//www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9099
พุทธบูชาตามคำสอนจากพระโอฐ...อานนท์ การบูชาตถาคตเจ้าด้วยอามิสบูชา แม้มากเห็นถึงปานนี้ ก็ไม่ชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างแท้จริง อานนท์ ผู้ใดแลมาปฎิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างแท้จริง
เมื่อพระพุทธองค์เย้ยพระยามาร...ดูกรตัณหา นายช่างเรือน บัดนี้ตถาคตพบท่านแล้ว แต่นี้สืบไป ท่านทำเรือนให้ตถาคตไม่ใด้อีกแล้ว กลอนเรือนเรารื้อออกเสียแล้ว ช่อฟ้าเราก็ทำลายเสียแล้ว จิตของเราปราศจากสังขารเครื่องปรุงแต่งให้เกิดภพอื่นเสียแล้ว ใด้ถึงความดับสูญสิ้นโดยแท้ไปแห่งตัณหาอันส่วนเหลือไม่ได้
หลักสูตรที่1 พระสติปัฏฐานสูตร
วิสุทธิ หรือ ความบริสุทธิ์ ตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา หมายถึงความบริสุทธิ์ทางจิตใจ คือทำใจให้บริสุทธิ์ สะอาด ให้ผ่องใส ปราศจากกิเลสมลทิน กิเลสและมลทิน หมายถึงสิ่งที่ทำให้จิตใจเราเกิดความเศร้าหมองหรือให้เกิดความมัวหมอง สิ่งที่ว่านี้ได้แก่ ราคะ โทสะ โมหะและ อวิชชา เป็นกิเลสมลทินใหญ่ นอกนั้นก็มีกิเลสมลทินปลีกย่อยอีกหลายประการที่ทำให้จิตใจของคนเรามัวหมอง ถึงจะอาบน้ำไสสะอาดบริสุทธ์สะอาด ชำระสรีระร่างกายด้วยของหอมเลอเลิศประการใดก็ตาม ถ้าจิตใจไม่บริสุทธิ์สะอาด คือ ยังมีราคะ โทสะ โมหะ มัจฉริยะ อวิชชาเป็นต้น ถือว่าเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ ท่านจึงกล่าวว่า----- พระพุทธเจ้า องค์พระมหาฤษี มิได้ตรัสว่า สัตว์ทั้งหลายจักเศร้าหมอง ด้วยรูปกายที่เศร้าหมอง และเมื่อรูปกายบริสุทธิ์สะอาดแล้ว จะบริสุทธิ์สะอาด แต่ตรัสไว้ว่า สัตว์ทั้งหลายจักเศร้าหมองด้วยจิตใจที่เศร้าหมอง และจะบริสุทธิ์เมื่อจิตใจบริสุทธิ์
วิธีที่จะทำจิตใจของเราให้บริสุทธิ์สะอาด ปราศจากกิเลสมลทิน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสบอกทางปฏิบัติไว้ในโอกาสต่างๆหลายสำนวน สำหรับปฏิบัติเพื่อดำเนินไปสู่ความบริสุทธิ์ คือ มรรค ผล นิพพาน มีอยู่ทางเดียว ซึ่งทรงตรัสไว้ในพระสติปัฏฐานสูตรว่า-----ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางเดียว เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อระงับความโศกและความคร่ำครวญ เพื่อดับความทุกข์และและโทมนัส เพื่อบรรลุญายะ คือ(อริยมรรค ) เพื่อเห็นแจ้งพระนิพพาน ทางเดียวนี้คือ สติปัฏฐาน 4 ได้แก่การปฏิบัติสติปัฏฐานด้วยการตามดู กาย เวทนา จิต ธรรม ตามหลักการในการ วิปัสสนากัมมัฏฐาน
หลักสูตรที่ 2 กถาวัตถุ 10
พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึง กถาวัตถุ 10 ณ พระวิหารเวฬุวัน ใกล้นครราชคฤห์ ดังนี้
1.คุณของความปรารถนาน้อย...... 2. คุณของความสันโดษ...... 3. คุณของความสงัดเงียบ ......4. คุณของความไม่คลุกคลี มั่วสุมกัน....... 5. คุณของการปรารถนาความเพียร....... 6. คุณของความสมบูรณ์ด้วยศีล....... 7. คุณของความสมบูรณ์ด้วยสมาธิ....... 8. คุณของความสมบูรณ์ด้วยปัญญา.........9. คุณของความสมบูรณ์ด้วยวิมุติ.............10. คุณของความสมบูรณ์ด้วยวิมุติญาณทัสสนะ หรือ เทียบเท่า กับ วิสุทธิ 7 นั่นเอง.......... (ที่มา รถวินีสูตร โดย ธนิต อยู่โพธิ์ 2520 )
หลักสูตรที่3 ทศบารมี หรือ บารมี 10 ของพระโพธฺสัตว์
These are the ten stages of development of Bodhisattva depending on their merits and virtues: ควรไปนมัสการมหาสถูปบรมพุทโธ่ ที่อินโดเนเซีย ที่นั่นจะเป็นสถาปัตยกรรมที่แสดงถึง ทศบารมีหรือบารมี10 ตำราพระอภิธรรมทางพุทธศาสนาเล่มใหญ่ที่สุดในโลกและจักรวาล สร้างขึ้นราว พุทธศตวรรษที่ 12-13 มีดังนี้
1.Pramudita (joy) - (ผู้มีความยินดีต่อการเอาชนะความยากลำบากทั้งปวง)
2.Vimala (purity) - (ผู้มีอิสระจากเครื่องร้อยรัดและปราศจากราคี)
3.Prabhakari (enlightenment) - (ผู้รู้หรือเห็นแจ้งในความจริง)
4.Arcismati (wisdom) - (ผู้สว่างไสวด้วยปัญญาอันเบิกบาน)
5.Sudurjaya (no difficulty) - (ผู้ซึ่งมีความเพียรอันบุคคลเอาชนะใด้ยาก)
6.Abhimukhi (open way) -(ผู้มุ่งไปสู่ความบริสุทธิ์แห่งพระโพธิสัตว์)
7.Duramgama (proceeding afar) - (ผู้ไม่เหน็ดเหนื่อยในการช่วยเหลือผู้อื่น)
8.Acala (unperturbed) - (ผู้มีจิตใจมั่นคงและไม่หวั่นไหว)
9.Sadhumati (discriminatory wisdom) - (ผู้มีน้ำพระทัยดี)
10.Dharma megha (law cloud) - (ผู้มีสัทธรรมเป็นเพื่อน ไม่ยึดติดสิ่งใด เหมือนเฆมที่อยู่บนท้องฟ้าหรือเปรียบเสมือนเหมือนความว่างในมหาสถูปองค์ใหญ่บริเวณส่วนยอดของมหาพุทธสถาน บุโรบุโดร์ อินโดเนเซีย ทีเปรียบดังตัวแทนจิตนึ่งจิตเดียวที่มั่นคงยั่งยืนของพระอรหันต์ที่หลุดพ้นจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวงในชั้นที10)
From Wikipedia, the free encyclopedia
อ่านต่อตอนที่2