การ
ออกกำลังกายส่วนใหญ่
คนที่เริ่มต้นใหม่ย่อมมีความตั้งใจและมุ่งมั่น พยายาม
ออกกำลังกายอย่างเต็มที่
(ไฟแรงนั้นเอง) เพื่อที่จะเสริมสร้างและพัฒนากล้ามเนื้อให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว บางคนก็อาจจะวางแผนการฝึกอย่างหนักหน่วงจริงจัง เข้มข้น
จนบางทีก็อาจจะลืมไปว่า เราเพิ่งเป็นผู้เริ่มต้น การ
ออกกำลังกายอย่างหนักอาจจะก่อให้เกิด
Overtraining ได้ค่ะ
ภาพจาก beginogi.ru
Overtraining คืออะไร ?
Overtraining คือการที่เราออกกำลังกายแบบหนักเกินกว่าร่างกายของเราจะรับไหว หรือการออกกำลังกายที่ไม่สมดุลกับภาวะร่างกายของเรานั้นเอง หากเรายังคงดื้อดึง
ออกกำลังกายต่อไปเรือยๆ อาจจะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ หรือร้ายแรงที่สุดคือกล้ามเนื้อฉีกได้ค่ะ
สาเหตุการเกิด Overtraining
สาเหตุหลักของการเกิด
Overtraining ส่วนใหญ่แล้วมาจากการ
ออกกำลังกายแบบหนักหน่วงมากเกินไป
ออกกำลังกายยาวนานเกินไป หรือใช้เทคนิคในการพัฒนากล้ามเนื้อเข้มข้นเกินภาวะร่างกายของเรามากเกินไป
ภาพจาก Fitness Solutions Plus
แต่การออกกำลังกายมากเกินไป
ก็ไม่ใช่เพียงสาเหตุเดียวที่จะทำให้ร่างกายของเราเกิด Overtraining ภาวะการขาดโภชนาการ รับประทานอาหารน้อยจนเกินไป (อาจจะเพราะควบคุมน้ำหนัก) ก็เป็นอีกสาเหตุที่สามารถก่อให้เกิด
Overtraining กับร่างกายของเราได้เช่นกัน
การพักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด
Overtraining ได้ค่ะ จากบทความก่อนหน้าที่เคยพูดในเรื่องของ
ผลกระทบของการพักผ่อนไม่เพียงพอหลังจากการออกกำลังกาย จึงสรุปได้ว่า
การออกกำลังกายที่ดี ไม่จำเป็นที่จะต้องหักโหม ไม่ต้องออกทุกวัน ภาพจาก Lifebru
หลังจาก
ออกกำลังกาย ร่างกายของเราก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกาย ซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนที่สึกหรอ ช่วงเวลาในการนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเราสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ดีมากที่สุด
ข้อสังเกตุและอาการของ Overtraining
เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเรามีอาการ
Overtraining รึเปล่า ? ให้เราเริ่มจากการตรวจสอบอาการและสภาวะทางอารมณ์ของตัวเราเองกันก่อนค่ะ ว่ามีอาการดังต่อไปนี้หรือไม่
หากหลังจากการ
ออกกำลังกาย มีอาการเหนื่อยล้าผิดปรกติ ถึงแม้จะตื่นนอนมาตอนเช้า ก็รู้สึกว่าเหนื่อยอ่อนไม่มีแรง เหมือนคนนอนหลับไม่เต็มอื่ม หากคุณมีอาการดังกล่าวก็คิดไว้ก่อนได้เลยว่าเรา
ออกกำลังกายมากจนเกินไปหรือไม่
ภาพจาก Strength Upgrade
ใครๆก็บอกว่า
ออกกำลังกายแล้วทำให้นอนหลับสบาย เพราะใช้แรงเยอะ
แต่หากออกกำลังกายมากจนเกินไป อาจจะทำให้กลายเป็น
นอนไม่หลับ แทน ! โอ้โห เหนื่อยแรงเพลียง่ายก็ว่าแย่แล้ว ตกดึกมาก็มีอาการนอนไม่หลับซ้ำเข้าไปอีก เพลียแล้วเพลียอีก เพลียซ้ำเพลียซ้อน จนไม่อยากจะทำอะไรเลยทีเดียว
นอนไม่หลับ อ่อนเพลียหมดแรง พ่วงอาการไม่อยากจะกินอะไรเข้าไปอีก เบื่ออาหาร เห็นอะไรก็ไม่อยากกิน รวบ 3 อาการเหล่านี้เข้าด้วยกัน รู้สึกเบื่อกับการ
ออกกำลังกาย เหมือนชีวิตขาดแรงจูงใจ แถมหงุดหงิดง่าย
ถ้าหากคุณมีอาการเหล่านี้ร่วมกัน แสดงว่าคุณกำลังเข้าข่ายมีอาการ Overtraining แล้วค่ะ ป้องกันและแก้ปัญหาอาการ Overtraining เบื้องต้น
การแก้ปัญหาอาการ
Overtraining เบื้องต้นคือการลดความเข้มข้นของการออกกำลังกายลง ตัดพวกเทคนิค จำนวนท่า จำนวนเซ็ตในการ
ออกกำลังกายแต่ละวัน ซึ่งรวมไปถึงระยะเวลาในการคาดิโอ้
จากออกกำลังวันละ 2 ชม. ก็ลดลงมาสัก 45 นาที หรือ 1 ชั่วโมงก็พอ ภาพจาก Huffington Post
นอกจากจะลดเวลาในการออกกำลังลงแล้ว ให้เพิ่มเวลาพักผ่อนแต่ละอาทิตย์ให้มากขึ้น จากปกติออกกำลังมัน 7 วันทั้งอาทิตย์
ให้เปลี่ยนเป็นออกกำลังกายแค่ 5 วันแล้วพักผ่อนสัก 2 วันไปเลย และพักผ่อนคือ การพักผ่อนจริงๆนะคะ ไม่แตะเรื่อง
ออกกำลังกายแม้แต่นิดเดียว