รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
ทำไมฝึกฝนการปฏิบัติสติปัฏฐานแล้ว จึงรุ้สึกว่าโกรธง่ายขึ้นกว่าเดิม

มีคำถามที่น่าสนใจจากญาติธรรมท่านหนึ่งที่ถามมาว่า
ทำไมฝึกฝนการปฏิบัติสติปัฏฐานแล้ว จึงรู้สึกว่าโกรธง่ายขึ้นกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าฝึกมาผิดทางหรือไม่ ในเมื่อใคร ๆ ก็บอกว่าปฏบัติธรรมแล้วจะทำให้จิตใจสงบและเย็นลง ทำไมจึงได้ผลที่ตรงกันข้าม

เรื่องนี้ผมมีความเห็นดังนี้ครับ

เมื่อได้ลงมือฝึกฝนสติปัฏฐานไปแล้ว จิตรู้จะเริ่มมีกำลังมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อจิตรู้มีกำลังมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้จิตรู้มีความสามารถในการรับรู้สภาวะของจิตปรุงแต่งได้ไวขึ้น เมื่อจิตรู้ รู้ได้ไวขึ้นจึงทำให้สามารถที่จะจับความรู้สึกได้ไวมากขึ้น จึงทำให้รู้สึกว่า ตัวเองโกรธง่ายขึ้น

ยิ่งท่านลงมือฝึกฝนมากขึ้นไปอีก ท่านจะพบกับกองกิเลสต่าง ๆ โผล่หน้าขึ้นมาสลอน กิเลสบางตัวไม่เคยเกิดเลย แต่ก็มาเกิดขึ้นเมื่อได้ฝึกฝนสติปัฏฐาน นี่คือล้วนมาจากการที่จิตรู้มีการพัฒนาการรู้ทีไวมากขึ้นนั้นเอง

ถ้าเปรียบทางโลก ถ้าไม่มีกล้องจุลทรรศน์ คนมองไม่เห็นเชื้อโรค ก็เข้าใจว่า สิ่งต่าง ๆ รอบตัวนี้สอาดดีแล้ว พอมีคนทำกล้องจุลทรรศน์ขึ้นมา ก็พบเชื่อโรคขึ้น ยิ่งมีการพัฒนากล้องจุลทรรศน์เป็นกล้องแบบอิเล็คตรอน ก็ยิ่งเห็นเชื่อโรคเต็มไปหมดทุกหนทุกแห่ง

การเห็นกองกิเลสมากขึ้นเป็นสิ่งทีดี แต่ผู้ฝึกฝนยังต้องหมั่นฝึกฝนต่อไป ให้จิตรู้มีความสามารถตั้งมั่นมากขึ้น จนกิเลสจะไม่สามารถดึงจิตรู้เข้าไปผสมผสานกลายเป็นว่า กิเลสนี้เป็นตัวเราขึ้นมา
(เพื่อความเข้าใจ ขอให้อ่านเรื่อง ชักกะเย่อ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=07-2009&date=28&group=1&gblog=68 )

ในการปฏิบัติ กิเลสที่เกิดขึ้น จิตรู้ จะเห็นเป็นก้อนพลังงานที่โผล่วูบขึ้นมาในความว่าง เมื่อจิตรู้เห็นกิเลสนั้น ถ้าจิตรู้ตั้งมั่นอยู่ ก้อนพลังงานจะดับลงไปอย่างอัตโนมัติทันที ทำให้กิเลสที่เกิดขึ้น ไม่สามารถเข้าย้อมจิตใจให้หลงไปกับกิเลสที่เกิดมานั้นเลย

อย่าไปกลัวกิเลสที่เกิดขึ้น เพราะนี่คือหนทางแห่งปัญญาของจิตรู้
การกดไม่ให้กิเลสขึ้น จะทำให้ไม่เกิดปัญญาครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านสมควรฝึกฝนเพื่อให้จิตรู้มีกำลังตั้งมั่น

แนะนำอ่าน
ขอบคุณ กิเลส ที่โผล่มาให้เห็น -มุมปัญญา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2009&date=14&group=5&gblog=2

*****
เพิ่มเติม

นอกจากจะเห็นกองกิเลสที่มากขึ้นแล้ว ผู้ปฏิบัติยังรู้สึกได้ถึงการผิดปรกติของร่างกายด้วย เช่น ทำไมจึงเจ็บตรงโน้นเจ็บตรงนี้ขึ้นมา เป็น ๆ หาย ๆ
ไปหาหมอ ก็ไม่พบอะไรผิดปรกติไป

ยิ่งผู้ปฏิบัติที่ได้ลงมือปฏิบัติไปมาก ๆ จนชำนาญ
จะมีความรู้สึกอย่างหนึ่งเกิดขึ้น
คือ รู้สึกว่า กายนี้กำลังจะตาย อาการนี้จะเป็น ๆ หาย ๆ ครับ
ไม่ต้องตกใจ มันเป็นอย่างนั้นของมันเอง
ถ้าท่านปฏิบัติมามากจริง ๆ จนชำนาญ
ท่านจะมองเห็นเรื่องตายไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ




Create Date : 18 ธันวาคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:30:01 น. 1 comments
Counter : 1062 Pageviews.

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:41:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.