Breaking Dawn (Twilight Saga IV) Copyright for non-commercial use ONLY
 
Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 5.1

5. ISLE ESME


 


"Houston เหรอ" ฉันเอ่ยถาม พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเราถึง Seattle


 


"แค่หยุดก่อนไปต่อน่ะ" Edward ทำให้ฉันมั่นใจด้วยรอยยิ้มนั้น


 


มันรู้สึกราวกับว่าฉันแทบไม่ได้นอนเลยเมื่อตอนที่เขาปลุกฉัน ฉันรู้สึกเพลียมากเมื่อเขาลากฉันผ่านอาคารผู้โดยสาร พยายามที่จะลืมตาขึ้นทุกครั้งที่กระพริบตา เขาพาฉันไปที่เคาท์เตอร์เพื่อเช็คอินไปไฟลท์ต่อไป


 


"ริโอ เดอจานิโรเหรอ" ฉันถามด้วยความรู้สึกกลัวเล็กน้อย


 


"ก็แค่ทางผ่านน่ะ" เขาบอกฉัน


 


ไฟลท์ที่จะไปอเมริกาใต้นั้นค่อนข้างยาว แต่ฉันก็รู้สึกสบายเต็มที่ในที่นั่งชั้น first class พร้อมด้วย Edward ที่โอบกอดฉันไว้ตลอดเวลา ฉันหลับไปและถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาจากในหน้าต่าง


 


เราไม่ได้อยู่ในสนามบินต่อเพื่อต่อไปไฟลท์อื่นอย่างที่ฉันคาดไว้ แต่เรากลับขึ้นแท๊กซี่ นั่งผ่านไปตามความมืดมิดของถนนริโอยามค่ำคืน ฉันไม่เข้าใจคำพูดของ Edward ที่พูดกับคนขับ เพราะว่ามันเป็นภาษาโปรตุเกส ฉันเดาว่าเราคงจะได้พักที่โรงแรมสักแห่งก่อนจะเดินทางต่อ แท๊กซี่ยังคงขับต่อไปเรื่อยๆจนถึงบริเวณชานเมืองด้านตะวันตกที่ติดกับมหาสมุทร


 


เราหยุดที่ท่าเรือ


 


Edward พาฉันเดินไล่ไปตามแถวของเรือยอร์ชสีขาวจำนวนมากที่จอดลอยอยู่เหนือน้ำ แต่เขากลับหยุดอยู่ที่เรือที่ลำเล็กและเพรียวลมกว่าอันอื่น เห็นได้ชัดว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถไปถึงที่หมายได้ในเวลาอันรวดเร็วมากกว่าความกว้างใหญ่ของตัวเรือ แต่มันก็ยังคงหรูหราและสวยงามกว่าลำอื่นๆ เขาวางกระเป๋าใบใหญ่ไว้บนท่าเรือ และหันมาช่วยฉันให้ข้ามไปในเรือได้


 


ฉันมองเขาอย่างเงียบๆ ในขณะที่เขากำลังเตรียมเรือเพื่อจะออกจากฝั่ง ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เขาดูท่าทางคล่องแคล่วกับสิ่งที่เขาทำ เพราะว่าเขาไม่เคยเอ่ยถึงความสนใจในการขับเรือมาก่อน แต่ก็นั่นแหล่ะ เขาเก่งในทุกๆเรื่องจริงๆ


 


ในขณะที่เรามุ่งหน้าไปสู่ทิศตะวันออกของมหาสมุทร ฉันก็ทบทวนความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศในหัวของฉัน เท่าที่ฉันจำได้ ถ้าไปทางตะวันออกของบราซิลอีกไม่มาก ก็จะถึงแอฟริกา


 


