กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
14 พ.ค. 2555 ตามรอยฟูจิซังที่ คาวากูจิโกะ

เริ่มต้นการเดินทางวันนี้เก็บของใส่เป้เพื่อเดินแกะรอยฟูจิซัง หลังจากผ่านทั้งลมทั้งหิมะกันมาแล้ววันนี้เราจะไปเยี่ยมฟูจิซังกันที่เมืองคาวากูจิโกะ เริ่มต้นการเดินทาง (สายๆ)ตามเคย เกือบสิบโมงหรือสิบเอ็ดก็ไม่รู้เพื่อนสาวเราก็ขับรถมาส่งที่สถานีรถไฟ 


วันนี้เราต้องไปต่อเส้นทางรถไฟน่ารักๆสายฟูจิคิว พอไปถึงแทบจะกรี๊ดกับการตกแต่งของขบวนรถไฟเป็นพี่โทมัสแลนด์น่ารักมากกกกกก ทั้งขบวนมีแค่สองตู้ นายสถานีก็น่ารักหลายๆ(แทบน้ำลายหก)เราสองคนก็รีบแจ้นไปซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพราะสายนี้ไม่สามารถใช้บัตรเบ่ง JR Pass ได้ แต่พวกเราหาได้แคร์ไม่เพื่อการเดินทางต้องเสียเพิ่มนิดเพิ่มหน่อยก็ต้องยอมกันหล่ะหย่อนก้นลงนั่งเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งลุ้นว่าระหว่างการเดินทางอากาศจะดีไม๊แล้วเราจะได้เห็นฟูจิซังสมกับที่รอคอยกันรึป่าว 


เค้าว่ากันว่าถึงจะเป็นคนญี่ปุ่นเองก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นฟูจิกันได้บ่อยๆเนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยดีเลยทำให้ฟูจิค่อนข้างขี้อายไม่โผล่ออกมาให้เห็นเพราะงั้นวันนี้ถือเป็นโชคดีของเราสองคนที่สภาพอากาศขณะเดินทางดีมากท้องฟ้าแจ่มใสสุดๆพอเราเริ่มนั่งเข้ามาใกล้เมืองคาวากูจิโกะมากขึ้นก็เริ่มเห็นฟูจิซังกันแล้วมันเป็นภาพที่บรรยายไม่ถูกอ่ะมันสวยแล้วก็ดูอลังการสมกับที่อุตส่าห์ดั้นด้นเพื่อจะมาดูแล้วเค้าก็โผล่มาให้เห็นเกือบทั้งลูกกันเลยทีเดียวสรุปว่าเค้าสง่าจริงๆสมคำร่ำลือ

แต่คนเราก็ไม่ได้จะโชคดีไปตลอดการเดินทางจริงไม๊?พอเรามาถึงที่พักจัดแจงเก็บของเรียบร้อย แวะถามที่ touristinformation ได้ความว่าพรุ่งนี้อากาศจะไม่ค่อยดี ฝนก็จะตกเผลอๆก็อาจจะเริ่มตั้งแต่เย็นๆนี้ไปเลยก็เป็นได้พวกเราทำได้แค่เดินคอตกไปเช็คอินท์กันก่อนลงมาแวะถามพนักงานต้อนรับของที่พักว่าแถวนี้มีอะไรอร่อยๆกินบ้างเค้าแนะนำให้ลองกิน คาราเกะ ร้านเก่าแก่ดั้งเดิมของที่นี่บอกทิศทางพวกเราอย่างชัดเจน (แต่พวกเราไม่ชัดเจนไปกะเค้าด้วยหรอกนะ) กะว่าก็ค่อยไปควานหากันเอาเองเดินเล่นไปเรื่อยๆเพื่อจะไปยังทะเลสาปคาวากูชิโกะ 


ไปถึงทะเลสาปก็จัดแจงหยิบข้าวกล่องที่ซื้อกันไว้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางมานั่งโซ๊ยกันริมทะเลสาปเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆพอเริ่มอิ่มก็เริ่มไม่รู้จะทำอะไรไอ้เราก็อยากจะกลับไปดูฟูจิซังอีกรอบกลัวว่าพรุ่งนี้อากาศไม่ดีจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วแต่ระยะทางที่เดินกลับนี่ก็อีกหลายร้อยเมตรก็เลยเปลี่ยนใจเดินกันแบบสบายๆหาร้านคาราเกะกินกันดีกว่าแล้วเราก็เจอร้านนี้จริงๆ โชคดีที่เป็นคนสอดรู้สอดเห็น (บ้างเป็นบางครั้ง)มีร้านอยู่ร้านนึงปิดประตูหน้าต่าง (เนื่องจากอากาศค่อนข้างเย็น)เราก็เดาๆว่าน่าจะเป็นร้านนี้เพราะมีคนเข้าออกอยู่บ้างเลยตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปดู บราโว่ เจอคุณลุงกะคุณย่าขอย้ำว่าเป็นคุณลุงกะคุณย่าเพราะเหมือนเป็นลูกชายกะแม่สองคนกำลังทอดคาราเกะกันอยู่ ในร้านนี้เค้ามีให้เลือก 3อย่างคือ มันทอด ปลาทอด แล้วก็แฮมทอดมันทอดอร่อยอ่ะโดยเฉพาะตอนกินร้อนๆ ตอนอากาศหนาวๆ ยัมมี่มากๆ เลือกมาอย่างละหนึ่งแล้วก็ขอบุกครัวเข้าไปถ่ายรูปกะอาม่าคนนี้กันซะหน่อยน่าร๊ากจริงๆ 


สรุปว่าวันนี้หมดกิจกรรมอื่นใดแล้วเนื่องจากอากาศหนาวฝนเหมือนจะเริ่มตกโปรยๆ แล้วเมืองก็เงียบได้ใจ ไม่รู้จะไปทำอะไรต่อดีก็เลยนั่งเล่นเนตกันในโรงแรมแก้เบื่อเล่นไปกินไป จนง่วงก็เลยคิดว่า นอนดีกว่าพรุ่งนี้ก็ทำใจยอมรับกับสภาพอากาศกันไปเน้อ นอนดีกว่า




Create Date : 04 กันยายน 2555
Last Update : 4 กันยายน 2555 22:31:17 น.
Counter : 538 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

manatabo
Location :
กระบี่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชีวิตคือการเดินทางตลอดเวลา