|
โรคหอบหืด ประมาทชั่ววูบอาจถึงชีวิต!
เมื่อหลายเดือนก่อน วงการบันเทิงสูญเสียดาราชื่อดังหลายคนแบบกระทันหันจากโรคหอบหืด ซึ่งแม้จะเป็นโรคที่ควบคุมได้และไม่อันตรายเหมือนไข้หวัดนก เอดส์ ฯลฯ แต่กลับสามารถคร่าชีวิตคนได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพียง 5 นาที !
ในปัจจุบันคนไทยเป็นโรคหอบหืดกว่า 4 ล้านคน ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทผู้ที่เป็นโรคจำเป็นต้องดูแลรักษาตัวเอง และไม่ประมาทปล่อยให้โรคนี้คร่าชีวิตก่อนถึงชะตากำหนด ด้วยวิธีสังเกตอาการของโรคในเบื้องต้น การควบคุมอาการและข้อสังเกตเมื่ออาการฉุกเฉิน โรคหืดเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม มีผลทำให้ผนังหลอดลมมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารภูมิแพ้และสิ่งแวดล้อมมากกว่าปกติ เกิดการอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวก เหนื่อย หายใจมีเสียงวี๊ด ไอและแน่นหน้าอก โดยเฉพาะช่วงกลางคืนหรือเช้ามืด โรคหืดสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่อาจถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์จากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลานได้ และที่สำคัญคนปกติที่ไม่เคยเป็นโรคหืดมาก่อนก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ในภายหลังหากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนต่อการเป็นโรคหืด เช่น มลภาวะต่างๆ ละอองเกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ สารเคมีบางอย่าง การออกกำลังกายบางชนิด ฝุ่นภายในบ้าน ไรฝุ่น ขนสัตว์ แมลงสาบ ฯลฯ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองเป็นโรคหืดหรือไม่ ในเบื้องต้นอาจสังเกตอาการดังนี้...
มีอาการไอ หอบ หายใจมีเสียงวี๊ดๆ เป็นๆ หายๆ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
มีอาการไอเรื้อรัง ถ้าไอเวลากลางคืนก็สงสัยว่าอาจจะเป็นโรคหืดได้
มีอาการไอเรื้อรังหลังจากเป็นไข้หวัด
และเพื่อตรวจสอบอย่างแน่ชัด ปรึกษาวิธีรักษาที่ถูกต้องและดีที่สุด ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งแพทย์จะซักถามประวัติและอาการอย่างละเอียด หรืออาจทดสอบสมรรถภาพปอดและเอกซ์เรย์ปอด เพื่อประเมินความรุนแรงของโรคและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป และหากเป็นโรคหอบหืดต้องพกยาติดตัวทั้งชนิดพ่นและรับประทาน หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หรือสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืด ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ต้องดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงมากที่สุดและใช้ยาเพื่อป้องกัน
ทั้งนี้หากเป็นโรคหอบหืด มักส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากเกิดอาการกำเริบขึ้นมา ถ้าเป็นเด็กอยู่ในวัยเรียนก็จะขาดเรียนบ่อย ทำให้เกิดความกังวลหรือเครียดเพราะเรียนไม่ทันเพื่อนๆ และจำเป็นต้องงดเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายบางชนิด หากเป็นผู้ใหญ่ก็อาจลดประสิทธิภาพการทำงานหรือรายได้ เพราะมักรบกวนการนอนหลับพักผ่อน นอกจากนี้การใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดกินหรือฉีดเป็นเวลานานๆ เพื่อรักษาอาการหืด สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น อาการบวมน้ำ ภูมิคุ้มกันลดลง เบาหวาน กระดูกผุ ต้อกระจก และร่างกายไม่เติบโตตามวัยในวัยเด็ก ดังนั้นแพทย์ปัจจุบันจึงหันมาให้ใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดพ่น ที่ปลอดภัยกว่าเพื่อควบคุมโรค
