|
Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Chapter 2
2. ค่ำคืนที่แสนยาวนาน (Long Night)
"ฉันเริ่มคิดถึงเธอแล้วสิ"
"ฉันไม่จำเป็นต้องไป ...ฉันอยู่ต่อก็ได้"
"อืมม"
มันเป็นช่วงเวลาที่แสนจะยาวนาน มีเพียงแต่เสียงหัวใจของฉันที่เต้นโครมคราม เสียงลมหายใจที่ขาดหายเป็นช่วงๆ และเสียงริมฝีปากของเราเคลื่อนไหวไปด้วยกัน
บางครั้ง ฉันก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังจูบกับแวมไพร์อยู่
ไม่ใช่เพราะว่าเขาดูเหมือนมนุษย์ธรรมดา กลับกลายเป็นว่าฉันไม่อาจลืมได้เลยว่า คนที่ฉันกำลังกอดอยู่นั้นงดงามมากกว่าเทวดาเสียอีก
ไม่ใช่เพราะว่าเขาทำให้ฉันไม่รู้สึกถึงรสริมฝีปาก ใบหน้า และลำคอของเขา
เขาเคยบอกฉันว่า ความกลัวที่ฉันจะพรากจากเขาไปนั้น ทำลายแรงปรารถนาต่อเลือดของฉันจนหมดสิ้น แต่ฉันรู้ดีว่ากลิ่นเลือดของฉันก็ยังคงทำให้เขาเจ็บปวด ราวกับคอของเขาถูกเผาด้วยเปลวไฟ ...ราวกับเขาได้กลืนกันมันเข้าไป
ฉันลืมตาขึ้นมา และพบว่าเขาก็กำลังมองฉันอยู่เช่นกัน
มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะมองฉันแบบนั้น สายตาที่มองราวกับว่า ฉันเป็นของรางวัลอย่างหนึ่งมากกว่าผู้ชนะที่โชคดีที่สุด
สายตาของเราสองหยุดอยู่ที่กันและกัน ฉันจ้องมองไปที่ดวงตาสีทองคู่นั้น ให้ลึกลงไป .... ลึกลงไปถึงจิตวิญญาณของเขา
มันดูโง่ไปหน่อยเมื่อฉันสงสัยถึงการมีอยู่ของจิตวิญญาณของเขาทั้งๆที่เขาเป็นแวมไพร์
แต่เขาก็เป็นคนที่มีจิตวิญญาณที่งดงามที่สุด งดงามยิ่งกว่าจิตใจ หน้าตาและร่างกายของเขาเสียอีก
เขามองกลับมาที่ฉันเช่นกัน ...คงจะมองลึกลงไปที่จิตวิญญาณของฉัน ...ราวกับว่าเขาชอบที่จะมองมันอยู่อย่างนั้น
เขาอ่านใจฉันไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถทำแบบนั้นได้กับทุกคน จะมีใครรู้มั้ยว่าเพราะเหตุใดถึงเป็นแบบนั้น
หรือว่าสมองของฉันจะมีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งประหลาดที่น่าสะพรึงกลัว
แต่อย่างไรก็ดี ฉันก็ดีใจมากที่สมองของฉันผิดปกติแบบนั้น เพราะฉันไม่ต้องการให้ Edward ได้ล่วงรู้ถึงความคิดของฉัน มันช่างน่าอายเหลือเกินเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น
ฉันดึงหน้าของเขาเข้ามาใกล้กับตัวเอง
"ฉันขออยู่ต่อดีกว่า" เขาพึมพำออกมา
"ไม่ๆ เธอต้องไปงานฉลองสละโสดนะ (bachelor party)"
ถึงแม้ว่าฉันจะพูดออกไปแบบนั้น แต่มือขวากลับสัมผัสอยู่ที่ผมบรอนซ์ของเขา ในขณะที่มือซ้ายก็รั้งเขาไว้แน่น
"งานพวกนั้นมีไว้สำหรับคนที่เสียดายวันเวลาของการเป็นหนุ่มโสด แต่สำหรับฉันมันไม่สำคัญอะไรเลย"
"ก็จริง" ลมหายใจของฉันรดที่ต้นคอเขาอย่างแผ่วเบา
นี่ก็ใกล้จะถึงที่ที่ฉันจะมีความสุขแล้ว Charlie หลับสนิทในห้องของตัวเอง ในขณะที่เรากำลังอยู่บนเตียงเล็กๆนี้
ฉันไม่ชอบเลยที่ต้องห่มผ้าไว้แบบนี้ แต่มันก็จำเป็น เพราะเสียงฟันกระทบกันของฉันคงจะทำลายความโรแมนติกไปเสียหมด และ Charlie ก็คงจะสงสัยถ้าฉันเปิดฮีตเตอร์ตอนเดือนสิงหาคม
