ความคิดมนุษย์มีพลังที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้ (Ideas shape the course of history)
วิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่ครั้งแรกช่วงปี 1930s ที่การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาครัฐได้ช่วยเศรษฐกิจให้หลุดออกจากภาวะถดถอย ซึ่งเจ้าของแนวคิดนี้ ก็คือนักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ชื่อ John Maynard Keynes
การเปลี่ยนแปลงแนวคิด ก็คือ การกลับไปให้ความสำคัญกับกลไกตลาด เป็นเครื่องมือในการจัดสรรทรัพยากรเศรษฐกิจ ซึ่งก็คือการลดบทบาทภาครัฐในระบบเศรษฐกิจ และใช้นโยบายเปิดเสรีปลดเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของกลไกราคา แนวคิดนี้เชื่อว่าการจัดสรรทรัพยากรโดยกลไกตลาด มีประสิทธิภาพกว่า และให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นแนวคิดกระแสหลักที่นำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในระดับสากล ที่ให้ความสำคัญกับการเปิดเสรี การลดการควบคุม และเน้นการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจ แนวคิดนี้มีผลอย่างสำคัญที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจการเงินโลกเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั้นก็คือ เศรษฐกิจโลกปรับเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ที่ไร้พรมแดน ขับเคลื่อนโดยความเป็นเสรีของการเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตและเงินทุนระหว่างประเทศ ที่มีผลให้ภาคการเงินเติบโตมากและกลายเป็นทั้งปัจจัยสนับสนุน และปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงินโลก จากวิกฤติเศรษฐกิจหลายครั้งที่เกิดขึ้น รวมถึงวิกฤติล่าสุดที่ใหญ่และรุนแรง อันนี้เป็นตัวอย่างของสิ่งที่ John Maynard Keynes ได้พูดไว้ว่า ความคิดมนุษย์มีพลังที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้ (Ideas shape the course of history)
วิชาเศรษฐศาสตร์ ยี่สิบปีจากนี้ไป