บทเพลงรักเคหาสน์เมฆา อวี๋ฉิง
การก้าวเข้าสู่เคหาสน์เมฆาไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะทำได้ง่ายดายหากไร้ความสามารถต่อให้น่าสงสารเพียงใดก็ไม่มีความเห็นใจให้ เรื่องนี้หลี่จินเจาเองก็รู้ดีเธอเป็นแค่เด็กกำพร้าผู้หนึ่งที่ต้องทำให้ตัวเองมีความหมายในเคหาสน์เมฆาให้ได้ถ้าอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ใช่ว่าการได้ก้าวเข้ามาสู่ที่นี้จะมีแต่เรื่องที่เป็นสิ่งดีถ้าไม่เพราะบุรุษที่ชื่อว่าฟู่หลินชุนผู้นั้น
ทุกอย่างล้วนแต่พลิกผันไปตามกระแสของโชคชะตาจากเด็กสาวไร้ที่พึ่งพิงแต่มาวันนี้เธอคือเจ้าเคหาสน์ที่ไร้ตัวตนหากแต่มีความสำคัญเพราะลูกคิดทองที่หลี่จินเจาได้เป็นคือบ่อเงินบ่อทองของเคหาสน์เมฆาแต่เหมือนที่ควรเป็น มีก็เหมือนไม่มีตัวตน เหมือนที่เธอไร้ค่าในสายตาของฟู่หลินชุนแม้เขาคือชายผู้เดียวที่เธอเคยมีใจให้ หากแต่ไร้ความคู่ควรซึ่งเดียวที่ทำให้เธอตัดขาดเขาจากใจก็คือคำสาบานที่หมายถึงชีวิตของตัวเอง
เพราะเหมือนจะไม่ใส่ใจกับทุกอย่างบนโลกนี้หรือจะกลมเกลือนไปกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น หลี่จินเจาจึงพลิกผันเป็นไปได้ทุกอย่างยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือคนในหัวใจของฟู่หลินชุนแต่กลับมีปริศนาบางอย่างที่ไม่ลงตัวเลยแม้แต่นิดเดียวถ้าหากเขารังเกียจเธอจนอยากจะผลักไสให้ไกลตาเช่นนี้ทำไมเขาจึงกล้าเอ่ยคำว่าชอบได้ง่ายดายยิ่งนักเพราะสิ่งใดกันเล่ามันจึงเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงถึงเพียงนี้
หรือนี้คือความลับที่หลี่จินเจาจะไม่รู้เลยสิ่งใดได้เกิดขึ้นในชีวิตของเธอและฟู่หลินชุนหากแต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการคำตอบของอดีตอีกต่อไปปัจจุบันคือสิ่งที่เธอจะมีความสุขกับมัน ความจริงที่อาจจะไม่มีคนรู้เลยแต่ขอมีเพียงแค่มีเธอกับฟู่หลินชุนรับรู้เพียงสองคนก็เพียงพอแล้วว่าตลอดว่าที่ผลักไสให้ห่างไกลกันมันจากเหตุผลเดียวคือคำว่ารัก
ต่อกันด้วยรีวิวของเล่มที่สามของชุดนี้เลยค่ะ จะได้ไม่ขาดตอนกัน เมื่อเราอ่านนิยายต่อกันแบบไม่ทิ้งช่วงนานก็เลยมีความจำจากเล่มก่อนมาสู่เล่มนี้แบบไม่ต้องไปนั่งคิดว่าใคร ทำอะไรและเป็นอย่างไรเหมือนที่เล่มแรกทิ้งช่วงจากเล่มสองและสามค่อนข้างนาน เนื้อเรื่องมีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งช่วงเวลาและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ การอ่านต่อกันจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่าเลยทีเดียวค่ะ
จากเล่มบันทึกฯ เราจะรู้จักกับคุณชายอาลักษณ์ของเคหาสน์เมฆาผู้หนึ่ง ซึ่งเขาก็เป็นค่อนข้างประหลาด แต่จะว่าไปคนในเคหาสน์เมฆาก็ล้วนแต่ไม่เหมือนคนอื่นเขาสักเท่าไร ในเล่มนี้จะพูดถึงอีกตำแหน่งที่สำคัญแต่เหมือนไม่มีตัวตน ลูกคิดทอง ผู้เป็นคนหาเงินมาให้เคหาสน์เมฆาใช้จ่าย ใครเลยจะไปคิดว่าเถ้าแก่ผู้เก่งกาจกลับเป็นผู้หญิงที่ห้าวหาญ ใจนักเลงไม่ต่างจากผู้ชาย และสิ่งที่ผิดไปจากสตรีทั่วไปคือกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกต่อผู้ชายอย่างตรงไปตรงมา และชายผู้นั้นก็กลายเป็นคุณชายอาลักษณ์อย่างพระเอก แต่เรื่องมันไม่ได้จบด้วยดี เพราะเขาไม่ได้ชอบเธอเช่นนั้นจนเป็นที่มาของคำสาบานที่ไม่ขอมีวันเคียงคู่กัน หากวันใดผิดคำสาบานต้องมีจุดจบที่อนาถใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าอะไรทำให้พระเอกต้องทำแบบนั้น ซึ่งกว่าจะรู้ว่ามันมาจากรักและเป็นห่วงก็เกือบจะไม่มีทางลงเอยกันได้ แต่ที่สุดแล้วก็ได้อยู่ด้วยกันที่อาจจะแปลกไปสักนิด
จะว่าแล้วก็ออกจะคุ้นชินกับงานแบบอวี๋ฉิงมาไม่น้อย แต่เล่มนี้พูดได้เลยว่าอ่านแล้วออกอาการอึนๆ งงๆ ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากมายนักนะคะ เนื้อเรื่องมันรวบๆ รัดๆ แปลกพิกล แต่ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าช่วงที่หายไปคือสิ่งที่จะมาเฉลยในตอนท้ายว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้พระเอกต้องผลักไสนางเอกอย่างรุนแรงขนาดนั้น แต่ก็ทำให้เรางงๆ ไปเล็กน้อยว่าทำไมเรื่องกระโดดช่วงเรื่องได้ห่างขนาดนั้น มันเลยขาดความประติดประต่อกันของอารมณ์ไปสักหน่อย
พระเอกกับนางเอกดูจะเป็นขั้วที่แทบจะตรงข้ามกันเลยทีเดียว พระเอกเป็นคุณชายอาลักษณ์ที่มีท่วงท่าสง่างาม ติดจะเรื่อยเฉื่อยไปเลย จากที่เขามักจะเหม่อลอยอยู่เสมอ แต่นางเอกความที่ต้องหาเงินเก่ง คล่องแคล่ว เธอจึงดูเป็นพวกนักเลงโตเสียมากกว่า ห่ามมากมาย จนมักจะมีคำสบถติดปากตลอดเวลา โดยเฉพาะคำว่า แม่เอ๊ย เป็นคำพูดประจำตัวนางเอกเลยก็ว่าได้ค่ะ ดังนั้นใครชอบนางเอกหวานน่ารัก หลี่จินเจาไม่ใช่เลยอย่างสิ้นเชิง พระเอกจึงดูเป็นสุภาพชนกว่านางเอกไปเสียอีก
ความหวานชื่นในเรื่อง ถ้าอ่านผ่านๆ จะไม่รู้สึกหรือรับรู้อะไรได้มากนะคะ เนื่องจากว่าคนหนึ่งสาบานว่าจะไม่รักไปแล้ว อีกคนก็มีอะไรที่ทำให้บอกว่าอย่ารัก เสมือนว่าเป็นความรักใคร่แบบพี่น้องเสียมากกว่าเลยคราวนี้ แต่ถ้าอ่านกันดีๆ จะมีสิ่งหนึ่งที่มาเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วมันมีความรักที่ไม่น้อยไปกว่าคู่ไหนอยู่ระหว่างกัน สามารถเสียสละตัวได้แบบไม่คิดหวาดกลัว สิ่งที่ตอบคำถามว่าอะไรคือการที่คนหนึ่งยอมแลกชีวิตก็คงเป็นความรัก แต่มันก็ทำให้เรื่องไม่มีฉากหวานอะไรอย่างที่เราต้องการเลย จะว่าไป นิยายของอวี๋ฉิงเขาก็ไม่ขายความหวานอยู่แล้ว ขนาดเข้าใจในกันและกันแล้วยังดูเหมือนสหายมากกว่าคนรักเลย เนื่องจากมีบางอย่างเป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่อาจจะทำในสิ่งที่ควรทำได้ในตอนนี้
เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างที่รู้สึกว่าพระเอกนางเอกไม่เด่นเลย เนือยๆ มาก ไม่เห็นถึงความรักระหว่างกันอย่างเด่นชัดแล้วยังปล่อยให้ตัวละครอย่างหลันชิงมาเด่นกว่าเสียอีก เขาคือใครเป็นฝ่ายดีหรือร้ายกันแน่ ความคลุมเครือยิ่งเรียกความสนใจได้มากกว่า ถ้าเขาจะร้ายแต่ทำไมกลับมาดีกับนางเอกขนาดนี้ เพราะมิตรภาพหรือความรักกันแน่ อ่านไปอ่านมาสนใจตัวหลันชิงไปเลย ดีนะว่าเล่มต่อไปก็คือเล่มของหลันชิง ถ้าไม่ออกเล่มต่อก็คงจะสงสัยว่าหลันชิงเป็นใคร แต่พอพูดถึงหลันชิงก็ต้องพูดถึงต้านิว จะว่าอ่านไปแล้วไม่เข้าใจเองหรือเปล่า ต้านิว ซึ่งเป็นลูกสาวของหลันชิงมีความสำคัญอะไรในเรื่อง แบบว่าทั้งเรื่องเอาหัวโขกนางเอกอย่างเดียว ก็พอเข้าใจว่าเป็นเด็กที่หวงนางเอกแต่ไม่รู้ซินะคะ มีหรือไม่มีเรื่องมันก็ดำเนินไปได้แบบติดจะเรื่อยๆ อยู่แล้ว ต้านิวเลยไม่ได้ทำให้เรื่องมันสนุกขึ้นหรือมีเนื้อหาอะไรมากนัก ไม่ได้สนใจ รักใคร่หรือเอ็นดูอยู่แล้ว ช่วงนางเอกอยู่กับต้านิวอ่านข้ามๆไปเลยก็มี แต่ท้ายที่สุดก็ไปเจอเอาว่าต้านิวมีบทบาทสำคัญในเล่มของหลันชิงอีก สรุปคือว่าเล่มนี้จะเป็นการเปิดตัวสองคนนี้ในเล่มตัวเองกันเลยหรือเปล่า
เรื่องนี้ก็เลยเป็นเรื่องที่อ่านไปจนจบก็ยังไม่เข้าใจในการสื่อของสารที่อวี๋ฉิงส่งมาเท่าไรว่าพูดถึงอะไร ก็พอเข้าใจว่าสรุปแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้น การผลักไสหรือดึงดันก็คือความรัก ฟู่หลินชุนก็มีการแสดงออกถึงความรักแบบหนึ่ง หลี่จินเจาก็แบบหนึ่ง แต่ไม่ส่งมาให้เราอินหรือหวานชื่นไปด้วยเลย ขนาดว่าจะช่วยลุ้นให้ลงเอยด้วยกันสักทียังมาแบบจะเมื่อไรยังไงก็ได้นะ เพราะเราไม่ได้หลงรักในตัวละครมากนัก ฟีน่ารู้สึกว่าตัวฟู่หลินชุนเขาก็ดีหรอกรักนางเอกทำเพื่อนางเอกทุกอย่าง แต่ความที่เขาเป็นคนเหมือนจะเฉื่อยชาก็เลยไม่น่าสนใจ ผู้ชายที่เหม่อลอยเป็นประจำเลยดูเลื่อนลอยแปลกๆ นางเอกก็ห่ามซะเกินหญิง มีบทนางเอกทีไรต้องมีคำสบถติดมา เราเป็นพวกชอบนางเอกที่เป็นผู้หญิงมากๆ ก็เลยไม่ชอบนางเอกแนวนี้สักเท่าไรนะคะ
เรื่องนี้ก็บอกได้เต็มปากเลยว่าไม่ค่อยแนวเท่าไร อ่านแล้วไม่รู้สึกหลงรักตัวละครตัวไหนเลย อย่างบันทึกรักฯ ยังชอบกงซุนเสี่ยน แต่เล่มนี้เฉยๆ ไปหมด แต่อาจจะติดใจในตัวหลันชิงว่าเขาคือใคร แต่ยังไม่ถึงกับรักมาก เนื้อเรื่องก็เล่าได้สับสนดี ซึ่งอ่านจนจบเข้าใจว่าอวี๋ฉิงมาเล่าช่วงที่หายไปตอนกลางๆ แต่มันขาดอารมณ์ร่วมกับนิยายไปเลย เรื่องนี้เลยจัดไว้ว่าอ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ได้ ไม่แนวมากนัก อ่านแล้วแทบจะลืมเนื้อหายไปเลยว่าเป็นอย่างไร เพราะมันไม่มีจุดพีค จุดน่าสนใจอะไรเลย เกือบจะวางตั้งแต่ครึ่งเล่มแล้ว เพราะหาความหวานไม่เจอ แต่คิดว่าลองต่ออีกนิดแล้วกัน ดังนั้นในสามเล่มที่อ่านมา บทเพลงรักฯ จึงเป็นเล่มที่ตอนนี้สนุกน้อยที่สุดแล้วค่ะ ได้แต่ภาวนาว่าเล่มสี่จะสนุกกว่านี้นะคะ ไม่งั้นจะเริ่มขยาดงานของอวี๋ฉิงเพราะชุดนี้เลยทีเดียว