Group Blog
 
All Blogs
 
มิตรภาพที่มีค่า

เรื่องสั้น

มิตรภาพที่มีค่า


น้ำใจแห่งมิตรอันควรอารี
ก็คือคนที่เขามีเมตตา................................

วันนั้นผมก้าวเข้าไปในธนาคาร เมื่อเวลาได้ล่วงไปบ่ายมากแล้ว จึงหยิบบัตรคิวได้เบอร์ ๑๒๗ แล้วก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เรียกตามระเบียบ เมื่อพนักงานสาวในช่องที่ ๓ เงยหน้าขึ้นเห็นผม เธอก็ยกมือไหว้และยิ้มอย่างดีอกดีใจ ผมพลิกบัตรให้เห็นหมายเลข เธอก็พยักหน้าบอกว่า

“ รอเดี๋ยวนะคะ จวนถึงแล้ว “

แล้วเธอก็ก้มหน้าง่วนอยู่กับแป้นคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ต่อไปตามปกติ ผมจึงถอยออกมาหาที่นั่งคอยข้างฝาผนัง เมื่อเอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้แล้ว ผมก็คงเห็นแต่เพียงหน้าผากและแนวผมม้าของเธอ อย่างที่ผมเคยเห็นมาเป็นเวลานานเท่านั้น

**********

ดูเหมือนจะเป็นเวลานานมากกว่าสิบปี ที่ผมเป็นลูกค้าของธนาคารแห่งนี้ แต่เป็นคนละสาขา หลังจากที่ได้ย้ายสมุดฝากจากสาขาซึ่งใกล้ที่ทำงาน มายังสาขาที่ใกล้บ้านของผมแล้ว ผมก็ได้พบหน้าเธอเป็นประจำทุกเดือน

ผมสะดุ้งในใจตั้งแต่ได้พบเธอครั้งแรก ว่าเธอเป็นเจ้าหน้าที่คนเดียวที่ยิ้มให้ลูกค้า อย่างสดชื่นแจ่มใส อย่างที่ออกมาจากใจจริง ไม่ใช่ยิ้มตามสโลแกนของธนาคารที่แปะไว้ข้างฝา

ผมรีบเดินเข้าไปหาเธอเพราะสมัยนั้นยังไม่มีบัตรคิว และผมก็รอเข้าคิวทุกครั้งที่ผมไปฝากไปถอนหรือไปลงรายการ ที่ช่องสอง นี้ทุกครั้ง

คงจะเป็นเทศกาลปีใหม่ปีหนึ่ง ที่ผมอยากจะตอบแทนความมีน้ำใจของเธอ ผมจึงหาหมูแผ่นจากร้านแถวนั้นใส่กล่องเป็นของขวัญปีใหม่ให้เธอ ซึ่งเธอยิ้มรับและไหว้ขอบคุณ ทำให้ผมปลื้มมากที่ตั้งใจดีต่อเธอ และเธอไม่ปฏิเสธ

ผมเพียงแค่อยากจะตอบแทนความมีน้ำใจ ที่เธอมีต่อผมซึ่งเป็นลูกค้าที่ไม่สำคัญคนหนึ่ง และเพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อคนเราได้กระทำความดีแล้ว ย่อมได้รับผลดีตอบแทน เท่านั้นเอง

หลังจากนั้นเมื่อผมไปติดต่อใช้บริการของสาขาธนาคารแห่งนั้น ซึ่งเป็นแห่งเดียว เพราะผมจะไม่ไปที่อื่นเลย ทั้ง ๆ ที่เขาใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์แล้วก็ตาม

ผมจะต้องหาสิ่งของหรือขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปฝากเธอเสมอ ซึ่งบางทีเธอก็เตรียมของไว้ให้ตอบแทนผมบ้างเหมือนกัน

คราวหนึ่งผมถามเธอว่าชอบอ่านหนังสือไหม เธอบอกว่าชอบอ่านเหมือนกัน ตั้งแต่นั้นผมจึงมอบหนังสือให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่เธอทุกปี แต่ไม่กล้าถามว่าอ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบ เพราะเป็นเรื่องที่ผมเขียนเองทั้งเล่ม

ความจริงผมไม่ได้ไปติดต่อกับเธอบ่อยนัก ที่แน่ ๆ คือวันสิ้นเดือน เพราะต้องไปถอนเงินเพื่อเอาไปส่งธนาณัติ บริจาคให้สาธารณกุศลหลายแห่ง แต่ละแห่งเป็นเงินจำนวนไม่มากนัก

