จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ ... จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาให้ ... สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ ... การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
มองโลกและการดำเนินชีวิตอย่างเข้าใจ แก้ปรับไปให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลง


เวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน บางครั้งก็ร้อนหนาว บางคราวก็ฝนตก แดดออก สภาวอากาศเปลี่ยนแปลง อารมณ์คนย่อมเปลี่ยนไป ทุกครั้งที่ข้าพเจ้ามองออกไปท่ามกลางความทุกข์ที่มากมายของผู้คน ไม่มีวันใดที่จะอดแผ่เมตตาให้ทุกชีวิตไม่ได้ เพราะเมื่อเกิดเภทภัยที่ใดย่อมมีการสูญเสีย บางครั้งผู้คนก็กล่าวด่าทอ กล่าวหาว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะใคร โทษใครก็ไม่มีประโยชน์เมื่อถึงคราวที่เราจะต้องปรับตัวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง การคิดค้นเครื่องมือที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ถูกประดิษฐ์ขึ้นแล้วมากมาย ให้ใช้อย่างเกิดประโยชน์ แม้การทำนายสภาพอากาศหรือภัยธรรมชาติบางอย่างจะเหนือเกินกว่ากำลังของมนุษย์จะรู้ได้ แต่พื้นฐานง่ายๆที่เราจะต้องทำความเข้าใจคือ สภาพร่างกายที่จะต้องทนกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อรับกับสิ่งต่างๆ อีกทั้งความรู้ที่หาอ่านได้ง่ายๆในโลกออนไลน์ที่เป็นความเข้าใจในการเตรียมพร้อมก็มีมากมี


แต่ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ สภาพจิตใจ ความโหดร้ายรุนแรงไม่ว่าจะเกิดจากสิ่งใด เราจะต้องปรับให้ได้ทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงและเข้มแข็ง ซึ่งหลักง่ายๆที่ข้าพเจ้าอยากให้เข้าใจโลกใบใหม่ของเราที่กำลังมีการปรับตัว แม้ข้าพเจ้าจะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์หรือจบปริญญาเอกทางด้านใด ข้าพเจ้าก็พยายามอยากจะอธิบายด้วยตัวภายในที่อาจจะกล่าวได้ว่า ข้าพเจ้าก็เริ่มปฏิบัติมาเพื่อรองรับสภาพการเปลี่ยนแปลงร่วม 5 ปีที่พอจะกล่าวออกมา เชื่อหรือไม่ไม่มีใครบังคับแต่อยากให้จับประเด็นเป็นเรื่องของธรรมชาติตามสภาพของโลกที่จะเปลี่ยนไป โดยสรุป ดังนี้


เรื่องของสภาพร่างกาย ภายนอก

- ให้พยายามรับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่ใช่การเขียนเพราะเอาความเชื่อมาเป็นตัวชี้ทางที่ข้าพเจ้าบอกกล่าวให้มองอย่างเข้าใจในด้านสุขภาพที่การกินอาหารเป็นหลักสำคัญในการป้องกันร่างกายภายนอกให้รับกับสภาพที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งข้อนี้มีงานวิจัยถึงข้อดีในการกินผักออกมามากแล้ว โดยหลักการในการรับประทานที่ข้าพเจ้าจะบอกกล่าวและปฏิบัติมาแบบง่ายๆมีดังนี้


* ลดละเลิกเนื้อสัตว์

การปรับสภาวะในร่างกาย ในเรื่องนี้ค่อนข้างจะยากในการทำใจของบางคนที่ต้องเลิกกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ บางคนอาจจะอยากเลิกทานแต่ยากในการตัดกิเลสเรื่องนี้ ข้าพเจ้าขอให้กำลังใจทุกท่านที่กำลังอยากจะเลิก แค่คิดก็มีจิตอันเป็นกุศลแล้วในระดับหนึ่ง เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนในหลายประเด็นแต่ไม่ยากสำหรับผู้รักสุขภาพ บางคนอาจจะกลัวว่าจะขาดโปรตีน งานวิจัยออกมาเยอะมากแล้วเรื่องโปรตีนที่มีอยู่ตามพืชหลายชนิดและถั่วที่มีมากมาย ย่อมง่ายในการหารับประทาน


ที่กล่าวในเรื่องนี้มีเจตนาเพื่อให้เกิดผลที่ดี ไม่ได้ให้มองเป็นเรื่องงมงาย แต่ให้มองเข้าลึกในเรื่องการปรับสภาพร่างกายให้สมดุลอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสภาวเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก


* กินอย่างประหยัดและสมดุล

อธิบายข้อนี้เพิ่มคือกินแบบประหยัดคืออย่าทิ้งขว้างอาหารเกินไป ถ้าเหลือก็ให้เอาให้สัตว์อื่นทาน เช่น หมา หมู แมว เป็นต้น การประหยัดไม่ใช่ว่าจะบอกกันได้ง่ายๆ แต่อยากให้ทำเป็นนิสัยเพราะต่อไปเราอาจจะข้าวยากอาหารแพง คะ


กินอย่างสมดุลคือ ไม่หวาน มัน เค็ม เผ็ด เกินไป ร่างกายของข้าพเจ้าเป็นตัวทดลองมาแล้วนาน 5 ปี ที่พยายามเข้าใจระบบร่างกายในเรื่องของอาหาร ร้อน เย็น หวาน มัน ซึ่งโอกาสหน้าจะเขียนบทความเรื่องนี้ให้ละเอียดขึ้น แต่ทุกอย่างที่เขียนออกมา นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเขาวิจัยออกมา เรื่องภัยต่างๆของอาหารที่มีความ มัน ความหวาน ความเค็ม ซึ่งสามารถศึกษาเองเพิ่มเติมได้


เรื่องของสภาพภายใน

ที่ข้าพเจ้าพยายามเขียนบทความธรรมะมาทั้งหมด ที่ให้มองเห็นถึงการบำเพ็ญภายใน ตามสภาพ ความเป็นอยู่อย่างเท่าเทียมที่ทำได้ทุกระดับ ทุกอาชีพ ทุกบ้าน เป็นการเชื่อมโยงประสานให้เห็นว่าทุกคนสามารถฝึกฝนได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นจะต้องออกไปไหน ภายในของเราก็สว่างและงดงามได้ท่ามกลางความทุกข์โศกมากมาย ทุกบทความตั้งใจแสดงให้เห็นถึงการบำเพ็ญตนด้วยตัวเราเอง ไม่ได้เอาเรื่องของความงมงายมาเกี่ยวข้อง และไม่ต้องตามหาว่าข้าพเจ้าอยู่ที่ใดนั่งบำเพ็ญที่ไหน สำคัญคือให้ยึดบ้านของตนเป็นที่บำเพ็ญ เพราะต่อไปการเดินทางไปมาหาสู่กันอาจจะลำบาก ข้าพเจ้าจะพยายามแสดงให้เห็นถึงการมองตัวตน แสดงออกผ่านทางรูปธรรมเพื่อชัดเจนในการฝึกฝนตนเอง ท่ามกลางความทุกข์ของตนเอง


จิตใจ คือสภาพที่กล่าวได้ว่าอ่อนไหวที่สุดในระบบร่างกาย เมื่อจิตใจไม่สู้ร่างกายเราก็ไม่สู้ ถ้าอยู่ๆ เราเกิดถูกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างแรงเราทำใจไม่ได้อาจทำให้กลายเป็นโรคประสาทได้ อันนี้ข้าพเจ้าก็ยังให้กำลังใจต่อไป แม้ท่ามกลางความทุกข์ที่จะพบเจอกับการเดินทางที่โหดร้ายเพียงใด จิตใจจะต้องแข็งแกร่งตามสภาพที่พบเจอ อันหลักง่ายๆ ที่ข้าพเจ้ามีอยู่เสมอคือ


- ความรักความอบอุ่นเจือจุนพลังในตัวเรา

- เมตตาธรรมคือพลังอันยิ่งใหญ่ในตัวเอง

- คุณธรรมความดีสร้างได้จากภายในตน

- ความอดทนคือการก้าวพ้นความทุกข์ทั้งปวง

- ความกรุณาเผื่อแผ่ออกมาจากภายในด้วยหัวใจแห่งมิตรไมตรี

- การประคองจิตของเราให้อยู่ในสภาวะสมดุลเป็นเรื่องที่จะต้องมีภายในเสมอ



ข้าพเจ้าเคยอยู่ใกล้ชิดบุคคลที่เป็นโรคประสาท เคยดูแลเขา เคยพูดคุยด้วย จึงพอจะเข้าใจว่า เมื่อเกิดการบีบคั้น เกิดการเร่งรัดบีบรัดจากภายนอกมากไปจะไม่ดีต่อสภาพภายในของเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เงิน เรียน การดำเนินชีวิตที่มีความแตกต่างกันย่อมทำให้สภาพภายในของเราแตกต่างกัน จึงอยากให้เราเข้าใจผู้อื่นด้วยเสมอ เข้าใจว่าการปลูกฝังเลี้ยงดู นิสัยและบุคลิกของแต่ละบุคคลย่อมมีแตกต่างกัน ไม่ใช่มองในด้านลบเพียงอย่างเดียว เพราะจิตที่มีเมตตาและกรุณาจะคอยช่วยเหลือกันและกันได้อย่างเข้าใจจะนำพาสู่การแก้ไขได้ในหลายทาง


