ในขณะที่ร้านขายชาของจวิ้นโม่ถีใกล้จะปิดร้านในอีกไม่นาน แต่ร้านชาสกุลลู่กลับเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก นี้สวรรค์ลำเอียงหรือไร แต่จะมาให้เธอมัวแต่นั่งคร่ำครวญก็คงจะเสียเวลาเปล่า นอกจากหาทางรอดจากภาวะย่ำแย่เช่นนี้ และทางเดียวที่เหลืออยู่คือลักลอบเข้าบ้านสกุลลู่เพื่อขโมยวิชาจากเจ้าแห่งชาอย่างลู่เทียนจี้ให้ได้แม้ว่ามันจะเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม
แต่จวิ้นโม่ถีไม่คิดว่าการปลอมตัวเข้าบ้านสกุลลู่จะลำบากได้ขนาดนี้ คุณหนุผู้ไม่เคยทำงานหนักอย่างเธอจะได้ทำอะไรได้เรื่องได้ราวกับใคร หากกลับมีบางอย่างในตัวเธอดึงความสนใจของลู่เทียนจี้ได้ จนเปลี่ยนสถานะของเธอมาเป็นคนรับใช้ข้างกาย แม้จะรู้สึกลึกๆว่าเธอมีบางสิ่งแอบแฝงในการกระทำทุกอย่าง
จากความใกล้ชิดและบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองรู้สึกแปลกๆในหัวใจและมันก็เกินคำว่านายและบ่าว แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ถอนใจจากความรู้สึกลึกซึ้งนี้ไม่ได้เสียแล้ว ทว่าจวิ้นโม่ถีกลับไม่รู้จะบอกความจริงอย่างไรกับลู่เทียนจี้ถึงเหตุผลจริงๆที่เธอเข้าบ้านสกุลลู่ และเมื่อเธอเลือกที่จะหลบลี้หนีหน้าเขาและบังอาจทำให้ลู่เทียนจี้คนนี้เสียใจ เขาก็ต้องดัดนิสัยเธอเสียบ้าง เพื่อทำให้จวิ้นโม่ถีรู้ว่า พ่อค้าชาตัวยงอย่างเขา ไม่มีทางยอมขาดทุนจากความรักที่เขามีให้เธอเด็ดขาด
พระเอกจะเป็นคนที่เก่งกาจเรื่องชามากจนนางเอกที่บ้านก็ขายชาเช่นกันยอมปลอมตัวมาเป็นสาวรับใช้และแน่ล่ะก็ดันไปโดนใจพระเอกเข้าเลยเลื่อนจากสาวใช้ในครัวมาเป็นสาวใช้ส่วนตัว พอได้อยู่ใกล้กันก็เลยเป็นความรัก
พระเอกจะน่ารักดีค่ะ คอยดุแลนางเอกทั้งๆที่เป็นแค่สาวใช้ มีอภิสิทธิ์กินข้าวร่วมโต๊ะตลอด หรือตอนนางเอกเจ็บขาก็แบกขึ้นหลังกลับบ้านโดยไม่สนใจว่าสถานะตอนนั้นนางเอกเป็นแค่สาวใช้ น่ารักได้ใจดีคะ
แถมตอนท้ายๆ นางเอกหนีกลับบ้าน พอพระเอกไปตามมาได้ก็แกล้งใช้นางเอกและทำเมินเฉยจนนางเอกเจ็บตัวหนักก็ทนไม่ได้ และก็ทำนองนิยายไทยนี้ล่ะคะ ดีตรงไม่มีนางอิจฉาอีกตะหาก
อ่านแล้วยิ้มๆตลอดเลยค่ะ ขอบอกอีกครั้งว่าใช่ได้เลยค่ะ แนวฟีน่าเลย