กรงผีเสื้อ สีเจวี้ยน
เพราะคดีนองเลือดที่พรากทุกคนไปจากชีวิตฉิวเตี๋ยแม้ไม่อยากเดินเข้าสู่ชีวิตของดาวมรณะที่ไร้ความปรานีอย่างเยี่ยจิงหงหากสตรีที่บอบบางเช่นเธอจะเอาชีวิตรอดได้เช่นไรและเดิมพันในการอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเขาก็มากล้น หากแต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความเย็นชาไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใดบนโลกนี้ไม่เชื่อใจใครแม้แต่ตัวของเยี่ยจิงหงเองก็ทำให้ฉิวเตี๋ยผ่านคืนวันอันไร้อนาคตนี้ได้
เมื่อเขาคือเยี่ยจิงหงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องเป็นคนดีไม่ว่าเขาปรารถนาสิ่งใดหรือแม้แต่ใครก็ต้องได้มา หรือการจะมองสตรีเคียงกายต้องเสียสละชีวิตก็ไม่ใช่สิ่งที่เยี่ยจิงหงต้องไยดีแล้วสำหรับฉิวเตี๋ยเล่าสถานะของเธอคล้ายกับไร้ตัวตนแต่กลับมีความหมายแท้จริงแล้วเธอเป็นเช่นไร สิ่งนี้มีเพียงเยี่ยจิงหงเท่านั้นจะสามารถให้คำตอบได้
หรือว่าเยี่ยจิงหงชิงชังเธอจนคิดอยากจะกำจัดเมื่อมอบของล้ำค่าที่ทุกคนต่างก็ฆ่าฟันเพื่อได้ครอบครองมันใครเลยจะรู้ว่าสิ่งนั้นกลับมาอยู่กับอนุภรรยาอันดับหนึ่งเช่นเธอไปได้ยิ่งประกาศิตจากปากเยี่ยจิงหงก็ยิ่งทำให้ฉิวเตี๋ยได้ใคร่ครวญว่านี้คงจะเป็นวาระสุดท้ายในชีวิตเพราะสำหรับเขาแล้ว สตรีที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ก็เปรียบเสมือนสิ่งของที่ไร้ค่า
ความในใจของเยี่ยจิงหงก็มีเพียงเยี่ยจิงหงที่เข้าใจทั้งที่รู้ดีว่าบางทีการที่ฉิวเตี๋ยออกไปจากข้างกายเขาและได้อยู่ในสถานที่อันสุขสงบอาจเป็นหนทางให้เธอเดินจากดาวมฤตยูเช่นเขาแต่สำหรับเยี่ยจิงหงเขาทระนงตัวและมั่นใจว่าสายสัมพันธ์อันบางเบาและเงียบงันระหว่างกันมานานแรมปีจะแน่นเหนียวกว่าสิ่งใด
เมื่อมีรักทุกคนล้วนย่อมเป็นคนโง่งมเช่นนั้นหรือเมื่อมีหนทางกลับไม่ไขว่คว้ามันไว้ซ้ำร้ายยังหันกลับไปยืนอยู่เคียงข้างบุรุษที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายเยี่ยจิงหงผู้พร่ำบอกเธอว่าในชีวิตนี้ทุกคนล้วนแต่ไว้ใจไม่ได้ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองหากฉิวเตี๋ยกลับโง่เขลาที่จะเชื่อมั่นในชายผู้นี้และรักของเขา
กรงขังที่เขาสร้างไว้เพื่อฉิวเตี๋ยมันอาจเงียบงันและเหมือนไม่มีความรักเจือปนอยู่หากแต่คงมีเพียงแค่ฉิวเตี๋ยที่มองลึกลงไปว่าทุกอย่างที่เขาบรรจงมอบให้เธอคือความรักอย่างสุดหัวใจเธออาจเคยเป็นดักแด้ตัวน้อยที่ห่อหุ้มตัวเองให้ปลอดภัยแต่นับจากตอนนี้เธอคือผีเสื้อที่งดงามและจะโบยบินอยู่ในหัวใจของเขาแต่เพียงผู้เดียว
หลังจากบ่นไปไม่น้อยกับสาวใช้จอมพิลึกผลงานเล่มแรกของชุดนี้ไปว่า นิยายที่ดูไม่ใช่นิยายรักเลยสักนิด เล่มนี้จะมาในทิศทางเดียวกันหรือเปล่า ซึ่งอ่านจบแล้ว ต้องบอกว่าให้อารมณ์ความเป็นนิยายรักมากกว่าเล่มแรกนะคะ แถมยังมีตัวละครจากสาวใช้จอมพิลึกมาให้เราเริ่มมองเห็นความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นระหว่างกัน แต่ก่อนจะไปพูดถึงคู่นั้นเรามาพูดถึงคู่หลักกันก่อน
เรื่องทั้งหมดเกิดจากความน่าสะพรึงที่นางเอกต้องกลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว หากลูกสาวขุนนางจะทำเช่นไรได้ นอกจากอ้อนวอนให้ผู้ชายที่เหมือนจะช่วยชีวิตเธอช่วยอีกครั้ง อย่าทอดทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง ไม่ว่าสถานะที่เขาจะมอบให้คืออะไรเธอก็พร้อมก้มหน้ารับมัน และแน่นอนว่าเธอก็คือสตรีข้างกายเขาที่แม้จะไม่ใช่ภรรยาเอก แต่คือผู้หญิงที่ทุกคนในชีวิตของเขาต้องให้การเคารพ มีอภิสิทธิ์เหนือทุกคน แต่ตำแหน่งในหัวใจของพระเอกก็คงไม่ต่างกัน เย็นชา ห่างเหินและเงียบงัน อย่างน้อยเธอก็คือคนที่เขามักจะมาหาและต้องการเพียงการพักผ่อนที่เงียบสงัด โลกของทั้งสองจึงเหมือนมีอะไรบางๆ กั้นไว้แต่ไม่ถึงกับห่างเหิน แต่เธอก็ไม่เคยหยั่งรู้น้ำใจของอีกฝ่ายหนึ่งเลยว่าคิดเช่นไร โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุด ของวิเศษที่ฝากไว้กับเธอ หรือเขาอยากให้เธอถูกตามล่าก็ไม่รู้ โดยไม่รู้เลยว่ามันมีเหตุผลอะไรที่เขาต้องทำแบบนั้น อาจจะเป็นการให้เธอได้เลือกมีเส้นทางชีวิตที่สงบราบรื่นหรือการที่เธอจะยอมรับใจตัวเองว่าไม่เคยอยากไปจากชีวิตพระเอกเลย
ถ้าเทียบกับเล่มก่อนอย่างสาวใช้จอมพิลึก มันดีกว่าสำหรับอารมณ์ในแง่ความเป็นนิยายรัก มีมุมในการนำเสนอว่ามันเป็นรักของหนุ่มสาวมากกว่า แต่ความอ่อนหวานนี้พูดได้เลยว่าไม่ค่อยเลยนะคะ พระเอกเป็นพวกไม่เปิดเผยใจกันแบบโต้งๆ ใช้วิธีอื่นทำให้ทุกคนรู้ว่านางเอกคือคนพิเศษ ไม่ว่าเขาจะมีผู้หญิงสลับสับเปลี่ยนมาในชีวิตกี่คนแต่คนที่ยุ่งไม่ได้คือนางเอก จึงเป็นคนที่ผู้หญิงข้างกายพระเอกทุกคนต้องให้ความเคารพ ห้ามระราน ห้ามไปวางอำนาจใส่ แล้วแบบนี้พระเอกมันรักนางเอกยังไง มันจะมีเหตุผลในตอนท้ายว่าทุกสิ่งล้วนแต่ทำเพื่อดูแลนางเอกแบบที่เธอไม่รู้ตัว พระเอกไม่ใช่คนปากหวานเลยแม้แต่น้อย เย็นชาถึงขีดสุดเลยก็ว่าได้นะคะ แต่ก็พอไหวสำหรับการที่เขาดูแลนางเอกอย่างดีมาตลอดชีวิต อดทนรอให้ความรักมันถึงจุดอิ่มตัวที่สุดเพื่อให้มันได้รสชาติที่หวานล้ำที่สุดอะไรแบบนั้น แต่คนอ่านที่ชอบความแจ้งกระจ่างใจอาจจะขัดใจกับพระเอกแนวนี้นะคะ ถ้าพระเอกเป็นแบบนั้นก็ควรคู่กับนางเอกก็ว่าได้ เธอเป็นคนนิ่ง สงบสยบความเคลี่อนไหวทุกประการ จับตามองทุกคน ไร้ความเชื่อใจทุกคน เพราะเหตุร้ายในอดีตและยิ่งพระเอกบอกไว้ด้วยว่าต้องคิดเช่นนั้นเพื่อให้มีชีวิตรอด นางเอกเลยมีชีวิตแบบระวังตัวตลอดเวลา จึงแทบไม่เคยเจอเวอร์ชันความหวานระหว่างกันได้เลย ออกจะหวาดระแวงในบางทีด้วยซ้ำไป
และตอนที่อ่านเรื่องนี้แว้บแรกเปิดผ่านจนต้องย้อนกลับไปดูใหม่กับคำว่า เธอถอดรองเท้าปักที่ห่อหุ้มเท้าดอกบัวของเธอ ก็แอบผงะเล็กน้อย แต่มาคิดได้ว่านางเอกเป็นลูกสาวขุนนางมาก่อน การที่เธอจะมีเท้าดอกบัวก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่สตรีในยุคราชวงศ์ชิงที่ไม่นิยมธรรมเนียมนี้ (แต่ก็ยังแอบทำกันอย่างจนเข้าสู่ยุคปฏิวัติวัฒนธรรม) เราก็นึกถึงตัวนางเอกเลยว่าจะมีเท้าแบบไหน ในสายตาคนยุคใหม่เช่นเรามันไม่สวยเลย น่ากลัวมากๆ ยิ่งถอดผ้าพันเท้าออก มันเหมือนขาที่พิการมากกว่า แต่ความงามตามสมัยนิยมต่างกันไปในยุคสมัย นางเอกคงเป็นคุณหนูที่สุด เพราะการมีเท้าแบบนั้นไปไหนมาไหนลำบากลำบนอย่างมาก จากประเด็นนิยายกลายเป็นประเด็นทางประวัติศาสตร์เฉย แต่มันน่าสนใจตรงที่น่าจะไม่เคยมีนางเอกคนไหนในมากกว่ารักที่เป็นสตรีที่มีเท้าดอกบัว เคยเจอแต่ตัวละครอื่น อย่างพวกลูกคุณหนูอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่นางเอก
อย่างที่บอกว่ามันไม่หวานเลยนะคะ ติดจะอึดอัดเสียด้วยซ้ำ แค่ประเด็นที่ว่าพระเอกคิดยังไงกับนางเอกรักหรือแค่สงสารก็มากพอแล้ว ดีที่เป็นนิยายรักก็เลยพอคิดได้ว่ามันก็ต้องมีรักมาบ้างละ ประเด็นเมียพระเอกอีกสี่คน รวมนางเอกเป็นห้าคน ก็ให้มาคิดว่าตกลงพระเอกมันมีเมียห้าคนจริงๆหรือ หรือมันมีเหตุผลอื่นอีก ซึ่งอ่านไปจะมีหนึ่งคนที่พอเข้าใจได้ว่าไม่น่าจะเป็นเมียจริงๆของพระเอก ส่วนอีกสามคนก็ดูไม่แน่ใจนัก มันก็เลยชวนให้ตะขวิดตะขวงใจเล็กๆ กับพระเอกอีก ยังดีที่เขาวางตำแหน่งนางเอกไว้เหนือกว่าทุกคนแบบไม่ต้องมีคำพูด ไม่งั้นเราคงไม่ค่อยชอบพระเอกเรื่องนี้มากขึ้น
เนื้อเรื่องมันอืดและเนือยมาก ฟีน่าอ่านต่อจากกลีบบัวกลางใจแล้ว อืดกับอืดมากเจอกัน แทบจะหลับเอาเลยทีเดียว เนื้อเรื่องมันจะซ่อนเร้นวาระรักหรืออะไรก็พูดไม่ถูกแต่รู้แค่ว่าสำหรับคนที่ต้องการนิยายรักที่ทำให้โลกนี้เป็นสีชมพูไม่ใช่อย่างรุนแรงเลยค่ะ เป็นรักลึกๆ ที่เก็บไว้ภายใต้หน้าตาที่เฉยชาต่อคนทั้งโลก โหดเหี้ยมกับคนทั้งแผ่นดิน พระเอกกับนางเอกมีเลเวลความสงบนิ่งพอกัน อ่านไปบางช่วงก็ขอโดดข้ามไปเลย คือจะเฉื่อยไปไหนกันไม่รู้
และความที่เรื่องนี้เป็นเล่มต่อจากสาวใช้จอมพิลึกเรื่องมันก็เลยมีบทบาทของพระเอกนางเอกคู่นั้น ที่อ่านไปก็ยังไม่รู้สึกอยู่ดีว่ามันเป็นความรักตรงไหน เหมือนพี่ชายพาน้องสาวจอมแก่นออกเดินทางในยุทธภพก็เท่านั้น แต่กลายเป็นว่าเรื่องของพ่อแม่ของตัวผู้หญิงน่าสนใจกว่าตั้งเยอะ แย่งซีนมาตั้งแต่เล่มของตัวเองแล้ว เล่มนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นต่อไป
ดังนั้นเล่มนี้จึงยังไม่โดนเหมือนกับสาวใช้จอมพิลึกนั่นเอง แต่ดีมาหน่อยตรงที่เป็นนิยายรักที่พอจบเรื่องก็รู้สึกว่าพระเอกรักนางเอกมากนะ เพียงแต่เป็นไม่ค่อยพูดและให้นางเอกตัดสินใจเองว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนางเอกจะเห็นไหม เชื่อใจเขาหรือเปล่า และที่สุดแล้วเลือกเขาที่อาจจะไม่ได้มอบชีวิตปกติสุขให้เธอหรือเธอจะไปจากชีวิตเขา อ่านเอาความเพลินๆ ก็ได้อยู่นะคะ เพียงแต่ไม่ถึงกับต้องอ่านเพราะมันน่ากรี๊ดที่สุด ฟีน่าอ่านก็เพราะว่าตัวเองอ่านมากกว่ารักทุกเรื่องก็เท่านั้นเองค่ะ ยังขยาดงานแนวอืดๆ แบบนี้ของสีเจวี้ยนมากๆ