แต่ Edward ขับเรือพุ่งไปข้างหน้า ในขณะที่แสงไฟจากเมืองริโอค่อยๆเลือนหายไป และจางหายไปในที่สุดอยู่เบื้องหลังเรา บนหน้าของเขามีรอยยิ้มที่แสนจะคุ้นเคย รอยยิ้มที่เกิดมาจากความสนุกเมื่อเขาได้ปะทะกับความเร็วเช่นนี้ เรือพุ่งตรงไปข้างหน้าปะทะกับคลื่น และตัวฉันเองก็เปียกปอนไปด้วยน้ำทะเลที่สาดกระเด็นขึ้นมา


 


 


ในที่สุด ฉันก็ทนไม่ไหว เลยถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า


 


"เราจะไปกันอีกไกลมั้ย"


 


มันไม่เหมือนเขาเลยที่จะลืมว่าฉันเป็นมนุษย์ แต่ฉันก็ยังคงสงสัยว่าเราจะอยู่บนเรือลำนี้กันไปอีกนานสักเท่าไร  


 


"ประมาณครึ่งชั่วโมงน่ะ" เขาหันมาที่ฉัน และอมยิ้ม


 


อ๋อ ก็ดีนะ ฉันคิดกับตัวเอง ยังไงเขาก็เป็นแวมไพร์ บางทีเราอาจจะไปมหาสมุทรแอดแลนติกก็เป็นได้


 


 


20 นาทีต่อมา เขาเรียกชื่อฉันท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่ม


 


"Bella ดูนี่สิ" เขาชี้ตรงไปข้างหน้า


 


ในตอนแรก ฉันเห็นแต่ความคืด แต่เมื่อแสงจันทร์พาดผ่านคลื่นทะเล เงานั้นก็เริ่มชัดเจนขึ้น ... สามเหลี่ยมที่ออกจะดูผิดปกติไปสักเล็กน้อย เมื่อด้านหนึ่งยาวกว่าด้านอื่นๆ เมื่อเราเข้าไปใกล้ขึ้น ฉันก็เริ่มเห็นตัวเกาะ ...​เกาะเล็กๆอยู่บนผิวน้ำ ที่ชายหาดเต็มไปด้วยต้นปาล์ม และแสงจากดวงจันทร์สาดส่อง


 


 


"นี่เราอยู่ไหนกันเหรอ" ฉันพึมพำด้วยความสงสัย ในขณะที่เราเดินทางไปที่ด้านเหนือสุดของเกาะ


 


เขาได้ยินฉันทั้งๆที่เสียงเครื่องยนต์ดังมาก และยิ้มกว้างให้ฉันท่ามกลางแสงจันทร์


 


 


"ที่นี่คือ Isle Esme"


(เกาะส่วนตัวของ Carlisle กับ Esme ชื่อของเกาะจึงตั้งตามชื่อของทั้งสองคน)


 


 เรือค่อยๆเคลื่อนตัวช้าลง และสุดท้ายก็ไปจอดที่ท่าเรือเล็กๆที่สร้างจากไม้ เขาดับเครื่องยนต์ และความเงียบสงัดก็เข้ามาแทนที่ชัดเจนมากขึ้น อากาศช่างอบอุ่นและชุ่มชื้น เหมือนกับเราบรรยากาศภายในห้องน้ำหลังจากอาบน้ำอุ่นเสร็จใหม่ๆ


 


"Isle Esme" ฉันเอ่ยทวนชื่อซ้ำอย่างเบาๆ แต่ก็ยังดังอยู่ดีเนื่องด้วยตอนนี้ไม่มีเสียงอื่นใดอีกเลย


 


"ของขวัญจาก Carlisle กับ Esme ทั้งสองคนเสนอให้เรายืมใช้มันน่ะ"


 


ของขวัญ ใครที่เขาให้เกาะเป็นของขวัญกัน ฉันรู้ได้ทันทีว่า ความใจกว้างของ Edward เป็นสิ่งที่ถูกตกทอดมานั่นเอง


 


เขาวางกระเป๋าเดินทางไว้ที่ท่าเรือ และหันกลับมารับตัวฉัน ... ยิ้มให้ฉันอย่างที่เคยเป็น


 


แต่แทนที่เขาจะเอื้อมมาจับมือฉัน เขากลับอุ้มฉันไว้


 


