มารยาทพื้นฐานในสังคม (Social Etiquette) ที่คนไทยทุกคนควรฝึกให้ติดเป็นนิสัย







มารยาทพื้นฐานในสังคม (Social Etiquette)
ที่คนไทยทุกคนควรฝึกให้ติดเป็นนิสัย






ครูชัย M.I.B Marketing In Black shared a post.
September 15, 2016 ·
25 มารยาทพื้นฐานในสังคม (social etiquette)
ที่ไม่มีสอนในห้องเรียน
ใครนำไปใช้จะทำให้ชีวิตดีขึ้น
(ตกผลึกจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองครับ)
Image may contain: 1 person, ocean, water and outdoor
Chaiyapon Chai ChawanwanitchaiFollow
September 14, 2016
25 มารยาทพื้นฐานในสังคม (Social Etiquette) ที่ถ้าคุณมีแล้วจะดูดีขึ้น! (ตกผลึกจากประสบการณ์ของผมเอง)
.
.
1. เวลาไปทานข้าวร้านอาหารกับหัวหน้า (หรือใครก็ได้ที่เป็นเจ้าภาพ) ต้องรอให้หัวหน้าเอ่ยปากให้สั่งอาหารได้ตามอัธยาศัย ไม่ยังงั้น ปกติหลักคือคนที่เลี้ยงคือคนที่สั่งได้เท่านั้น
.
2. เวลาทานอาหารต้องรอทานพร้อมกันทั้งโต๊ะ และต้องให้หัวหน้าหรือเจ้าภาพ เปิดก่อนเสมอ (แล้วคนอื่นถึงจะเริ่มกินได้)
.
3. เวลาไปกินบุฟเฟต์อย่าสั่งเยอะเกิน แล้วอย่าสั่งเผื่อคนอื่นโดยไม่ได้ถามก่อน พอเหลือปุ๊บคนจะมองว่าชีวิตคุณขาดทันที
.
4. ระมัดระวังการล้วง แคะ แกะ เกาในที่สาธารณะแบบไม่รู้ตัว เช่น แคะขี้หมู เกาหัว เป็นต้น บางทีเราไม่รู้แต่คนข้างนอกดูรู้
.
5. 3 คนที่ต้องเทคแคร์ คือเด็ก ผู้หญิง ผู้ใหญ่ เจอสามกลุ่มนี้ ต้องเทคแคร์เป็นพิเศษเสมอ เช่นเปิดประตูให้ ตักข้าวให้ ช่วยถือของ
.
6. แต่งตัวดีเสมอเสมือนไปเจอประธานบริษัทในทุกครั้งที่ไปไหน สมัยนี้เจอกันแป๊บเดียว บางทีไม่กี่วินาที ไม่ได้นานพอที่จะรู้ถึงภายใน 99%ของคนส่วนใหญ่ จะตัดสินคนจากภายนอกก่อนเสมอโดยที่เขารู้หรือไม่รู้ตัวก็ตาม!
.
7. เวลาออกงาน ที่ไม่ใช่ไปเซเว่นหรือไปเดินตลาด ห้ามใส่รองเท้าแตะทุกกรณี ผู้ชายควรเซ็ตผมและสวมนาฬิกาและรองเท้าที่เหมาะสม ในขณะที่ผู้หญิงต้องแต่งหน้าเสมอ และมีกระเป๋ากับรองเท้าที่ดีพอเช่นกัน
.
8. ดีพอไม่ได้แปลว่าต้องแบรนด์เนมทุกชิ้น หลักคือๆสี สไตล์ ไซส์ต้องแมทช์กัน ของดีไม่จำเป็นต้องแพง ของดีคือเมื่ออยู่บนตัวคุณแล้วดี ทุกชิ้นรวมพลังกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวคุณ
.
9. เมื่อคิดจะเข้าสังคม คุณต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้น เช่น ไปร้องคาราโอเกะกัน แต่คุณนั่งนิ่งๆทื่อๆอยู่คนเดียว อย่าทำแบบนี้ เพราะนอกจากคุณจะอึดอัดแล้วยังทำให้คนอื่นอึดอัด ไปคาราโอเกะก็ต้องร้อง ไปผับก็ต้องเต้น ถ้าไม่อยากทำแต่แรก อย่าjoin event นั้น จำไว้ว่า "เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามเสมอ"
.
10. เวลาออกงานปาร์ตี้ที่มี Theme การแต่งจัดเต็มตามธีมคือการที่คุณเคารพเจ้าภาพ เคารพเจ้าของงาน และสะท้อนถึงการเคารพตัวเอง ไม่ใช่การเล่นใหญ่แต่อย่างใด เข้าใจซะใหม่ด้วย!
.
11. เวลาไปพบผู้ใหญ่ที่มีเชื้อสายจีน (ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนัน) การมีของติดไม้ติดมือเป็นเรื่องสำคัญที่ห้ามละเลย
.
12. เทศกาลต่างๆก็เช่นกัน การให้ของขวัญในเทศกาลสำคัญ วันปีใหม่ วันเกิดหรือโอกาสได้ตำแหน่งใหม่หรือเปิดธุรกิจใหม่ เป็นเรื่อง a must ที่คุณต้องทำ ถ้าคุณอยากรักษา connection ให้ยั่งยืน
.
13. ฝึกนิสัยให้ไม่เบียดเบียนสังคม คือไม่ทิ้งขยะลงตามพื้น ใช้อะไรก็เก็บให้เป็นที่ ไม่จอดรถในที่ห้ามจอดขวางคนอื่น การเบียดเบียนสังคม ส่วนใหญ่คุณมักทำตอนไม่มีใครเห็น แต่ตาวิเศษเห็นนะ นั่นคือตัวคุณนั่นแหละ ยิ่งคุณเบียดเบียนสังคมมากเท่าไหร่ ใจคุณจะถูกหล่อหลอมให้เป็นคนเห็นแก่ตัวมากขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัว แล้วกฏแห่งจักรวาลคนเห็นแก่ตัวจะดึงดูดคนเห็นแก่ตัวเข้ามา จนคุณจะต้องสงสัยว่าทำไมชีวิตชั้นเจอแต่คนแย่ๆ
.
14. เวลาเข้าสังคม บ่อยครั้งที่คุณจะร่วมวงสนทนากับคนที่ไม่เคยคุยมาก่อน สิ่งที่คุณควรทำคือกระจายการคุยให้ทั่วถึง อย่าให้ใครโดดเดี่ยวอยู่นอกวง สิ่งที่ต้องห้ามคือคุยกับคนรู้จักคุณอย่างเดียวโดยไม่สนใจคนอื่น
.
