หากล่วงรู้ชะตากรรมในภายหน้า มิแน่อวี่จิ่นอาจจะมิยินยอมละทิ้งชีวิตอิสระเสรีดั่งหมาป่า กลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ดั่งเช่นที่บิดาบุญธรรมต้องการ แต่ชะตาที่ไม่อาจหลีกพ้นและเธอมิใช่หมาป่าแต่มนุษย์ ความเยาว์วัยของโลกกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของคนที่อวี่จิ่นเคยเคารพบูชา เขาพรากบิดาและชีวิตอันแสนสุขของเธอไปจนหมดสิ้น หลงเหลือไว้เพียงหนทางเดียวคือหนี และมีชีวิตรอดอย่างมีความสุขตามปณิธานของบิดา แต่บนโลกนี้เธอจะไปอยู่ที่ไหนได้อีก เผ่าซยงหนูที่เคยเป็นเหมือนญาติมิตรกลับพรากทุกอย่างไป คงเหลือไว้แต่ดินแดนฉางอันที่ไม่คุ้นเคย หากเป็นที่เกิดของบิดา และที่นั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในชีวิตของอวี่จิ่น
เมื่อสวรรค์คือผู้บันดาลทุกอย่างให้เกิดขึ้นดั่งใจปรารถนา ชายสองคนที่เดินเข้ามาในชีวิตของเธอ เหมือนกับกลั่นแกล้งให้อวี่จิ่นหาทางออกกับปัญหานี้ไม่ได้ เมิ่งซีม่อหรือท่านเก้า ชายหนุ่มผู้สุขุมหากเบื้องหลังของเขากลับเต็มไปด้วยปริศนา ชายผู้กุมหัวใจของอวี่จิ่นมาเนิ่นนาน หากเพราะบางอย่างทำให้เมิ่งซีม่อกลับเย็นชาไร้น้ำใจรักต่ออวี่จิ่น รักที่เธอเฝ้าเพียรพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เคียงคู่เขา แม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก อวี่จิ่นก็ยอม แต่ทุกอย่างที่เธอทำไป เมิ่งซีม่อจะมีวันเข้าใจและเห็นใจในรักของเธอบ้างหรือเปล่า สุดที่จะหยั่งรู้
อีกหนึ่งคือฮั่วชวี่ปิ้งชายผู้มุทะลุ ไม่เคยรักษาน้ำใจใคร หากมีเพียงอวี่จิ่นเท่านั้นที่เขามิเคยละทิ้งความรักที่มีต่ออวี่จิ่น แม้จะเจ็บปวดที่รู้อยู่เต็มอกว่าในหัวใจของอวี่จิ่นมีเพียงเมิ่งซีม่อ หากเขามิเคยละทิ้งความรักในครั้งนี้ รอคอยเพียงวันที่โอกาสจะมาถึง เพียงเพื่อปณิธานเดียวคือทำให้อวี่จิ่นมีความสุขที่สุด แล้วความหวังของเขาจะมีวันสมหวังเมื่อใด
อวี่จิ่นไม่รู้จะเลือกเช่น หนึ่งคนที่รัก กลับรักเธอไม่ได้ หากคนที่รักเธอ กลับเป็นคนที่ไม่รู้ว่าจะรักได้เมื่อใด ทว่าเมื่อสวรรค์ลิขิตให้ชายคนหนึ่งคือคู่แท้ที่จะเคียงข้างตราบจนวันตาย ทุกอย่างมิได้งดงาม สวยหรู อำนาจอันหอมหวานแต่เคลือบพิษร้ายของราชสำนัก เป็นหนามแหลมที่คอยทิ่มแทงอวี่จิ่นเสมอมา เพียงเพราะสิ่งที่เธอทุ่มเทให้คนที่รัก มันเริ่มย้อนกลับมากลืนกินความสุขที่มีเพียงเล็กน้อย จนแทบจะเหือดแห้งลงไป แต่เพราะมือคู่นั้นที่คอยกุมมือเธอและไม่เคยทอดทิ้งกัน เป็นเหมือนหลักชัยให้อวี่จิ่นสู้ทนต่ออาญาสวรรค์
วังหลวงและราชสำนัก ก็เหมือนกรงทอง สวยงาม หรูหรา แต่ฉาบด้วยภยันตราย หากก้าวพลาดเพียงก้าวเดียวก็เหมือนฆ่าตัวตาย อวี่จิ่นและชายที่รักมิปรารถนาที่จะถูกกักขังไว้ด้วยยศถาบรรดาศักดิ์และความยิ่งใหญ่ใดๆ เพราะรู้ดีว่าทั้งสองคือหมากตัวสำคัญที่ถูกวางไว้ในเกมแห่งบัลลังก์แห่งโอรสสวรรค์ แต่ทางใดแล้วจะหนีพ้นจากวงวนแห่งอำนาจนี้ได้ มิรู้เพราะโชคดีหรือร้าย เขาผู้ที่ปราชัยในสนามรักแห่งนี้คืออีกหนึ่งตัวแปรที่ช่วยผลักดันให้ความฝันของอวี่จิ่นเป็นจริง
แผ่นดินกว้างไกล ท้องฟ้ากว้างใหญ่สุดสายตา ขอมีเพียงอิสรเสรีเท่านั้นอวี่จิ่นก็เพียงพอแล้ว ยิ่งได้ครองคู่อยู่กับชายผู้สาบานว่าจะมิมีวันทอดทิ้งเธอให้เดียวดาย แค่นี้ก็นับว่าสวรรค์มิได้ใจร้ายกับอวี่จิ่นเกินไป หากลำนำรักบทนี้ก็ทิ้งบาดแผลไว้ในใจของใครอีกหนึ่งคน เพราะความรักย่อมมีได้เพียงสอง มิอาจสาม เมื่อลิขิตฟ้าบันดาลมาเป็นเช่นนั้น บางที่การได้มอบความปรารถนาที่สุดให้แก่คนที่ตนรัก อาจจะนับว่าคือสุดยอดของคำว่ารักแท้
ลำนำทะเลทรายเป็นเรื่องรักสามเส้า ของหนึ่งหญิง สองชาย ชายหนึ่งคือคนที่เธอรัก แต่เขามีเหตุผลบางอย่างที่ไม่รักตอบ กว่าจะรู้ใจตัวเอง มันจะสายเกินไปหรือเปล่า กับอีกชายที่รักเธออย่างมาก แต่หัวใจเธอกลับปักใจอยู่ที่อีกคนหนึ่ง เขาจะสมหวังในรักหรือเปล่า และในความรักที่ไม่อาจรู้ว่าจะลงเอยเช่นไร ก็ยังมีปัญหาเรื่องอำนาจของราชวงศ์ การรบราของแคว้น การชิงไหวชิงพริบเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ทำให้ความรักไม่อาจดำเนินไปอย่างราบรื่นไร้อุปสรรค กว่าจะลงเอยได้ นางเอกและพระเอกต้องผ่านอุปสรรคเคี่ยวกรำจนแทบขาดใจ เพราะเมื่อใดที่เลือกเส้นทางนี้แล้ว ย่อมเหมือนกลับส่งตัวเองเข้าสู่ทางตายแล้วครึ่งหนึ่ง แต่วังหลวงก็ไม่เคยมอบจุดจบที่งดงามให้ใครสักคน คนที่อยากถอยออกมาทุกคนต่างต้องมาพร้อมกับความตายถึงจะทำให้ตัวเองอยู่รอด ก็แบบนี้ล่ะคะ เรื่องนี้กว่าพระเอกนางเอกจะลงเอยอย่างที่ตั้งใจไว้ก็แทบแย่
ความรู้สึกในตอนแรกที่อ่าน ฟีน่าไม่ค่อยชอบแนวรักสามเส้า เราสามคนค่ะ แถมมีตัวฝ่ายชายเด่นอยู่ตั้งสองคน ทำเอาคนอ่านไม่รู้จะเชียร์ใครดี แต่ฟีน่าตัดสินใจเลือกไว้หนึ่งคนในใจแล้ว เพราะชอบผู้ชายบุคลิกอย่างพระเอกค่ะ และเมื่อแอบอ่านตอนจบแล้วว่าพระเอกคือคนที่เราเลือกก็โอเคค่ะ พอไหว ปัญหาใหญ่ในการรีวิวคือ สปอยส์พระเอกไม่ได้เลยค่ะ คนอ่านต้องลุ้นเองค่ะ เกือบเล่มสองโน่นเลยค่ะกว่าจะเห็นได้ชัดเจนว่าใครคือพระเอก
กลับมาต่อในตัวนิยายดีกว่าค่ะ อย่างที่บอกว่าส่วนตัวไม่ค่อยแนวรักสามเส้า ที่ฝ่ายชายเด่นทั้งสองเพราะทำให้เราสองใจเหมือนนางเอกค่ะ รักพี่เสียดายน้อง แต่อ่านๆไปมันเป็นนิยายที่ดราม่ามากค่ะ ให้ความรู้สึกล้ำลึกในกลอุบายและความคิดของทุกตัวละคร การฟาดฟันในเรื่องอำนาจของทุกตัวละคร คนเรามีรัก โลภ โกรธ หลงกันทุกผู้ทุกคน ในช่วงเวลาหนึ่งก็อาจจะเป็นแบบหนึ่ง แต่อีกช่วงหนึ่งก็อีกแบบหนึ่ง ไม่มีใครดีหรือเลวไปหมด คละเคล้ากันไปในทุกคน แต่ที่เห็นได้ชัดคือ เวลาเปลี่ยนคนได้พอๆกับอำนาจและอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ อ่านแล้วสงสารนางเอกมากค่ะ เพียงเพราะเธอผิดพลาดในการกระทำบางอย่างไม่จะว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ทุกอย่างก็ทำให้นางเอกแทบแย่ ถ้าไม่เพราะสติปัญญาของตัวเอง พระเอกและพระรอง ความสุขที่แสวงหาคงไม่มีวันมาถึง
พูดในแง่ความรัก เป็นรักที่เรียกว่า ผู้แพ้คือผู้เจ็บปวดไปค่ะ แต่น่าสงสารนางเอก อยู่ที่ต้องตัดใจเลือกใครสักคน ซึ่งมันทำให้อีกคนที่เหลือเจ็บปวดที่สุด แต่เขาก็เลือกที่จะลองยื้อนางเอกกลับมาอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว เขาจึงเลือกที่จะใช้ความรักที่มีต่อนางเอกทำดีต่อนางเอกต่อไปเพราะคำว่ารักเท่านั้น ส่วนพระเอกนั้นก็ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าเขารักนางเอกแค่ไหน ถ้าไม่ใช่นางเอกแล้วเขาก็ไม่คิดจะรักใครอีกแล้ว ต่อให้ต้องขัดแย้งกับราชสำนักเขาก็ยอม ไม่มีบังคับให้เขารักและอยู่กับนางเอกไม่ได้ นางเอกเป็นคนที่โชคดีมากๆในเรื่องความรัก แต่เธอก็ต้องแลกมาด้วยความอดทนทุกอย่าง
บอกแล้วว่ามันดราม่ามากค่ะ ในวูบหนึ่งฟีน่าคิดว่าเครียดไป และวันแรกที่อ่านไม่จบก็คิดว่าไม่ค่อยหวานแหะ แต่พอมาอ่านวันนี้ น่ารักดีค่ะ อาจจะไม่หวานหยดอะไรแบบนั้นเพราะชีวิตนางเอกและพระเอกแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา แต่เพราะสิ่งที่พระเอกทุ่มเทให้นางเอกนี้ล่ะคะ คือความหวานในแบบพระเอก ปะปนมาด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กๆที่เขาแอบทำเพื่อให้ได้ตัวนางเอก และพระเอกเป็นคนที่รู้จักที่จะให้นางเอกได้เรียนรู้ถึงความรักครั้งนี้ว่าเขาไม่กดดัน ไม่ทำให้นางเอกรู้สึกแย่ที่เลือกเขา อาการหึงหวง เป็นเจ้าข้าวเจ้าของน่ะมีแน่นอน แต่พระเอกก็ถือว่าให้เกียรติในการกระทำของนางเอกทุกอย่างและเข้าใจในสิ่งที่ทำต่อพระรองว่าอยางไรนางเอกก็ต้องถนอมน้ำใจเขาอยู่บ้างเพราะเป็นผุ้มีพระคุณ