ต่อมาจึงรวมกันเป็นเดือนละแห่งเดียว และหมุนเวียนไปทุกเดือนจนครบสิบสองแห่งทั้งปี

นอกนั้นก็เป็นการเอาสมุดไปลงรายการที่ถอนทางเอทีเอ็มบ้าง ไปลงรายการเงินรางวัลที่ถูกสลากออมสินบ้าง ไปถอนเงินก้อนใหญ่เอามาทำธุรกิจ แล้วเอาเงินก้อนเล็กไปผ่อนใช้คืนตามเดิมบ้าง และเกือบทุกครั้งผมต้องหาของติดมือไปฝากเธอเสมอ

บางครั้งเป็นวุ้นอันเล็ก ๆ รูปหัวใจ บางครั้งเป็นเนื้อสวรรค์ บางครั้งเป็นหมูหยอง บางครั้งก็เป็นขนมเอแคร์

ซึ่งต่อมาผมก็ฝากให้เธอแบ่งแก่เพื่อนที่นั่งเคียงข้างเธอทั้งช่องหนึ่งและช่องสามด้วย แต่บางคราวก็เปลี่ยนเป็นพวงกุญแจ ห้อยรูปต่าง ๆ ส่วนหนังสือนั้นให้เมื่อขึ้นปีใหม่หรือวันเกิด

ไม่ใช่วันเกิดของเธอเพราะผมเองก็ไม่รู้ แต่เป็นวันเกิดของธนาคารนั้นเอง

ผมไม่รู้ว่าเธอจะคิดอย่างไรกับการกระทำของผม เพราะผมไม่ได้ทำอะไรให้มากไปกว่านั้น ไม่เคยคุยกับเธอนอกเรื่องธุรกิจของธนาคาร ไม่เคยไปดักรอเวลาเลิกงาน ไม่เคยชวนไปกินข้าวกลางวัน เพราะเธอกินในสำนักงานนั้นเอง

บางครั้งบางคราวผมจึงเอาขนมครกหรือแป้งจี่แถวหน้าสำนักงานนั้น ไปฝากเธอเป็นอาหารกลางวันด้วย

ผมไม่เคยรู้ชื่อของเธอ ไม่รู้บ้านที่อยู่และสถานะทางครอบครัวของเธอ นอกจากสังเกตเห็นว่าเธอมีแหวนเพชรสวยงาม ผลัดเปลี่ยนกันสวมที่นิ้วนางซ้ายอยู่เสมอ ผมมองเห็นเมื่อเธอใช้นิ้วทำงานอยู่กับสมุดฝากของผม หรือเมื่อเธอส่งสมุดคืนให้ผม

ผมคอยมองดูเธอทำงาน ในเวลาที่ต้องรอคิวทุกครั้ง แม้เมื่อเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่คนอื่น ผมก็อดที่จะมองตามไม่ได้ และผมไม่กังวลที่จะคอยคิวหลัง ๆ เพราะผมอยากอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย นั้น นาน ๆ ในบางคราวที่ผมว่าง แม้เสร็จเรื่องที่จะทำแล้ว ผมก็ยังนั่งอ่านหนังสือที่เขาวางไว้บนโต๊ะ จนจบไปเป็นเล่ม ๆ

ผมทำเช่นนั้นเป็นประจำเรื่อยมา จากเดือนเป็นปี และหลายปีต่อมา ผมไม่สามารถจะปฏิเสธได้ว่าผมมีความสุขใจมาก ในขณะนั้น และตลอดวันนั้น ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรที่ชวนให้เห็นว่าผมมีความคิดนอกลู่นอกทางจากความเป็นมิตร

เป็นมิตรภาพที่บริสุทธิ์ อย่างที่นักปราชญ์ฝรั่งคนหนึ่งเคยกล่าวไว้
ผมนึกออกแล้วเขาชื่อพลาโต้ ดูเหมือนจะเรียกกันว่า
พลาโตนิคเฟรนด์ชิฟ
ซึ่งหมายถึงมิตรภาพระหว่างชายหญิงที่ไม่มีความรู้สึกอื่นใดมาเจือปน

ผมเชื่อว่าความรู้สึกของตนเองเป็นเช่นนั้น

แล้ววันหนึ่งซึ่งผมไปติดต่อที่สาขาธนาคารแห่งนี้ตามปกติ เมื่อสิ้นเดือน เธอได้บอกกับผมว่า เธอจะต้องย้ายไปอยู่ที่สาขาซึ่งห่างไกลออกไป ห่างไกลจากที่เดิม และห่างไกลจากบ้านของผม

เธอย้ายพร้อมกันทั้งสามคน เบอร์หนึ่งย้ายไปทางทิศใต้ เบอร์สามย้ายไปทางทิศเหนือ และเบอร์สองคือเธอย้ายไปทางทิศตะวันออก

ความจริงก็ยังอยู่ในกรุงเทพ แต่ผมรู้สึกเหมือนว่าไกลเสียเหลือเกิน ไกลในความรู้สึกนึกคิดของผม ที่เคยชินกับความใกล้ชิดในจิตสำนึก

คราวนี้เองที่ผมเพิ่งจะกล้าพูดกับเธอนอกเรื่องของธนาคาร ผมถามเธอว่า ธนาคารเขาจะเลี้ยงส่งเมื่อไร

เธอบอกว่าไม่มีการเลี้ยงส่งหรอก

ผมประหลาดใจเพราะเธอเป็นเจ้าหน้าที่เก่ามาก อยู่ที่นี่มานับสิบปี เวลาย้ายเขาไม่อาลัยอาวรณ์กันเลยหรือ

ไม่เหมือนที่ทำงานเก่าของผม เวลามีการเลื่อนชั้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่ง ไปราชการพิเศษ หรือกลับจากราชการพิเศษ หรือย้ายออกนอกหน่วย เป็นต้องมีการเลี้ยงส่งเลี้ยงรับเลี้ยงแสดงความยินดีกันเป็นประจำ

ผมจึงถามเธอไปด้วยความเคยชิน เมื่อเธอตอบเช่นนั้นผมจึงโพล่งออกไปว่า ถ้าอย่างนั้นอนุญาตให้ผมเลี้ยงได้ไหม

ผมพูดออกไปแล้วก็นึกรู้คำตอบเป็นอย่างดี

เธอปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ว่าเป็นการกระทันหันไม่มีเวลา

ความจริงผมมีเหตุผลที่จะโต้แย้ง และอ้อนวอนเธอได้ แต่ผมไม่พูด

ผมฉุกคิดได้ว่า ผมควรจะต้องรักษาระยะห่างของมิตรภาพนั้นไว้ ให้ยาวนานที่สุด อย่าไปทำลายเสียในตอนนี้

**********

หลังจากวันที่เธอย้ายไปสองสามวัน ซึ่งเป็นวันจันทร์เปิดทำงานเป็นสัปดาห์แรก ในสาขาใหม่ของเธอ ผมจึงดั้นด้นเข้ามาในสถานที่ซึ่งไม่เคยได้ย่างกรายเข้ามาเลยในชีวิต

ผมเห็นเธอในลักษณะที่เหมือนเดิม เปลี่ยนนิดเดียวที่เธอนั่งอยู่หลังช่องเบอร์สาม

เธอเงยหน้าขึ้นมาเห็นผม ก็รีบยกมือไหว้และยิ้มอย่างปิติยินดี ผมพลิกบัตรให้เธอเห็นหมายเลข ๑๒๗ เธอก็พยักหน้าและบอกว่า

“ รอเดี๋ยวนะคะ จวนถึงแล้ว “

ผมถอยไปนั่งรอที่เก้าอี้ข้างผนังห้อง และเริ่มคิดถึงเรื่องราวระหว่างผมกับเธอที่ผ่านมา ผมคิดอยู่อย่างเพลิดเพลิน จนไม่ได้ยินเสียงเรียกของเจ้าหน้าที่เบอร์สี่ และผู้ที่นั่งข้างเคียงต้องสะกิด

ผมส่งสมุดฝากให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้น เพื่อลงรายการที่ผมถอนทางเอทีเอ็ม เธอเปิดสมุดแล้วยิ้มพราย เมื่อเห็นว่าสมุดของผมเป็นสาขาไหน

เธอพูดผ่านรอยยิ้มนั้น

“ แหม........ตามมาถึงนี่เชียวหรือคะ “

ผมรู้สึกหน้าชา เพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินประโยคนี้ ผมคงจะทำไม่ถูกต้องไปแล้วกระมัง ที่รีบร้อนมาที่นี่ในวันนี้ ห่างจากวันที่เธอย้ายเพียงแค่คั่นด้วยวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น

ผมคงจะทำผิดไป ในสายตาของคนอื่น แต่ใจผมคิดว่าไม่ผิด ผมเป็นเพื่อนของเธอ ผมมีสิทธิ์ที่จะอยากรู้ว่าเธอมีความสุขสบายดีกับเก้าอี้ตัวใหม่ของเธอหรือไม่

ผมไม่น่าจะทำผิดนะ

ผมรับสมุดคืนแล้วบอกลาเธอ ใช่.......เธอที่อยู่เบอร์สาม ด้วยถ้อยคำอย่างไรก็จำไม่ได้เสียแล้ว เพราะสมองมึนไปหมด

ประโยคที่ว่า ผมผิด ผมไม่ผิด ก้องกังวานอยู่ในสมอง ผมพยายามที่จะหาเหตุผลมาหักล้างกัน อยู่ตลอดเวลาที่เดินมารอรถเมล์ที่ป้าย

ในที่สุดก็เกิดความกระจ่างแจ้งในกมล

ผมรู้จักกับเธอที่สาขาใกล้บ้านผม เมื่อสิบปีก่อน และติดต่อมาตลอดทุกเดือน นับเป็นเวลามากกว่าร้อย สองร้อยครั้ง ผู้คนในสาขาแห่งนั้นเห็นหน้าผมทุกครั้ง จึงไม่แปลกใจในความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของผม ที่แสดงถึงวัยที่เพิ่มขึ้น

เวลาสิบปีเป็นเวลาที่นานมาก สังขารของคนย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ผมไม่ทราบว่าเธออายุเท่าไร แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเธอเปลี่ยนแปลงเลย ซึ่งผมเชื่อว่าเธอก็คงไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของผมเช่นเดียวกัน

แต่เจ้าหน้าที่ในสาขาใหม่ เธอเพิ่งจะเคยเห็นหน้าผม เธอจึงยิ้มและพูดว่า

“ ตามมาถึงนี่เชียวหรือคะ “

เธอคงจะเวทนาผมที่พยายามลากสังขารมาจากสาขาเดิม ทั้ง ๆ ที่สาขาใกล้บ้านนั้นก็ยังไม่ได้เลิกล้มไปไหน

เธอไม่ได้เข้าใจซึ้งถึงเหตุผลในจิตใจของผมหรอก เธอดูจากสภาพภายนอกของผมเท่านั้น

เธอน่าจะพูดว่า ตามมาถึงนี่เชียวหรือคะ คุณตา...........

น้ำเสียงอันนุ่มทุ้มของ สมยศ ทัศนพันธ์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว กังวานแว่วอยู่ในสมองของผม

...........น้ำใจแห่งมิตรอันควรอารี
ก็คือคนที่เขามีเมตตา
รู้จักเกื้อกูลแลอุดหนุนพึ่งกันดังว่า
ต้องทำใจรักกันไว้ดีกว่า
ด้วยเราเกิดมาถือว่าญาติเดียวกัน....................

มิตรภาพอันบริสุทธิ์ระหว่างผมกับเธอ จะเป็นไปไม่ได้เชียวหรือ ในเมื่อ.............

อีกไม่ถึงสามสิบปี อายุของผมก็จะครบร้อยแล้ว.

**********************

จากคุณ : เจียวต้าย - [ 8 ธ.ค. 48 06:35:42 ]



ความคิดเห็นที่ 1

อืมม์

ถ้าเป็นมิตรภาพอันบริสุทธิ์และแท้จริง
อย่าว่าแต่วัยเลย
ต่อให้เป็นเพศ เผ่าพันธุ์ สายพันธุ์ หรือมิติ รูปธรรม นามธรรม ใกล้ ใกล ฯลฯ...
จะต่างกันขนาดไหน
ก็ไม่เป็นปัญหา

ตอนนี้ผมมีจิ้กจกตัวหนึ่งเป็นเพื่อนมานานนับเดือนแล้ว
มันวิ่งเล่นแถวผนังบ้าน

ผมไม่ได้ไล่มันหรือจับมันเป็นอาหารเย็น

เพราะมันไม่ได้รบกวน หรือมาตั้งหน้าตั้งตาด่าผมหรือ/และ รบกวนทางกายทางใจ

แต่นั่งมองมันไปนานๆก็เพลินดี

เราต่างอยู่แบบสมานฉันท์

จนรู้สึกว่ามันเป็นเพื่อนไปโดยปริยาย
อ้อ ยังมีแมวอีก 2 ตัวในบ้านที่จะพยายามงาบจิ้งจกเป็นอาหารว่าง
แต่เมินเสียเถอะ
เพราะเพื่อนตัวน้อยของผมไม่ยอมลงมาในรัศมีทำการของกรงเล็บ

ผมหวังว่าสักวันมันคงจะเจอจิ้งจกสาวสวยน่ารักสักตัว
อยู่กันเป้นครอบครัวอบอุ่นไม่แตกแยกจนสร้างปัญหากับสังคมจิ้งจกและสังคมอื่นๆ

จิ้กจกก็มีความสุขแบบจิ้งจกรออยู่แล้ว

หมาแมวก็มีความสุขแบบหมาแมว

คนเราล่ะ
ก็ควรจะมีความสุขตามแบบฉบับของคนๆ

ฮี่ๆๆๆ ว่าแต่เกิดเป็นคนก็ยุ่งๆวุ่นวายมีความทุกข์ในแบบฉบับของคนๆเหมือนกัน แฮ่ะๆๆ

<มาป่วนกระทู้เล่นๆ เผ่นล่ะคร๊าบบบบบบบบ>

จากคุณ : GTW - [ 8 ธ.ค. 48 08:58:21 ]


ความคิดเห็นที่ 2

เล่นงี้เชียวเหรอ?

จากคุณ : Rcc - [ 8 ธ.ค. 48 10:24:19 A:203.113.77.68 X: ]


ความคิดเห็นที่ 3

เหอ เหอ
ขำ คคห.น่ารักๆของจานจีค่ะ

เวลาหม่าม้าใช้หนูยีไปธนาคารเป็นช่วงเวลาที่ชอบมากๆเลยค่ะ
ยิ่งคนเยอะๆยิ่งดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่หนุยีจะอ่านหนังสือท่ามกลางแอร์เย็นฉ่ำ โดยไม่ต้องรีบร้อนได้

แต่แหม..ไม่ยักกะเจอเพื่อนที่ธนาคารบ้างเลยแฮะ ^^

จากคุณ : หนูยี - [ 8 ธ.ค. 48 10:51:20 ]


ความคิดเห็นที่ 4

ธนาคารในพระนครเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่เน้นใช้พนักงานน้อยในขณะที่มีคนรอคิวยาวเหยียด โดยเฉพาะต้นกับปลายสัปดาห์ ทำให้การไปธนาคารเดี๋ยวนี้กลายเป็นเหมือนต่างคนต่างรีบๆทำให้เสร็จๆไป ความสนิทสนมอารีแบบไทยๆก็ลดน้อยลงไปมาก

ต่างกับเวลาไปธนาคารต่างจังหวัดซึ่งทุกคนสนิทสนมทักทายกันเหมือนเดินในตลาดทุกเช้า ขนมนมเนยและเสียงหัวเราะทักทายมีแบ่งปันกันไม่ขาด เย็นๆเลิกงานปิดธนาคารก็มาตีแบดกันหน้าธนาคารอีกต่างหาก

คิดถึงภาพความทรงจำนี้จริงๆ.....

จากคุณ : ธามาดา - [ 8 ธ.ค. 48 13:06:33 ]


ความคิดเห็นที่ 5

คุณจีครับ ผมก็มีเพื่อนเป็นจิ้งจก กับแมลงสาบ นะครับ เมื่อนอนที่แฟลตปลาทอง เดี๋ยวนี้ให้เขาเช่าไปแล้ว ไม่ทราบเพื่อนผมจะยังอยู่หรือไม่

คุณหนูยีชอบคล้าย ๆ ผมเลยครับ

เมื่อสมัยฟองสบู่ยังไม่แตก พอเข้าไปในธนาคาร เจ้าหน้าที่จะเข้ามาถามว่าจะเบิกหรือถอน แล้วก็ช่วยเขียนแบบฟอร์มให้ด้วย

เดี๋ยวนี้หรือครับคุณธามาดา ไปยืนค้ำอยู่เขายังไม่เงยหน้าขึ้นมามองเลยครับ.

จากคุณ : เจียวต้าย - [ 8 ธ.ค. 48 19:38:38 ]


ความคิดเห็นที่ 6

อยากรู้จังว่าเธอคนนั้นคิดอย่างไร

จากคุณ : อนงค์นาง - [ 9 ธ.ค. 48 12:18:23 ]


ความคิดเห็นที่ 7

ซาบซึ้งกะมิตรภาพอันบริสุทธิ์ของคุณตา ซึ่งบางคนไม่เข้าใจ เห็นว่าถ้าหญิงชายใกล้ชิดสนิทกัน มักนึกถึงเรื่องชู้สาวเสมอ เหอๆ

จากคุณ : ลูนาติก - [ 9 ธ.ค. 48 13:15:45 ]


ความคิดเห็นที่ 8

มิตรภาพ หาไม่ได้ง่ายๆ

จากคุณ : N' pim_ka - ->> - [ 9 ธ.ค. 48 19:00:53 ]


ความคิดเห็นที่ 9

เธอคงคิดว่าคุณตาใจดี เห็นหน้าก็ได้กินอะไรอร่อย ๆ อีกแล้วมังครับ คุณอนงค์นาง

ขอบคุณคุณลูนาติกที่เข้าใจคุณตา ว่าไม่มีแรงทำอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้วครับ

มิตรภาพที่มีคุณค่า หาไม่ได้ง่าย ๆ จริง ๆ นะครับ คุณพิม.

จากคุณ : เจียวต้าย - [ 9 ธ.ค. 48 19:59:25 ]


ความคิดเห็นที่ 10

อ่านแล้วซึ้งในน้ำใจคุณเจียวต้ายจริงค่ะ

โลกมนุษย์เป็นเช่นนี้
ธนาคารทุกวันนี้ก็ มีมุม สตาร์บัคค์ให้สั่งกาแฟดิ่มเสียเงิน
แล้วนะคะ

ที่บรรยายมาทั้งหมดทำให้นึกภาพแต่ก่อนชอบไปที่จตุจักร
วันธรรมดาที่ไม่มีตลาดนัด ไป ธนาคารออมสิน ถูกสลาก
บ่อยๆ สมัยนี้สลากไม่มีเพราะดอกเบี้ยน้อยมากไม่คุ้มกับ
การลงทุนทางธุรกิจของเราก็...ไม่ได้ใช้บริการธนาคาร
ออมสินอีกเลย แต่นึกภาพพนักงานที่กุลีกุจอมาช่วยเหลือ
เราเสมอได้ค่ะ


วันนี้ ระบบทุกธนาคารทำให้เราต้องไปยืนๆแกร่วในช่อง
เขาพยายามหดเก้าอี้นั่งด้วยค่ะเพราะเกรงพวกจ้องจี้แบงค์
มานั่งหาโอกาส...

เฮอ ...คุณเจียวต้าย สำหรับหญิงผู้นั้นก็คงรู้สึกว่า
คุณมีความพึงพอใจในปฏิสัมพันธ์อยู่แต่ไม่ล้ำเลยเส้น

ส่วนคนอื่นจะเห็นเป็นอย่างไร ก็..คงหน้าชาดีนะคะ
แบบ เวลาเราจะแสดงความเอ็นดูเด็ก ต้องคิดให้มาก
เชียวค่ะ อันตรายมากสำหรับคนมีอายุ

ขอบคุณเรื่องนี้มีวิสัยทัศน์อันดียิ่ง





จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 9 ธ.ค. 48 21:19:58 ]


ความคิดเห็นที่ 11

ไม่ได้เข้ามาในห้องนี้นานแล้ว มาปุ๊บก็เจอเรื่องน่ารักๆปั๊บ อารมณ์ดี ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^^

หนิงก็มองๆจิ้งจกที่หออยู่ตัวเหมือนกัน อาบน้ำทีก็จะมีมันเกาะแวะเมียงๆมองๆอยู่ ตะแรกก็บ่นในใจจิ้งจกลามก ต่อมาก็ชักชินๆ พอไม่มีมันแล้วก็งงๆว่ามันหายไปไหน เหงาเหมือนกัน ไม่มีใครแอบดูเราอาบน้ำ เหอ เหอ เหอ

จากคุณ : peiNing - [ วันรัฐธรรมนูญ 01:38:12 ]


ความคิดเห็นที่ 12

ถ้ามองต่างมุมไปบ้างคงไม่ว่ากันนะคะ
มองอย่างเป็นกลาง มองข้ามคำอธิบายของคุณไปบ้าง
คำว่าตามมาถึงที่นี่เชียวหรือคะ บางทีอาจไม่ได้หมายความไม่ดีก็ได้
แต่เอาล่ะ สมมติว่าเชิงลบ โห ต้องบากบั่นมาถึงนี่เลย
ในมุมมองของอีกฝ่าย ซึ่งมีหน้าที่ให้บริการ
เธออาจจะมีคนที่เธอจำหน้าได้อยู่มากมายหลายคน
คำตอบตั้งแต่บอกปฏิเสธไม่รับการเลี้ยงส่ง
ก็แสดงว่าเธอขีดเส้นความสัมพันธ์ไว้แค่เจ้าหน้าที่กับลูกค้าแล้วล่ะค่ะ
คิดต่างกัน ไม่ผิดนิ แต่ฝ่ายให้ คงเสียความรู้สึกหน่อย

จากคุณ : scottie - [ วันรัฐธรรมนูญ 08:45:07 ]


ความคิดเห็นที่ 13

ขอบคุณคุณทิกิ ที่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง เจ้าหน้าที่กับลูกค้าคู่นี้
ความมีเมตตานั้น พระท่านสอนให้ระวัง เพราะอาจจะนำไปสู่ราคะได้ครับ

ขอบคุณคุณหนิงที่เห็นว่าเรื่องนี้น่ารัก
จิ้งจกตัวนั้นผมว่ามันเป็นตัวเมียน่ะครับ

ดีใจที่คุณสก็อตตี้อ่านแล้วออกความเห็นได้ยาวกว่าธรรมดา
แสดงว่ามีอะไรน่าสนใจ

ความจริงที่มองไม่ต่างมุมนะครับ
เจ้าหน้าที่เธอวางตัวถูกต้องแล้ว
ลูกค้าต่างหากที่เลยเส้นไปนิดหน่อย
แต่ก็แค่เพื่อนเท่านั้นครับ.

จากคุณ : เจียวต้าย - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:21:38 ]


ความคิดเห็นที่ 14

เมื่อย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง ก็พบว่ายังไม่ได้ตอบคุณ อาร์ซีซี
เพราะไม่ทราบว่าหมายความว่ากระไร

แต่อยากจะเล่าว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นในวันปีใหม่คราวหนึ่ง สมัยที่ฟองสบู่ยังพองอยู่
ดอกเบี้ยก็สูง สิ้นปีทางธนาคารก็มีของชำร่วยแจกลูกค้า

แทบทุกคนก็จะทวงปฏิทินบ้าง ของชำร่วยบ้าง
ทำไมฉันฝากเท่านี้ไม่ได้ของอย่างนั้น
ทำไมคนนั้นได้ของดีกว่าฉัน
ตามทำเนียมว่ามีมากก็เลือกมากแหละครับ

ผมจึงคิดว่าพนักงานเหล่านั้นต้องต้อนรับคนเป็นจำนวนมาก
ที่ล้วนแต่อยากได้กันทั้งนั้น
ทำไมไม่มีคนอยากจะให้บ้าง
เพื่อเป็นกำลังน้ำใจแก่ผู้ที่ทำงานให้เรา
เรื่องนี้จึงเกิดขึ้น

แล้วเดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร
ดอกเบี้ยก็ไม่ถึงร้อยละบาท
ปฏิทินก็แทบจะไม่ได้ อย่าว่าแต่ของชำร่วยเลย

เวลาผ่านไป โลกก็เปลี่ยนไปด้วยครับ.

จากคุณ : เจียวต้าย - [ 11 ธ.ค. 48 17:05:03 ]


ความคิดเห็นที่ 15

โอ้ส

มาลงชื่ออ่านครับ

จากแฟนคลับ ฮ่าๆ

จากคุณ : the'tect (the_architect) - [ 15 ธ.ค. 48 02:28:56 ]


ความคิดเห็นที่ 16

ขอบคุณทุกท่านคร้าบ

อยากให้แวะอ่าน บันทึกของคนเดินเท้า และรับ ส.ค.ส.จากเจียวต้ายครับ

เพื่อนในอากาศ
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3953667/W3953667.html

จากคุณ : เจียวต้าย - [ 16 ธ.ค. 48 19:42:52 ]


Create Date : 05 พฤษภาคม 2559
Last Update : 5 พฤษภาคม 2559 9:38:21 น. 1 comments
Counter : 823 Pageviews.

 


โดย: เจียวต้าย วันที่: 5 พฤษภาคม 2559 เวลา:9:38:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.