ายที่พวกเราออกไปล่าสัตว์ ไม่ยากเย็นอะไรเลยสำหรับพวกเราทุกคนเลยในช่วงเวลาแค่สองอาทิตย์แบบนี้ เพียงแต่จะรู้สึกไม่สบายนิดหน่อยเมื่อมนุษย์เดินเข้ามาใกล้เกินไป และลมพัดมาผิดทาง แต่มนุษย์แทบจะไม่เดินเข้ามาใกล้พวกเราอยู่แล้ว สัญชาตญาณของพวกนั้นแสดงออกในสิ่งที่จิตใต้สำนึกไม่มีวันจะเข้าใจ  ว่าเราอันตรายมากขนาดไหน





Jasper อันตรายมากๆตอนนี้





และช่วงเวลานี้เอง มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเดินมาหยุดที่โต๊ะที่ใกล้พวกเรามากที่สุดเพื่อคุยกับเพื่อน เธอเอานิ้วสยายผมของตัวเอง ความร้อนพัดผ่านทำให้กลิ่นของเธอพุ่งตรงมายังทิศทางของเรา ฉันเคยชินกับกลิ่นที่ทำให้ฉันรู้สึก ... แห้งผากในลำคอ รู้สึกหิวขึ้นมานิดหน่อย และปฏิกิริยาเกร็งกล้ามเนื้อโดยอัตโนมัติ รวมไปถึงการที่ปากของฉันเต็มไปด้วยพิษ.................





นี่ก็เป็นแค่เรื่องธรรมดา เป็นปกติธรรมดาที่เราจะเพิกเฉยมันไปได้โดยง่าย แต่ตอนนี้มันยากขึ้น ด้วยความรู้สึกของ Jasper ตอนนี้ เขากำลังกระหายเลือดอย่างมาก




Jasper กำลังปล่อยให้จินตนาการล่องลอยไป เขากำลังวาดภาพ .... วาดภาพว่าตัวเขาเองที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ Alice ลุกขึ้นไปยืนข้างๆเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆนั่น คิดว่าจะทำเป็นโน้มตัวเข้าไป ราวกับว่าเขาต้องการ...เข้าไปกระซิบที่ข้างหูของเธอ และปล่อยให้ริมฝีปากนั่นกัดเข้าไปที่คอของเธอ ลองคิดดูว่าเลือดสดๆภายใต้ชีพจรนั่นอยู่ในริมฝีปากจะทำให้รู้สึกดีขนาดไหน




ฉันเตะเก้าอี้





เขาหันมามองฉันสักครู่ แล้วก็มองลง ฉันสัมผัสได้ถึงนความละอายและได้ยินการต่อสู้ในจิตใจของเขา





“ขอโทษด้วย” เขาพึมพำ


ฉันยักไหล่


“เธอจะไม่ทำอะไรหรอก” Alice พึมพำกับเขา ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น “ฉันเห็นมัน”





ฉันพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ เพื่อช่วยสนับสนุนคำโกหกของเธอ  Alice กับ ฉันต้องอยู่ใกล้กันไว้ มันไม่ง่ายเลยที่จะได้ยินความคิดคนอื่น หรือ มองเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราปกป้องความลับซึ่งกันและกัน





“มันจะช่วยเธอมากขึ้นถ้าเธอคิดซะว่าพวกเขาเป็นมนุษย์” Alice เสนอแนะ เสียงสูงๆที่เหมือนกับเสียงดนตรี เปล่งออกมาอย่างรวดเร็วจนทำให้หูของมนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ “ชื่อของเธอคือ Whitney เธอมีน้องสาวคนหนึ่งที่เธอรักมาก แม่ของเธอเคยเชิญ Esme ไปงานปาร์ตี้ในสวนด้วย เธอจำได้มั้ย”





“ฉันรู้ว่าเธอคือใคร” Jasper เอ่ยสั้นๆ เขาหันหนีไปมองหน้าต่างเล็กๆที่อยู่อีกทางหนึ่ง โทนเสียงของเขาราวกับว่าต้องการสิ้นสุดบทสนทนา ณ บัดนั้น


เขาต้องออกไปล่าคืนนี้ มันงี่เง่ามากที่จะมาเสี่ยงอะไรแบบนี้ พยายามที่จะทดสอบความเข้มแข็งของเขา พยายามทำให้เขาสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา Jasper ควรจะยอมรับลิมิตของตัวเอง และไม่ควรจะผลักตัวเองมาทางนี้




Alice ถอนหายใจเงียบๆ และเดินไปเก็บถาดอาหาร ปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง เธอรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการกำลังใจของเธออย่างเพียงพอ ถึงแม้ว่า ความสัมพันธ์ของ Rosalie และ Emmett จะดูชัดเจนมากกว่า แต่ก็เป็น Alice กับ Jasper ที่ดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายราวกับว่าเป็นของตัวเอง ราวกับว่าพวกเขาสามารถอ่านใจของกันและกันได้




Edward Cullen




ปฏิกิริยาตอบสนองโดยอัตโนมัติต่อเสียงเรียกนี้ หันไปหาทิศที่ฉันได้ยินใครเรียกชื่อฉัน ถึงแม้ว่าเขาจะแค่คิด แต่ไม่ได้เปล่งเสียงออกมาก็ตามที




สายตาของฉันมองไปเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่กำลังเบิกกว้าง .... ตาสีน้ำตาลช๊อคโกแลตนั่น ที่อยู่บนดวงหน้าขาวซีด ใบหน้ารูปหัวใจ ฉันรู้จักใบหน้านั่น ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นมันมาก่อนจนถึงบัดนี้ มันปรากฏชัดเจนในความคิดของนักเรียนทุกคนวันนี้ นักเรียนใหม่คนนั้น Isabella Swan ลูกสาวของสารวัตรตำรวจประจำเมือง เธอต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยสถานการณ์ที่เหมือนถูกกักตัวไว้ Bella เธอแก้ชื่อตัวเองทุกครั้งเมื่อใครก็ตามเรียกชื่อเต็มของเธอ





ฉันมองไปไกล เริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมา แต่แล้วฉันก็รู้ได้ว่า เธอไม่ใช่คนเดียวที่กำลังคิดถึงฉัน





เธอต้องแอบชอบพวก Cullens แน่นอน ฉันได้ยินความคิดแรก ก่อนที่มันจะดำเนินต่อไป


5








 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2552 17:33:39 น.   
Counter : 1201 Pageviews.  



BaTT~TaBB
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add BaTT~TaBB's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com