ธรรมะบนรถเมล์
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ จขบ.ได้ฟังจากวิทยุขณะที่นั่งรถเมล์ กำลังจะกลับบ้าน ฟังแล้วได้ข้อคิดและเห็นว่าพอจะเป็นประโยชน์อยู่บ้าง และก็ประทับใจว่า ในชีวิตประจำวันเราก็หาธรรมะได้ใกล้ ๆ ตัวเรานี่เอง --------------------------มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ขณะกำลังนอนหลับก็ฝันไปว่ามีนางฟ้าลงมาหาชายหนุ่มแล้วก็พูดว่า..เราจะพาท่านไปเที่ยว นรก และ สวรรค์ ท่านจะไปกับเรามั้ยชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็รีบตอบรับนางฟ้าและตามไปด้วยความดีใจ และแล้วนางฟ้าก็พาชายหนุ่มคนนั้นไปเที่ยวที่นรกก่อน เมื่อไปถึงปรากฏว่าเป็นห้อง ๆ หนึ่ง นางฟ้าพาชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องนั้นในห้องนั้นจะมีโต๊ะตัวหนึ่งตั้งอยู่มีลักษณะเป็นโต๊ะยาว ๆ คล้ายกับโต๊ะทานข้าวตามโรงเรียนแล้วก็มีคนหลายคนนั่งอยู่ที่โต๊ะนั้น แต่ละคนมีลักษณะผอมโซ ท่าทางอิดโรยคล้ายกับคนที่ไม่มีเรี่ยวแรง ทั้ง ๆ ที่ตรงหน้าของแต่ละคนนั้นมีอาหารมากมายล้วนแต่เป็นอาหารดี ๆ ทั้งนั้นชายหนุ่มหันไปมองหน้านางฟ้าด้วยความแปลกใจ นางฟ้าได้บอกกับชายหนุ่มว่า ..ท่านคงสงสัยล่ะสิ..ทำไมแต่ละคนถึงได้ผอมโซขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่มีอาหารดี ๆ มากมายวางอยู่ตรงหน้า ที่นี่น่ะไม่ห้ามหรอกนะ อาหารที่ท่านเห็น ทุกคนมีสิทธิกินได้ทั้งนั้น แต่..มีกฎอยู่ข้อหนึ่งว่า.. ในการกินอาหารนั้นทุกคนจะต้องใช้ช้อนที่ยาว 1 เมตร ตักอาหาร ดังนั้น เวลาที่แต่ละคนตักอาหารจึงไม่ถนัดนัก ทำให้แต่ละมื้อกินได้น้อย และนี่จึงเป็นสาเหตุให้ทุกคนมีร่างกายที่ผอมโซแบบที่ท่านเห็นไงล่ะ หลังจากนั้นนางฟ้าก็พาชายหนุ่มไปที่อีกห้องหนึ่ง มีลักษณะเหมือนกับห้องเมื่อครู่ คือมีโต๊ะยาวตั้งอยู่และก็มีคนหลายคนนั่งอยู่เช่นกัน แต่ว่า..ต่างกันตรงที่ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ท่าทางของแต่ละคนมีความสุขมาก ไม่มีคนไหนผอมโซ และอิดโรย เหมือนคนในห้องที่ผ่านมาเลย ที่สำคัญตรงหน้าของแต่ละคนในห้องนี้มีอาหารที่มากมายเหมือนกับห้องที่ผ่านมาทุกอย่างและนางฟ้าได้บอกกับชายหนุ่มว่าห้องนี้ คือ สวรรค์ ซึ่งมีกฎเดียวกันกับห้องที่ผ่านมา คือ ในการกินอาหาร จะต้องใช้ช้อนที่ยาว 1 เมตร ในการตักอาหารเช่นเดียวกัน ท่านคงแปลกใจสินะ ..ทำไมคนในห้องนี้จึงดูมีความสุข หน้าตายิ้มแย้ม และดูสุขภาพสมบูรณ์ ซึ่งต่างกับอีกห้องหนึ่ง ก็เพราะว่าทุกคนในห้องนี้เวลากินจะใช้ช้อนยาว 1 เมตร ตักอาหารป้อนให้กับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่มีใครตักเข้าปากตัวเองเลยซึ่งเป็นการแสดงออกว่าไม่มีใครเห็นแก่ตัวเอง ทุกคนมีการแบ่งปัน มีความเป็นห่วง เป็นใย ผู้อื่น แตกต่างจากห้องอีกห้องหนึ่ง เพราะห้องนั้น คือ นรก ทุกคนที่อยู่ห้องนั้นต่างเห็นแก่ตัว เกรงว่าตัวเองจะไม่ได้กินอาหารดี ๆ ที่อยู่ตรงหน้า จึงต่างพากันตักอาหารเข้าปากตัวเองกันทุกคนแต่ด้วยช้อนที่ยาว 1 เมตร ทำให้ไม่สามารถตักอาหารได้ตามที่ต้องการ ทำให้แต่ละคนผอมโซ และมีความทุกข์ ท่านเห็นหรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว นรก หรือ สวรรค์ นั้นอยู่ที่การกระทำของเราเองหากเรามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แก่ผู้คนรอบข้าง ใจเราก็จะเป็นสุข และคนอื่น ๆ รอบตัวเราก็จะดีกับเรา เปรียบได้กับการขึ้นสวรรค์ แต่หากเราเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่มีการแบ่งปัน เราก็จะพบแต่คนที่เห็นแก่ตัวเช่นกัน เปรียบได้กับอยู่ในนรกก็ไม่ปาน ดังนั้น นรก หรือ สวรรค์ นั้นอยู่ที่การกระทำของเรานั่นเอง หากเป็นท่านจะเลือกนรกหรือสวรรค์ล่ะ ?
เพียรฝึกตนใฝ่รู้ หลักธรรม
จิตเพ่งคิดจดจำ บ่มไว้
หมายเพียรมุ่งตัดกรรม วัฏฏะ
หวังสละจิตสุดท้าย ดิ่งเข้านิพพาน..
สวัสดีครับ พ่อระนาด....
สยามประเทศ ต้องเรียกว่าอะไรดี... โลกันตร์ จะใช่ีไหม ...
แต่ละคน มิเพียงพยายามใช้ช้อนตักเข้าปากตัวเอง ยังรวบเอาช้อนของคนอื่นมาไว้ในครอบครองอีกด้วย
เครียดแต่เช้าเลยวุ้ย!.... ช่างมันเหอะ
คุ้น ๆ หุ้น ประเทศชาติ มิใช่ของเรา
ช้างตายทั้งตัว เอาเงินสองพันมาปิดปาก ก้เงียบแล้วหละ
มีความสุข นะครับ