Group Blog
 
All Blogs
 
คนรักเพื่อน

เรื่องสั้น ชุดฉากชีวิต

คนรักเพื่อน

" เพทาย "

ผมเป็นคนมีเพื่อนมาก นับตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ก็มีเพื่อนบ้านวัยเดียวกันหรือใกล้เคียงกันอยู่หลายคน เท่าที่จำได้ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงสี่ห้าคน เคยแก้ผ้าอาบน้ำคลองที่ไหลจากแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านท่าวาสุกรี สวนสุนันทา สวนดุสิต สวนพุดตาล จนโผล่ออกไปบรรจบกับคลองสามเสน ที่ข้างวัดแค มาด้วยกัน แต่พอเขาโตเป็นสาวรุ่นกะเตาะ นุ่งผ้ากระโจมอกกันแล้ว พวกเรายังไม่พ้นวัยเด็ก ยังไม่รู้จักนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำ เขาก็เลยไม่ยอมมาเล่นน้ำกับเรา และลงท้ายก็พากันมีครอบครัวไปหมด เราก็เลยต้องคบหากับเพื่อนผู้ชายต่อไปตามประสา

เพื่อนผู้ชายที่ผ่านวัยรุ่นมาด้วยกัน คนที่เป็นกระเป๋าท้ายรถเมล์ ก็เปลี่ยนอาชีพไปทำอะไรไม่ทราบ ที่ต่างจังหวัด แล้วก็เลยขาดการติดต่อกันไป อีกคนหนึ่งที่เป็นคนหัดให้ผมสูบบุหรี่ ก็ย้ายไปอยู่ย่านอื่น เมื่อได้พบกันจึงได้ทราบว่า เป็นเถ้าแก่รับเหมาก่อสร้างร่ำรวยไปแล้ว อีกคนหนึ่งเมื่อเป็นเด็กจับกุ้งเก่งมาก ขนาดที่ก่อนจะลงคลองสามารถให้เพื่อนก่อไฟไว้ได้ รับรองว่าต้องมีกุ้งเผากินเล่นให้จมเขี้ยวไปเลย เดี๋ยวนี้อายุเลยเจ็ดสิบแล้ว ยังวนเวียนอยู่ระหว่างสนามมวยกับสนามม้าอย่างมีความสุข ส่วนอีกคนหนึ่งจากกันตั้งแต่เล็ก เพราะโดนลูกระเบิดลงข้างหลุมหลบภัยในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เสียชีวิตไปอย่างน่าอนาถ

ในสมัยสงครามครั้งนั้นเอง แม่ของผมซึ่งเป็นครูโรงเรียนราษฎร์ ต้องหยุดการสอนเพราะโรงเรียนปิด แล้วมาเปิดการสอนเด็กเล็กระดับชั้นมูลขึ้นที่ใต้ถุนบ้าน ผมอยู่ชั้นมัธยมแล้ว ก็ต้องช่วยสอน ก.ขอ ก.กา ด้วย มีเด็กลูกชาวบ้านใกล้เคียงมาสมัครเรียนร่วมยี่สิบคน ได้เงินค่าเล่าเรียนเล็กน้อย พอปะทังชีวิตไปได้ ผมจำได้เพียงสองสามคน คนหนึ่งอยู่บ้านตรงกันข้าม ต่อมาสำเร็จวิชาช่างก่อสร้าง เติบโตทำราชการรุ่งเรืองได้เป็นหัวหน้าแผนก อีกคนหนึ่งเข้าโรงเรียนนายเรือ เมื่อเกษียณอายุราชการเป็นถึงพลเรือโท

อีกคนหนึ่งเป็นหญิงลูกครูเหมือนกัน แต่มาสมัครเรียนที่บ้าน เมื่อเติบโตขึ้นก็สำเร็จปริญญาด้านการศึกษา รับราชการเป็นครูตามมารดา แต่ได้สมรสกับนายทหารซึ่งมีชีวิตราชการก้าวหน้า จนเป็นแม่ทัพภาค และตัวเธอเองในฐานะประธานสมาคมแม่บ้านทหารบกของกองทัพภาค ก็ได้ปฏิบัติงานส่งเสริมศิลปาชีพติดต่อกันเป็นเวลานาน จนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสสริยาภรณ์ชั้นสูง ได้เป็นคุณหญิง แต่เคราะห์ร้ายที่เป็นโรคมะเร็ง จึงได้เสียชีวิตไปก่อนวัยอันสมควร

เมื่อผมได้มีชีวิตอยู่มาจนเข้าปีที่เจ็ดสิบ ตามคำทำนายของอดีตลูกน้อง ซึ่งเป็นหมอดูอาชีพมีระดับอยู่ในสมาคมโหราศาสตร์ ผมก็หวนคิดถึงเพื่อนที่หายหน้าไป ด้วยความรักและความผูกพัน ที่มีต่อกันมาในกาลก่อน จนไม่อาจจะลืมได้

ก่อนหน้าที่ผมจะมาเป็นทหารสื่อสาร ผมทำงานอยู่ที่กรมพาหนะทหารบก ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นกรมการขนส่งทหารบก ผมมีเพื่ออยู่สองคนที่สนิทสนมกันมาก คนแรก เกิดปีเดียวกัน ทำงานหน่วยเดียวกัน และหัดกินเหล้าพร้อมกัน

เมื่อเขาเป็นพลทหารเกณฑ์ ได้อาสาสมัครไปรบในสงครามเกาหลี โดยมีทหารผลัดเดียวกันนามสกุลเดียวกันถึงสามคน คือพ่อเป็นจ่าสิบเอก พี่ชายเป็นสิบเอก และตัวเขาเป็นพลทหาร ระหว่างไปราชการเขาเขียนจดหมายเล่าเรื่องการสงครามและความหนาวเย็นของประเทศเกาหลีเหนือเส้นขนานที่ แบ่งเขตเกาหลีเหนือกับใต้ มาให้อ่านเป็นระยะ เขาไปได้ไม่นานก็มีการสงบศึก

พอหมดวาระเขาก็ได้กลับมาโดยได้ปรับอัตราเป็นนายสิบ อยู่หน่วยเดิม แต่ผมเป็นพลทหารหลังเขาหนึ่งปี และสมัครเป็นนักเรียนนายสิบทหารสื่อสาร การติดต่อจึงห่างกันไปบ้าง เขากลับมาไม่นานก็ถึงแก่กรรมด้วยความสาเหตุนิดเดียว คือทะเลาะกับเมียแล้วก็ไปกินยาฆ่าแมลงประชดเมีย เขาตายเพราะเข้าใจผิด คิดว่าเมียจะพาไปส่งโรงพยาบาลได้ทัน เท่านั้นเอง

อีกคนหนึ่งอายุแก่กว่าผมหลายปี เขาเป็นสิบเอกสามบั้งแล้ว ผมยังเป็นลูกจ้างใช้แรงงานอยู่ เขากินเหล้าอย่างหนัก และชวนผมไปกินด้วยเสมอ เพราะผมอาวุโสและเงินเดือนน้อยกว่าเขา ต่อมาเขาย้ายไปรับราชการทางปากน้ำโพ หรือจังหวัดนครสวรรค์ แล้วลาออกโดยไม่ทราบสาเหตุ ผมเจอเขาอีกทีก็งอมเต็มทนแล้ว แต่เขาไม่ได้ตายโดยโรคที่เกิดจากเหล้า ดูเหมือนจะตกน้ำตายหรืออย่างไรไม่ทราบแน่ชัด เพราะไม่มีใครยืนยัน

คนต่อมาเป็นนายทหารเหล่าทหารสื่อสาร มาพบกับผมตอนเข้าเรียนหลักสูตรนายทหารชั้นนายร้อยและนายพัน เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓ และ พ.ศ.๒๕๑๖ จึงได้สนิทสนมคุ้นเคยกันเป็นอย่างดียิ่ง จนกลายเป็นคู่หูกันไปอย่างชนิดที่แยกกันแทบไม่ออก ทั้ง ๆ ที่ผมมีนิสัยผิดแผกแตกต่างกับเขาอย่างขาวกับดำ มีสิ่งที่ตรงกันอยู่อย่างเดียวก็คือ เป็นคนชอบกินเหล้าไม่แพ้กัน เรากินเหล้าด้วยกันเสมอทุกโอกาสเวลาและสถานที่ เว้นแต่เวลาเรียนเท่านั้น

เขาเป็นคนที่มีรูปร่างเตี้ยกลมตะล่อมป้อม บุคลิกลักษณะอันเด่นชัดของเขาก็คือ เป็นคนเปิดเผย ซื่อตรง และมีความเชื่อมั่นในตนเองมาก พูดจาเสียงดังฟังชัด โผงผางผ่าซาก และค่อนข้างจะใช้สำนวนลูกทุ่งของ “ไม้เมืองเดิม” อยู่เสมอ ซึ่งแม้จะมีเพื่อนบางคนไม่ค่อยจะชอบ แต่ก็ไม่มีใครเกลียดเขาได้ลง เพราะเขาเป็นคนร่าเริง ใจคอหนักแน่นไม่เคยโกรธใคร ไม่ว่าจะโต้เถียงกันด้วยโวหารที่ดุเดือดเผ็ดร้อนเพียงใดก็ตาม

โดยเฉพาะเป็นคนไม่หวงวิชาความรู้ เขาจะช่วยเหลือเพื่อนฝูงในวิชาที่เขาถนัดอยู่เสมอ เพราะเขาเรียนสำเร็จปริญญาตรีสาขาอิเล็กทรอนิคส์ และเป็นครูอาจารย์มาก่อนจะเป็นนายทหาร ความเป็นคนคงแก่เรียนของเขา เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน ด้วยการสอบได้เป็นที่ ๑ ในชั้นนายร้อย และเป็นที่ ๔ ในชั้นนายพัน

แต่เหล้าไม่เคยให้คุณแก่ใคร เมื่อจบหลักสูตรชั้นนายพันแล้ว ผมก็ต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคตับ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๗ แต่รักษาให้ทุเลาได้ภายในเวลา ๑ ปี ส่วนเพื่อนของผมคนนี้ ต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคเดียวกัน เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ ขณะที่มียศเป็นพันตรี อายุได้ ๔๕ ปี และเมื่อเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว ก็ไม่ได้กลับออกมาอีกเลย

คนถัดไปเป็นทหารอากาศ เดิมเป็นชาวผักไห่อยุธยา เขาถูกเพื่อนชักนำให้มารู้จักกับผม ซึ่งเป็นทหารบก เราคบหาสมาคมกันด้วยความรัก และความปรารถนาดีต่อกันมาเป็นเวลาอันยาวนาน เขาเป็นคนที่มีอัธยาศรัยใจคอดีมาก เป็นที่รักของเพื่อนทุกคน มีความสุจริตจริงใจเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งต่อหน้าและลับหลัง คงไม่มีใครเคยได้ยินเขากล่าวร้ายนินทาหรือโกรธเกลียดผู้ใดเลย มีแต่ยิ้มหัวกระเซ้าเย้าแหย่ ให้ทุกกลุ่มที่เขาเข้าไปสัมผัสด้วย เกิดความสนุกสนานรื่นเริงอยู่เสมอ เขาไม่ใช่นักเลงกินเหล้า นอกจากจะดื่มตามโอกาสอันควรในสังคม และแม้ในหมู่เพื่อนฝูง เขาก็ไม่เคยมีอาการเมาให้เห็นเลย ไม่ว่าจะใช้เวลายาวนานเพียงใด

ในเวลาต่อมาเขารู้ว่าตนเอง เป็นโรคหัวใจ หมอบอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจตาย ทำงานหนักไม่ได้ บางคราวเดินขึ้นลาดเชิงสะพานปิ่นเกล้าได้ครึ่งทาง ก็ต้องหยุดหอบตัวโยน เมื่อครั้งเข้าสอบคัดเลือกเพื่อเลื่อนเป็นนายทหารสัญญาบัตร ก็ผ่านการทดสอบสมรรถภาพมาได้อย่างยากเย็นเต็มที และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ต้องระมัดระวังในการดื่ม เพราะมีโรคความดันสูงเพิ่มขึ้นมาอีก เขารู้ตัวดีว่าอายุคงจะไม่ยืนยาวนัก จึงไม่มีแฟนจนเพื่อนสงสาร เพราะหน้าตาก็พอดูได้ค่อนไปทางหล่อ เพื่อนกลุ่มอื่นของเขาพยายามเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ ก็ไม่สำเร็จเพราะเขาเป็นคนขี้อาย สุดท้ายก็เลยได้แต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนกลุ่มเรานั้นเอง

แล้ววันหนึ่งเขาไปกินอาหารกลางวัน กับเพื่อนที่เป็นลูกชายของผู้บังคับบัญชาของเขา เสร็จแล้วกลับมานอนหลับอยู่ในห้องรับรอง ของกองบัญชาการกองทัพอากาศ จนถึงเย็นจึงมีคนทราบว่าเขาป่วย จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล กว่าลูกเมียญาติพี่น้องซึ่งอยู่แถวบางกรวย จะทราบเรื่องและมาเยี่ยมได้ก็เย็นค่ำแล้ว เขายังพูดคุยกับผู้มาเยี่ยมได้ แต่เขารู้ตัวแล้วว่าจะต้องเป็นอัมพาตครึ่งซีก เพราะเส้นโลหิตในสมองแตก เมื่อญาติพากันกลับไปในตอนดึก เขาก็อยู่อีกไม่นานเลยสองยามไปเพียงครึ่งชั่วโมง เขาก็หมดลมหายใจ ไม่ทราบว่าเขาตายด้วยโรคเส้นโลหิตแตก หรือโรคหัวใจ ขณะนั้นเขามียศเป็นเรืออากาศโท

คนต่อมาเป็นหญิงที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มเพื่อน ที่สมมุติว่ามีอยู่ด้วยกัน ๓๗๘ คน แต่ความจริงมีไม่ถึง กลุ่มนี้มีทั้งหญิงชายที่รับราชการอยู่ในกรมเดียวกัน คบหาสมาคมกันตั้งแต่ประมาณ
พ.ศ.๒๕๐๐ กว่า ๆ เธอผู้นี้เข้ารับราชการทีหลังเพื่อน ซึ่งผมเป็นผู้ดำเนินการบรรจุเข้ารับราชการด้วยตนเอง ตามหน้าที่หลักของผม เรารวมกลุ่มกันได้อย่างเหนียวแน่นจนถึงปัจจุบัน ที่เกือบทุกคนก็เกษียณอายุราชการไปตาม ๆ กัน เมื่อหลายปีมาแล้วผมเป็นผู้นำในการไปทัศนาจรต่างจังหวัด โดยเก็บเงินกันคนละเล็กละน้อย เที่ยวไปตามกำลังความสามารถ ด้วยรถสองแถวขนาดใหญ่ จุผู้โดยสารได้ร่วมยี่สิบคน เราไปกันทั้งครอบครัวลูกหลานยั้วเยี้ย จนสุดท้ายมีเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นจนจัดต่อไปไม่ได้จึงเลิกราไป แต่เราใช้วิธีจัดงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อน ซึ่งเกือบจะทุกเดือนในรอบปี โดยเพื่อนที่มาร่วมงานรวบรวมเงิน เป็นของขวัญแก่ผู้เกิด แทนการมอบของขวัญอย่างอื่น เริ่มตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.๒๕๒๖ จนถึงบัดนี้

เธอผู้นี้ก็จะเป็นต้นเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิด ทั้งภาคภาษาอังกฤษและภาคภาษาไทย ด้วยเสียงที่สูงจนเพื่อน ๆ ตามไม่ไหว จึงฟังดูคล้ายจะเป็นเพลงประสานเสียงในโบสถ์ของฝรั่ง เป็นผู้ที่ชอบชงเครื่องดื่มให้เพื่อนอย่างแก่จัด แต่ของตนเองจะชงอย่างอ่อน ๆ อยู่เสมอ จนเป็นที่ตำหนิติเตียน และบ่นว่าของเพื่อนฝูงอยู่เสมอ

ชีวิตส่วนตัวของเธอค่อนข้างจะอาภัพ แต่งงานแล้วมีบุตรชายคนหัวปี ก็อายุไม่ยืน ไม่ทันจะโตก็เสียชีวิตไปก่อน ต้องขอลูกผู้อื่นมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เพราะลูกคนแรกนี้คลอดยาก จึงต้องทำหมันปิดโรงงานไป ครอบครัวก็ไม่ค่อยอบอุ่น ต่อมาเมื่ออายุมากขึ้นก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องงดการดื่ม และค่อนข้างจะหงอยเหงาลง ทั้ง ๆ ที่เป็นนักกีฬาเปตอง ได้รับรางวัลเสมอ อยู่มาวันหนึ่งผมทราบข่าวว่าไม่ค่อยสบายมาก ผมก็ไปเยี่ยมที่บ้านพักในกรม เธอต้องนอนคุยกับผม แต่ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร เธอปรึกษาผมว่าจะขอลาออกและรับบำเหน็จเอาเงินก้อน ผมก็ทักท้วงว่าควรจะรับบำนาญ และประชดเธอไปว่า ถ้าคิดว่าจะตายในเร็ว ๆ นี้ ก็ควรจะรับบำเหน็จ เธอก็ยิ้มเศร้า ๆ ทำให้ผมได้สติว่าไม่ควรจะพูดอย่างนั้น

แล้วเธอก็ต้องเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ โดยยังไปไม่ถึงโรงพยาบาล ในเช้าวันรุ่งขึ้นนั้นเอง ผมยังเสียใจไม่หายแม้ว่าเวลาจะผ่านมาตั้งหลายปีแล้วก็ตาม

ความจริงผมยังมีเพื่อนเก่า ที่จากไปแล้วอีกหลายคน ที่ยังไม่ได้เล่า แต่ขอพักไว้ก่อน เพื่อไว้อาลัยแก่เขาหรือเธอเหล่านั้น ในชั่วโมงนี้

เมื่อผมได้อยู่มาจนถึง วันนี้แล้ว ก็ตระหนักแน่แก่ใจว่า ความเป็นจริงที่แท้และแน่นอนของชีวิตนั้น ก็คือการเกิด แล้วก็ต้องแก่ แล้วก็ต้องเจ็บป่วย ลงท้ายก็ต้องตาย โดยไม่รู้ว่าใครกำหนด ชีวิตของเพื่อนที่นำมารวมกันไว้นั้น แตกต่างกันออกไป ทั้งการเกิด การดำเนินชีวิต การเจ็บป่วย และการสิ้นสุดของอายุขัย ซึ่งน่าจะเชื่อได้ว่า กรรมของเขาเหล่านั้นเอง ที่เป็นผู้กำหนดเส้นทางชีวิตให้เป็นไปเช่นนั้น ไม่ว่าจะต้องการหรือไม่ก็ตาม

ผมจึงบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับความตาย ของเพื่อนเหล่านี้ไว้ เพื่อรำลึกถึงความผูกพัน ที่เคยมีต่อกันมาในอดีต ตามประสาของคนรักเพื่อน และจะต้องติดตามเขาเหล่านั้นไปเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะได้มีโอกาสพบกันอีกหรือไม่ก็ตาม.

##########



Create Date : 03 ตุลาคม 2552
Last Update : 3 ตุลาคม 2552 19:26:48 น. 6 comments
Counter : 976 Pageviews.

 
คุณลุง เพื่อนแท้ มิตรภาพแท้ เป็นเรื่องสวยงามมาก
ดูแล รักษาไว้ให้ยาวนานที่สุดเหมือนเพื่อนๆๆๆของคุณลุง
ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ
แต่ถ้าใครไม่ต้องการ เราก็ไม่ว่ากัน ไม่บังคับใครเนอะ ?

เกิด แก่ เจ็บ และ...
เป็นสัจธรรม
ทุกคนต้องได้เหมือนกัน
แค่ช้าหรือเร็ว
ไม่คิดมากนะคะ


โดย: PANPISA วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:30:26 น.  

 
เมื่อเรามีเพื่อนเราก็ต้องเข้าใจเขาว่า เขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร
ตรงกับความชอบ และไม่ชอบของเราหรือไม่

ถ้าตรงกันก็ดีไป ถ้าไม่ตรงกันเราจะปรับตัวให้เข้ากับเขาได้หรือไม่

เพราะท่านสอนให้แก้ไขตนเอง แทนที่จะไปแก้ไขคนอื่นครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:58:25 น.  

 
ค่ะ คุณลุง
แต่เพราะเราเองที่ใส่ใจ...เพื่อน
คิดเหมือนกับที่คุณลุงแนะนำ

แต่ปัจจุบันเพื่อนดีๆๆๆก็ยังมีในสังคมทั้งโลก
แต่ลดน้อยลงมาก เดี๋ยวนี้เรียก คนรู้จัก คือรู้จักแต่ชื่อก็พอ

คำว่าเพื่อน ที่เราพยายามเรียนรู้จัก เข้าใจ
ปรับตัว และ แก้ไขที่ตัวเราคนเดียว
กลับเข้าใจว่าเรา เจตนาเพ่งเล็ง มองหาแต่จุดบกพร่องของเพื่อน
จะทำเพื่ออะไร ? เงิน กายหยาบ ใจ ชื่อเสียง เรอะ ?
เพราะเราเองก็ไม่ใช่คนดีเลย ผิดพลาดมีมากและบ่อย
จบดีกว่าค่ะ
คุณลุง ไม่ต้องตอบนะ
ขอบคุณมากค่ะ กับคำแนะนำ



โดย: PANPISA วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:01:31 น.  

 
ตกลงครับ ไม่ตอบครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:25:49 น.  

 
คุณลุงครับ...คุณลุงมีเพื่อนเยอะและจำว่าใครเป็นยังไง
จดจำรายละเอียดได้ดี คุณลุงได้จดบันทึกหรือเปล่าครับ
(คุณลุงเคยบอกผมว่า จดบันทึกกันลืม)
.....มิตรภาพ ความรัก ช่างงดงามจริงๆนะครับ....


โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.111.88 วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:21:47:03 น.  

 
ตามปกติถ้าผมพบเรื่องอะไรที่น่าจะนำมาเขียน ผมก็บันทึกครับ
แต่สำหรับเพื่อนที่คบกันมาหลายปีนั่งนึกเอาก็เขียนได้ครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:14:38:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.