ในเรื่องนี้ฟีน่าว่าที่เด่นสุดคือการแสดงให้เห็นถึงเรื่องชิงไหวชิงพริบกันของอำนานในราชสำนักค่ะ ใครเผยจุดอ่อนให้เห็นก่อน ก็มีแต่ตาย ความอ่อนต่อโลกและดีงามแทบหมดไปเมื่อก้าวเข้าสู่อำนาจนี้ นางเอกก็เป็นหนึ่งที่เกือบตกในบ่วงนี้ไม่ใช่เพราะโลภแต่เพราะแค้นรวมทั้งความรัก แต่สุดท้ายก็จำคำที่บิดาบอกไว้ว่าให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด ชีวิตนางเอกถึงได้มีสุขจริงๆค่ะ
ฟีน่าชอบคำพูดที่นางเอกพูดกับอดีตเพื่อน ที่นางเอกส่งเสริมให้เข้าวังด้วยเหตุผลบางประการ แต่จากเพื่อนที่เคยมีน้ำใจต่อกัน ทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นศัตรู แม้ทั้งสองจะมีเบื้องหลังในชีวิตไม่ต่างกัน แต่นางเอกกลับมีความสุขได้อยู่กับคนที่ตนรัก แม้จะไม่เต็มไปด้วยอำนาจ วาสนาก็ตาม แต่เพื่อนนางเอกกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง ชีวิตอยู่กับความแค้นและการแก้แค้น จึงละเลยที่จะมองว่าตัวเองนั่นโชคดีเพียงใด ที่ได้มีชีวิตเช่นนั้น
...ข้ามิอยากโกรธแค้น หลายปีมานี้ข้าค้บพบความจริงข้อหนึ่ง สิ่งที่เรียกว่าโทสะและความแค้น ก่อนจะเผาผลาญศัตรูตรงหน้า บ่อยครั้งที่มันเผาผลาญตัวเราเองก่อน ข้ายอมที่จะลืมเลือนมันแล้วจดจำแต่เรื่องเบิกบานใจ ยอมที่จะโยนความทุกข์ ความกังวลทิ้งแล้วเดินหน้าต่อไป คนเราเกิดมาอย่างมากอยู่ได้ไม่กี่สิบปี ในเมื่อรู้แจ้งว่าอย่างไรก็ต้องจากไป แผ่นดินนี้ยังมีสิ่งดีๆ และเรื่องสนุกอีกมากมายที่ยังไม่ได้เห็นไม่ได้เล่น ไยไม่เฟ้นหามันมาให้กับตัวเอง เรี่ยวแรงที่มีเหตุใดต้องใช้ไปกับการแย่งชิง ไปกับการโกรธแค้น มิสู้เก็บไว้ทะนุถนอมโอบกอดความสุขความรื่นเริงของชีวิตมิดีกว่าหรือ... จากลำนำทะเลทราย เล่มสาม
เป็นคำพูดที่ฟีน่าชอบมากค่ะ นางเอกละทิ้งความแค้นในใจ เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบที่รู้ว่าหากละทิ้งความแค้น ในใจเราก็สงบสุข ซึ่งมันก็เหมือนหลักพุทธศาสนาของเราเองค่ะ ไฟแค้นหากเก็บไว้ในใจมันเผาผลาญความสุขของตัวเองจริงๆ อันนี้พูดได้เต็มปากเพราะฟีน่าเคยเป็นมาแล้ว เคียดแค้นชิงชังบางคนมาก ทุกข์ระทมจิตใจสุดๆ จนวันหนึ่งก็คิดได้ว่าตัวเองช่างโง่งมสุดทน เอาไฟมาไวในอกหลายปี ทุกข์ตรมกับความเกลียดนี้ รอวันว่าจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บแค้นเหมือนกัน เขาไม่รู้จะคิดยังไง ไฟก็เผาใจเราไปเรื่อยๆ จนมาตาสว่างว่า เออหนอจะบ้าไปทำไมเนี่ย ทิ้งได้แล้วความคิดโง่ๆแบบนี้ ไงล่ะคะ โล่งอกโล่งใจค่ะ เบาสบายสุดๆ เด๋วนี้โกรธใคร โมโหใครก็แป๊บๆ ไม่เคืองใจเท่าไรค่ะ เพราะรู้แล้วว่าไฟแค้นมันเผาใจเราจริงๆ ไม่กี่ปีก็ตายแล้ว เสียเวลาแค้นค่ะ เหนื่อยเสียเปล่าๆ
อ้าวพูดเรื่องนิยายไงไปเรื่องศาสนาอีกแล้วหล่อน เอาเป็นว่าเล่มนี้ฟีน่าชอบค่ะ ชอบในความเป็นดรามาของตัวนิยายค่ะ อาจจะไม่หวานเท่าไร แต่อ่านแล้วให้อะไรเยอะดีค่ะ มนุษย์ไม่อาจได้ในทุกสิ่งที่ต้องการเสมอไป ความซับซ้อนของนิยายมากอยู่แต่สนุกค่ะ อาจจะงงกับคำพูด ตัวละคร แต่ถ้าใจเย็นค่อยๆอ่านจะได้อรรถรสมากเลยค่ะ แต่ถ้าใครชอบนิยายเบาๆอาจจะไม่เหมาะเท่าไรค่ะ บทสรุปก็ต้องคิดเอาเองว่าพระเอก นางเอกจะใช้ชีวิตเช่นไร คนที่ขัดแย้งกันสุดๆแบบฟีน่าที่อ่านนิยายรักหวานจ๋อยได้พอๆกับอ่านนิยายตบจูบ หรือสาระกระจายก็เลยชอบค่ะ เล่มแรกไม่แนวเท่าไร แต่เล่มสองและสามชอบค่ะ อาจจะมีเคืองใจเล็กน้อยที่นางเอก เหมือนเลือกไม่ถูกระหว่างชายสองคน แต่อ่านๆไปก็เข้าใจในอารมณ์นางเอกค่ะ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน แต่เล่มนี้จะเห็นว่าบทบาทที่นางเอกกับพระเอกมีต่อกันค่อนข้างมากและเห็นได้ชัดว่ามันคือความรัก
ไม่เหมือนตอนอ่าน นอกจากข้าแล้วท่านจะรักใคร แนวรักหลายเส้าเช่นกัน แต่เล่มนั้นฟีน่ากลับไม่แนวเพราะนางเอกดูโลเลไปค่ะ เล่มนี้ไม่เลย มีเหตุและผลมากกว่าค่ะ ใครที่ชอบงานนิยายแนวจีนที่ค่อนข้างมีสาระ เนื้อหาหนักและแน่นพอตัวคงจะชอบค่ะ สาระที่แทรกอย่างวัฒนธรรม สุภาษิตจีนก็ยังมีอยู่ครบถ้วนค่ะ จนฟีน่าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนจีนถึงได้ประสบความสำเร็จและรุ่งเรืองมากๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ความคิดของเขาเจ๋งจริงๆค่ะ อ่านแล้วก็ทำให้ฟีน่าอยากไปหาหนังสือประวัติศาสตร์จีนมาอ่านนะคะ เพราะตัวเองไม่ค่อยสันทัดเท่าไร อ่านแล้วนึกพวกราชวงศ์ไม่ออกเท่าไรค่ะ เพราะทางจีนค่อนข้างซับซ้อนมาก และอยากกลับไปหารูปเมืองฉางอัน ตุนหวงอะไรพวกนี้ดูค่ะ ตุนหวงฟีน่าเคยดูแล้วเพราะชอบในสารคดีของชุดม่อเกาคูที่เคยดูค่ะ เลยจำได้แม่นว่าลักษณะเป็นยังไง เส้นทางที่นางเอกอยู่ ตามเส้นทางสายไหมจะเป็นเช่นไร อ่านนิยายที่ไรจริงจังทุกซิน่าเรา แต่มันก็ช่วยเพิ่มอรรถรสให้อ่านแล้วอินมากขึ้นค่ะ เป็นการต่อยอดนิยายค่ะ เพราะอ่านนิยายใช่อ่านเปล่า ความรู้เล็กๆน้อยๆแบบนี้เปิดโลกของเราให้กว้างขึ้นด้วยค่ะ
ก็อยากแนะนำให้แฟนมากกว่ารักลองอ่านนะคะ แต่ฟีน่าขอบอกไว้ว่านิยายไม่หวานมากเท่าไร แต่มีเนื้อหานะคะ ใครชอบเช่นไรก็เชิญเลือกได้ตามแต่ใจต้องการนะคะ