Group Blog
 
All Blogs
 
ไม่อาจเอ่ยคำลา

ไม่อาจเอ่ยคำลา

เรื่องสั้น

ไม่อาจเอ่ยคำลา

เพทาย

เขาได้ยินเสียงพระสวดแว่วแว่ว
เขาไม่ได้ฝัน แม้เขาจะหลับตา แต่ใจยังไม่หลับ เขากำลังใช้ความคิด
เขาคิดถึงวันเวลาที่ผ่านมา และผ่านไปแล้ว

มันเนิ่นนานมาสักเท่าไรแล้วนะ เชาพยายามที่จะพลิกฟื้นความจำ
จากสมองที่กำลังสับสนวุ่นวายอยู่ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวและความเศร้าสร้อย

วันนั้น เขาก็นอนอยู่อย่างเดี๋ยวนี้
เป็นเตียงที่ยาวและใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ห้อง แต่มีที่นอนปูเรียงกันอยู่เพียงสี่ผืน
มีผ้าม่านขึงกั้นแยกที่นอนแต่ละผืนออกเป็นสัดส่วน ให้มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นบ้าง

เธอนั่งคุกเข่าอยู่ที่ปลายเท้าของเขา ซึ่งอยู่ในเครื่องแต่งกายแบบลำลอง
กางเกงขาก๊วย และเสื้อคอกลมผ่าอก เหมือนเสื้อม่อฮ่อม แต่มีลวดลายเดียวกับกางเกง

เธอกำลังขยำข้อเท้าของผมที่บวมเป่งจนมองไม่เห็นตาตุ่ม

เธอบอกเขาว่าเธอจะต้องกลับไปบ้าน ที่อยู่ต่างจังหวัดทางภาคเหนือ
เพื่อดูแลแม่ที่ป่วยและต้องเลี้ยงลูกกำพร้าพ่อสองคนของเธอด้วยความขัดสน
ด้วยเงินที่เธอส่งไปให้เป็นประจำทุกเดือน
แต่เวลานั้นแม่ป่วยมากขึ้น เธอจึงต้องขึ้นไปดูด้วยตนเอง
อาจจะเป็นการชั่วคราว หรือนานเท่าไรก็ยังไม่ทราบ

เขารับฟังเรื่องของเธอด้วยความรู้สึกใจหายลึกลึก
เพราะเขาคุ้นเคยกับเธอมาเป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะเกษียณอายุจากมนุษย์เงินเดือน
ออกมาเป็นมนุษย์บำนาญอย่างทุกวันนี้
เขามอบเงินให้เธอมากกว่าปกติเล็กน้อย แล้วก็จากกันไปโดยไม่มีคำล่ำลาอาลัย

เขาควรจะลืมเธอไปได้ในเวลาไม่นาน
และมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้น

แต่เขานึกถึงเธอขึ้นมาได้อีกเ ก็พราะเรื่องราวมันเกี่ยวพันกันอยู่จนถึงปัจจุบัน
เธอฝากเด็กสาวอายุน้อยกว่าเธอหลายปี ไว้ให้เขาช่วยอุปการะด้วยคนหนึ่ง
ไม่ใช่น้องแท้แท้ของเธอ แต่เป็นคนจังหวัดเดียวกัน อำเภอเดียวกัน

เขาพบเด็กสาวผู้นั้น ก่อนที่จะออกจากห้องนอนที่กล่าวถึง เมื่อหมดเวลาทำการแล้ว
เธอเข้ามากอดเอวเขาไว้ และบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและดูจริงจังจากหัวใจของเธอ
หรือไม่เขาก็เชื่อเช่นนั้นอย่างสุจริตใจ

และนั่นจึงก่อให้เกิดนิยายอีกเรื่องหนึ่ง ที่สืบต่อจากเรื่องแรกที่จบไปหยกหยก

เขาลืมตาขึ้นมองเพดานห้องสีขาวสะอาดตา เสียงเครื่องปรับอากาศดังอย่างแผ่วเบาจากด้านหัวนอนเตียง
คล้ายกับสถานที่ซึ่งเขาไปนอนเป็นประจำไม่มีผิด
เสียงพระสวดยังดังลอยเข้ามาพอได้ยินแว่วแว่ว

เขาไม่ได้ฝันไปเองหรอก เขาได้ยินจากหูข้างที่ยังพอได้ยินอยู่สักห้าสิบเปอร์เซ็นต์
ความเจ็บปวดภายในยังมีอยู่ แต่ไม่สามารถสกัดความคิดของเขาให้หยุดชะงักได้
เขาคิดถึงคำพูดของสาวน้อย ที่บอกกับเขาด้วยเสียงที่อ่อนหวานและฟังดูจะจริงจังของเธอ

เธอพูดว่าอะไรนะ เขายกมือซ้ายขึ้นลูบผมบนศีรษะ
เพราะเขายกมือขวาไม่ขึ้น หรือมีความรู้สึกว่าไม่มีแขนขวาอยู่ที่เดิม
ทำไมเขาจึงนึกถึงคำพูดประโยคนั้นไม่ออก
เขากำลังพยายาม

เมื่อเช้านี้เขาเข้าไปจะแปรงฟัน และอาบน้ำ ในห้องน้ำตามปกติ
และโดยไม่ได้ลื่นหรือสะดุดอะไรเลย เขารู้สึกเหมือนพื้นห้องน้ำยุบหายไปเฉยเฉย อย่างไม่มีเหตุผล

แล้วเขาก็มาลืมตาตื่นขึ้นในห้องนี้
เมื่อเวลาล่วงไปกี่วันกี่เดือนก็ไม่อาจจะรู้ได้ จนกระทั่งวันนี้ ที่เขาคิดอะไรได้มาก และนานกว่าปกติ

เขานึกถึงคำพูดของสาวน้อยคนนั้นได้แล้ว โอ...สวรรค์

เธอบอกว่า “หนูก็รักป๋านะ”

เสียงประตูห้องเปิดออก มีผู้คนหลายคนเดินเข้ามาทั้งหญิงชาย หนึ่งในนั้น คือภรรยาของเขาเอง
เธอบอกว่าเพื่อนหาของฝากมาจากวัดอินทร์ เป็นเครื่องเสียงเล็กนิดเดียว
เมื่อเปิดแล้วจะมีเสียงพระสวดคาภาชินบัญชร

เธอบอกเขาว่า จะได้ฟังอย่างเดียว โดยเธอไม่ต้องสวดเองให้เหนื่อย

ในขณะที่เขากำลังคิดว่า
เขายังไม่ได้บอกลาเธอเลย

เพราะเขาเพิ่งจะได้ไปที่นั่นเพียงไม่กี่ครั้ง นับตั้งแต่ที่จากมาในวันสุดท้ายโดยไม่มีคำลา

และแน่นอน จะไม่มีคำลาจากปากของเขาเลย
เขาหลับตาลง ริมฝีปากเผยอเหมือนจะพูด

แต่ไม่มีเสียงใดใดลอดออกมามาแม้แต่น้อย
นอกจากเสียงสวดที่ดังแว่วแว่วมาจากเครื่องเสียงอันเล็กจิ๋วนั้น.

###############

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 12:33:12





Create Date : 15 สิงหาคม 2555
Last Update : 15 สิงหาคม 2555 8:25:03 น. 4 comments
Counter : 1503 Pageviews.

 


โดย: คนแก่ขี้เหงา วันที่: 15 สิงหาคม 2555 เวลา:10:11:01 น.  

 
สวัสดีครับ ไม่ได้เห็นชื่อนี้ในไร้สังกัดนานแล้วนะครับ
ผมยังวางเรื่องอะไรต่ออะไรทุกวัน ยังไม่เบื่อครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 15 สิงหาคม 2555 เวลา:19:53:22 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แบบงง-งงนิดหน่อย
ประมาณว่ารับสื่อที่ผู้เขียนส่งมาได้ไม่เต็มที่ค่ะ

อ่านย่อหน้าแรกคิดว่าเขาฟังพระ 4 รูปสวดอยู่ที่ศาลาหนึ่งศาลาใด
โดยตัวเขานอนอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม
เผอิญฟื้นมาแบบงง-งง ก็เลยนึกถึงนี่ โน่น นั่น ไปเรื่อยๆ

มาถึงบางอ้อเอาตอนสุดท้าย
เขาน่าจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนเสียงพระสวดมาจากเครื่องเสียงอันเล็กจิ๋ว

แต่ที่ยังกังขาและต่อไม่ติดคือ....สองสาวเธอเป็นใคร
ตอนแรกนึกว่าหมอนวด
อ่านมาถึงสาวที่สอง ...หรือเธอจะเป็นน้องขายบริการ
เพราะ....เธอบอกว่า “หนูก็รักป๋านะ”

คนอื่นไม่ต้องลาก็ได้มั๊ง
ลาแค่คนใกล้ชิด ญาติ มิตร ภรรยา และคนที่ห่วงหาอาทรกันก็พอ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:14:18:10 น.  

 
".....เธอกำลังขยำข้อเท้าของผมที่บวมเป่งจนมองไม่เห็นตาตุ่ม...."

ประโยคนี้บอกข้อมูลไว้สองอย่างครับ

ส่วนประโยคที่ว่า "....หนูก็รักป๋านะ..."
เขาใช้กันเกร่อไปทุกหนทุกแห่ง แม้แต่ในร้านไก่ย่างส้มตกครับ.



โดย: เจียวต้าย วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:17:22:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.