แม้คนที่มีอาการหอบหืดจะต้องรับการรักษาและคำแนะนำจากแพทย์ รวมถึงหมั่นสังเกตอาการตนเอง แต่ก็ยังมีคนที่เป็นหอบหืดจำนวนมากละเลยอาการของโรค และคิดว่าอาการไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดคร่าชีวิตได้ ซึ่งจากรายงานสำรวจควบคุมโรคหืดในประเทศไทย เมื่อเทียบกับผลสำรวจในยุโรปและสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง โดยร้อยละ 5 ซึ่งหากมีอาการจับหืด แต่ปล่อยปละละเลย ไม่รีบใช้ยาหรือไปพบแพทย์ไม่ทันก็นำไปสู่การขาดอากาศ เพราะหลอดลมตีบตัวอย่างรุนแรง เมื่อสมองขาดออกซิเจนก็ทำให้สลบ หากไม่รีบให้ออกซิเจนภายใน 4-5 นาที สมองก็จะตาย ในกรณีที่ช่วยชีวิตทันก็อาจเป็นเจ้าชายนิทรา ในขณะที่ระบบอื่นๆ ของร่างกายยังทำงานได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบรุนแรงเกินรักษา ดังนั้น อาการที่สงสัยว่าโรคหืดเริ่มจะรุนแรงขึ้น และอาจนำไปสู่กรณีฉุกเฉิน ซึ่งต้องได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วน คือ
ถ้ามีอาการหอบหืดบ่อยครั้งหรือมากกว่าปกติ โดยเฉพาะตื่นเวลากลางคืนมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และหอบตอนกลางวัน หรือถ้าเพิ่มยาเองแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 5 วัน แสดงว่าอาการน่าจะกำเริบ ควรกลับไปปรึกษาแพทย์ทันที
ในกรณีที่มีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวกหรือลำบาก อาการหอบรุนแรงขึ้น แม้จะใช้ยาพ่นขยายหลอดลมบ่อยกว่าทุก 3-4 ชั่วโมง อาการก็ไม่ดีขึ้น หากเกิดกับเด็กเล็กให้สังเกตว่าเริ่มร้องงอแง หายใจแรงและเร็ว จมูกบาน ซี่โครงบาน ไม่มีแรง อ่อนเพลีย จำเป็นต้องส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ทั้งนี้สมาชิกในครอบครัวสามารถมีส่วนช่วยสังเกตอาการก่อนถึงขั้นรุนแรงได้อย่างมาก
ัโรคหอบหืดอาจรักษาไม่หายขาด แต่ก็สามารถควบคุมไม่ให้มีอาการและดำเนินชีวิตตามปกติเหมือนคนอื่นๆ ได้ แต่ต้องให้ความร่วมมือกับแพทย์ในการรักษาอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้ยาอย่างถูกต้องตามวิธีใช้ และตามปริมาณที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจากสถิติพบว่าจากคนเป็นโรคหอบหืดทั้งหมดกว่าร้อยละ 50 ไม่ใช้ยาตามแพทย์สั่ง ทำให้ควบคุมโรคหืดไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตชีวิตก็เป็นไปได้
แนวทางการรักษาโรคหืดแบบใหม่ล่าสุด สภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย (Thai Asthma Council) หรือ TAC โดย ศ.นพ.ประพาฬ ยงใจยุทธ ประธานสภาโรคหอบหืดแห่งประเทศไทย กล่าวว่ากำลังนำแนวทางการรักษาโรคหืดแบบใหม่จากองค์การด้านสาธารณสุขอนามัยระดับโลก หรือ GINA (The Global Initiative for Asthma) ซึ่งอยู่ในรูปแบบของแบบสอบถามเกี่ยวกับความถี่ ความรุนแรงของการเกิดโรคที่จะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาและปรับยาให้เหมาะสมแก่คนไข้ หรือที่เรียกว่า GINA guideline โดยคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาและควบคุมโรคหืดแก่แพทย์เฉพาะทางและแพทย์ทั่วไปได้ใช้ ซึ่งจะสามารถใช้กับคนที่มีอาการหอบหืดทุกระดับ และมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศในเร็วๆ นี้ ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกได้นำไปใช้และได้ผลดี
Create Date : 05 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 5 สิงหาคม 2551 7:50:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 336 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Tried to take a picture Of love Didn't think I'd miss her That much I want to fill this new frame But it's empty
Tried to write a letter In ink It's been getting better I think I got a piece of paper But it's empty It's empty
Maybe we're trying Trying too hard Maybe we're torn apart Maybe the timing Is beating our hearts We're empty
And I even wonder If we Should be getting under These sheets We could lie in this bed But it's empty It's empty
|
|
|
|
|
|
|
|