หากเรารีบร้อนจะต้องใส่เสื้อผ้า เสื้อของ Edward ก็อยู่บนพื้นนี่เอง ฉันไม่เคยไม่ตื่นเต้นไปกับร่างกายที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็คของเขา ... ละเอียด งดงาม และแข็งแกร่งราวกับหิน
มือของฉันลูบไล้ที่แผ่นอกของเขา ...ผ่านไปที่ท้อง
แสงสว่างผ่านแวบเข้ามา ทำให้ริมฝีปากของเขาพบริมฝีปากฉันอีกครั้ง
ฉันค่อยๆใช้ลิ้นสัมผัสรสริมฝีปากเขา ...ลมหายใจของเขา ... ที่สุดแสนจะเย็นยะเยือก แต่ก็หอมหวาน ...รดเต็มหน้าของฉัน
เขาเริ่มผละตัวออกไป นี่เป็นปฏิกริยาอัตโนมัติที่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคิดว่า มันชักจะเลยเถิดไปกันใหญ่
และเมื่อเขาต้องการมากที่สุดที่จะให้มันดำเนินต่อไป
Edward ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตปฏิเสธความสัมพันธ์ทางกายเช่นนี้
ฉันรู้ดีว่า มันน่ากลัวขนาดไหนที่ต้องการจะเปลี่ยนนิสัยเหล่านั้นเดี๋ยวนี้
"รอก่อนสิ" ฉันจับบ่าของเขาไว้แน่น และกอดเขาเอาไว้
ฉันเหยียดขาข้างหนึ่งออกไป และรวบเอวเขาเข้ามา
"ยิ่งเราฝึกฝน มันก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้นนะ"
เขาหัวเราะเบาๆ "อ๋อ งั้นเราก็คงใกล้จะถึงจุดนั้นแล้ว หรือไม่ใช่ล่ะ ทั้งเดือนที่ผ่านมาเธอได้นอนบ้างมั้ย"
"แต่นี่เป็นวันซ้อมใหญ่นะ" ฉันเตือนขา "เราก็ต้องลองซ้อมทุกช็อตสิ"
ฉันคิดว่าเขาจะหัวเราะ แต่เขาไม่พูดอะไรเลย ...เขานิ่งไปทันที
"Bella" เขากระซิบเรียกฉัน
"ไม่ต้องพูดถึงมันอีก" ฉันโพล่งออกมา "สัญญาต้องเป็นสัญญาสิ"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันยากเหลือเกินที่จะมีสมาธิจดจ่อว่าเธอกับฉันกำลังจะทำอะไรแบบนี้
ฉันไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้เลย เธออาจจะบาดเจ็บได้นะ"
"ฉันไม่เป็นอะไรหรอก"
"Bella"
"ชู่วว์" ฉันจรดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเขา ฉันได้ยินมาไม่รู้กี่หนแล้ว เขาจะไม่ทำตามข้อตกลงก่อนที่ฉันจะแต่งงานกับเขาเป็นอันขาด
เขาจูบฉันกลับทันที แต่ฉันสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
กังวล ... มันจะแตกต่างไปมากขนาดไหนนะเมื่อเขาไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
"เท้าเธอเป็นยังไงบ้าง"
ฉันรู้ดีว่าเขาไม่ได้อยากจะถามอะไรฉันแบบนี้ "ก็อุ่นดี"
"จริงเหรอ แทบจะไม่ต้องคิดเลยนะ มันยังไม่สายเกินไปหรอกที่เธอจะเปลี่ยนไป"
"นี่เธอกำลังจะเบี้ยวฉันรึเปล่า"
เขาหัวเราะเบาๆ "แค่จะให้แน่ใจเท่านั้นว่าเธอมั่นใจที่จะทำแบบนี้จริงๆ"
"ฉันแน่ใจเรื่องเธอ ส่วนที่เหลือฉันจะสามารถผ่านมันไปได้"
เขาลังเล
"เธอแน่ใจนะ" เขาถามฉัน "ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องงานแต่งงาน แต่ฉันหมายถึงหลังจากนั้น ...แล้ว Renee และ Charlie ล่ะ"
"ฉันจะคิดถึงพวกเขา" ฉันถอนหายใจ ฉันรู้ดีว่ามันแย่ยิ่งกว่า เมื่อพวกเขาจะคิดถึงฉันเหมือนกัน แต่ฉันไม่ต้องการจะราดน้ำมันลงบนกองเพลิงตอนนี้
"Angela Ben Jessica และ Mike ล่ะ"
"ฉันจะคิดถึงเพื่อนฉันด้วย โดยเฉพาะ Mike เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรนะ"
เขาคำรามในคอเบาๆ
ฉันหัวเราะออกมา แต่แล้วก็เริ่มเอ่ยออกมาอย่างจริงจังว่า
"Edward เราคุยเรื่องนี้กันมาหลายครั้งแล้วนะ ฉันรู้ดีว่ามันยาก แต่นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ
ฉันต้องการเธอ และฉันต้องการเธอตลอดไป ช่วงชีวิตหนึ่งของฉันคงจะไม่เพียงพอ"
"หยุดอยู่ที่อายุสิบแปดตลอดไป" เขากระซิบ
"ความฝันของผู้หญิงทุกคนกลายเป็นจริงขึ้นมา" ฉันแหย่เขาเล่น
"จะไม่มีวัน ...ไม่มีวันเดินไปข้างหน้าอีกเลย"
"มันหมายความว่าอย่างไรกันล่ะ"
"เธอยังจำได้มั้ยที่่เราบอก Charlie ว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน แต่ Charlie เข้าใจว่าเธอท้องน่ะ"
"และเขาคิดที่จะฆ่าเธอ" ฉันหัวเราะออกมา "ยอมรับมาสิ ว่าเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ"
เขาไม่ตอบฉัน
"มีอะไรเหรอ Edward"
"ฉันแค่หวังว่า เออ หวังว่าเขาทำถูกแล้ว"
"เหอะ" ฉันสบถออกมาอย่างเสียอารมณ์ "ฉันรู้ดีน่ะว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่"
"เธอจะรู้ได้ยังไงกัน Bella ดูแม่ฉันสิ ดูน้องของฉัน ดูสิ่งที่พวกเขาต้องเสียสละไปสิ มันไม่ง่ายเหมือนที่เธอคิดไว้หรอก"
"Esme กับ Rosalie ก็โอเคนิ อย่างมากเราก็เป็นเหมือนพวกเขา เราจะรับเด็กมาเลี้ยง"
เขาถอนหายใจ และเสียงของเขาก็ค่อยๆดุดันขึ้น "นั่นมันไม่ถูกต้อง ฉันไม่ต้องการให้เธอมาเสียสละอะไรเพื่อฉัน ฉันต้องการจะให้เธอทุกอย่าง แต่ไม่ต้องการจะเอาอะไรมาจากเธอ ฉันไม่ต้องการจะทำลายอนาคตของเธอ ถ้าฉันเป็นมนุษย์..."
ฉันรีบเอามือปิดปากเขา "เธอคืออนาคตของฉัน หยุดได้แล้ว เลิกพูดเสียที หรือจะให้ฉันโทรบอกพวกพี่ๆให้มารับตัวเธอไปซะ บางทีเธอก็น่าจะไปงานเลี้ยงนะ"
"ฉันขอโทษ ฉันพูดเรื่องนี้อีกแล้ว"
"เท้าของเธอเย็นมั้ย" ฉันพยายามจะเบี่ยงเบนความสนใจของเขา เพื่อไม่ให้เขารู้สึกผิดไปมากกว่านี้
"มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ฉันรอคอยมานานนับศตวรรษ เพื่อจะได้แต่งงานกับเธอนะ Miss Swan งานแต่งงานเป็นอย่างเดียวที่ฉันแทบจะอดทนรอไม่ไหวเลย"
"ทำไม มีอะไรเหรอ"
เขากัดฟันกรอด "เธอไม่ต้องโทรไปหาพวกพี่ๆฉันแล้วล่ะ Emmett กับ Jasper คงไม่ปล่อยให้ฉันเบี้ยวงานคืนนี้แน่นอน"
ฉันรั้งตัวเขาเข้ามา แล้วก็ค่อยๆปล่อยเขาไป "สนุกให้เต็มที่ล่ะ"
มีเสียงครืดคราดดังที่หน้าต่าง มีใครบางคนกำลังพยายามใช้เล็บขูดกับกระจก
"ถ้าเธอไม่ส่ง Edward ออกมา" Emmett นั่นเอง "เราจะเข้าไปลากเขา"
"ไปได้แล้ว ก่อนที่พวกนั้นจะพังบ้านฉัน" ฉันหัวเราะกับท่าทีของ Emmett
Edward กรอกตาไปมา แล้วเขาก็เจอเสื้ออยู่ใต้เท้าของเขา เพียงครู่เดียวเสื้อตัวนั้นก็อยู่บนร่างกายเขาเรียบร้อยแล้ว
เขาเอนลงมา จุมพิตที่หน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา
"ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เธอมีงานใหญ่นะ"
"จ้ะ นั่นยิ่งจะทำให้ฉันหลับสบายมากขึ้น"
"ฉันจะไปพบเธอที่โบสถ์นะ"
"เฮ้ อย่าลืมเป็นคนเดียวที่ใส่ชุดขาวมาล่ะ" ฉันยิ้มอย่างมีความสุข
เขาหัวเราะ "แน่นอน" และเขาก็เดินไปที่หน้าต่าง .... พริบตาเดียวก็หายวับไป
ด้านนอก ฉันได้ยินเสียง Emmett กำลังบ่น
"พวกเธอจะต้องไม่ทำให้เขาสายนะ" ฉันพึมพำเบาๆ ด้วยรู้ดีว่าพวกเขาคงจะได้ยิน
และแล้ว Jasper ก็มาปรากฏกายที่ข้างหน้าต่าง
"ไม่ต้องกังวลไป Bella เวลาเหลือเฟือมากเราพาเขาไปทันแน่นอน"
ทันใดนั้น ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงมาก Jasper ได้ใช้ความสามารถพิเศษของเขาช่วยฉันอีกแล้ว
ในขณะที่ Alice สามารถทำนายเรื่องราวในอนาคตได้ Jasper ก็สามารถควบคุมอารมณ์และบรรยากาศของคนรอบข้างได้ มันยากเหลือเกินที่จะต่อต้านกับสิ่งที่เขาต้องการจะให้ฉันรู้สึก
ฉันลุกขึ้นอย่างขี้เกียจ ตัวยังคงอยู่ในผ้าห่ม "Jasper แวมไพร์เขาทำอะไรกันในงานเลี้ยงอำลาเหรอ เธอคงไม่พาเขาไปบาร์เปลือยหรอก จริงมั้ย"
"อย่าไปบอกอะไรเธอนะ" Emmett ขู่อยู่ด้านหลัง ในขณะที่ Edward แอบหัวเราะอย่างเงียบๆ
"รีแลกซ์เถอะ" Jasper บอกฉัน และฉันก็รู้สึกแบบนั้น "พวกเรา Cullens มีวิธีแบบของพวกเราเอง แค่สิงโตและหมีไม่กี่ตัว ก็แค่เป็นอีกคืนที่เราออกไปล่าสัตว์น่ะ"
"ขอบคุณมากนะ Jasper"
และเขาก็ผลุบหายไป
ฉันได้ยินแค่เสียงกรนของ Charlie เท่านั้น ข้างนอกช่างเงียบสงบเหลือเกิน
ฉันนอนหนุนหมอน ชักจะรู้สึกง่วงขึ้นมาแล้วสิ ฉันมองไปที่กำแพงอีกด้านของห้อง ที่มีแสงจันทร์สาดส่อง
คืนสุดท้ายในห้องนี้แล้วสินะ คืนสุดท้ายในการเป็น Isabella Swan วันพรุ่งนี้ ฉันจะกลายเป็น Bella Cullen ถึงแม้ว่าเรื่องงานแต่งงานทั้งหมดจะดูเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับฉัน แต่ฉันก็ต้องยอมรับว่า ฉันชอบชื่อใหม่ของฉันมากๆ
ฉันปล่อยใจให้ล่องลอย หวังว่าตัวเองจะค่อยๆหลับไป แต่แล้วอยู่ดีๆฉันก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา ความกังวลคืบคลานเข้ามาแทนที่ เตียงนี้ดูจะอุ่นเกินไป เมื่อไม่มี Edward อยู่เคียงข้าง Jasper อยู่ไกลออกไป ... ทำให้ความรู้สึกผ่อนคลายนั้นจางหายไปด้วย
พรุ่งนี้จะเป็นวันที่แสนจะยาวนานสำหรับฉัน
ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ดีว่าสิ่งที่ฉันกลัวนั้นมันช่างไร้สาระยิ่งนัก แต่ฉันก็ยังคงกังวลอยู่ดี
อย่างแรกเลย ฉันจะต้องใส่รองเท้าส้นสูงเดินลงบันไดที่บ้าน Cullen ลงมาพร้อมกับชายกระโปรงชุดแต่งงานที่แสนจะยาว ฉันควรจะต้องฝึกซ้อมซะหน่อย
ต่อมา ก็คือแขกที่มาในงาน
ครอบครัวของ Tanya พวก Denali clan จะมาถึงก่อนพิธีจะเริ่ม
การที่พวกของ Tanya และ พวก Quileute อันประกอบไปด้วย พ่อของ Jacob และพวก Clearwaters นั้น เป็นสิ่งที่ควรพึ่งระวังเป็นอย่างมาก พวก Denalis เองก็ไม่ชอบมนุษย์หมาป่าสักเท่าไร น้องสาวของ Tanya Irina ก็จะไม่มางานพรุ่งนี้ เพราะว่าเธอยังทำใจไม่ได้ที่มนุษย์หมาป่าเป็นคนฆ่าเพื่อนของเธอ Laurent (คนที่พยายามฆ่าฉันเช่นกัน) แต่ตอนที่ครอบครัวของ Edward ต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นที่พวกแวมไพร์เกิดใหม่จะมาโจมตีพวกเรา พวก Denalis ปฏิเสธไม่ช่วยพวกเรา ในขณะที่มนุษย์หมาป่ากลับช่วยเหลืออย่างเต็มที่
Edward สัญญากับฉันไว้ว่า การที่ พวก Denalis กับมนุษย์หมาป่ามาอยู่ใกล้กันนั้นจะไม่มีอันตรายแต่อย่างใด ส่วนครอบครัวของ Tanya ยกเว้น Irina พวกเธอล้วนรู้สึกผิดถึงเรื่องที่ผ่านมา และหวังว่าการต้องญาติดีกับพวกมนุษย์หมาป่าเป็นสิ่งที่พวกเธอพอจะชดเชยให้ได้
นั่นเป็นปัญหาใหญ่ แต่ก็ยังมีปัญหาเล็กน้อยอย่างอื่นเช่นกัน ซึ่งก็คือความรู้สึกที่เปราะบางของฉันเอง
ฉันไม่เคยเจอ Tanya มาก่อน แต่ก็แน่ใจได้เลยว่า การได้พบเธอนั้นคงไม่ใช่สิ่งที่ฉันชื่นชอบสักเท่าไร กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ก่อนที่ฉันจะเกิด Tanya ก็คงสนิทสนมกับ Edward พอสมควร ฉันไม่โทษเธอหรอกที่เคยต้องการเขา เพราะอย่างน้อยๆ เธอก็สวยงดงามอย่างที่สุด ถึงแม้ว่า Edward จะเลือกฉัน แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบระหว่างตัวฉันเองกับ Tanya
ฉันรู้สึกเศร้าอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่ง Edward คนที่รู้ดีว่าจุดอ่อนของฉันคืออะไร จับความรู้สึกฉันได้ และยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
เราคือกลุ่มคนที่ใกล้เคียงที่สุดที่พวกเธอจะเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวนะ Bella เขาเตือนฉันเป็นครั้งที่เจ็ด พวกเธอยังคงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กกำพร้าตลอดเวลา เธอเองก็รู้ดี
ดังนั้นฉันจึงทำเป็นยอมรับมัน และเก็บซ่อนความรู้สึกไม่เห็นด้วยเอาไว้
ครอบครัวของ Tanya เริ่มใหญ่ขึ้น ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ Tanya, Kate, Irina, และพึ่งมี Carmen และ Eleazar มาสมทบ ทำนองเดียวกับ Alice และ Jasper พวกเธอผูกพันกันด้วยแรงปรารถนาที่ต้องการจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากกว่าที่แวมไพร์ธรรมดาต้องการ
ถึงแม้ว่าพวกเธอจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม Tanya และเหล่าน้องสาวของเธอก็ยังคงโศกเศร้า และเดียวดาย นานมากมาแล้ว พวกเธอก็เคยมีแม่เหมือนกัน
ฉันนึกภาพได้เลยว่ามันจะน่าเศร้าสักเพียงไหน ที่เนิ่นนานนับพันปี แต่ครอบครัวของเธอก็ยังคงขาดผู้ที่เป็นศูนย์กลาง ผู้ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ผู้ชี้ทาง อย่างเช่น Carlisle
Carlisle เคยเล่าเรื่องของ Tanya ให้ฉันฟัง ในคืนหนึ่งที่ฉันอาศัยอยู่ที่บ้านของพวก Cullens เรียนรู้ให้มากที่สุด และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ฉันเป็นคนเลือก เรื่องราวแม่ของ Tanya ก็เป็นหนึ่งในการเตรียมพร้อมเหล่านั้น เพื่อให้ฉันได้ตระหนักถึงสิ่งที่ฉันจะเป็น เมื่อฉันได้เข้าร่วมโลกแห่งความอมตะนี้ จริงๆแล้ว มีกฎเพียงข้อเดียวเท่านั้น คือ เก็บรักษาความลับไว้ให้ดี
เก็บรักษาความลับในที่นี้หมายถึงอะไรหลายๆอย่าง เช่นอยู่อย่างไรไม่ให้มนุษย์สงสัยว่าพวกเราจะไม่แก่ หรืออยู่กับมนุษย์อย่างสันติ ยกเว้นเวลาหาอาหาร อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่ James และ Victoria เคยใช้ชีวิตอยู่ หรือการควบคุมพวก แวมไพร์เกิดใหม่ ที่เธอเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้น อย่างที่ Maria ปฏิบัติต่อ Jasper และอย่างที่ Victoria ล้มเหลวที่จะปฏิบัติต่อพวกนั้นเช่นกัน
และมันก็หมายรวมถึง การไม่ให้กำเนิดสิ่งเหล่านั้นตั้งแต่แรก เพราะว่าบางทีเราก็ไม่อาจควบคุมมันได้
ฉันเองก็ไม่รู้ชื่อแม่ของ Tanya เหมือนกัน Carlisle ยอมรับ ฉันสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าในดวงตาของเขา ที่มีให้กับความเจ็บปวดของ Tanya พวกเธอไม่เคยพูดถึงแม่เลยถ้าสามารถหลีกเลี่ยงได้
คนที่ให้กำเนิด Tanya, Kate และ Irina นั้น ฉันเชื่อว่าน่าจะอยู่มานานหลายปีก่อนฉันเกิด น่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่โลกนี้เต็มไปด้วยเชื้อโรค และเด็กที่เป็นอมตะ
สิ่งที่พวกแวมไพร์สมัยก่อนคิดนั้น ฉันไม่เคยเข้าใจเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกนั้นต้องให้กำเนิดแวมไพร์ที่อายุพอๆกับเด็กทารกด้วย
ฉันพยายามจะนึกภาพตาม
เด็กพวกนั้นงดงามมาก Carlisle เล่าอย่างรวดเร็ว เพื่อดูปฏิกิริยาของฉัน ทั้งมีเสน่ห์ และน่าทะนุถนอม เพียงแค่เธออยู่ใกล้เด็กพวกนั้น เธอก็จะหลงรักพวกเขาโดยอัติโนมัติ
แต่ถึงอย่างไรก็ดี เราไม่สามารถสั่งสอนพวกเขาได้ การพัฒนาการได้หยุดนิ่งอยู่ที่อายุก่อนที่พวกเขาจะโดนกัด เด็กที่อายุเพียงสองขวบก็สามารถทำลายหมู่บ้านได้อย่างราบเป็นหน้ากลอง ถ้าพวกนั้นกระหายเลือด เขาก็จะล่าเหยื่อ โดยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว เมื่อมนุษย์พบเจอเข้า เรื่องก็ถูกเล่าต่อๆกันราวกับไฟลามทุ่ง
แม่ของ Tanya ก็ให้กำเนิดเด็กแบบนั้นเช่นกัน โดยที่ฉันไม่เข้าใจเหตุผลของเธอสักเท่าไร แน่นอนว่า พวก Volturi ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ฉันรู้สึกสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนั้น แวมไพร์ตระกูลเก่าแก่สัญชาติอิตาเลี่ยน ราวกับเป็นพวกราชวงศ์แห่งแวมไพร์ เป็นศูนย์กลางของเรื่องนี้ ถ้ามันไม่มีบทลงโทษ ก็คงไม่ต้องใช้กฎหมาย มันคงไม่มีบทลงโทษ ถ้าไม่มีใครใช้กฎ Aro, Caius และ Marcus ปกครองกองกำลัง Volturi ฉันเคยได้พบพวกเขาครั้งหนึ่ง ดูเหมือนว่า Aro คนที่สามารถอ่านใจได้เพียงแค่ได้สัมผัสร่างกายของฝ่ายตรงข้าม จะเป็นผู้นำที่แท้จริง
พวก Volturi ศึกษาเรื่องเด็กอมตะพวกนี้ ที่ Volterra และส่วนอื่นๆบนโลก Caius ตัดสินใจว่า พวกนี้จะไม่สามารถรักษาความลับของพวกเราได้ ดังนั้นจึงต้องทำลายให้ราบคาบ
การทำลายล้างแวมไพร์เด็กเหล่านั้น ก็ได้เกิดขึ้นตามมา ก็อย่างที่ฉันเคยบอกเธอว่าพวกนั้นน่าทะนุถนอมขนาดไหน มีคนจำนวนมากตายเพราะปกป้องพวกเขา แต่ในที่สุดก็เด็กพวกนั้นถูกกำจัดทิ้งไปจนหมด การเอ่ยชื่อถึงเด็กพวกนั้นกลายเป็นสิ่งต้องห้ามของพวกเราทุกคน
ตอนที่ฉันอยู่กับพวก Volturi ฉันเคยเจอเด็กสองคน ดังนั้นฉันจึงรู้ดีว่าพวกเขามีเสน่ห์แรงดึงดูดมากมายขนาดไหน Aro เคยศึกษาเด็กคนหนึ่งเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่การทำลายล้างจะเกิดขึ้น เขาหวังว่าจะทำให้เด็กพวกนี้เชื่องได้ แต่ในที่สุดก็มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ทำลายทิ้งซะ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่ Tanya มันก็ไม่ชัดเจนนักหรอก Tanya Kate และ Irina ยังคงไม่มีสติพอที่จะรับรู้เรื่องราวอะไร จนกระทั่งวันที่ Volturi มาหาพวกเธอ แม่ของพวกเธอ การให้กำเนิดที่ผิดกฎเช่นนั้น เมื่อ Aro สัมผัสพวกเธอ จึงได้รู้ว่าพวกเธอบริสุทธิ์ และไม่ถูกลงโทษตามแม่ไป
ไม่มีใครเคยเห็นเด็กผู้ชายคนนี้มาก่อน หรือนึกถึงการมีอยู่ของเขา จนกระทั่งวันที่พวกเขาได้เห็นเด็กคนนี้ถูกเผาทั้งๆที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ ฉันเดาได้แต่เพียงว่า แม่ของเขาคงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเพื่อปกป้องเขา แต่ทำไมเธอถึงให้กำเนิดสิ่งนี้ขึ้นมาแต่แรก เด็กคนนี้เป็นใคร และทำไมเขาถึงความหมายต่อเธอถึงขนาดนี้ ถึงขนาดทำให้เธอทำอะไรล้ำเส้นขนาดนี้ Tanya และคนอื่นๆ ก็ไม่เคยรู้คำตอบถึงคำถามเหล่านี้เช่นกัน แต่พวกเธอไม่อาจทักท้วงได้ถึงความผิดของแม่ของเธอในครั้งนี้ และฉันก็ไม่คิดว่าพวกเธอได้ให้อภัยแม่ของพวกเธอแล้ว
ถึงแม้ว่า Aro จะยืนยันได้ถึงความบริสุทธิ์ของพวกเธอ แต่ Caius ก็ยังต้องการให้เผาพวกเธอซะ โทษฐานที่ทำความผิดร่วมกัน โชคยังดีที่วันนั้น Aro มีเมตตา จึงได้ปล่อยพวกเธอไป เหลือไว้แต่เพียงหัวใจของพวกเธอที่สุดแสนจะบอบช้ำ
ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ความทรงจำนี้ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความฝันรึเปล่า วูบแรกฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังนั่งฟัง Carlisle เล่าเรื่องอยู่ แต่แล้วฉันก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังมองไปที่ทุ่งหญ้าว่างเปล่า ปกคลุมไปด้วยสีเทาทะมึน ฉันได้กลิ่นไหม้ ฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวที่นั่น
นั่นเองสิ่งที่ทำให้ฉันกลัว กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ภายในเสื้อคลุม น่าจะเป็นพวก Volturi และน่าจะมีแต่ตัวฉันเอง กับพวกนั้น การเผชิญหน้าครั้งล่าสุด ฉันก็ยังคงเป็นมนุษย์ แต่ฉันรู้สึกว่า บางครั้ง ในความฝันของฉัน พวกเขาก็ไม่อาจมองเห็นฉันได้
ควันค่อยๆปกคลุมไปทั่ว ฉันได้กลิ่นที่หอมหวานของอากาศ แต่ไม่อยากจะจ้องมองเข้าไปที่ควัน เพราะเกรงว่าจะเจอคนที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดี
พวก Volturi ยืนล้อมรอบคนบางคนอยู่ ฉันได้ยินเสียงกระซิบพึมพำไปมาด้วยความเกลียดชัง ฉันขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น เพื่อจะดูว่า ใครอยู่ในนั้น ค่อยๆคลานผ่านคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าฉันสองคน
ฉันได้ยินเขาสองคนกำลังเถียงกันอยู่ และสุดท้ายก็ได้เห็นถึง สิ่ง ที่พวกเขากำลังเอ่ยถึง
เขางดงามและน่าทะนุถนอมอย่างที่ Carlisle เคยบอกฉันไว้ เด็กคนนั้นคงจะอายุแค่สองสามขวบเท่านั้น ผมดัดสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมใบหน้าของเขา เขาหลับตาลง เพราะเขากลัวเกินว่าที่จะมองดูความตายที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามา
อยู่ดีๆ ฉันก็เกิดความรู้สึกที่ต้องการจะช่วยเด็กคนนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะกลัวพวก Volturi มาก ฉันค่อยๆเร้นกายผ่านพวกนั้น ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าพวกนั้นจะเห็นฉันหรือไม่ ฉันวิ่งไปหาเด็กคนนั้น
แต่แล้วฉันก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้เห็นบรรยากาศรอบๆอย่างชัดเจน มันไม่ใช่ดินหรือหินที่ล้อมรอบเด็กคนนั้นไว้ แต่เป็นกองซากศพมนุษย์ขนาดมหึมา สายเกินไปเสียแล้วที่จะไม่เหลียวไปมองใบหน้าเหล่านั้น ฉันรู้จักพวกเขาทั้งหมด Angela Ben Jessica Mike และข้างๆเด็กคนนั้น คือศพของพ่อกับแม่ฉัน
เด็กคนนั้นค่อยๆลืมตาขึ้นมา .... ตาสีเลือดคู่นั้น
Create Date : 08 มกราคม 2552 |
Last Update : 9 มกราคม 2552 11:12:37 น. |
|
20 comments
|
Counter : 723 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: ํYu_Yoo IP: 58.9.180.186 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:22:57:16 น. |
|
โดย: ซน IP: 58.8.183.147 วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:12:45:41 น. |
|
โดย: dark rain วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:12:55:28 น. |
|
โดย: p IP: 125.25.37.90 วันที่: 9 มกราคม 2552 เวลา:19:02:42 น. |
|
โดย: อ้อ IP: 118.172.141.39 วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:4:04:21 น. |
|
โดย: p IP: 124.120.166.19 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:15:56:35 น. |
|
โดย: หมอกขาว IP: 58.9.217.216 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:18:06:50 น. |
|
โดย: BaTT~TaBB IP: 203.144.131.123 วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:7:45:37 น. |
|
โดย: เด็กน้อยตาดำๆ IP: 61.7.155.122 วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:15:58:49 น. |
|
โดย: aor IP: 124.122.143.90 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:19:39:10 น. |
|
โดย: Visiter IP: 125.25.13.71 วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:15:48:08 น. |
|
โดย: sss IP: 203.154.188.20 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:27:11 น. |
|
โดย: koko IP: 58.9.87.28 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:12:32 น. |
|
โดย: kimji IP: 202.28.27.5 วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:0:42:36 น. |
|
โดย: P IP: 203.146.112.132 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:13:35:17 น. |
|
โดย: mawantha IP: 58.8.166.210 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:10:18:09 น. |
|
โดย: phronlapat วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:3:39:34 น. |
|
โดย: ๏ize๏ IP: 125.24.143.29 วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:21:18:31 น. |
|
โดย: nok IP: 125.27.215.98 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:22:35:38 น. |
|
โดย: Renesmee>____< IP: 125.26.157.147 วันที่: 19 กันยายน 2552 เวลา:9:36:04 น. |
|
|
|
|
BaTT~TaBB |
 |
|
 |
|