ในอดีตไก่ไทยไม่เคยเจอหัวอาหารหรอกนะ อย่างเก่งก็ปลายข้าว รำ ข้าวเปลือก นอกนั้นก็เป็นโปรตีนในธรรมชาติ พวกแมลง ปลวก ใบไม้ เมล็ดพืชในป่า ผลไม้สุก ไก่กินได้ทั้งนั้น เมื่อคืนนี้เห็นแมงเม่าตัวเล็กๆบินมาเล่นไฟ จึงเดินไปเปิดไฟฟ้า แมลงยังมาไม่มากนัก แต่ไก่ก็กระโดดลงคอน มาไล่จิกกินแมลง ที่ ข า ด ห า ย ไ ป น า น ใ น ชี วิ ต ข อ ง ไ ก่ ปลวกมาเอง ถ้าจัดสภาพให้เหมาะสม เช่น ใช้มูลสัตว์ ขี้เลื่อย แกลบ ใบไม้แห้ง แม้แต่หนังสือพิมพ์เก่าๆ มาปูพื้นคอกด้านนอก แล้วรดน้ำให้ กลางคืนปลวกก็จะแห่กันมา กลางวันไก่ ก็คุ้ยเขี่ยกิน หนุนเนื่องกันอยู่อย่างนี้ ในเมื่อจับไก่มาขังกรง ไก่มีข้อจำกัด มนุษย์จึงต้องให้การสนับสนุนชดเชยส่วนที่ขาด เศษอาหาร ผลไม้สุก ใบไม้ใบหญ้า เอามาเลี้ยงไก่ได้ทั้งนั้น ไก่นี่แหละเป็นตัวรีไซเคิลน์ชั้นยอด แนวคิดเรื่องปลูกมะละกอ กล้วย เลี้ยงไก่ จึงเป็นไปอย่างอะร้าอะร่าม..การเลี้ยงแบบกึ่งวิทยาการใหม่ๆ สามารถจัดการให้เข้ากันได้ดี ช่วงฝนต่อไปนี้ เราจะทำการเก็บข้อมูล ในระหว่างที่มีอาหารธรรมชาติ จะสามารถชดเชยหัวอาหารได้กี่เปอร์เซ็นต์ แม้แต่ลดได้เปอร์เซ็นต์เดียวก็คือการลดต้นทุน ถ้าลดได้ 4-50% จะ อิ อิ ขนาดไหน? ยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้คนเป็นเกษตรกรต้องมีความคิดความรู้ไม่อย่างนั้นก็ถูกหลอกให้ขนข้าวไปจำนำแล้วได้ใบมรณบัตรมาแทนถีงแม้ เดือนไหนก็ไม่รู้ ที่จะได้รับเงินค่าข้าวก็ใช่ว่าเรื่องจะจบได้ง่ายๆเมื่อระบบการบริหารข้าวไทยเข้าขั้นโคม่ามันร้ายกว่าปัญหาในอดีตเป็นพันเป็นหมื่นเท่าเมื่อทุกอย่างเปลี่ยนจาก นาล่ม นาแล้ง มาเป็น นาเน่า..อ่านเพิ่มเติม //www.nicaonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=624:2012-02-23-02-11-35&catid=42:2012-02-20-03-00-29&Itemid=124