15. เสน่ห์ที่ร้อนแรงที่สุดของมนุษย์คือความมั่นใจในตัวเอง และประดิษฐกรรมที่งดงามที่สุดบนร่างกายมนุษย์คือ รอยยิ้ม ดังนั้นจงแจกยิ้มให้บ่อยที่สุด การยิ้มที่ถูกต้องไม่ใช่ยิ้มด้วยปาก แต่จงยิ้มด้วยใจให้ไปทั้งใบหน้า ตา คิ้ว โหนมแก้ม จมูก คนถึงจะสัมผัสได้ จำไว้ว่ารอยยิ้มและความมั่นใจในตัวเองที่พอดี เป็นประตูสำคัญในการเข้าสังคม
.
16. มารยาทในการเข้าลิฟท์ คนเข้าคนแรกควรประจำอยู่ที่ปุ่มกดเสมอ คอยกดบริการให้คนอื่น อย่างน้อยคือช่วยกดปุ่มเปิดประตู คนที่เข้าไปตามหลังที่บอกชั้นให้คนช่วยกดให้ต้องจบประโยคด้วยคำว่าขอบคุณทุกครั้งแบบไม่มีข้อยกเว้น และจำไว้เสมอว่า Elevator Pitch เป็นคำอุปมาอุปไมย ในลิฟท์ไม่ควรมีใครคุยอะไรกันทั้งนั้น (ถ้าคุณมากับเพื่อน แล้วคุยค้างอยู่ พอเข้าลิฟท์ต้องหยุดคุยเสมอ)
.
17. หลักการสั่งอาหารเมื่อทานข้าวกับผู้ใหญ่ (มีคนเลี้ยง) ไม่ควรสั่งอาหารราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ยในเมนู ควรสั่งอาหารราคากลางๆ เพื่อ play safe ข้อห้ามสำคัญคือห้ามสั่งของที่ราคาแพงกว่าเจ้าภาพเด็ดขาด!
.
18. ศิลปะในการตักอาหารก็สำคัญมาก คุณต้องคิดถึงคนทั้งโต๊ะเสมอ เช่น โต๊ะมี 8 คน มีสั่งเมนูกุ้งเผา มีกุ้งอยู่ 4 ตัว คุณตักตัดไปได้แค่ครึ่งตัวเท่านั้น การที่คุณยกไปให้ทั้งชิ้น สะท้อนลึกๆว่าคุณสนใจแต่ตัวเอง ไม่แคร์คนอื่น
.
19. มารยาทในการเข้าห้องน้ำสาธารณะ สุขภัณฑ์ที่คุณใช้เสร็จต้องสะอาดเท่ากับก่อนที่คุณใช้ สำหรับผู้ชายที่ชอบฉี่ในห้องน้ำ ต้องยกฝาชักโครกก่อนฉี่เสมอ สำหรับห้องน้ำที่มีสายฉีด ระมัดระวังอย่าให้พื้นเปียกน้ำเช่นเดียวกับเวลาล้างมืออย่าสะบัดน้ำลงมือ ให้เช็ดมือด้วยทิชชู่หรือเป่าเครื่องเป่าให้แห้งแทน นอกจากนี้เวลาถ่ายหนักแล้วต้องผายลม ควรกดน้ำเพื่อกลบเสียงด้วย สิ่งสำคัญคือห้ามทิ้งอะไรไปในชักโครกทุกกรณี!
.
20. สำหรับสุภาพบุรุษ lady first เป็นมารยาทสากล การเปิดประตูให้ผู้หญิง การให้ผู้หญิงเลือกที่นั่งก่อน การกดลิฟท์ให้เขาเข้าก่อน ทุกๆอย่างล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดีงามที่ Gentleman พึงกระทำ
.
21. กลิ่นเป็นสิ่งที่ต้องดูแลให้ดี มี 3 กลิ่นเป็นสิ่งที่คุณต้องดูแล คือกลิ่นปาก กลิ่นตัวและกลิ่นเท้า ร้อยละ 80 ของคนมีปัญหาเรื่องกลิ่นมักไม่รู้ตัวเองว่ามีปัญหานี้และมักไม่มีใครกล้าบอก (คนตัวเหม็นอยู่กับตัวเองทั้งวัน จมูกชินกลิ่นเลยไม่รู้ว่าตัวเองตัวเหม็น) ดังนั้นจงระมัดระวังตัวเองเสมอ น้ำหอมขวดจิ๋วกับลูกอมดับกลิ่นอาจเป็น must have item ที่คุณต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลา
.
22. การพูดจาที่สุภาพอ่อนโยนคือคุณสมบัติของผู้เป็นใหญ่ ไม่ได้หมายความว่าคุณห้ามวีน ห้ามด่า ห้ามตำหนิใคร ใครทำผิดคุณควรให้รู้สำนึก แต่ความอ่อนโยนคือสิ่งที่คุณต้องคงไว้ มีผู้ใหญ่ท่านนึงสอนผมว่า การพ่นพิษเป็นเรื่องง่าย ใครๆก็ทำได้ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่การวางยาพิษเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก พูดจาดีๆนุ่มๆแต่คนฟังรู้สึกผิดเหลือเกิน เนี่ยแหละคือศิลปะแห่งการวางยาพิษที่คุณต้องฝึกฝน
.
23. ปริมาณการใส่ในรายละเอียดในเรื่องเล็กน้อย จะทำให้คุณแตกต่างจากคนทั่วไป เลื่อนเก้าอี้เก็บทุกครั้งหลังจากลุก ปิดฝาและจัดวางพวงเครื่องปรุงให้อยู่จุดเดิมทุกครั้งหลังทานร้านก๋วยเตี๋ยว การเก็บถาดอาหารเองในร้านแมคโดนัลด์...จงจำไว้ว่าคนล้มไม่เคยสะดุดภูเขา เคยแต่สะดุดก้อนหิน เรื่องเล็กๆน้อยๆเนี่ยแหละ เป็นสาเหตุของปัญหาที่ยิ่งใหญ่มานักต่อนัก จงฝึกตนให้เป็นคนใส่ใจเรื่องเล็กน้อย
.
24. 5 คำที่คุณต้องพูดติดปากคือ สวัสดี(ไหว้) ขอบคุณ ขอโทษ ได้โปรด ยินดี(ด้วย) ยิ่งพูดคำเหล่านี้ได้ง่ายเท่าไหร่ ego คุณจะลดลงเท่านั้น และคุณจะได้เกียรติจากคนรอบข้างมากขึ้น เกียรติเป็นหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ก่อนที่จะได้เสมอ
.
25. โดยเฉพาะ คำขอบคุณ ต้องพูดให้ติดปาก ขอบคุณทุกครั้งที่ได้รับ ขอบคุณตอนจ่ายเงินให้แท็กซี่ ขอบคุณตอนบริกรมาเสิร์ฟอาหาร ขอบคุณตอนขับรถแล้วทีคนให้ทาง ยิ่งคุณขอบคุณมากและง่ายเท่าไหร่ ชีวิตคุณจะอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเท่านั้น



*****

ครูชัย M.I.B Marketing In Black shared a post.
September 19, 2016 ·
25 มารยาทสังคม (Social Etiquette) พื้นฐานที่ทุกคนควรรู้แล้วชีวิตจะดีขึ้น
ตอน 2

สำหรับตอนนี้เป็นตอนที่ 2 แล้วนะครับ หลังจากตอนแรกมีคนสนใจแชร์ไปกว่าหกพันแชร์แล้วตอนนี้ในเฟสบุคส่วนตัว
.
บทความนี้ เขียนเสร็จผมอ่านเองแก้แล้วแก้อีกเป็นสิบรอบ รักบทความนี้มากๆ
อยากให้ทุกคนแชร์เก็บไว้แล้วอ่านอย่างน้อยสามรอบ เพราะมีอะไรหลายๆอย่างที่ต้องตกผลึก เชื่อว่าบทความนี้จะมีประโยชน์มากๆกับทุกคนๆครับ
.
ครูชัย
Image may contain: 1 person, standing and suit
Chaiyapon Chai ChawanwanitchaiFollow
September 19, 2016 · Bangkok, Thailand
25 มารยาทสังคม(Social Etiquette) พื้นฐานที่คุณควรรู้แล้วจะดูดี Part 2
.
หลังจากปล่อยภาคแรกไป ไม่น่าเชื่อมีคนสนใจเรื่องนี้กันมาก มียอดแชร์กว่า 5 พันแชร์ เลยขอมาขยายความเขียน Part 2 ต่อครับ :)
.
1. ตัวเปิดของทุกบทสนทนาคือการไหว้ทักทาย หลายคนเข้าใจว่า คนด้อยอาวุโสกว่าจะต้องเป็นคนเริ่มไหว้ทักทายก่อนเสมอ ซึ่งไม่ผิดแต่ไม่ถูก เพราะที่จริงคนที่ยิ่งใหญ่มักจะไหว้คนอื่นก่อนแทบทุกครั้ง (โดยที่ไม่กลัวว่าจะเสียเกียรติ เพราะเขามีเกียรติมากเหลือเฟือ คนที่กลัวเสียเกียรติ คือคนที่ไม่ค่อยมีมัน เลยกลัวที่จะเสียมันไป)
.
2. ทริคเล็กน้อยของการไหว้ คือไม่ควรนั่งไหว้ ยืนได้ควรยืน โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ ถ้าเรานั่งโต๊ะอยู่ก่อนในร้านอาหาร ผู้ใหญ่มาถึงทีหลัง สิ่งดีงามที่สุดสิ่งหนึ่งที่คุณจะทำได้คือ ยืนขึ้นต้อนรับพร้อมไหว้แบบเต็มรูปแบบ และรอให้ผู้ใหญ่นั่งลงก่อนทุกครั้ง
.
3. ความอ่อนน้อมถ่อมตัวคือหัวใจสำคัญในการเป็นที่รักของผู้คน ทะเลที่มันยิ่งใหญ่เพราะมันอยู่ต่ำ แม่น้ำทุกสายจึงไหลเข้ามาหา มารวมกันที่ทะเล ถ้าคุณได้มีโอกาสเจอคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ คุณจะต้องประหลาดใจว่าทำไมเขาอ่อนน้อมมาก ไหว้เราก่อนและก้มต่ำจนเราเขิน ไหว้คืนแทบไม่ทัน (มหาเศรษฐีหลายคนเป็นแบบนี้!)
.
4. ตรงข้ามกับความอ่อนน้อมถ่อมตัว คือการขี้อวด
3 อวดที่คุณต้องระวังสุดๆ คืออวดเก่ง อวดรวย และอวดรู้ ในวงสนทนาใดๆใครอวดหนึ่งในสามอย่างนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ จะเป็นที่น่าหมั่นไส้ น่ารำคาญพาลไปถึงน่ารังเกียจ
จงจำไว้เสมอว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่ชอบคนขี้อวด
ซึ่งอาจไม่ทุกคนที่ชอบคนอ่อนน้อม แต่ทุกคนไม่ชอบคนขี้อวดแน่นอน และให้จำไว้อีกว่า ยิ่งใครอวดเรื่องไหน คนจะมองว่าคุณยิ่งขาดเรื่องนั้นมากขึ้นเท่านั้น! (ไม่มีราชสีห์ตัวไหน ไปยืนคำรามริมผาทุกชั่วโมงหรอก ที่เห่าบ่อยๆคือหมาทั้งนั้น! คนเบ่งคือไม่จริง คนจริงคือไม่เบ่ง เพราะไม่จำเป็น!)
.
5. มารยาทสากลในการโทรศัพท์ สำหรับฝั่งคนโทร ถ้าเรื่องทั่วไป โทรไปไม่รับให้ missed call 1 สายแล้วเว้นไว้ซัก 2-3 ชั่วโมงแล้วค่อยโทรใหม่ แต่ถ้าเรื่องด่วนประมาณหนึ่ง อนุญาตให้ missed call 2 สายในครั้งเดียวได้พร้อมส่ง SMS ไปแจ้งให้โทรกลับพร้อมระบุหัวเรื่องสั้นๆ ไม่มีใครควร missed call เกิน 2 สายติดกันทั้งนั้น ยกเว้นเรื่องคอขาดบาดตาย
.
6. ส่วนฝั่งคนรับโทรศัพท์เมื่อเห็น missed call ควรโทรกลับให้เร็วที่สุด เวลาที่คุณใช้โทรกลับยิ่งน้อยเท่าไหร่แสดงถึงปริมาณความใส่ใจที่มากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่อยากให้ทำตอนที่ติดงานคุยไม่สะดวก คือรับสายแล้วบอกว่าไม่สะดวกคุยพร้อมแจ้งว่าจะโทรกลับตอนกี่โมง หรืออย่างน้อย SMS ก็ยังดี เพราะไม่มีใครควรรออย่างไร้ความหวังทั้งนั้น ซึ่งสิ่งที่เสียมารยาทที่สุด ไม่ควรทำอย่างยิ่งในทุกกรณี คือเห็น missed call แล้วไม่โทรกลับภายในวัน
.
7. หลักสำคัญของการคุยโทรศัพท์คือ คนที่โทรมาไม่ว่าสนิทกันแค่ไหนต้องถามเปิดก่อนเสมอ ว่าสะดวกคุยสายไหม? ยิ่งถ้าก่อนเก้าโมงและหลังสองทุ่ม ถ้าไม่ด่วนหรือไม่สนิทจริงๆไม่ควรโทรเลยเพราะถือเป็นการเสียมารยาท แต่ถ้าจำเป็นจริงๆต้องขอโทษก่อนทุกครั้ง และคนที่เป็นฝ่ายรับสายต้องให้คนที่โทรมาเป็นคนวางสายก่อนเสมอ (หลายคนชอบรีบวาง ทั้งๆที่อีกฝ่ายคุยไม่จบ)
.
8. สิ่งแรกที่คุณต้องทำเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคุณ ไม่ใช่การรับโทรศัพท์ แต่เป็นการปิดเสียงโทรศัพท์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ถ้าเป็น iPhone กดปุ่ม volume มันจะหยุดเสียงหยุดสั่นทันที...และสำหรับการปิดเสียง หลายคนคนเข้าใจว่าต้องปิดเสียงโทรศัพท์เวลาเข้าโรงหนัง เวลาประชุม เวลาคุยงานกับลูกค้า แต่ความจริงก็คือคุณต้องปิดเสียงทุกเวลา! ตอนที่คุณจะเปิดเสียงมือถือของคุณได้ คือเวลาที่คุณอยู่คนเดียว หรืออยู่กับเพื่อนกับครอบครัวเท่านั้น!
.
9. ศิลปะในการใช้ภาษาเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะ request อะไรใคร ไม่ว่าจะแค่สั่งอาหารกับพนักงานหรือสั่งงานลูกน้อง พูดคำว่า "รบกวน" ขึ้นต้น และลงท้ายว่า "ขอบคุณ" เสมอ และในภาษาไทยหางเสียง(ครับ/ค่ะ)สำคัญมาก ไม่ว่าจะพูดกับใครต้องใส่หางเสียงเสมอทุกกรณีแบบไม่มีข้อยกเว้น ในบางครั้งกับบางสถานการณ์หางเสียงสำคัญกว่าทั้งประโยคซะอีก!...Tip เล็กน้อยในการใช้ภาษาคือใส่คำอุทานที่เหมาะสมไปด้วยเสมอบวกอารมณ์ที่ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย จะทำให้คนประทับใจมากขึ้นหลายเท่า เช่น
จาก "เยี่ยมมาก" เป็น "โว้ว! เยี่ยมมากก!"
หรือจาก "น่ากินนะ" เป็น "หูวว น่ากินจังง!"
.
10. การใช้ภาษาว่าสำคัญแล้ว แต่ที่สำคัญกว่าคือการใช้น้ำเสียง แววตาและภาษากาย ในทุก communication สิ่งที่คุณไม่ได้พูดออกมา (non-verbal) สำคัญกว่าสิ่งที่คุณพูดออกมา (verbal) เสมอ...วิธีฝึกคือ ลองฝึกใช้คำพูด น้ำเสียง แววตาและภาษากายที่อ่อนโยนกับคนที่ธรรมดาที่สุดเช่น พนักงานเสิร์ฟ แม่บ้าน ภารโรง รปภ. ถ้าคุณปฏิบัติต่อคนเหล่านี้ได้อย่างจริงใจและเป็นธรรมชาติได้มากเท่าไหร่ คุณจะทำกับทุกคนได้เหมือนกัน...ยิ่งคุณให้เกียรติคนที่คนส่วนใหญ่ให้เกียรติเขาน้อยที่สุดได้มากเท่าไหร่ คุณจะได้รับเกียรติที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้มากที่สุดเท่านั้น...การให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม จะเป็นหนึ่งในนิสัยติดตัวที่ดีที่สุดในชีวิตคุณ!
.
11. โปรดจงจำไว้เสมอ คนที่อยู่ข้างหน้าคือคนที่สำคัญที่สุดเสมอ อย่ารับโทรศัพท์ใครต่อหน้าถ้าสายนั้นไม่จำเป็นและสำคัญจริงๆ และจงเดินไปคุยที่อื่นเสมอ เพราะจริงๆแล้วไม่มีใครควรใช้มือถือต่อหน้าคนอื่นทั้งนั้น ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการโทร รวมถึงการเล่นเฟส เล่นไลน์ด้วย!...เวลาเข้าสังคม จงเข้าสังคม ให้เกียรติคนที่อยู่ข้างหน้าคุณเสมอ ใช้มือถือเฉพาะเท่าที่ถ้าจำเป็นจริงๆ รวมถึงต้องขอโทษและขออนุญาตก่อนเสมอ...การหยิบมือถือมาเล่นโดยที่ไม่มีเหตุผล (คล้ายๆกับเล่นแก้เก้อ แก้เขินหรือฆ่าเวลา) ถือเป็นภาษากายเชิงลบ สื่อถึงการป้องกันตัวเอง (Defense mechanism) คล้ายๆกับการนั่งไขว้ห้าง กอดอก เพราะฉะนั้น เวลาคุยกับใคร เวลาไปปาร์ตี้ เวลาเข้าสังคม อย่าหยิบมือถือมาเล่นเลย เพราะคนจะไม่อยากหรือไม่กล้ามาคุยกับคุณ
.
12. มารยาทในการขึ้นรถโดยสารสาธารณะ เช่นรถไฟฟ้า คือ ขยับชิดในเสมอ อย่าขวางประตูเพราะแค่อยากลงง่ายๆ อย่าทำให้การลงรถง่ายๆของคุณทำให้คนอื่นลงยาก อย่ายืนพิงเสา เพราะเสาไม่ใช่ของคุณ และเช่นเดียวกับในลิฟท์ ไม่ควรรับโทรศัพท์หรือพูดคุยเสียงดัง และจงระมัดระวังเสียงจากหูฟังของคุณ บางทีคุณอาจไม่รู้ตัวว่าคุณเปิดดังเกินไปแล้ว และอย่าละเลยมารยาทพื้นฐานในการเสียสละที่นั่งให้เด็ก คนแก่ ผู้หญิงท้อง(อันนี้ต้องดูดีๆ)
.
13. การตรงต่อเวลาเป็นหนึ่งในมารยาทสังคมที่สำคัญที่สุด คนที่ตรงต่อเวลาไม่ใช่คนที่เคารพเวลา แต่เป็นคนที่เคารพคนอื่น ให้เกียรติคนอื่นเสมอ เพราะคุณไม่มีสิทธิมีเวลาในชีวิตมากขึ้น โดยการไปเบียดเบียนเวลาชีวิตคนอื่นให้น้อยลง
.
14. แต่ในบางครั้งคุณ accident ต้องไปสายจริงๆ ศิลปะของการสาย คือห้ามสายแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ เมื่อคุณรู้ว่าคุณต้องสายแน่ๆ สิ่งแรกที่คุณต้องทำให้เร็วที่สุด คือแจ้งคนที่เรานัดด้วยว่าเราสาย พร้อมบอกเวลาว่าคุณจะถึงประมาณเท่าไหร่ (สมัยนี้ใช้ app google map สามารถประมาณเวลาได้อย่างแม่นยำแล้ว) อย่างที่บอกไป ว่าไม่มีใครควรรอแบบไร้ความหวังทั้งนั้น! สิ่งที่แย่คือก่อนเวลานัดสิบนาทีเพิ่งมาบอกว่าสาย (เพราะจริงๆใครก็ดูรู้ว่าคุณต้องรู้ก่อนหน้านานแล้ว) แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือสายโดยไม่บอก ให้เขารอไปเรื่อยจนต้องโทรมาตามถามว่าถึงไหนแล้ว ห้ามเด็ดขาด! อีกอย่างที่อยากให้ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ไปทันเวลา=เซฟ คนอื่นจะมองคุณโอเค ไปก่อนเวลา=ดูดี คนอื่นจะมองคุณยอดเยี่ยม (บางประเทศในยุโรป มาตรงเวลา=สาย เพราะคุณต้องมาก่อน 15 นาที เป็นมาตรฐาน บางทีความรู้สึกสายไม่ได้เกี่ยวกับเวลา แต่เกี่ยวกับพอตอนมาถึง แล้วมีคนนั่งรออยู่อีกเพียบ!)
.
15. ในวงสนทนา ทักษะการฟังบางครั้งสำคัญกว่าการพูด การฟังอีกฝ่ายให้จบโดยไม่พูดขัดขึ้นมาเป็นเรื่องที่บางคนอาจไม่เคยทำได้เลยในชีวิต... สำหรับการเข้าสังคม การฟังคนอื่นให้จบแล้วเราค่อยพูดเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ระดับแอดวานซ์คือฟังแบบเอาใจใส่ ฟังแบบตื่นเต้น ฟังแบบอยากให้พูดอีก ศิลปะการฟังขั้นสูงคือฟังยังไงให้อีกฝ่ายคิดว่าเราสนใจเรื่องราวของเขามากๆ และอยากเล่าต่ออีกเยอะๆๆ จำไว้ว่าทุกคนเวลาพูดอยากมีคนตั้งใจฟังมากๆ ฟังแบบสบตาเราแล้วตาเป็นประกาย พยักหน้าตามตลอด อินตามความรู้สึกเรา ถามเราว่าแล้วยังไงต่อเสมอ...ลองสังเกตตัวเราเองก็ได้ ใครที่เป็นผู้ฟังที่ดีของเรา เรามักจะชอบคนนั้นเป็นพิเศษ บางทีไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำไป
.
16. การที่เราจะใช้ของคนอื่น ทำอะไรบนพื้นที่ของคนอื่น (โต๊ะคนอื่น บ้านคนอื่น แม้กระทั่งกรุ๊ปไลน์คนอื่น) ต้องขอ"อนุญาต"ก่อนเสมอในทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนคุณสนิทด้วยที่สุดหรือกระทั่งเป็นแฟนของคุณก็ตาม เพราะการพูดขออนุญาต บางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการขออนุญาตจริงๆก็มี(เพราะเรารู้ว่าเขาให้อยู่แล้ว) แต่มันคือการ inform ว่าเราจะใช้ และเมื่อใช้เสร็จต้องบอกอีกครั้งใช้เสร็จแล้ว และต้องพูดขอบคุณเสมอในทุกครั้งไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้แหละสะท้อนถึงการได้รับการอบรมที่ดี
.
17. คุณรู้อยู่แล้ว มารยาทพื้นฐานที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสังคม คือการไม่ทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ แต่นอกจากขยะที่เป็นชิ้นๆแล้ว ผมยังหมายถึงขยะความคิด พวก junk thought ความคิดลบๆ คำพูดลบๆพวกนี้ ต้องระวังในการทิ้งมาในที่สาธารณะ เช่น ในวงสังคมใหญ่ที่คุณไม่ได้สนิทด้วยทุกคน หรือในเฟสบุคของคุณที่อาจมีคนไม่เกี่ยวมาเห็นด้วย...พวก junk thought หรือความคิดขยะพวกนี้ ผมเข้าใจว่าบางทีคุณอยากบ่น อยากระบาย แต่เรื่องจริงก็คือ คุณบ่นได้กับเพื่อนสนิทของคุณในที่ไพรเวทเท่านั้น แต่เรื่องจริงกว่าคือ จริงๆไม่ควรปล่อยความคิดขยะไปให้ใครทั้งสิ้น!...คนที่พูดบวกมากกว่าพูดลบ จะมีความสุขมากกว่าใครทุกคนบนโลกนี้! และไม่ว่าคนๆนี้จะไปที่ไหน เขาจะทำให้ society นั้นๆมีความสุขไปกับเขาด้วยได้เสมอ
.
18. ศิลปะของการใช้เสียง เป็นอีกเรื่องที่ต้องเอาใจใส่ หลักสำคัญก็คือ เวลาคุณจะทำอะไรต้องทำให้เบากว่าเสียงสิ่งแวดล้อม 1 level เสมอ...ถ้าไปร้านอาหารริมทางที่โช้งเช้งเสียงดัง คุณคุยดังหน่อยได้...แต่ถ้าไปร้านหรูบนโรงแรมที่ร้านเงียบมาก มีแค่เสียงเพลงคลอๆเบา คุณต้องคุยเบา เคี้ยวอาหารให้เบา วางช้อนส้อมให้เบา อย่างตอนดูหนังก็เหมือนกัน เนื่องจากในโรงจะเงียบมาก การคุยกัน การเล่นมือถือ เป็นเรื่องต้องห้ามที่คุณรู้อยู่แล้ว แต่การเคี้ยวป๊อบคอร์นให้เบาที่สุด เป็นมารยาทที่หลายคนมองข้าม การระมัดระวัง volume ของตัวเองเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ดี...เรื่องพวกนี้บางทีต้องฝึก เริ่มฝึกจากการเป็นใส่ใจรายละเอียดของสิ่งแวดล้อม ฝึกใช้ชีวิตให้ประณีตขึ้น แล้วคุณจะได้ชีวิตที่ประณีตขึ้นมาในระดับที่คุณคู่ควร
.
19. หลายคนชอบสงวนคำชม จริงๆแล้วคนที่ชมคนง่ายจะเป็นที่รักของทุกคน เป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครๆก็จดจำได้และอยากเข้าใกล้ จงชื่นชมสิ่งรอบตัว คนรอบตัว แล้วโลกรอบตัวคุณจะสดใสขึ้นโดยที่ไม่ต้องใช้ตังค์ซักบาท! เทคนิคการชมที่ทำให้คนชอบที่สุด คือชื่นชมยินดีในความสำเร็จของเขา ยิ่งเขาภูมิใจกับความสำเร็จนี้เท่าไหร่ เวลาคุณพูดถึงเรื่องนี้ เขาจะยิ่งประทับใจคุณมากเท่านั้น!
.
20. ในขณะที่หลายคนกลับตำหนิง่าย วีนง่าย บ่นง่าย พวก negative พวกนี้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากกว่า อย่าพูดตำหนิใครไวเกินไปโดยที่ไม่ well-design การจะ blame หรือ complain ใครในแต่ละครั้ง คำพูด ท่าทาง น้ำเสียงของคุณต้องผ่านการ well-design มาแล้ว คือคัดสรรมาอย่างดีแล้ว นั่นแปลว่าคุณต้องสงบอารมณ์มาก่อนแล้ว แล้วจึงใช้สมองมาดีไซน์ มาคิดประมวลผล ก่อนที่จะพูดอะไรออกไป...จำไว้เสมอว่า คำพูดเป็นหนึ่งใน 3 สิ่งที่ย้อนคืนไม่ได้ (คำพูด เวลาและโอกาส ผ่านไปแล้วย้อนคืนไม่ได้) แม้ว่าจะขอโทษทีหลังก็ตาม และคุณไม่มีทางรู้เลยว่าคำพูดไหนของคุณอาจจะบาดใจเขาไปทั้งชีวิต! คุณมีคำพูดลบของใครที่เขาพูดมานานแล้วจนคนพูดลืมไปแล้ว แต่คุณยังฝังใจอยู่ไหม? นั่นแหละ! อย่าทำสิ่งนี้กับคนอื่น!
.
21. จริงๆแล้วศิลปะของการพูดชม-ตำหนิ หัวใจสำคัญที่สุด คือความจริงใจ ทุกอย่างต้องมีพื้นฐานจากความจริงใจและความอยากให้เสมอ แต่หลักที่ผมอยากให้ยึดก็คือ เวลาชมใครให้ใส่อารมณ์ไปเยอะๆ แต่เวลาจะตำหนิใครให้ใส่เหตุผลเท่านั้น แยกอารมณ์เก็บไว้ก่อนเลย!...และอีกหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของผู้นำทุกคน คือเวลาชมให้ชมต่อหน้า แต่เวลาว่าให้ว่าลับหลังเสมอ ตอนชมคนต้องให้มีคนอื่นอยู่รอบๆเยอะๆ แต่ตอนว่าใครต้อง keep private เท่านั้นเลย
.
22. แต่สิ่งเดียวในโลกที่ห้ามตำหนิ ห้ามดูถูก ห้ามวิจารณ์โดยเด็ดขาด คือเรื่องร่างกายของคน อย่าไปดูถูกรูปร่างหน้าตาของใคร คุณไม่มีสิทธิไปวิจารณ์หรือตัดสินใครในเรื่องนี้ทั้งนั้น!! (ซีเรียสมาก) ยิ่งเอาปมลบคนอื่นมาวิจารณ์ในกลุ่มแบบเป็นเรื่องตลก คนพวกนี้สมควรถูกประนาม...เรื่องพวกนี้ชมได้อย่างเดียว ด่าไม่ได้ แต่ถ้าไม่ชัวร์อย่าพูดถึงเลยดีกว่า มันยังมีเรื่องอีกมากในโลกนี้ที่จะเอามาคุยกันได้
.
23. เวลาคุยกับใครก็ตามต้องทำ 3 อย่างนี้เสมอ หนึ่งคือยิ้มเสมอ เทคนิคการยิ้มที่แนะนำคือเทคนิคการยิ้มแบบแม่ชีเทเรซ่า (คือยิ้มทั้งหน้าและคิดในใจเหมือนส่งกระแสจิตไปว่า ฉันรักคุณนะ) สองคือสบตาตลอด เทคนิคก็คือ ใน 10 วินาทีของการคุย สบตา 8 วิเว้นไปมองอย่างอื่น 2 วิ(เพื่อไม่ให้ดูเคอะเขินและรุกรานเกินไป) เวลาสบตาคือสบตาจริงๆมองเข้าไปในลูกตาดำ ไม่ใช่แค่มองหน้า แต่ถ้ามือใหม่ 8 วิไม่ไหว อนุโลมให้สลับมองคิ้วได้ สามคือพยักหน้าตามตลอด ทั้งสามอย่างที่พร้อมกันเวลาคุยกับใคร ยิ้ม สบตา พยักหน้า ฝึกทำจนเป็นธรรมชาติแล้วคุณจะสงสัยว่าทำไมคุณมีแต่คนที่รักและหวังดีกับคุณเยอะจัง
.
24. ชื่อของคนๆหนึ่ง คือคำที่ไพเราะที่สุดในชีวิตของคนๆนั้น จงหาวิธีที่จะจำชื่อคนในเร็วที่สุดและนานที่สุดในแบบของตัวเอง แล้วเวลาเจอหน้าเขา ให้เริ่มทักทายพร้อมเอ่ยชื่อเขา และพยายามเอ่ยให้บ่อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เขาจะหลงรักคุณโดยไม่รู้ตัว หลักจิตวิทยาคือมนุษย์ทุกคนต้องการการมีตัวตน การที่คุณจำชื่อเขาได้และพูดชื่อเขาบ่อยๆ ทำให้เขามีตัวตนมากขึ้นและเขาจะชอบคุณมากขึ้นไปโดยปริยาย
.
25. จงรักษาคำพูดเสมอ ถ้าคุณบอกจะไปงานนี้ คุณต้องไป ถ้าคุณบอกว่าจะทำสิ่งนี้ คุณต้องทำ ถ้าคุณกลัวทำไม่ได้อย่ารับปากแต่แรก จงคิดก่อนรับปากอะไรใครเสมอ อย่าเสีย commitment บ่อยๆกับใครซ้ำๆ เพราะเขาจะมองว่าคุณเป็นคนแบบนี้ติดในภาพจำของเขาไปทั้งชีวิต
.
จบแล้วนะครับ 2 ตอน รวมกัน 50 ข้อ หลายๆข้อผมตกผลึกจากประสบการณ์ตรง บางข้อผมสังเกตจากผู้ใหญ่ที่นับถือ และหลายข้อผมก็ถูกสอนโดยตรงจนผมรู้สึกโชคดีมาก ซึ่งหลายข้อผมก็กำลังฝึกฝน grooming ตัวเองในนิสัยนั้นๆเหมือนกัน
.
หวังว่า article นี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะครับ ไม่มีข้อไหนเลยที่ต้องใช้เงินลงทุน ทุกข้อลงทุนฟรี และได้ผลตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน


ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/marketinginblack/posts/1781393802075948



สาขา Education BLog




newyorknurse



Create Date : 20 มิถุนายน 2561
Last Update : 6 กรกฎาคม 2561 4:54:42 น. 15 comments
Counter : 4462 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณTui Laksi, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณอุ้มสี, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเพรางาย, คุณmoresaw, คุณเนินน้ำ, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณRananrin, คุณกะว่าก๋า, คุณวลีลักษณา, คุณยังไงก็ได้ว่ามาเลย, คุณmambymam


 
หลายข้อ ที่เพิ่งทราบจากบทความนี้เลยคะ
ขอบคุณคุณพี่น้อยด้วยคะที่นำมาแบ่งปัน


โดย: Tui Laksi วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:7:21:44 น.  

 
จะพยายาม
ทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นะคะพี่น้อย


Vote ค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:8:04:48 น.  

 
newyorknurse Education Blog ดู Blog
เยี่ยมเลยค่ะพี่น้อย



โดย: หอมกร วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:8:08:23 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
newyorknurse Education Blog ดู Blog

เป็นเรื่องที่ต้องบอกคนไทยเลยค่ะพี่น้อย
เพราะเป็นเรื่องที่ต้องรู้ต้องทำจริงๆ
เยี่ยมค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:8:54:00 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์มากค่ะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:10:54:43 น.  

 
พยายามอ่านจนจบ

เป็นข้อแนะนำที่ดี
เพราะบางอย่างเราก็อาจจะหลงลืมไป
ได้มาอ่านจะได้ทบทวนและจดจำไปใช้

ขอบคุณนะคะ ที่นำมาให้ได้อ่าน


โดย: เพรางาย วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:14:14:53 น.  

 
เป็นมารยาทที่ควรฝึกให้เป็นนิสัยจริง ๆ ค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 6 กรกฎาคม 2561 เวลา:20:27:52 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่น้อย

สิ่งละอันพันละน้อยตามข้อที่สอนมา
ล้วนเป็นสิ่งที่ดีและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงๆ

โรงเรียนไม่ค่อยได้สอนเรื่องราวเหล่านี้
ทั้งๆที่มันใช้ในชีวิตจริงนะครับ


โหวตครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:6:28:20 น.  

 
ขอบคุณ คุณ newyorknurse มากนะคะ
ที่แวะไปเยี่ยมชมบล็อกของริน
หนังสือเล่มนี้ดีมากเลยค่ะ ให้เรามองเห็น
ความสุขใกล้ๆ ที่บางทีเราอาจมองข้ามไปค่ะ

และขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่แบ่งปันด้วยนะคะ
จะนำไปปรับใช้ในชีวิตค่ะ ^^


โดย: Rananrin วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:6:31:53 น.  

 
การแต่งตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่งใช่เลยค่ะ


โดย: วลีลักษณา วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:7:39:45 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่น้อย
รู้สึกจะยังขาดอีกหลายข้อมาก ๆ ๆ เลยค่ะพี่น้อย
จะพยายามมองความสำคัญ
ของหลายๆ เรื่องมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ



โดย: ยังไงก็ได้ว่ามาเลย วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:8:10:31 น.  

 
สวัสดีก่อนเที่ยงค่ะ

ขอบคุณที่ไปดูแมวเหมียวค่าาาา


โดย: เพรางาย วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:11:15:03 น.  

 
มีหลายอย่างเลยค่ะที่ต้องปรับปรุง
เช่นแต่งตัวเสมือนต้องไปพบประธานบริษัท
บางทีในเวลาทำงาน
เราก็เคร่งครัดกับการแต่งยูนิฟอร์ม
นอกเวลาก็เผลออยากสบายๆบ้าง555

ส่วนเรื่องการรับโทรศัพท์
ถ้าเกิน 1ชั่วโมงไปแล้ว
หรือเราต้องรีบไปทำอย่างอื่น
ก็ต้องขอวางสายก่อนบ้าง

คงต้องนำมาประยุกต์ใช้
ไปตามสถานการณ์นะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: แอมป์อร (peeamp ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:12:46:25 น.  

 
อ่านๆแล้วรู้สึกว่า น่าจะมีการสอนในชั้นเรียนอ่ะค่ะ
คิดถึงวิชา สลน. สมัยก่อนเลยค่ะ
สมัยเป็นเด็กๆ จำได้ว่าคุณครูจะสอน
เรื่องมารยาทต่างๆก่อนเรียนด้วยนะคะ
เรียนโรงเรียนคาทอลิค ซิสเตอร์เป็นชาวต่างชาติ
ก็จะพูดถึงมารยาทต่างๆด้วย
ในปัจจุบันนี้ก็น่าจะมีบ้างนะคะ


โดย: Artagold วันที่: 7 กรกฎาคม 2561 เวลา:17:01:53 น.  

 
เป็นบทความและเป็นความรู้ที่ดีมากเลยค่ะ
ต้องนำไปใช้บ้างค่ะ






โดย: mambymam วันที่: 8 กรกฎาคม 2561 เวลา:7:30:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2561
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
20 มิถุนายน 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.