การใช้งาน
เครื่องออกกำลังกาย แน่นอนว่าเป็นตัวช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ดีที่สุด แต่การใช้งาน
เครื่องออกกำลังกาย ให้เห็นผลชัดเจน ย่อมต้องมีเทคนิคเล็กๆ ที่หลายคนอาจจะไม่รู้ เทคนิคนั้นคืออะไร เรามาดูกันไปพร้อมๆกันเลย !
ภาพจาก The Star Online
เครื่องออกกำลังกายลดน้ำหนักไวติดจรวด
การใช้งาน
เครื่องออกกำลังกายเพื่อการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน เป็นเรื่องที่เราทราบกันดี แต่หลายคนมีความเข้าใจว่า ยิ่งเรา
ออกกำลังกายหนักเท่าไหร่ ยิ่งผอมเร็วมากขึ้นเท่านั้น เลยหักโหมใช้งาน
เครื่องออกกำลังกายแบบรัวๆ สรุปคือออกไปได้แค่ 10 นาทีเหนื่อยหอบ ต้องหยุดพักไว้เพียงเท่านั้น
ภาพจาก ingatlanosblog.hu
การใช้งาน
เครื่องออกกำลังกายไม่จำเป็นที่จะต้องหักโหมแบบหายใจไม่ทัน แต่เป็นการใช้
เครื่องออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง เพราะร่างกายของเราจะเริ่มเอาไขมันส่วนเกินมาเผาผลาญหลังจาก
การออกกำลังกายไปแล้ว 30 นาที ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะหักโหมแทบตายในช่วง 10 นาทีแรก ก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่ค่ะ
การใช้เครื่องออกกำลังกายหนักสลับเบา
ดังนั้น
การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานมากกว่า 45 นาที เป็นช่วงเวลาที่จะเห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด แต่เทคนิคที่จะเอามาฝากกันในวันนี้คือ การใช้งาน
เครื่องออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา ผสานเข้ากับเทคนิคการใช้อุปกรณ์และเลือกชนิดของกีฬาที่เล่นทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน
3 วันออก 1 วันพัก
หลักการใช้งาน
เครื่องออกกำลังกาย ผสานกับการเลือกชนิดของกีฬาและอุปกรณ์ เราจะเล่นเป็นแบบ 3/1 คือ 3 วัน
ออกกำลังกายและ 1 วันพักผ่อน โดยภายในช่วงเวลา 3 วันเราจะเน้นการคาดิโอ้ เพื่อเผาผลาญพลังงานเป็นหลักค่ะ โดยเราสามารถวางแผนใช้งาน
เครื่องออกกำลังกายได้ตามความถนัดและความชอบเลย
การวางแผนใช้เครื่องออกกำลังกายหนักสลับเบา
วันที่ 1 เริ่มต้นวัน
ออกกำลังกายอย่าสดใสด้วยการเลือกใช้
จักรยานออกกำลังกาย ปั่นแบบเบาๆสนุกๆ เป็น
เครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นมากๆ เนื่องจาก
จักรยานออกกำลังกายนั้น เป็น
เครื่องออกกำลังกายแบบไร้แรงกระแทก คุณไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีปัญหาเรื่องของข้อเข่าข้อขาตามมาภายหลัง
ภาพจาก leisurefitness.com
การปั่น
จักรยานออกกำลังกาย แนะนำให้ปั่นตั้งแต่ 45 - 60 นาทีขึ้นไป โดยเทคนิคการปั่นให้เริ่มจากการปั่นช้าๆ แล้วจึงค่อยเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่องๆประมาณ 5 นาที สลับกลับมาปั่นช้าอีกครั้งประมาณ 5 นาทีจนครบกำหนดเวลา (อย่าปรับแรงหน่วงเยอะ เพราะจะทำให้น่องโป่งได้ค่ะ เน้นปั่นเร็วจะดีกว่าเพื่อขาสวย อิอิ)
-------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 2 เริ่ม
ออกกำลังกายในวันที่สอง อยากจะมองหาอะไรที่สดชื่น อากาศแจ่มใสแบบนี้ไปวิ่ง
ออกกำลังกายที่สวนสาธารณะกันดีกว่า หรือแถวบ้านไม่มีสวนไปวิ่งก็ใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าแทนก็ได้ค่ะ โดยเราใช้เวลาวิ่งประมาณ 30 นาทีก็เพียงพอสำหรับผู้เริ่มต้น
ภาพจาก Pinterest
โดยเทคนิคการวิ่งจะเป็นการวิ่งแบบเร็วสลับช้า โดยวิ่งเร็วประมาณ 2 นาที และวิ่งช้าประมาณ 2 นาทีสลับกันอย่างต่อเนื่อง การวิ่งแบบนี้สามารถเผาผลาญพลังงานได้สูงสุดอาจจะถึง 800 1000 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียวค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 3 วันสุดท้ายของรอบ
การออกกำลังกายช่วงแรก แนะนำให้เป็นการว่ายน้ำแบบสดชื่นๆ ด้วยวิธีการเช่นเดิมคือ ว่ายแบบธรรมดาสลับเร็ว อย่างละ 10 นาที 4 รอบรวม 40 นาทีก็เพียงพอค่ะ หลังจากนั้นก็ตีขาเล่นน้ำแบบผ่อนคลายกันไปจนกว่าจะเหนื่อย (ฮ่าๆ)
ภาพจาก LeisureCentre.com
-------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 4 เป็นวันแห่งการพักผ่อน หยุดพักร่างกาย เพราะ
การออกกำลังกายต้องมีการหยุดพักเพื่อรักษากล้ามเนื้อ ยิ่งหากเราฝืนร่างกายออกกำลังทุกวันๆต่อเนื่อง อาจจะเกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี การใช้งาน
เครื่องออกกำลังกายแบบพอดีๆ เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ
เรื่องกินก็สำคัญนะ
นอกจาก
การออกกำลังกายแล้ว เรื่องการเลือกรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะการทานแป้ง การทานโปรตีน และอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งหลายคนยังเข้าใจผิดว่าหากอยากลดน้ำหนักให้เลี่ยงแป้ง เป็นความเข้าใจที่ผิด
ภาพจาก Food NDTV
เพราะตัวแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต เป็นตัวให้พลังงาน ยิ่งตอนช่วงเช้าร่างกายยิ่งต้องการพลังงานไปใช้ในแต่ละวัน ข้าวเช้าจึงห้ามงดเด็ดขาด ส่วนที่ควรงดคือข้าวเย็น ให้เลี่ยงแป้งได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี อาจจะเลือกทานอย่างอื่นเป็นอาหารเย็นแทนค่ะ
บทความแนะนำ