Breaking Dawn (Twilight Saga IV) - Episode 8.1
เล่มที่ 2 เล่าเรื่องในมุมมองของ Jacob บทนำ ชีวิตบัดซบ และแล้วเธอก็ตาย ใช่แล้ว ฉันช่างโชคดีซะเหลือเกิน 8. รอให้การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มขึ้นซะที "Paul นายไม่คิดจะมีบ้านเป็นของตัวเองบ้างรึไง" Paul นอนยาวอยู่บนโซฟาของฉัน นั่งดูการแข่งขันเบสบอลจากทีวีของฉัน พอฉันพูดจบ เขาก็แค่หันมามองฉันด้วยความเคือง และแล้วเมื่อเกมเริ่มขึ้น เขาก็หยิบขนมโดริโทสชิ้นหนึ่งเข้าปาก "นายน่าจะเอาขนมพวกนี้ไปกับนายด้วยนะ" "ไม่ล่ะ" เขาพูดในขณะที่เคี้ยวขนมชั้นนั้นอยู่่ "น้องของนายบอกว่า เชิญตามสบายเลย แล้วก็ให้บริการตัวเองตามสะดวก" ฉันพยายามทำเสียงราวกับว่าฉันไม่ได้กำลังจะต่อยเขา "Rachel อยู่ที่นี่เหรอตอนนี้" มันไม่ได้ผล เขารู้ว่าฉันจะพุ่งไปที่ไหน เขาจึงซ่อนขนมไว้ด้านหลัง ขนมถูกทับละเอียดติดกับโซฟา มันฝรั่งแตกเป็นเสี่ยงๆ มือของ Paul ตั้งการ์ดเตรียมพร้อม "เอาน่า ไอ้หนู ฉันไม่ได้ต้องการให้ Rachel มาปกป้องฉันนะ" ฉันคำราม "ก็ได้ อย่างกับตอนแรกนายจะไม่ไปร้องไห้อ้อนเธอย่างนั่นแหล่ะ" เขาหัวเราะและนั่งรีแลกซ์อยู่บนโซฟา เอาการ์ดลง "ฉันจะไม่ไปฟ้องเธอหรอกนะ ถ้านายต่อยโดนนะ มันก็จะเป็นแค่เรื่องระหว่างเราสองคน ในทางกลับกันด้วย โอเคมั้ยล่ะ" เมื่อเขาเอ่ยเชิญชวนฉันอย่างนี้ ฉันก็ทำเป็นเหมือนกับยอมแพ้แล้ว "ก็ได้" แล้วสายตาของเขาก็เลื่อนกลับไปที่ทีวี ฉันต่อยเขาไปเต็มแรง TBC ต่อหน้านี้นะคะ พอดีมีธุระต้องออกไปข้างนอก ไว้ดึกๆมาต่อให้ค่ะ :)
เขาพยายามที่จะจับฉัน แต่ฉันถอยหลบออกมาก่อนที่เขาจะคว้าฉันไว้ได้ ขนม doritos อยู่ที่มือซ้ายของฉัน "นายทำจมูกฉันหัก" "แค่เรื่องระหว่างเราไง Paul" ฉันเดินไปวางถุงมันฝรั่ง เมื่อหมุนตัวกลับมาอีกที Paul ก็รีบจัดทรงจมูกก่อนที่มันจะเบี้ยวงอ เลือดหยุดไหลแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่รู้ว่ามันไหลลงมาจากไหน ในขณะที่เลือดไหลเป็นตามทางมาถึงริมฝีปากและคางของเขา "นายบ้า Jacob ฉันสาบานได้เลยว่าฉันน่าจะออกไปเที่ยวกับ Leah มากกว่า" "ว้าว ฉันพนันได้เลยว่า Lean จะต้องชอบแน่ที่ได้ยินว่านายอยากไปเที่ยวกับเธอ มันจะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมากเลย" "นายจะต้องลืมสิ่งที่ฉันพูดไปเมื่อกี้นี้ซะ" "แน่นอน ฉันมั่นใจเลยว่า จะไม่พูดมันไปแน่" "เหอะ" เขาคำถามแล้วก็กลับไปนั่งที่โซฟา เขาใช้คอเสื้อเช็ดเลือดที่เปรอะอยู่บนหน้าตัวเอง "นายมันไวมากนะ ไอ้หนู" แล้เวขาก็กลับไปสนใจเกมเบสบอลต่อ ฉันลุกขึ้นยืน แล้วก็เดินกลับห้องไป ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม เราก็สามารถพึ่งพา Paul ตอนต่อสู้ได้เสมอ นายไม่ควรจะต่อย Paul หรือพูดจาดูถูกอะไรเขา เพราะว่ามันไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรมากเลยที่จะทำให้เขาทำตัวอยู่เหนือการควบคุม แต่ตอนนี้เมื่อฉันต้องการที่จะต่อสู้ ในแมตช์ที่เป็นตายนี้ ฉันกลับอยากให้เขาอ่อนลง นี่มันยังไม่แย่พออีกเหรอที่มีพวกของเราอีกคนหนึ่งเกิดความรู้สึกต้องตาต้องใจเพศตรงข้าม เพราะว่าตอนนี้สี่ในสิบของพวกเราแล้วที่เป็นอย่างนั้น เมื่อไหร่มันจะหยุดกันเนี่ย ตำนานปรัมปราที่แสนจะไร้สาระควรจะพบเจอได้ยากไม่ใช่เหรอ อะไรกันหนักหนา ไอ้เรื่อง "รักแรกเจอ" นี่หักห้ามใจไม่ได้เนี่ยมันช่างน่ารำคาญจริงๆ แล้วทำไมต้องเป็นน้องสาวฉัน และทำไมต้องเป็น Paul เมื่อ Rachel กลับมาจากรัฐวอร์ชิงตันช่วงฤดูร้อนหลังจากที่เรียบจบก่อนกำหนด เฮ้อ ยัยเด็กนี่ช่างเป็นเด็กเรียนจริงๆ สิ่งที่ฉันเป็นกังวลที่สุดคือฉันยากที่จะปิดบังความลับของตัวเองจากเธอ ฉันไม่เคยชินกับการปิดบังตัวเองในบ้านของฉัน เหมือนกับ Embry และ Collin ที่พ่อแม่ของเขาทั้งคู่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นมนุษย์หมาป่า แม่ของ Embry คิดว่า เขากำลังเข้าสู่วัยรุ่น วัยที่เป็นปฏิปักษ์กับทุกอย่าง เขาถูกกักบริเวณเกือบจะทุกวัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไรนัก แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย แม่ของเขาออกมาเช็คที่ห้องทุกคืน และเขาก็จะพบว่ามันว่างเปล่าทุกคืนเช่นกัน เธอกรีดร้องแต่เขาก็ไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไรนัก แล้วมันก็เป็นอย่างนี้ไปทุกวัน เราพยายามที่จะคุยกับ Sam เพื่อให้ Embryหยุดพักบ้าง แล้วให้แม่ของเขาเข้าร่วมกับพวกเราด้วย แต่ Embry บอกว่าเขาไม่แคร์ ความลับของพวกเรานั้นสำคัญเกินกว่าที่จะบอกให้คนจำนวนมากรับรู้ได้ ดังนั้นทุกอย่างจึงควรที่จะถูกเก็บเป็นความหลับ และแล้วสองวันต่อมา Rachel ก็กลับมาถึงบ้าน Paul วิ่งไปหาเธอที่ชายหาด และแล้วก็ แบง แบง บูม รักแท้ ความลับไม่จำเป็นอีกต่อไปเมื่อเราเจออีกครึ่งที่หายไปของเรา Rachel รู้เรื่องทั้งหมด และฉันก็จะมี Paul เป็นน้องเขยสักวันในอนาคต ฉันรู้ว่า Billy ไม่ได้ยินดีกับเรื่องนี้มากนัก แต่เขาก็จัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่าฉัน แน่นอน เขาหนีไปหาพวก Clearwaters บ่อยกว่าปกติ ฉันไม่เห็นว่ามันจะดีกว่าตรงไหนเหรอ ถึงแม้จะไม่มี Paul แต่ก็มี Leah ฉันนอนลงบนเตียง ฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เพราะไม่ได้นอนตั้งแต่รวมตัวครั้งที่แล้ว แต่ฉันก็รู้ดีกว่าฉันนอนไม่หลับแน่ ในสมองของฉันเต็มไปด้วยเรื่องยุ่งๆมากมาย เหมือนกับว่ามีผึ้งจำนวนมากบินอยู่รอบๆกระโหลกฉัน แล้วมันก็ต่อยฉันไปเรื่อยๆ เอ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อน มันต้องไม่ใช่ผึ้งสิ มันน่าจะเป็นตัวต่อมากกว่า เพราะว่าผึ้งต่อยครั้งหนึ่งก็ตายแล้ว แต่นี่เหมือนกับว่ามันต่อยฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า การรอคอยนี้กำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า มันก็เกือบจะสี่อาทิตย์แล้ว ฉันควรจะได้ข่าวอะไรบ้าง ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ฉันนั่งคิดทุกคืนว่ามันจะออกมาในแนวไหน Charlie ร้องไห้ทางโทรศัพท์ เมื่อรู้ว่า Bella กับสามีของเธอหายไประหว่างประสบอุบัติเหตุ เครื่องบินตกหรือไง เรื่องนี้มันยากที่จะหลอกกันนี่นา ถ้าพวกปีศาจดูดเลือดนั้นไม่แคร์ที่จะฆ่าคนทั้งลำเพื่อจะทำให้มันดูเหมือนจริง และทำไมพวกนั้นจะไม่แคร์ล่ะ อาจจะเป็นเครื่องบินลำเล็กก็ได้ พวกเขาน่าจะมีเผื่อไว้ หรือว่าไอ้ฆาตกรนั่นมันกลับมาบ้านคนเดียว หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จจะทำให้เธอเป็นหนึ่งในพวกมัน หรืออาจจะไ่ม่ไปไกลถึงขนาดนั้น เขาอาจจะเก็บร่างของเธอไว้เหมือนถุงมันฝรั่งถุงหนึ่งในขณะที่ขับรถกลับมาบ้านก็ได้ เพราะว่าชีวิตของเธอสำคัญต่อเขาน้อยกว่าความสุขที่เขาจะได้มาจากการทำร้ายเธอเสียอีก เรื่องนี้มันจะต้องเป็นโศกนาฏกรรมแน่ๆ Bella สูญหายในอุบัติเหตุ ...อุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อแม่ของฉัน ช่างเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เขาจะพาเธอกลับบ้านมั้ย ฝังเธอไว้ที่นี่เพื่อ Charlie ฝังศพไว้ในโลงที่บรรจุอย่างดิ แน่สิ โลงศพของแม่ก็ถูกตอกปิดด้วยตะปูอย่างดีเช่นกัน ฉันแค่หวังว่าเขาจะกลับมาที่นี่ มาในอาณาเขตของฉัน บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ Charlie คงจะโทรหาพ่อแล้วถ้าได้ยินอะไรจากคุณหมอ Cullen ผู้ซึ่งไม่ได้ปรากฏตัวมาทำงานอีกเลยแม้แต่วันเดียว บ้านหลังนั้นถูกทิ้งร้าง ไม่มีใครรับโทรศัพท์เลย เรื่องนี้ช่างจะกลายเป็นข่าวที่พูดกันไปทั่วแล้ว บางทีบ้านสีขาวหลังใหญ่นั้นอาจจะถูกเผาแล้วก็ได้ แล้วทุกคนก็อยู่ในนนั้น แน่นอนว่าพวกนั้นต้องการศพเพื่อให้ในการอำพราง ศพถูกเผาจนไหม้เกรียม มีแต่รอยฟันที่จะใช้บอกได้ว่าใครเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนมันก็ล้วนแล้วแต่มีพิรุธสำหรับฉันทั้งนั้น มันยากเหลือเกินที่จะหาพวกนั้นพบถ้าพวกนั้นไม่อยากให้ถูกพบซะอย่าง ฉันมีเวลาเหลือเฟือที่จะหาพวกนั้น ถ้าคุณมีเวลาชั่วกาลปานอวสาน คุณก็อาจจะตรวจได้ทุกตารางนิ้วเลยก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันแค่รู้สึกอยากจะทำอะไรสักอย่างก็เท่านั้น ฉันเกลียดที่จะรู้ว่าฉันอาจจะสูญเสียโอกาสนั้นไป ให้เวลาแก่พวกผีดูดเลือดนั่นได้มีเวลาหลบหนีตามแผน เราอาจจะไปคืนนี้ก็ได้ เราจะฆ่าพวกมันทั้งหมดถ้าเราหาพวกมันพบ ฉันชอบแผนนี้เพราะฉันรู้ดีว่า Edward จะทำอะไรถ้าฉันฆ่าครอบครัวของเขา มันคงจะเป็นโอกาสที่จะทำให้หาตัวเขาพบ เขาต้องมาเพื่อแก้แค้นแน่นอน และฉันจะจัดการเขา ฉันจะไม่ปล่อยให้พี่ๆน้องๆในกลุ่มของฉันจัดการเขา แค่ระหว่างเขากับฉันเท่านั้น คนที่เก่งกว่าจะเป็นผู้ชนะไป แต่ Sam จะมารู้เรื่องนี้ไม่ได้ เราจะไม่ทำลายสนธิสัญญาของเรา ให้พวกมันเป็นคนละเมิดก่อน เพราะว่าเราไม่มีหลักฐานว่าพวก Cullen ทำอะไรผิด ไม่ได้แปลว่าเราไม่ควรทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ Bella ถ้าไม่กลับมาแบบเป็นพวกนั้น ก็คือไม่กลับมาเลย ทางใดทางหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ต้องเสียชีวิตอยู่ดี ซึ่งก็หมายความว่า พวกนั้นได้ละเมิดสัญญาแล้ว ในอีกห้องหนึ่ง Paul ส่งเสียงดัง บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนไปดูรายการตลกก็ได้ รายการพวกนั้นมันตลกมาก แต่ก็ช่างมันเถอะ ฉันคิดถึงเรื่องที่ทำจมูกเขาหักอีกครั้ง มันไม่ใช่ Paul หรอกที่ฉันอยากจะสู้ด้วย ไม่ใช่เลย ฉันพยายามฟังเสียงอื่นๆ เสียงลมปะทะกับต้นไม้ แต่มันก็ไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่ผ่านทางหูของมนุษย์ มันยังมีเสียงอีกเป็นล้านจากสายลมที่ฉันไม่อาจจะฟังได้ถ้ายังอยู่ในร่างนี้ แต่หูของฉันก็รับเสียงได้ไวพอสมควร ฉันได้ยินเสียงจากต้นไม้ ถนน เสียงเหมือนรถเลี้ยวเข้ามาที่ชายหาด บริเวณที่ตำรวจของ La Push จะไปวนเวียนอยู่แถวนั้น ทีที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่เคยลดความเร็วทันก่อนที่จะโดนเขียนใบสั่ง ฉันได้ยินเสียงนอกร้านขายของที่ระลึก ได้ยินเสียงประตูปิดและเปิด ได้ยินเสียงแม่ของ Embry ที่อยู่ตรงแคชเชียร์ ฉันได้ยินเสียงคลื่น ได้ยินเสียงเด็กวิ่งกวดกันไปมา ได้ยินเสียงแม่บนเรื่องเสื้อของเด็กๆพวกนั้นเปียกแฉะไปหมด และได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ฉันได้เสียงหัวเราะของ Paul ลั่นบ้านไปหมด ฉันทนไม่ไหวเลยลุกขึ้นจากเตียง "ออกจากบ้านฉันไปซะ" ฉันพูดอย่างเหลืออด รู้ดีว่าเขาก็ไม่สนใจอยู่ดี ฉันเลยปีนหน้าต่างลงไปเพื่อที่จะไปทางด้านหลังบ้าน จะได้ไม่ต้องเจอ Paul อีก แต่ฉันก็อยากจะต่อยเขาอีกสักครั้งมาก ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ดีว่า Rachel คงจะโมโหพออยู่แล้ว เมื่อได้เห็นเลือดบนเสื้อของเขา ธอคงจะโทษฉันทันทีโดยไม่ต้องรอการพิสูจน์หลักฐาน แต่เธอก็เดาได้ถูกแล้ว ฉันเดินไปตามชายหาด อย่างน้อยๆในฤดูร้อนก็มีข้อดีอย่างหนึ่ง คือไม่มีใครสนใจว่าฉันจะใส่แค่กางเกงขาสั้นเดินไปเดินมา ฉันเดินไปตามเสียงที่คุ้นเคย และเจอ Quil ยืนอยู่ เขาอยู่ทางใต้ของเกาะ จุดที่หลีกเลี่ยงจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก "ออกมาจากน้ำได้แล้ว Claire มานี่สิ ใช่แล้ว นี่ฉันซีเรียสนะ เธออยากให้ Emily มาเอาเรื่องกับฉันเหรอ ฉันจะไม่พาเธอมาที่นี่อีกแล้วถ้าเธอไม่ ... ใช่ ...ไม่ .... เธอคิดว่านี่มันตลกเหรอไง คิดเหรอ ... 555+ .... ใครกำลังหัวเราะอยู่ตอนนี้ล่ะ หือ" เขาหยอกล้อกับเด็กคนหนึ่ง (อายุประมาณ 2-3 ขวบ) อยู่ ขากางเกงของเธอถูกพับขึ้น เธอถือกะบะทรายเด็กเล่นไว้ที่มือข้างหนึ่ง มีรอยเปียกน้ำดวงใหญ่อยู่ที่เสื้อของ Quil "ฉันพนัน ห้าเหรียญเลยว่าเด็กคนนั้นจะชนะ" ฉันเอ่ยออกมา "อ่าว Jake" Claire ขว้างกะบะอันนั้นไปเข่าของQuil "ลง ลง!!" เขาวางเธอลงอย่างระมัดระวัง แล้วเธอก็วิ่งมาหาฉัน กอดขาฉันไว้ "คุงลุง ..เ..จ" "เป็นไงบ้าง Claire" เธอหัวเราะ "ดูสิ Q...will... เปียกหมดแล้ว" "ฉันเห็นแล้วจ้ะ แม่เธออยู่ไหนเหรอ" "ไป ไป ไปแล้ว" Claire เอ่ยออกมา "หนูอยู่กับ Quil ทั้งวันเลย" เธอปล่อยฉัน และวิ่งไปหา Quil เขาอุ้มเธอขึ้นมา และจับเธอพาดบ่า "ดูเหมือนทั้งคู่จะมีความสุขดีนะ" "จริงๆแล้ว สามต่างหาก นายพลาดงานปาร์ตี้ ตีมเจ้าหญิงน่ะ เธอทำมงกุฎให้ฉัน แล้ว Emily ก็แนะนำให้เธอแต่งหน้าให้ฉันด้วย" "ว้าว ฉันขอโทษนายด้วย ฉันแค่ไม่อยากไปเท่าไรน่ะ" "ไม่ต้องห่วงไปหรอก Emily มีรูปเยอะแยะเลย" "นายนี่มันประหลาดจริงๆ" Quil หัวเราะ "Claire มีความสุข ฉันก็ดีใจแล้ว" ฉันกรอกตาไปมา มันยากที่จะเชื่อเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ตั้งแต่อายุเท่า Sam หรือแม้กระทั่งเด็กทารกเหมือน Quil ฉันสัมผัสได้ทุกครั้งว่าพวกเขามีความรู้สึกสงบและความมั่นใจในตัวอีกฝ่ายเสมอเวลาอยู่ด้วยกัน Claire สะกิดที่ไหล่ของเขา และชี้ไปที่พื้น "Quil ฉันอยากได้ ไอ้นั่น อยากได้ไอั่นั่น" "อันไหนเหรอ สีแดงใช่มั้ย" "ไม่ใช่ เดี๋ยว" Quil คุกเข่าลง แล้ว Claire ก็กรีดร้องออกมา ดึงผมของเขาเหมือนกับดึงขนม้า "สีฟ้าเหรอ" "ไม่ ไม่ ไม่...." เด็กผู้หญิงร้องเสียงดัง ส่วนที่แปลกที่สุดก็คือ Quil สนุกพอๆกับที่เธอรู้สึก เขาไม่ได้มีสีหน้าเหมือนกับพ่อแม่ที่พาเด็กๆมาเที่ยวชายหาดคนอื่นๆเลย ฉันเคยเห็น Quil เล่นเกมเด็กปัญญาอ่อนเป็นชั่วโมงๆ โดยไม่เบื่อเลยซ้ำ และฉันก็ไม่อาจเห็นเขาเป็นตัวตลกได้หรอก จริงๆแล้วฉันอิจฉาเขามากต่างหาก ถึงแม้ว่ามันจะแย่เมื่อเขาต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกสิบสี่ปี แต่อย่างน้อยสำหรับพวกเรามนุษย์หมาป่า มันมีข้อดีก็คือพวกเราไม่ได้แก่ขึ้นตามกาลเวลา ทำให้เรื่องเวลานั้นไม่เป็นประเด็นมากนัก "Quil นายเคยคิดที่จะไปเดทบ้างมั้ย" "หา" "ไม่ ไม่ ไม่เอาฉีเหลือง.." Claire ตะเบ็งเสียงออกมา "นายก็รู้ ฉันหมายถึงผู้หญิงจริงๆนะ ไม่ใช่มาเป็นพี่เลี้ยงเด็กทั้งวันทั้งคืนอย่างทุกวันนี้" Quil จ้องมาที่ฉัน แล้วก็อ้าปากค้าง "เอาอันนั้น เอานั้น" Claire กรีดร้องออกมาเมื่อเขาหยิบอันที่ไม่ถูกใจขึ้นมา เธอดึงผมเขา "ขอโทษนะ Claire สีม่วงนี่เป็นไงล่ะ" "ไม่เอา" เธอหัวเราะ "ม่ายเอาฉีม่วงงง" "ใบ้ฉันหน่อยสิ นะ ฉันขอร้องเด็กน้อย" Claire ฉุกคิดนิดหนึ่งก่อนที่จะเอ่ยออกมา "สีเขียว" Quil จ้องไปที่หินนั้น แล้วก็หยิบหินสี่อันที่เป็นสีเขียวล้วนทั้งหมด "ฉันหยิบถูกอันใช่มั้ย" "ใช่" "อันไหนล่ะ" "ท้างงงหมดเลย" เธอก้มลงไปหยิบหินทั้งหมด แล้วเขาก็รีบวิ่งไปที่ parking lot เพราะกลัวว่าเธอจะไม่สบาย เมื่อเห็นว่าเสื้อของเธอเปียก นี่เขาแย่กว่าพวกแม่ๆที่โอเวอร์อีกนะเนี่ย "ขอโทษนะที่ฉันบอกให้นายไปเดทกับสาวน่ะ" ฉันเอ่ยออกมา "ไม่หรอก มันเจ๋งมากเลยนะ ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลย" "ฉันพนันได้เลยว่า เธอจะต้องเข้าใจนาย นายก็รู้เมื่อเธอโตขึ้น เธอไม่บ้าหรอกเมื่อนายจะมีชีวิตของตัวเองในขณะที่เธอยังใส่ผ้าอ้อมอยู่เลย" "ไม่หรอก ฉันรู้ดี ฉันแน่ใจว่าเธอจะต้องเข้าใจมันแน่" แล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย "แต่นายจะไม่ทำอย่างนั้น ใช่มั้ย" ฉันเดา "ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนั้นเลย ไม่เคยจะเห็นอะไรแบบนั้น ฉันไม่ได้สังเกตเห็นผู้หญิงพวกนั้นอีกแล้ว ไม่เห็นใบหน้าของพวกเธออีกเลย" "จริงๆแล้วถ้าพูดเรื่องมงกุฎอันนั้นกับที่ว่านายแต่งหน้านะ บางที Claire อาจจะมีอีกเรื่องที่ต้องกังวลก็ได้" Quil หัวเราะออกมา แล้วก็ถามว่า "นายว่าใช่มั้ย ศุกร์นี้ Jacob" "ใช่ ก็ว่างนะ" เขารีรอที่จะถาม แต่แล้วก็เอ่ยออกมา "นายคิดที่จะออกเดทบ้างมั้ย" ฉันถอนหายใจ "นายก็รู้ Jake บางทีนายอาจจะต้องคิดเรื่องการใช้ชีวิตบ้าง" เขาไม่ได้เหมือนกำลังจะพูดล้อเล่น เสียงของเขาดูจริงจัง และนั่นยิ่งทำให้มันแย่ลงไปอีก "ฉันไม่เห็นหน้าพวกเธอเลย Quil ไม่เห็นเลย" Quil ถอนหายใจเช่นกัน
Free TextEditor
Create Date : 24 มกราคม 2552 |
Last Update : 25 มกราคม 2552 13:14:57 น. |
|
22 comments
|
Counter : 631 Pageviews. |
|
 |
|
อยากให้คุณแต๊ปแปลmidnight sun ด้วยจัง แปลเองแล้วมันไม่ได้อรรถรสในการอ่านเลย
ขอบคุณค่า