Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

10 วิธีหนีร่างกายเสียสมดุล

ด้วยชีวิตของคนทำงานที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด ทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาหลากหลายที่รุมเร้าเข้าทำร้ายตัวเองอย่างช้าๆโดยไม่รู้ตัว จากพฤติกรรมต่างๆ ของตัวเราเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระดูกส ันหลังที่เป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย

ดังนั้น ก่อนที่โครงสร้างร่างกายจะเสียสมดุล เราควรต้องเปลี่ยนวีถีชีวิตตัวเองใหม่ใส่ใจกับตัวเองให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายอยู่ได้อย่างเต็มศักยภาพตลอดอายุขัย ซึ่ง "เพ็ญพิชชากร แสนคำ" นักกายภาพบำบัดจากสถาบันปรับโครงสร้างร่างกาย ซีเคร็ท เชพ เวลเนส เซ็นเตอร์ ได้สรุปพฤติกรรมที่ทำให้โครงสร้างร่างกายเสียสมดุล เอาไว้ 10 ข้อดังนี้

1. การนั่งไขว่ห้าง จะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กระดูกคดอย่างแน่นอนหรืออาจจะคดแล้วก็ได้โดยที่ไม่รู้ตัว

2. การนั่งกอดอก ทำให้หลังช่วงบน สะบัก และหัวไหล่ ถูกยืดยาวออก หลังช่วงบนค่อมและงุ้มไปด้านหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรง หรือชาได้ นอกจากนี้ยังมีผลต่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เพราะถ้ากระดูกคอผิดรูป จะทำให้กล้ามเนื้อคอเกร็ง และจำกัดการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เป็นสาเหตุของการอาการปวดศีรษะ หรืออาจทำให้เป็นไมเกรนเรื้อรังได้

3. การนั่งหลังงอ/นั่งหลังค่อม เช่นการอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานๆ เป็นชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดการคั่งของกรดแลกติค ทำให้มีอาการเมื่อยล้า ปวด และมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา

4. การนั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มก้น การนั่งเก้าอี้ส่วนใหญ่จะชอบนั่งแบบครึ่งๆก้น ซึ่งส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนัก เพราะฐานในการรับน้ำหนักตัวแคบ แต่ในทางตรงข้าม ถ้านั่งให้เต็มก้นเต็มเบาะ คือเลื่อนก้นให้เข้าในสุดจนติดพนักพิง จะทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานน้อยและเกิดการรองรับน้ำหนักตัวได้เต็มที่

5. การยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว การยืนที่ถูกต้องควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพกจะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกายไม่ทำให้กล้ามเนื้อข้างใดข้างหนึ่งต้องทำงานหนักมากเกินไป ในทางตรงข้าม หากยืนพักขาหรือลงน้ำหนักขาไม่เท่ากัน จะทำให้กระดูกเชิงกรานบิดเบี้ยวส่งผลให้กระดูกสันหลังคด

6. การยืนแอ่นพุง/หลังค่อม ควรยืนหลังตรง แขม่วท้องเล็กน้อย ขณะยืน เดิน หรือนั่ง ให้พยายามแขม่วท้องเล็กน้อยโดยให้มีสติรู้สึกตัวอยู่ตลอด หากเป็นไปได้ควรทำตลอดเวลาเพื่อเป็นการรักษาแนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่นและทำให้ไม่ปวดหลัง

7. การใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง จะทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลังและการมีโครงสร้างร่างกายที่ผิด

8. การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว ไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเป็นการถือกระเป๋า โดยใช้ร่างกายทั้ง 2 ข้างให้เท่าๆกัน อย่าใช้แค่ข้างใดข้างหนึ่งตลอด เพราะจะทำให้ตัวคุณต้องทำงานหนักอยู่เพียงซีกเดียว ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้

9.การหิ้วของด้วยนิ้ว การใช้นิ้วหิ้วของหนักบ่อยๆ จะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ เพราะจริงๆแล้วกล้ามเนื้อในมือเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก หน้าที่หลักคือการใช้หยิบ,จับโดยไม่หนัก แต่หากต้องใช้จับหรือหิ้วหนักๆ จะทำให้เส้นเอ็นมีการเสียดสี และเกิดพังผืดในที่สุด ยิ่งหากหิ้วหนักมากๆ จะทำให้รั้งกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ และเกี่ยวโยงไปถึงกระดูกคอ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งมากกว่าปกติ มีผลต่อการทรุดของกระดูกและกดทับเส้นประสาทได้

10. การนอนขดตัว/นอนตัวเอียง ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ถูกต้องที่สุด ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในแนวระนาบ ขนานกับเพดานไม่แหงนหน้า หรือก้มคอมากเกินไป หมอนหนุนศีรษะต้องไม่แข็งหรือนิ ่มเกินไป ควรมีหมอนรองใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างก่ายโดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้าง เพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 7:42:52 น.
Counter : 299 Pageviews.  

ดูแลรักษาแปรงสีฟันให้ปลอดเชื้อ

ทพ.พจนารถ พุ่มประกอบศรี

พอนึกถึงแปรงสีฟันแล้ว เรามักจะตั้งคำถามอยู่บ่อยๆ ว่าจะเลือกแปรงอย่างไรดี เอาแบบด้ามตรง ด้ามงอ หรือขนแปรงนิ่ม อ่อนแข็งขนาดไหน? แปรงสีฟันเป็นของจำเป็นที่ใช้ทุกวันในการขจัดคราบอาหาร สิ่งสกปรกที่ติดตามตัวฟัน เพื่อป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ


แปรงฟัน อีกมุมมองหนึ่ง คุณทราบไหมว่า แปรงสีฟันเป็นที่กักเก็บเชื้อโรคได้อย่างดียิ่ง !!
ปัจจุบันนี้มีการวิจัยพบว่าแปรงสีฟันเป็นที่อาศัยของเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ทั้งในช่องปากและไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ปกติแล้วในช่องปากเป็นที่สะสมของแบคทีเรียหลายร้อยชนิด การที่เชื้อจากคนหนึ่งจะไปสู่อีกคนหนึ่ง แปรงสีฟันก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน เป็นบ้านอย่างดีของแบคทีเรีย เมื่อ...

• แปรงสีฟันสัมผัสกับน้ำลาย

• ถูกเลือดโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ
ทราบกันดีอยู่ว่ามีหลายโรคที่แพร่กระจายทางน้ำลายและเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบ HIV เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มีการศึกษาว่าจะทำอย่างไร ที่จะลดเชื้อแบคทีเรียไม่ให้มาสะสมที่แปรงสีฟัน สมาคมทันตแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาเขาแนะนำว่าการดูแลรักษาแปรงสีฟันอย่างนี้ครับ

• อย่าใช้แปรงสีฟันร่วมกัน เพราะการใช้แปรงร่วมกัน โอกาสสัมผัสกับน้ำลาย เลือด ของอีกคนได้ง่ายมากๆเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยตรงเลยครับ

• ล้างขนแปรงด้วยน้ำก๊อก หลังจากแปรงฟันเสร็จ เพื่อเอายาสีฟันที่ค้างและสิ่งสกปรกออก แล้ววางให้ตั้งตรง ให้ขนแปรงถูกอากาศพัดให้แห้ง หากมีแปรงหลายอัน ก็อย่าให้ขนแปรงมาชนกันหรือสัมผัสกันเพื่อป้องกันการปนเปื้อน

• อย่าเก็บแปรงในกล่องปิด เพราะแบคทีเรียจะเจิรญเติบโตได้ดีในที่ชื้นๆ แต่ถ้าขนแปรงถูกอากาศ ก็จะไม่เปียก แบคทีเรียไม่ชอบ จึงควรวางให้แห้งด้วยอากาศดีกว่า

• ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3-4 เดือน อย่าใช้แปรงจนขนแปรงบานนะครับ เพราะประสิทธิภาพในการขจัดเอาเศษอาหารจะลดลง แถมยังอาจทำร้ายเหงือกมากขึ้นด้วย อย่าเสียดายเลย ต้องเปลี่ยนแปรงตามระยะ อย่างไรเสียค่าทำฟันก็แพงกว่าค่าแปรงสีฟันมากครับ


แปรงให้ถูกวิธี จัดเก็บแปรงให้ถูกต้อง สุขภาพฟันของคุณจะสมบูรณ์และมีฟันให้เคี้ยวอาหารนาน ๆ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 7:44:13 น.
Counter : 341 Pageviews.  

วิธีตรวจโครงสร้างร่างกาย

คนเราจะมีรูปร่างสวยงามก็ต้องมีโครงสร้างร่างกายที่สมส่วน ที่ทำให้เราดูมีสง่าราศี คนที่มีโครงสร้างร่างกายถูกต้องตามธรรมชาติจะมีบุคลิกที่ดูงดงาม แม้ว่าหน้าตาจะไม่สวยหล่อก็ตาม โครงสร้างร่างกายจึงเป็นความสวยที่เราสามารถสร้างขึ้นได้ตลอดเวลา


ทีนี้เรามีวิธีตรวจโครงสร้างของเรา เพื่อจะได้รู้ว่าดครงสร้างของเราสวยดีพอรึยัง หากมีส่วนใดที่เบี่ยงเบน หรือโค้งไปจากปกติก็จะได้ปรับปรุงแก้ไขให้กลับมาปกติสวยงามได้ค่ะ การตรวจโครงสร้างร่างกายสามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือให้เพื่อนช่วยตรวจดูก็ได้ค่ะ เพียงแต่รู้หลักการที่เราจะตรวจเท่านั้นเองค่ะ

อุปกรณ์ในการตรวจโครงสร้างก็มีเพียงกระจกบานใหญ่ ที่ใหญ่พอที่จะเห็นภาพเราทั้งตัว เริ่มต้นโดยใส่เสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุดหรือไม่ใส่เลยยิ่งดีค่ะ จากนั้นยืนตรงที่หน้ากระจก เดินย่ำเท่าเล็กน้อย หลับตา ยืนตรงในท่าสบายๆ ไม่ต้องเกร็ง กะให้ตัวตรงๆ ตามธรรมชาติเหมือนที่เราคิดว่าตรงแล้ว จากนั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองดูร่างกายของเราในกระจก มองไป 5 จุดดังนี้
1. ระดับหูทั้งสองข้าง ว่าอยู่แนวขนานกับพื้นหรือไม่
2. ระดับไหล่ทั้งสองว่าอยู่ในแนวตรงเดียวกันหรือไม่
3. ระดับสะโพกทั้งสองว่าอยู่ในแนวตรงเดียวกันหรือไม่
4. ระดับเข่าทั้งสองข้างว่าอยู่ในแนวตรงเดียวกันหรือไม่
5. ระดับเท้าทั้งสองข้างว่าอยู่ในแนวตรงเดียวกันหรือไม่
6. มองดูสะดือตรงกลางว่าอยู่ตรงกลางร่างกายหรือค่อนไปทางข้างใดข้างหนึ่ง
7. มองดูรอยย่นของกล้ามเนื้อ มีแนวที่สมดุลกันทั้งสองซีกของร่างกายหรือไม่
8. มองดูสีผิวทั่วไปว่ามีส่วนใดสีเข้มผิดปกติหรือไม่อย่างไร

จากข้อ 1-5 ถ้าระดับไม่ตรงกัน แสดงว่ามีการคดโค้งของกระดูกสันหลัง ให้เราจำไว้ว่าคดที่ส่วนไหนบ้าง

จากนั้นก็มาตรวจด้านข้างกันบ้าง

ให้ยืนตรงตามสบายเหมือนตรวจด้านหน้า แต่การตรวจด้านข้างต้องมีคนช่วยตรวจให้ ยืนตรงอยู่เฉยๆ โครงสร้างที่ดีจะมองเห้น 5 จุดสำคัญคือ หู ไหล่ สะโพก เข่า และข้อเท้า อยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน โดยเอาเชือกแขวนไว้เส้นหนึง แล้วไปยืนหันข้างให้เชือก แล้วให้เพื่อนช่วยมองว่าจุดต่างๆ นั้นอยู่ในแนวตรงเดียวกันหรือไม่ มีจุดไหนที่ออกนอกเส้นเชือกไป จุดนั้นเป็นจุดอ่อนที่จะต้องจำไว้เพื่อหาทางแก้ไขต่อไปค่ะ จุดอ่อนที่มักจะพบก็ได้แก่ ส่วนโค้งของคอ หรือเอว
คือคอยื่นมากไปหรือพุงยื่นมากไป

การตรวจด้านข้างอีกข้อหนึ่งที่สำคัญ เราจะดูแนวระดับสะบักว่าตรงกันไหมถ้ามีสะบักข้างหนึ่งสูงกว่าข้างหนึ่งแสดงว่ามีปัญหา

การตรวจด้านหลังเราจะดูแนวกระดูกเหมือนตรวจด้านหน้า และดุรอยกล้ามเนื้อทั้งสองซีกร่างกาย รอยบุ๋มต่างๆ ความหนาของกล้ามเนื้อและสีผิวพรรณที่ผิดปกติ

เมื่อครบทุกด้าน เราจะรู้ว่าโครงสร้างของเรามีส่วนใดผิดปกติหรือไม่ ถ้าพบว่ามีส่วนใดผิดปกติต้องรีบแก้ไขทันที จะให้ดีต้องไปพบนักกายภาพบำบัดเพื่อตรวจให้ละเอียดและให้คำแนะนำในการรักษาโดยเฉพาะเป็นกรณีไปค่ะ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 7:33:51 น.
Counter : 310 Pageviews.  

ดื่มน้ำเย็นๆ หลังอาหาร ไม่ดีแน่ค่ะ

หลายคนๆเคยชินกับการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆหลังจากรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของชาเพราะเชื่อกันว่า สามารถขจัดไขมันและแก้เลี่ยนดื่มลงไปแล้วย่อมชุ่มฉ่ำใจแน่นอน แต่คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า หลังจากนั้นในท้องของคุณจะเกิดอะไรขึ้น !?

ลองนึกภาพตามดูนะ !!
ซี่โครงเนื้อในท้องของคุณ (หรือไก่ทอด หรืออะไรก็ตาม)
ล้วนเป็นอาหารที่มันย่อง กระเพาะและลำไส้จะทำการย่อยพวกมันก็ต้องเปลืองแรงหน่อย
ตอนนี้เทน้ำเย็นๆลงไปอีกถ้วยหนึ่ง...

เคยเห็นน้ำมันหมูในตู้เย็นมั้ย !?
คุณจินตนาการว่ากลืนไขมันที่จับตัวเป็นก้อนสีขาวเหล่านั้นลงไปในกระเพาะออกมั้ย !?
เมื่อกระเพาะและลำไส้ของคุณ เต็มไปด้วยน้ำมันที่จับตัวเป็นก้อนราวน้ำตาเทียนไข
ยังจะแก้เลี่ยนได้อีกมั้ย!


ถ้าหากแค่เพียงทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียนเท่านั้นก็แล้วไปเถอะ
แต่ที่สำคัญก็คือ มันสามารถทำให้คุณเป็นมะเร็งลำไส้ได้ด้วย !!


ไขมันที่จับตัวเหล่านี้ เมื่อเจอกับกรดในกระเพาะอาหาร
จะอ่อนตัวกลายเป็นสภาพกึ่งของแข็งและของเหลวที่เหนียวข้น
จากนั้นจะไหลเข้าสู่ลำไส้ก่อนอาหารที่มีสภาพเป็นของแข็งชนิดอื่น
ดังนั้นวัตถุที่มีสภาพเป็นน้ำก็ไม่ใช่ไขมันก็ไม่เชิงและเหนียวๆข้นๆนี้
ก็จะถูกลำไส้ดูดซึมไปเป็นอันดับแรก

แต่ว่า !!
ลำไส้ไม่อาจดูดซึมกำจัดวัตถุประหลาดนี้ได้ทั้งหมด
แล้วต่อมา ผนังลำไส้จะเต็มไปด้วยคราบไขมันเหล่านี้

ก็เหมือนกับการล้างหม้อใส่น้ำแกงเนื้อในหน้าหนาว
คือไม่ว่าจะล้างยังไง ก็ยังรู้สึกมันๆลื่น
และเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า
วัตถุที่ชวนอาเจียนนี้ก็จะฝังเข้าไปในผนังลำไส้
เมื่อสะสมไว้นานๆ ก็อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่นำมาซึ่งโรคมะเร็งลำไส้ในที่สุด !!

ดังนั้นรีบเปลี่ยนพฤติกรรมความเคยชินที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตนี้โดยเร็วเถอะ !!
รับประทานอาหารเสร็จแล้ว อย่ารีบกรอกน้ำเย็นลงไป
ทางที่ดีคือควรดื่มน้ำแกงร้อนๆ หรือน้ำอุ่นๆก็โอเคแล้ว

ขอบอกเรื่องชวนอาเจียนอีกอย่างหนึ่ง
ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้แล้ว จะต้องต่อท่อเข้าไปกระเพาะ ถึงจะอุจจาระได้นะ
คุณคงไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้ใช่มั้ย
รีบบอกต่อคนที่คุณรักและห่วงใย อย่าให้พวกเขาต้องต่อสายท่อเลย !!




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 21:18:41 น.
Counter : 292 Pageviews.  

ข้อดีของกะหล่ำปลี

ถ้าคุณชอบทานผักใบเขียวตระกูลกะหล่ำอยู่แล้ว คุณจะรู้สึกดีขึ้นไปอีกเมื่อพบว่ามันผ่านการทดลองว่าสามารถยับยั้งมะเร็งในสัตว์ได้

เพราะพวกกะหล่ำอุดมไปด้วยสารประกอบที่ช่วยกำจัดสารที่คาดว่าจะก่อมะเร็ง ผักตระกูลนี้รวมทั้งผักกะหล่ำปลี บร็อกโคลี่ ยังมีสารป้องกันอันตรายจากควันบุหรี่ที่เป็นตัวเร่งมะเร็งอีกด้วย เยี่ยมจริงๆ มากินผักกันเถอะค่ะ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 7:44:46 น.
Counter : 336 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.