พลังเศรษฐกิจใหม่ Biogasและbiomethane-CBG จากหญ้าเนเปียร์ปากช่อง1เป็นพลังงานทดแทน 2013
ผลการวิจัยพบว่า หญ้าเลี้ยงช้างพันธุ์เนเปียร์ปากช่อง 1
ที่ปัจจุบันนิยมนำไปใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์นั้น มีผลผลิตต่อไร่สูงสุด โดยมีผลผลิตประมาณ 70 80
ตันสด/ไร่/
ปี ซึ่งมากกว่าหญ้าชนิดอื่นเกือบ 7
เท่า นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอัตราการผลิตก๊าซมีเทนสูงกว่าหญ้าชนิดอื่น โดยมีอัตราการผลิตก๊าซชีวภาพประมาณ 6,860 7,840 ลบ.ม./ไร่/
ปี สามารถผลิตเป็นก๊าซไบโอมีเทนอัด (
CBG)
ได้ประมาณ 3,118 - 3,563
กก./
ปี เหมาะสมต่อการนำมาผลิตเป็นพลังงานทดแทนมากกว่าหญ้าชนิดอื่นๆ
//www.efe.or.th/news-activity-detail.php?task=13&sessid=535
เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย...มีสินค้าOTOPด้านพลังงานทดแทน หรือ พลังงานสีเขียว อยู่ตัวหนึ่งที่ตลาดภายในประเทศต้องการ24ชั่วโมงตลอด365วัน เหมือนร้านสะดวกซื้อ 7-11คือพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงชีวภาพ อาทิเช่น BIOGAS-CBG-BIOFUELS ทีสามารถใช้วัตถุดิบหญ้าพลังงานโตเร็วจากไร่นาเกษตรกร มีต้นทุนlogistics ต่ำ เป็นการแปรรูปสินค้าเกษตรขั้นปฐม เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบจากไร่นาเกษตรกรและของเศษเหลือในชนบทzero waste agriculture and Forestry สินค้าพลังงานทดแทน OTOPนี้ไม่มีวันเน่าเสียและค้างสต๊อคทำให้ขาดทุน กันทั่วไทยเหมือนสินค้าตัวอื่นๆที่รัฐบาลส่งเสริมในขณะนี้ สามารถเกิดได้ทั่วไทยทั้ง 76
จังหวัด ประเทศไทยจะโชติช่วงชัชวาลย์อย่างไม่เคยมีมาก่อน นโยบายพลังงานทดแทน AEDP-25 % ภายใน 10ปี ของรัฐบาลชุดนี้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ตามทฤษฏีเศรษฐศาสตร์มหภาค INVISIBLE HAND X MULTIPIER EFFECT ส่งผลให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน การเพิ่มรายได้ประชาชนทั่วประเทศ มูลค่า 1 ล้านๆบาท เกษตรกรมีทางเลือกในการออกจากเกษตรกรเคมีที่ขาดทุน มาทำการเกษตรอินทรีย์ทีมีรายได้ทุก 2เดือนเหมือนมีเงินเดือนวันละ 300บาทเท่าค่าแรงขั้นต่ำ และสิ่งแวดล้อมจะดีขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน (มูลค่าตลาดพลังงานในประเทศไทยนั้นประมาณ 4 ล้านๆบาท หรือ ร้อยละ 40 ของGDPประเทศไทย เฉพาะยอดขาย ปตท.และบริษัทฯในเครือปี2554มีมูลค่า 2.3 ล้านๆบาท สูงกว่างบประมาณรายได้ของรัฐบาล )
อ่านเพิ่มเติม //www.biothai.net/news/15897