ซึ่งรายละเอียดอาจจะมีตามมาตามระยะเวลาในโอกาสต่อไปคะ แต่ที่ง่ายๆอธิบายสั้นๆคือ ธรรมคือธรรมชาติที่ออกมาจากภายในของเรา คุณธรรมความดีต่างๆอยู่ที่เราจะสร้างได้มากน้อยและมีคุณค่าเทียบราคาไม่ได้ อยู่ที่ภายในของเราจะซึมซาบและซึมซับสู่การปฏิบัติมากน้อยเท่าไรก็อยู่ที่เราเป็นสำคัญ การมองโลกและการดำเนินชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติอย่างเข้าใจก็เป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่งทีจะคอยปรับสภาวะภายในของเราให้ไม่มากเกินไปไร้ความพอดี เพราะความสมดุลที่ภายในคือการมองทุกอย่างอย่างเข้าใจแม้แต่เรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลกและการดำเนินชีวิตของเรา ให้มองออกไปอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมความเข้าใจที่ถูกต้อง ระแวดระวังภัยในการปรับตัวเพื่ออยู่รอดในโลกใบนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


กาลเวลาผ่านมาหลายหมื่นปี

หรือจะมีใครเข้าใจฉัน

ทุกข์หรือสุขปลุกที่เราเป็นสำคัญ

เธอและฉันนั่นแหละแน่แท้ที่ตน

เมื่อคราใดโลกเปลี่ยนเวียนบรรจบ

วาระครบให้หมุนพลันวันทุกหน

บ้างหนาวร้อนหิมะตกผละมีฝน

ให้ทุกคนเตรียมพร้อมน้อมนำกัน

ร่างกายนั้นต้องสู้อยู่ทุกเมื่อ

อีกจุนเจือสภาวจิตคิดมิเหหัน

ต้องแน่นิ่งในสภาพเปลี่ยนเวียนทุกวัน

ด้วยจิตนั้นคือหนึ่งมิตรคิดดีงาม

เมื่อบรรจบความเปลี่ยนเวียนมาครบ

จะมีจบครบดำเนินเหินหนีหนาม

อยู่สภาวแห่งความดีที่งดงาม

ตามท่ามกลางจิตสงบไม่พบภัย

แม้จะยากในการเปลี่ยนเวียนธรรมชาติ

มิบังอาจโทษใครใจมิไหล

ให้แน่นิ่งทั้งร่างกายและจิตใจ

เพื่อผ่านภัยไปพบสุขสุดความงาม

เมื่อกล่าวถามถึงความป่วยรวยหรือไม่

ให้เข้าใจในพอดีทุกที่ถาม

ให้สงบพบเจอสุขทุกที่ยาม

ตามท่ามกลางความสงบไม่พบภัย

ขอดิถีวาระผละความชั่ว

ไม่เมามัวเข้าตาพาใจหาย

ให้ทุกข์โศกโรคภัยมลายหาย

เปลี่ยนให้กลายเป็นสุขาวดีทุกที่เทอญ




บทความและบทกลอน โดย เฉินกุ้ยเซียง



ที่มา : //www.chomrom.com/topic.php?q_id=22549





Create Date : 25 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2554 9:50:54 น. 7 comments
Counter : 632 Pageviews.

 
วิชฺชา อุปฺปตตํ เสฎฺฐา
บรรดาสิ่งทีงอกงามขึ้นมา วิชชาประเสริฐสุด

สุขกับความงอกงามแห่งวิชชา ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:30:14 น.  

 
ขอเอาไปแชร์ที่กลุ่มหน่อยนะคะพี่ปุ๊ก อิอิ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:25:32 น.  

 
ขอบคุณข้อคิดดี ๆ นะคะพี่ปุ๊ก


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:37:05 น.  

 
สวัสดีตอนสาย ๆ ค่ะพี่ปุ๊ก


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 27 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:59:03 น.  

 
ขอบคุณ คุณปุ๊กก้า ที่เข้าไปขำ? ที่บล๊อกนะครับ^()^


โดย: cenyou วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:19:58 น.  

 
อวิชฺชา นิปตตํ วรา
บรรดาสิ่งที่โรยราร่วงหาย อวิชชาหมดไปได้เป็นดีที่สุด

มีความสุขกับวิชชาที่พบได้ด้วยตนเอง ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 30 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:30:56 น.  

 
แวะมาทักทายตอนเที่ยงค่ะพี่ปุ๊ก


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 2 ธันวาคม 2554 เวลา:12:02:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อระนาด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพียรฝึกตนใฝ่รู้ หลักธรรม

จิตเพ่งคิดจดจำ บ่มไว้

หมายเพียรมุ่งตัดกรรม วัฏฏะ

หวังสละจิตสุดท้าย ดิ่งเข้านิพพาน..

Friends' blogs
[Add พ่อระนาด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.