"เธอควรจะรอให้เราถึงประตูก่อนไม่ใช่เหรอ" ฉันถามเขากลับไป ...​ โดยที่แทบไม่ได้หายใจ เขายกฉันอย่างง่ายดายออกจากเรือ


 


"ฉันคิดทุกอย่างอย่างรอบคอบแล้วน่า ฉันแค่ต้องการจะทำให้สมบูรณ์แบบก็แค่นั้นเอง" (I'm nothing if not thorough เป็นสำนวน)


 


มือหนึ่งก็ถือของ ส่วนอีกมือก็อุ้มฉันไว้ เขาแบกฉันออกจากท่าเรือ ไปสู่ทางเดินบนพื้นทรายท่ามกลางความมืดมิด


 


เราใช้เวลาเดินผ่านป่าเพียงชั่วครู่ และแล้วฉันก็เห็นแสงไฟอยู่ตรงหน้า จนถึงที่ฉันได้รู้ว่าแสงไฟนั้นมาจากบ้านหลังหนึ่ง ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม ประกอบด้วยหน้าต่างบานใหญ่ เมื่อเราใกล้จะถึงประตูหน้านั้น ฉันก็เริ่มเกิดความรู้สึกประหลาด รุนแรงกว่าตอนที่ฉันคิดว่าเรากำลังจะไปโรงแรมเสียอีก


 


 


หัวใจของฉันเต้นแรง และลมหายใจเหมือนจะติดอยู่ในลำคอ ฉันรู้สึกได้ว่า Edward กำลังมองหน้าฉันอยู่ แต่ฉันกลับหลบสายตาเขา ฉันกลับจ้องไปข้างหน้าทั้งๆมองไม่เห็นอะไร 


 


 


เขาไม่ได้ถามว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งมันเหมือนไม่ใช่บุคลิกของเขาเลย ฉันเดาว่า เขาก็คงจะรู้สึกหวั่นวิตกเหมือนที่ฉันกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้เช่นกัน


 


 


เขาวางกระเป๋าเดินทางลงข้างๆ เพื่อเปิดประตู ....​ประตูนั้นไม่ได้ถูกล๊อคเอาไว้


 


 


Edward มองลงมาที่ฉัน รอจนกระทั่งฉันมองกลับไปที่เขา ก่อนที่เราจะก้าวเข้าไปในบ้าน


 


 


เขาอุ้มฉันไปรอบบ้าน เราทั้งคู่ต่างไม่มีใครส่งเสียง เขาค่อยๆเปิดไฟตามทางที่ตัวเองเดินผ่าน ความประทับใจของฉันต่อบ้านหลังนี้คือขนาดของมัน ...​ฉันคิดว่าบ้านหลังนี้ใหญ่ทีเดียวแต่ก็ยังเล็กอยู่ดีเมื่อเทียบกับเกาะทั้งเกาะ แต่ฉันกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด สีที่ใช้ตกแต่งบ้านก็ยังคงเป็นสีโทนอ่อนอย่างที่พวก Cullen ชอบ ฉันไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ เสียงชีพจรที่เต้นอย่างรุนแรงหลังหูของฉันทำให้ทุกอย่างดูเบลอไปหมด


 


 


 


และแล้ว Edward ก็หยุดเดิน เมื่อเปิดไฟดวงสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย


 


 


ห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก และประกอบไปด้วยโทนสีขาว หน้าต่างส่วนใหญ่เป็นกระจก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับแวมไพร์ ด้านนอกแสงจันรทร์สาดส่องพื้นทรายสีขาวและเกลียวคลื่ย ห่างจากบ้านไปเพียงไม่กี่หลา แต่ฉันก็แทบไม่ได้สังเกตมันเลย ความสนใจของฉันกลับพุ่งตรงไปที่เตียงสีขาวขนาดใหญ่มหึมาที่วางอยู่ตรงกลางห้อง ที่ถูกขึงรอบด้วยมุ้งลวดกันยุง


 


Edward ปล่อยฉันลงในที่สุด


 


 


"เอ่อออ เดี๋ยวฉันไปเอากระเป๋านะ"


 


 


บรรยากาศในห้องอุ่นจนเกินไป และดูร้อนกว่าอากาศข้างนอก ฉันค่อยๆเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ จนกระทั่งสัมผัสกับมุ้งลวด เพื่อให้แน่ใจว่านี่เป็นเรื่องจริง ฉันไม่ได้ฝันไป


 


 


ฉันไม่ได้ยินเสียงใดๆจาก Edward แต่ทันใดนั้นเอง นิ้วของเขาก็มาอยู่ตรงด้านหลังของคอฉัน ปัดเหงื่อของฉันทิ้งไป 


 


 


"ที่นี่อากาศร้อนนิดหน่อยนะ" เขาเอ่ยอย่างขออภัย "แต่ฉันคิดว่า .... มันน่าจะเป็นการดีที่สุด"


 


 


"คิดรอบคอบแล้ว" ฉันพึมพำออกมา และเขาก็หัวเราะ แต่มันก็ฟังดูหวั่นวิตก หาได้ยากมากสำหรับ Edward ที่จะหัวเราะแบบนี้


 


 


"ฉันพยายามที่จะคิดให้ครอบคลุมทุกอย่าง เพื่อจะทำให้สิ่งนี้ง่ายขึ้น" เขายอมรับ


 


 


ฉันค่อยๆกลืนน้ำลาย และยังคงหลบหน้าเขา เคยมีฮันนีมูนแบบนี้ก่อนหน้านี้มั้ยนะ


 


 


ฉันรู้คำตอบดี คำตอบคือไม่ ไม่เคยมีหรอก


 


 


"ฉันแค่สงสัย" Edward เอ่ยอย่างแผ่วเบา "ถ้า ... ครั้งแรกของเรา .... เธออยากจะว่ายน้ำกับฉันตอนเที่ยงคืนมั้ย" เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และเสียงของเขาดูผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อเขาเอ่ยต่อมา "น้ำน่าจะอุ่นพอสมควร น่าจะเป็นทะเลแบบที่เธอชอบนะ"


 


 


"ก็ฟังดูดีนะ" เสียงของฉันเริ่มแตกพร่า


 


"ฉันแน่ใจว่าเธอคงต้องการเวลาส่วนตัวแบบมนุษย์สักสองสามนาที ...​เราเดินทางมาไกลกันมาก"


 


 


ฉันรีบพยักหน้า แม้ฉันแทบจะไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์เลยก็ตามที แต่อย่างน้อยสองสามนาทีอาจจะช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้น


 


 


เขาจูบที่ต้นคอของฉัน บริเวณใต้หู เขาหัวเราะเบาๆ ลมหายใจที่แสนจะเย็นยะเยือกของเขาทำให้ฉันรู้สึกร้อนขึ้นมา


"อย่านานล่ะ Mrs.Cullen"


 


 


 


ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อนั้น


 


 


ริมฝีปากของเขาซุกไซ้จากบริเวณลำคอมาถึงบ่าของฉัน "ฉันจะรอเธอในน้ำนะ"


 


 


 


เขาเดินผ่านฉันไปที่ประตูอีกด้านที่จะพาไปสู่ชายหาด ระหว่างทางเขาถอดเสื้อออก วางมันลงกับพื้น และแล้วก็เปิดประตูออกไปด้านนอก ลมทะเลพัดผ่านเข้ามาในห้องทันทีที่เขาเปิดประตู


 


 


นี่ผิวของฉันไหม้ไปแล้วเหรอ ฉันต้องไปเช็คหน่อยแล้ว ไม่นี่นา ไม่มีอะไรไหม้ อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ที่เห็นได้น่ะ


 


 


ฉันต้องเตือนตัวเองให้หายใจ และแล้วก็มาจัดการกับกระเป๋าเดินทางที่ Edward เปิดไว้ให้แล้ว มีชุดสีขาวบางเบาวางอยู่ด้านบนสุด นั่นน่าจะเป็นของฉัน เพราะว่ากระเป๋าใส่ของกระจุกกระจิกของฉันวางอยู่ทางด้นขวาบนสุด


 


ฉันเห็นสีชมพูเต็มไปหมด แต่ไม่มีสิ่งใดที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นเสื้อผ้าเลย ฉันพยายามไล่หาเสื้อผ้าตามกองที่มันถูกพับไว้อย่างเป็นระเบียบ มองหาอะไรที่คุ้นเคยและดูใส่สบาย แต่แล้วฉันก็ได้รู้ว่า มันมีแต่ชุดซาตินบางเบา และชุดชั้นใน ที่ดูเป็นชุดชั้นในมากๆ


 


 


ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่สักวันหนึ่ง Alice ต้องชดใช้มันอย่างแน่นอน


 


 


อ่า ยอมแพ้ดีกว่า ฉันเข้าไปในห้องน้ำ แอบมองจากหน้าต่างไปทางชายหาด แต่ฉันก็ไม่พบเจอเขา ฉันเดาว่าเขาคงจะอยู่ที่นั่น อยู่ในน้ำ


ท้องฟ้าเบื้องหน้า ดวงจันทร์ที่เกือบจะเต็มดวง ส่องแสงพาดผ่านทรายสีอ่อน มีอะไรขยับเล็กน้อยใต้ต้นปาล์มในความมืด ในขณะที่เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาวางไว้ในที่แสงจันทร์สาดส่อง


 


ฉันเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง


 


 


ฉันสูดลมหายใจเข้าออกสองสามครั้ง แล้วก็ไปส่องกระจก ทำให้ได้รู้ว่า ฉันดูเหมือนคนที่นอนหลับมาทั้งวันบนเครื่องบิน ฉันเริ่มหวีผม แปรงฟันสองครั้ง ล้างหน้าและเอาน้ำราดบริเวณหลังคอที่ฉันรู้สึกร้อนรุ่มราวกับเป็นไข้ นั่นทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ฉันล้างมือ และสุดท้ายก็ตัดสินใจยอมแพ้และอาบน้ำทั้งตัว ฉันรู้ดีว่ามันงี่เง่ามากที่จะมาอาบน้ำก่อนว่ายน้ำ แต่ฉันก็ต้องทำให้ตัวเองใจเย็นลง และน้ำร้อนก็เป็นสิ่งเดียวที่พึ่งพาได้ในตอนนี้


 


 


 


 


เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ฉันคว้าผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ และนุ่งมันออกมาจากห้องน้ำ


 


 


และแล้วฉันก็เผชิญกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ที่ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะเจอ แล้วฉันจะใส่อะไรกันล่ะ ไม่ใช่ชุดว่ายน้ำแน่นอน แต่มันก็ดูงี่เง่าอีกเช่นกันที่จะใส่เสื้อผ้าลงไปเล่นน้ำ ฉันไม่ต้องการคิดถึงสิ่งที่ Alice แพคมาให้ฉันเลย


 


 


ลมหายใจของฉันเริ่มเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้ง และมือของฉันเริ่มเหงื่อแตก มากซะจนไม่น่าจะใช่ผลจากการที่ฉันพึ่งอาบน้ำเสร็จ ฉันเริ่มรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย และก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวสุดๆ ฉันนั่งลงที่พื้นและวางศีรษะลงบนหัวเข่า ฉันภาวนาไม่ให้เขากลับมาตามหาฉันก่อนฉันจะเรียกตัวสติตัวเองกลับคืนมาได้ ฉันไม่อยากคิดเลยว่าเขาจะคิดยังไงเมื่อเห็นฉันในสภาพนี้ มันไม่ยากเลยที่จะทำให้เขาเชื่อว่า เรากำลังจะทำความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ด้วยกัน


 


 


และฉันก็ไม่ได้กำลังจะบ้า เพราะว่าเรากำลังจะทำพลาด ไม่ใช่เลย ฉันกำลังจะบ้าเพราะว่าฉันไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงดี ฉันกลัวที่จะเดินไปกลับไปที่ห้อง และเผชิญหน้ากับอะไรก็ไม่รู้ โดยเฉพาะชุดชั้นในพวกนั้น ฉันรู้ดีว่าฉันยังไม่พร้อมสำหรับชุดชั้นในพวกนั้นเลย


 


 


ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเดินไปที่หน้าโรงหนังที่มีคนนับพันยืนเข้าแถวอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่าแถวของฉันอยู่ไหน


 


 


คนอื่นๆเขาทำกันอย่างไรนะ กล้ำกลืนความกลัวของตัวเอง


ถ้าคนที่อยู่ข้างนอกไม่ใช่ Edward ถ้าฉันไม่รู้ตัวเลยว่าทุกอณูในร่างกายของฉันรับรู้ว่า เขารักฉันมากเท่ากับที่ฉันรักเขา รักอย่างไม่มีเงื่อนไข รักอย่างไร้เหตุผลแล้ว ฉันก็คงไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้อย่างนี้


 


 แต่นี่คนที่อยู่ข้างนอกคือ Edward ฉันกระซิบบอกตัวเองว่า "อย่าขี้ขลาดเลยน่า" ฉันขมวดผ้าขนหนูให้แน่นขึ้นและเดินออกจากห้องน้ำ ผ่านกระเป๋าเดินทางโดยไม่มองของในนั้นอีก เดินออกไปชายหาดด้านนอก


 


 


ทุกอย่างมีเพียงแต่สีขาวและสีดำ ไร้สีสรรท่ามกลางแสงจันทร์ ฉันเดินอย่างช้าๆและหยุดลงตรงต้ไม้ที่ที่เขาทิ้งเสื้อผ้าไว้ ฉันเช็คลมหายใจของตัวเองเพื่อให้มั่นใจว่าฉันยังหายอยู่ หรืออย่างน้อยก็คือมีอากาศอย่างเพียงพอ


 


 


ฉันมองหาเขาในความมืด


 


 


และมันก็ไม่ยากเลยที่จะหาเขา เขายืนหันหลังให้ฉัน น้ำอยู่ระดับเอวของเขา แสงจันทร์ทำให้ผิวของเขากลายเป็นสีขาวเหมือนกับทราย เหมือนพระจันทร์ และทำให้ผมสีดำของเขาเหมือนกับมหาสมุทร เขายืนอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหว คลื่นพัดผ่านเขาไปราวกับว่าเขาเป็นหิน ฉันมองไปที่แผ่นหลังที่แสนจะเนียนของเขา ไหล่ แขน คอ รูปร่างอันแสนจะงดงาม


 


 


ฉันไม่รู้สึกร้อนรุ่นอีกต่อไป แต่กลับรู้สึกนิ่งมากขึ้น ความงุ่มง่าม ความอายค่อยๆจางหายไป ฉันปลดผ้าขนหนูออกอย่างไม่รีบร้อน วางมันไว้ที่ต้นไม้ และเดินไปที่แสงจันทร์สีขาว ที่ทำให้ผิวของฉันซีดขาวราวกับทรายเช่นเดียวกัน 


 


 


ฉันแทบไม่ได้ยินเสียงเท้าของตัวเองเมื่อเดินไปในน้ำ แต่ฉันเดาได้ว่าเขาคงได้ยิน Edward ไม่ได้หันหลังกลับมา ฉันปล่อยให้ความอ่อนนุ่มของน้ำปกคลุมไปทั่วนิ้วเท้าของฉัน เขาพูดถูกเรื่องอุณหภูมิ น้ำทะเลอุ่นมากราวกับน้ำอุ่นที่เราใช้อายน้ำ ฉันก้าวไปข้างหน้า ค่อยๆเดินอย่างระมัดระวัง แต่จริงๆไม่จำเป็นต้องระวังอะไรเลย เพราะทรายที่นี่นุ่มมาก และแล้วฉันก็ถึงตัว Edward 


 


 


ฉันค่อยๆวางมือลงบนมือของเขาที่ลอยอยู่เหนือน้ำ


 


 


 


"สวยเหลือเกิน" ฉันเอ่ยออกมาเมื่อมองดวงจันทร์


 


 


"แน่นอน" เขาตอบ และค่อยๆหันหน้ามามองฉัน คลื่นน้ำเคลื่อนไหวเล็กน้อยเมื่อเขาเคลื่อนไหว ตาของเขาออกจะเป็นสีเงินเมื่อเทียบกับใบหน้าของเขาในตอนนี้ เขายกมือขึ้นเพื่อที่จะได้ยกมือของเราพ้นผิวน้ำ มันอุ่นเพียงพอที่จะไม่ทำให้ฉันสั่นจากความเย็นจากผิวกายเขา


 


 


 


"ฉันคงจะไม่ใช้คำว่า สวย กับดวงจันทร์ในคืนนี้หรอกนะ" เขาเอ่ยต่อไปว่า "ไม่แน่นอน เมื่อมีเธอยืนอยู่ตรงนี้" 


 


 ฉันยิ้ม และก็ยกมืออีกข้างวางลงบนหัวใจของเขา ผิวขาวจากมือของฉันกับกายของเขา อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งล่ะที่เราเข้ากัน ลมหายใจของเขาสะดุ้งเล็กน้อยกับสัมผัสของฉัน ลมหายใจของเขาเริ่มติดขัดขึ้นมา


 


 


"ฉันสัญญาว่าเราจะพยายามมันไปด้วยกัน" เขากระซิบ แต่แล้วก็เสียงเครียดไป "ถ้าฉันทำอะไรผิดล่ะ ถ้าฉันทำร้ายเธอ เธอต้องบอกฉันทันทีนะ"


 


 


ฉันพยักหน้ารับ สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่เขา ฉันก้าวไปข้างหน้าและซบลงไปที่อกของเขา


 


 


 


 


 


 


"อย่ากลัวไปเลย" ฉันพึมพำ "เราเป็นของกันและกัน"


 


 


 


 


ฉันรู้สึกยินดีเหลือเกินกับคำพูดของตัวเอง ช่วงเวลานั้นสุดแสนจะสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องสงสัยมันอีกต่อไป


 


 


 


 


เขาโอบกอดฉันไว้ ...​ฤดูร้อนและฤดูหนาว ...​มันรู้สึกราวกับว่าทุกประสาทสัมผัสในร่างกายฉันแปรเปลี่ยนกลายเป็นสายไฟฟ้า


 


 


 


 


 


 


"ตลอดกาล" เขาเอ่ยอย่างเห็นด้วย และแล้วก็ดึงเราทั้งคู่ลงไปในน้ำ....ที่ลึกมากขึ้น


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 


 






Create Date : 18 มกราคม 2552
Last Update : 18 มกราคม 2552 22:13:12 น. 22 comments
Counter : 610 Pageviews.  
 
 
 
 
อัพให้อย่างรวดเร็วแล้วนะคะ


หวังว่าจะชอบกันนะ กำลังสนุกเลย :)


ไว้จะอัพให้ทุกวันนะคะ วันละนิดละหน่อย
 
 

โดย: BaTT~TaBB วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:22:16:44 น.  

 
 
 
ว๊าววววว มาแล้ว ขอบคุณจ้าคืนนี้เราหลับฝันดีแน่เลย
 
 

โดย: Me_m IP: 124.121.10.51 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:22:45:37 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากๆนะคะ

วันละนิดละหน่อย ก้อไม่เป็นไรค่ะ
แค่นี้ ก้อยิ้มไม่หุบแล้ว
 
 

โดย: cookies89 IP: 58.9.66.14 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:23:15:25 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากเลยนะค่ะ

 
 

โดย: อ้อ IP: 125.25.81.139 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:23:27:01 น.  

 
 
 
กำลังเคริ้มได้อารมณ์เลยเชียว
สงสัยคืนนี้คงหลับฝันดีทั้งคืนอิอิ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ นิดหน่อยก็ยังดี สู้ๆ
 
 

โดย: อุ้ม IP: 58.9.102.20 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:0:22:57 น.  

 
 
 
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
 
 

โดย: อ้อ IP: 124.122.143.90 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:1:24:01 น.  

 
 
 
เคลิ้ม..ตามเลย

ขอบคุณมากนะคะ..

อ่านไปยิ้มไป..เฮ้อ มีความสุข
 
 

โดย: จิ๋ม IP: 124.120.145.35 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:8:12:08 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากคะ ที่ช่วยแปลให้คะ
 
 

โดย: mj73110 IP: 124.121.47.53 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:9:30:51 น.  

 
 
 
โอ้ยยย มีความสุขจริง ๆ ขอบคุณนะคะ
 
 

โดย: PT RD neene IP: 58.181.214.119 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:14:54:26 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ขอให้มีความสุขกับการแปลนะคะ แต่คนอ่านมีความสุขมากๆแน่ค่ะ
 
 

โดย: ก้อย (อยากมีใครให้รัก ) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:18:09:45 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่
 
 

โดย: minnano IP: 202.12.73.18 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:19:51:51 น.  

 
 
 
อกจะระเบิดแล้วค่ะ อยากจะกรี๊ดดดดดด
สงสัยคืนนี้ต้องเอาไปฝันต่อแน่เลยเนี่ย

เฮ้อออออ
 
 

โดย: ToOkTaK IP: 124.121.85.85 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:20:23:35 น.  

 
 
 
อยากเป็นเบลล่าจริงจริ๊ง
 
 

โดย: I2agDoll IP: 125.25.71.80 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:22:45:37 น.  

 
 
 
ถึงตอนฮันนีมูนแล้วสุดยอด เลือดกระฉูดเต็มหน้าจอเลยค่ะ อิอิ ขอบคุณมากค่า อิจฉาเบลล่าจริงๆๆ
 
 

โดย: เด็กน้อยตาดำๆ IP: 61.7.155.122 วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:12:02:14 น.  

 
 
 
แปลดีมากๆ สนุกมากเลยค่ะ
เหมือนเราอ่านภาคอังกฤษเลย
 
 

โดย: เม่หลิง วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:16:05:08 น.  

 
 
 
แปลได้เพราะมั่กมากค่ะ
ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านภาคengเรย
สุดยอดๆ ขอบคุณนะค่ ะ
 
 

โดย: uhu IP: 124.122.133.144 วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:20:45:42 น.  

 
 
 
oh ! ขอบคุณค่ะที่แปลให้ตื้นตันมาก
 
 

โดย: pipo IP: 58.9.171.67 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:20:03:53 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากค่ะที่แปลมาให้อ่านกัน เป็นกำลังใจให้คนแปลมากๆ เลยค่ะ ตอนนี้ก็กำลังอ่านเวอร์ชั่นอังกฤษไปได้ 2-3 ตอนเอง อ่านทั้งอังกฤษอ่านทั้งแปลไทย อ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ อิอิ
 
 

โดย: ruirui IP: 124.122.139.69 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:18:13 น.  

 
 
 
กริ๊ดดดดลงน้ำ555

ขอบคุณมากกนะคะ
 
 

โดย: kimji IP: 202.28.27.5 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:0:51:59 น.  

 
 
 
กรี้ดดดดดดดดค่ะ
ลงน้ำเลยเหรอ

555
เขินมากมายค่ะเขิน
เมื่อไหร่ภาคภาษาไทยจะออกเนี่ยย
 
 

โดย: pewpew IP: 58.9.98.200 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:13:51:28 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่ะ
 
 

โดย: phronlapat วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:4:28:53 น.  

 
 
 
ตามมา กรี๊คดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ด้วยค่ะ....

อ่านมาถึงตอนนี้ข กรี๊ดดดดดดดดดดดดด...ค่ะ
 
 

โดย: nong IP: 124.121.12.138 วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:12:12:59 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

BaTT~TaBB
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add BaTT~TaBB's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com