1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
เมื่อเข้าใจขบวนการของความคิดแล้ว ทุกข์ก็จะดับเอง
ในการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์นั้น สิ่งที่ทำให้คนเป็นทุกข์ ก็คือ คนหลงเข้าไปในโลกของความคิดแล้วติดกับอยู่ในความคิดนั้น ๆ ไม่สามารถหลุดออกมาจากโลกมายานี้ได้ ++++ ดังนั้น ขั้นต้นของการดับทุกข์ก็คือ การที่คนสามารถหลบหนีออกจากความคิดของตนเองได้ การพัฒนากำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ก็คือ สิ่งนี้ คือมีกำลังพอที่จะหนีออกจากความคิดของตนเองที่กำลังทำร้ายตนเองอยู่นั้นเอง ++++ ขั้นต่อไปของการดับทุกข์ คือ การเข้าใจ ความเป็นมายาแห่งความคิด เพียงแต่ผู้ปฏิบัติธรรมมีกำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ที่มั้นคงมากขึ้นกว่าเดิมจากข้อ 1 เขาก็จะ <เห็น> ขบวนการทำงานของความคิดของตนเอง และ เข้าใจความเป็นมายาของความคิดของตนเอง เมื่อเขาเข้าใจแล้ว เขาก็จะรู้เองว่า อันว่า ความคิดที่เคยทำให้ตนเองเดือนร้อนอยู่เสมอ ๆ ก็คือ สิ่งที่เป็นมายา ไม่ใช่ของจริง แล้ว เขาจะไม่ยึดถือความคิดเอง อารมณ์ต่าง ๆ ในจิตใจ กิเลส ตัณหา ล้วนแต่มาจากรากเง้าของความคิดทั้งสิ้น ที่เขียนมา ดูเหมือนง่าย แต่ที่แท้จริง ไม่ง่ายเลย เพราะการฝึกฝนเพื่อให้ได้กำลังสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เพื่อที่สามารถจะตัดความคิดที่กำลังทำร้ายตนเองอยู่ได้นั้น ต้องเป็นการฝึกฝนที่ถูกต้อง และ มีความเพียรในการฝึกฝนอยู่เสมอ และ ใช้เวลาในการฝึกฝนที่ยาวนาน กว่า ผลของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ จะออกมาและใช้งานได้จริง *** ท้ายบทความ ภาพที่พร่ามัว ย่อมมองไม่ชัด Business objection ไม่ชัดเจนย่อมไม่สามารถพาองค์กรสู่เป้าหมายได้ เป้าหมายการปฏิบัติธรรมที่ผิดพลาด ย่อมไม่ส่งผลที่ตรงในการดับทุกข์ได้จริง
Create Date : 29 มีนาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:11:38 น.
1 comments
Counter : 1200 Pageviews.
โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:17:31 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog
ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com
หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน