Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

แก้ฟกช้ำเพียง 1 ช้อนชา

ดูจากหัวข้อสาวๆ คงจะงงล่ะสิว่าฟกช้ำกับ 1 ช้อนชามันคนละเรื่องกันนี่นา ก็นี่ล่ะค่ะ ถึงได้นำมาเล่าให้ฟังค่ะ

คืองี้ค่ะ เราได้เคล็ดวิชาดีมาค่ะ เรารู้มาว่าช้อนชาเนี่ยแหละค่ะเป็นยาขนานเอกที่ช่วยรักษาแผลฟกช้ำค่ะ คนที่เป็นแผลฟกช้ำนะคะ เพียงแค่นำช้อนชาไปแช่ลงไปในถ้วยชาร้อน (ไม่ได้ใส่นมนะคะ) จากนั้นก็นำช้อนมาวางลงบริเวณที่ระบบนั้นสัก 2-3 นาที ร่องรอยฟกช้ำบวมจะทุเลาลงได้อย่างเหลือเชื่อเลยค่ะ ลองทำดูนะคะ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 7:49:34 น.
Counter : 321 Pageviews.  

"สุขภาพเท้า" เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

เท้าเป็นอวัยวะสำคัญที่หลาย ๆ คนมักลืมไปว่าต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ เพราะแค่เป็นตาปลาหรือเล็บขบก็อาจลุกลามเป็นปัญหาใหญ่โตได้

วิธีสังเกตเท้าว่ายังมีสุขภาพดีหรือเปล่า ให้พิจารณาเรื่องต่อไปนี้

1.อาการปวด เท้าปกติจะไม่ปวด ถ้าปวดแสดงว่ามีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง หากท่านมีอาการดังต่อไปนี้ให้พบแพทย์

ปวดต่อเนื่องมากกว่า 72 ชั่วโมง
บวมเท้าข้างหนึ่งหรือ สองข้างมากกว่า 24 ชม.
ปวดเท้าเวลาเดินหรือวิ่ง
ปวดเท้าขณะพักหรือเวลายกขา
2.การไหลเวียนของเลือดบริเวณเท้า โดยการดูว่าสีของผิวหนังมีสีคล้ำๆ แสดงว่าอาจจะเกิดจากเลือดไปเลี้ยงที่เท้าไม่พอ ตรวจสีผิวของนิ้วเท้าหากมีเลือดไหลเวียนปกตินิ้วจะมีสีชมพูและอุ่น หากเท้าขาดเลือดผิวจะมีสีคล้ำและเท้าจะเย็น

3.การเคลื่อนไหวของนิ้วเท้า ลองใช้นิ้วเท้าคีบผ้าบนพื้น หากทำได้แสดงว่านิ้วเท้ายังมีการเคลื่อนไหวที่ปกติดี

4.การทรงตัว โดยการยืนเท้าข้างเดียวและให้หลับตา หากอายุน้อยกว่า 30 ปีจะยืนได้นาน 15 วินาที หากอายุ 30-40 ปีจะยืนได้นาน 12 วินาที อายุ 40-50 ปีจะยืนได้นาน 10 วินาทีและอายุมากกว่า 50 ปีจะยืนได้นาน 7 วินาที การทรงตัวนี้หากบริหารจะทำให้ยืนได้นานขึ้น

12 เคล็ดลับการดูแลเท้า
1. ควรล้างเท้าด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ ประมาณ 10 นาที ซึ่งจะทำให้ผิวหนังนุ่ม แต่อย่าขัดหรือถู หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้ง
2. ควรเช็ดเท้าให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วต้องให้แห้งจริง ๆ
3. ดูแลเท้าไม่ให้มีรอยฟกช้ำหรือบาดแผล ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเลือกรองเท้าที่ไม่เหมาะกับเท้า
4. วิธีป้องกันเล็บขบ ต้องตับเล็บโดยตัดตรงไม่ตัดตามความโค้งของนิ้ว และไม่ควรตัดเล็บให้สั้นเกินไป และตะไบเล็บทุกครั้งหลังตัดเล็บ
5. การใส่ครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังและรอยต่อของเล็บกับผิวหนังและเท้าสามารถทำได้ แต่ ห้ามทาครีมบริเวณซอกนิ้ว จำไว้ว่าซอกนิ้วต้องให้แห้งเสมอ
6. ถ้านิ้วเท้ามีอาการบวมขึ้น แข็งขึ้นหรือรู้สึกคันบริเวณนิ้วเท้า นั่นอาจเป็นอาการของการติดเชื้อราบนผิวหนัง ควรไปพบแพทย์แต่เนิ่น ๆ
7. สำหรับผู้ที่ทาเล็บก่อนทาเล็บให้ล้างเล็บด้วยน้ำยาล้างเล็บก่อน
8. อย่าละเลยหากมีอาการปวดที่เท้าเนื่องจากโรคบางอย่างสามารถป้องกันและรักษาได้หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะทำให้เกิดความผิดปกติตามมาในภายหลัง
9. ให้ตรวจเท้าเป็นประจำโดยสังเกตสีผิว อุณหภูมิของเท้า
10. เลือกรองเท้าให้เหมาะกับชนิดกีฬาที่จะเล่น และเลือกขนาดที่พอดีกับเท้า
11. ไม่เดินเท้าเปล่าเพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุ
12. หากไปเที่ยวชายทะเลต้องทาครีมกันแดดที่หลังเท้าด้วย




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 21:34:25 น.
Counter : 251 Pageviews.  

กินยาลดอ้วนอาจเป็นบ้า

อย.แจงส่วนผสมยาลดความอ้วนส่วนใหญ่คือ แอมฟีปาโมนและเฟเทอร์มัน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง ลดความอยากอาหารแต่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายทำให้นอนไม่หลับ กระวนกระวาย ความดันโลหิตสูง หงุดหงิด หัวใจเต้นเร็ว หากใช้ยาติดต่อกันนาน ๆ จะทำให้เกิดการติดยาและทำให้เป็นดรคจิตได้

ยากลุ่มนี้ อย.ได้มีการเพิกถอนทะเบียนไปแล้ว ผู้บริโภคจึงควรตระหนักถึงอันตรายและหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดความอ้วน




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 21:37:39 น.
Counter : 262 Pageviews.  

ระวังอันตรายครีมทาหัวนม

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เตือนผลิตภัณฑ์ทาหัวนม และผิวบริเวณฐานของหัวนมให้เป็นสีชมพู ซึ่งเมื่อนำไปส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบสารปรอทแอมโมเนีย อันตรายคือทำให้แพ้มีผื่นแดง ผิวดำ ผิวบางลง เกิดพิษสะสมของสารพปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ

พบสารไฮโดรควิโนน ทำให้แพ้ระคายเคืองเกิดจุดด่างขาว ทำให้ผิวดำถาวร และพบกรดวิตามินเอ ทำให้ผิวร้อนแดง แสบร้อน อักเสบและผิวลอก

ภายใต้หัวนมประกอบด้วยต่อมน้ำนม ต่อมน้ำเหลือง และมีเส้นเลือดหล่อเลี้ยง การทาครีมดังกล่าว สารต่าง ๆ จะซึมเข้าไปสะสมในต่อมน้ำเหลืองและต่อมน้ำนม อาจเป็นอันตรายต่อเด็กที่ยังกินนมแม่ได้




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 21:26:50 น.
Counter : 347 Pageviews.  

10 วิธี ชีวีมีสุข

บัญญัติ 10 ประการ ชีวิตยืนยาว

1.รับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ โดยให้ความสำคัญที่อาหารมื้อเช้า เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ส่วนใหญ่ของทั้งวัน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ มื้อกลางวัน เป็นแหล่งพลังงานสำรอง มื้อเย็นควรเป็นอาหารเบา ปริมาณไม่มากนัก เพราะร่างกายจะพักผ่อน หลายคนเชื่อว่า ถ้ารับประทานอาหารหนักๆ ปริมาณมากๆ ในมื้อเย็น อาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี

2.นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ร่างกายจะได้มีเวลาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ผ่อนคลาย ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น สมองสดใส เตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่

3.มองโลกในแง่ดี แง่บวกไว้แสมอ เช่น เวลาจะไปไหน เจอรถติดก็ให้คิดเสียว่า มีเพื่อนร่วมชะตาอีกเยอะแยะ ไม่ใช่เราติดอยู่คนเดียว เตรียมใจเผื่อไว้ก่อนศึกษาเส้นทาง วางแผนล่วงหน้า จะช่วยได้มาก ก่อนจะโกรธ ให้นึกถึงคำสอนของพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่พูดว่า "โกรธคือโง่...โมโหคือบ้า" รอยยิ้มและเสียงหัวเราะจะทำให้โลกสดใส และกระตุ้นการหลั่งเอนโดฟินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย

4.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทุกวันได้ยิ่งดี แต่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 20 นาที เป็นการกระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เคลื่อนไหวข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย กระตุ้นให้กระดูกสะสมแคลเซียมได้ดีขึ้น ทำให้กระปรี้กระเปร่า ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ที่มีวัฒนธรรมการเข้าแถวบริหารร่างกายตอนเช้าก่อนเข้าทำงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน

5.รับประทานอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ปรุงใหม่ๆ ได้ก็ดี มีปริมาณของแป้ง เกลือ น้ำตาล และไขมันต่ำ บริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง หันมาบริโภคปลาให้มากขึ้น เพราะปลาเป็นแหล่งโปรตีนราคาถูกที่แสนดี ย่อยง่าย ไขมันปลามีโอเมก้า 3 ช่วยลดไขมัน มีผลดีต่อหัวใจและเส้นเลือด และมีเอเอชเอช่วยบำรุงสมอง

6.ทำตารางเวลาคร่าวๆ ในแต่ละวัน เพื่อจะได้ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ การนัดหมาย จะช่วยลดความเครียดความกังวลได้มาก แต่เปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น อาจใช้จัดเวลาสังสรรค์ในครอบครัว ทำโยคะ ทำสมาธิ

7.รักษาความสะอาดของร่างกาย ช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น คนที่เป็นเบาหวาน ควรดูแลนิ้วเท้าอย่างดี ป้องกันแผลซึ่งรักษายาก ดูแลช่องปากโดยแปรงฟัน ขัดฟัน ขูดลิ้นทุกวัน ช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้สุขภาพฟันดีขึ้น ป้องกันกลิ่นปาก

8.รับประทานผัก ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหาร ป้องกันท้องผูก มีสารต้านอนุมูลอิสระลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง และชะลอความชราได้บ้าง

9.งดของมึนเมา เช่น สุรา ยาเสพติด บุหรี่ กาแฟ แต่ก็มีหลายคนแนะนำให้ดื่มไวน์แดงวันละ 1 แก้ว ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย

10.ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 6-10 แก้ว ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ขับถ่ายของเสีย ทำให้ร่างกายสดชื่น




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 21:26:26 น.
Counter : 287 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.