BlogGang.com : : นมสิการ : เมื่อรู้วิธีการ แล้ว จะง่ายเอง

เมื่อรู้วิธีการ แล้ว จะง่ายเอง - มุมมือเก่า

สมัยผมเรียนมัธยม วิชาเลขคณิต มีการสอนวิธีถอด รากที่ 2 รากที่ 3
ในตอนนั้น ผมเคยคิดเหมือนกันว่า คนที่เขาคิดวิธีการนี้ได้ ช่างอัจฉริยะที่สุด
ถ้าท่านไม่ทราบวิธีการ ท่านจะไม่มีทางถอดรากที่ 2 รากที่ 3 ได้เลย นอกจากจะใช้เครื่องคิดเลข คิดเอา

ในการปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน สิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในคำสอนวิธีการปฏิบัติ นั้น ยังไม่อาจจะทำให้ท่านที่ปฏิบัติตามเข้ามาพบกับสภาวะธรรมแท้ได้อย่างแท้จริง แต่การปฏิบัติตามคำสอนนั้น จะเป็นสื่อให้ท่านได้พบวิธีการที่จะพบเห็นกับสภาวะธรรมทีแท้ได้ เมื่อท่านได้พบแล้ว ท่านจะมีวิธีการปฏิบัติของท่านเอง ที่เป็นเฉพาะตัว เป็นอะไรที่ง่าย ๆ เพราะท่านทราบวิธีการแล้ว ดังเช่น ที่ผมยกตัวอย่างเรื่องการถอดรากที่ 2 รากที่ 3

ครูอาจารย์หลาย ๆ ท่าน ก็บอกตรงกันว่า เมื่อก่อน โง่ จริง ๆ ของมันอยู่ตำตาข้างหน้า แต่กลับไม่เห็นได้

การพบเห็นสถาวะทีแท้จริงนั้น อย่าพยายาม เพราะพยายามอย่างไร ก็จะไม่เห็น กลับเป็นอุปสรรคเสียอีก แต่นักปฏิบัติควรฝึกฝนตามรูปแบบให้มั่นคง จากนั้น สัมมาสติ สัมมาสมาธิที่มั่นคง นั้นเมื่ออยู่ในสภาวะชีวิตธรรมดา จะทำงานของมันเองอย่างถูกต้อง โดยไม่มีความพยายามใด ๆ ประกอบในนั้นเลย และ ถ้าจังหวะดี ๆ มันจะโผล่แว๊บมาให้เห็น และ เมื่อท่านเห็นมันครั้งแรกได้ ท่านจะรู้ได้ทันทีเลยว่า จะเห็นมันได้บ่อย ๆ ได้อย่างไร โดยเป็นวิธีการเฉพาะของท่านเอง

อีกประการหนึ่ง อย่าได้ยึดติดกับตำรา ว่าการปฏิบัติจะต้องผ่านขั้นโน้น ขั้นนี่มาตามลำดับ เช่นพวกฌาน พวก วิปัสสนาญาณ 16 เพราะถ้าท่านคิดตำรา จิตท่านจะกังวล และ จะเป็นผลเสียต่อการปฏิบัติของท่านเอง

คนไทยส่วนมาก มักเชื่อกันว่า การปฏิบัติต้องมีลำดับอย่างนี้คือ
ทาน ศีล ภาวนา จึงพยายามทำให้เข้ากรอบตามแบบที่เข้าใจแบบนี้
การติดในรูปแบบจึงเกิดขึ้น และเป็นทางตันของนักปฏิบัติเอง

เมื่อนักปฏิบัติเห็นธรรม ก็สักแต่ว่าเห็นเช่นกัน แต่สภาวะในจิตใจนั้น จะไม่เหมือนเดิม การยึดติดในทุกข์จะน้อยลงตามลำดับ ซึ่งผมอธิบายไม่ได้ว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น และผมก็ไม่มีความพยายามจะหาเหตุผลด้วยว่าทำไม เพราะการหาเหตุผล ล้วนมาจากความคิด อันเป็นจิตตสังขาร ไม่ใช่ของแท้นั้นเอง

เมื่อมาถึงจุดนี้ ผมกลับเห็นว่า สิ่งที่กล่าวในตำราเป็นฉาก ๆ ดังละครทีวีเรื่องยาว เป็นสิ่งที่เกิดจาก จิตตสังขารที่พยายามคิดหาเหตุผลประกอบออกมาสนับสนุนความเห็นของตนเอง และ น้อมใจเชื่อแก่บุคคลอื่นทีได้อ่าน ที่ได้ฟัง

หนทางยังมีอยู่ แต่อย่ายึดติดในสิ่งใด ๆ เท่านั้น

พูดง่ายครับ แต่ทำได้ยากมาก จนกว่า ท่านจะได้พบวิธีการ ด้วยตัวของท่านเอง เสียก่อน

แนะนำอ่าน
รู้ธรรมเห็นธรรม คือ เห็นอะไร
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2009&date=08&group=1&gblog=105

Create Date : 20 ตุลาคม 2552

Last Update : 29 มกราคม 2555 18:34:34 น.

4 comments

Counter : 970 Pageviews.

ยังตามอ่านอยู่เสมอค่ะ

โดย: kaoim IP: 119.31.126.141 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:8:15:22 น.

โดย: นมสิการ

วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:17:35:59 น.

อนุโมทนาบุญค่ะ

โดย: นาฬิกาสีชมพู

วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:11:59 น.

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

โดย: นมสิการ

วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:58:06 น.