มือใหม่หัดภาวนา จะเริ่มต้นด้วยการรักษาศีล ทำอย่างไร
ถ้าท่านเป็นมือใหม่ด้านการภาวนา และได้รับคำแนะนำมาจากการถามในเวปบอร์ดว่า การภาวนาต้องริ่มต้นด้วยการรักษาศีลก่อน จะเป็นศีล 5 หรือ ศีล 8 ก็ได้ เมื่อศีลบริสุทธิแล้ว จึงไปหัดทำสมาธิต่อไป ท่านอาจมีคำถามในใจว่า การรักษาศีล5 หรือ ศีล 8 ให้บริสุทฺธิ์จะมีวิธีการอย่างไร เพราะเป็นฆราวาส ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ ต้องโกหกลูกค้าบ้าง ต้องดื่มสุราเข้าสังคม เลี้ยงลูกค้าเสมอ ๆ ศีลไม่มีวันบริสุทธิได้เลย จะให้ทำอย่างไรดี เรื่องนี้ ผมขอให้ท่านทำใจให้กว้างสักหน่อยในการอ่านความคิดเห็นของผม ซึ่งมีดังนี้ ศีล5 ศีล8 ที่กล่าวกัน เป็นศีลสังคม หรือ บางท่านเรียกว่า ศีลวิรัตน์ ( ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่าคำนี้ ต้องขออภัย ) เป็นศีลที่กำหนดขึ้นเพื่อความสงบสุขในสังคมครับ สำหรับ ศีลในการภาวนาเพื่อการพ้นทุกข์ นั้นเป็นศีลอีกประเภทหนึ่ง เป็นศีลที่เกิดจากการเจริญสัมมาสติ จนสัมมาสมาธิมีความตั้งมั่น เมื่อเกิดสัมมาสมาธิขึ้น จิตใจจะสงบระงับด้วยกำลังแห่งสัมมาสมาธินั้น นี่คือศีลได้เกิดแล้ว เมื่อใจสงบระงับด้วยสัมมาสมาธิ นี่ก็คือ สมาธิได้เกิดแล้ว เมื่อสัมมาสมาธิตั้งมั่น ก็จะรู้เห็นสภาวะธรรมตามความเป็นจริงที่ว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา เราไม่ใช่ขันธ์ 5 ขันธ์ 5 เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งสภาวะแบบนี้ ในตำราจะเรียกว่า การเกิด .มรรคสมังคี. ขึ้น ผมขอสรุปว่า การปฏิบัติภาวนาเพื่อการพ้นทุกข์นั้น ให้เริ่มจากการศีกษาให้เข้าใจเรื่องของ 1 ความรู้สึกตัว 2. สัมมาสติ สัมมาสมาธิ 3. ขันธ์ 5 คืออะไร ประกอบด้วยอะไร เมื่อศึกษาให้เข้าใจแล้ว ต่อไปท่านก็สามารถลงมือปฏิบัติต่อไปได้ด้วยการหมั่นเพียรในการเจริญ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ อยู่บ่อย ๆ แล้วผลแห่งปัญญาเพื่อการพ้นทุกข์ก็จะเกิดในจิตใจของท่านได้ต่อไป เมื่อ .มรรคสมังคี.ได้เกิดขึ้นแก่จิตใจของท่าน
Create Date : 15 ธันวาคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:30:26 น.
1 comments
Counter : 1243 Pageviews.
โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:42:18 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog
ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com
หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน