จิตที่ไม่ได้ฝึก เหมือนเด็กใจแตก -มุมมือใหม่
เด็กใจแตก คำ ๆ นี้หมายถึง เด็กที่ไม่อยู่ในโอวาสของผู้ใหญ่ มักจะทำอะไรออกนอกทางอยู่เรื่อย ๆ มักจะเที่ยวเตร่ออกนอกบ้านเสมอ ผู้ใหญ่ตักเตือนสั่งสอนอย่างไรก็ไม่ฟัง จิตปุถุชน ที่ยังไม่ได้ฝึกฝนตามอริยมรรค จะเหมือนเด็กใจแตก
มาดูอาการของจิต ที่เทียบกับเด็กใจแตกกันครับ
1.เมื่อมีสิ่งเร้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตก็จะไหลเข้าไปยึดติดกับสิ่งเร้านั้นทันที เทียบกับเด็กใจแตก ก็คือ เพื่อนชวนไปนอกบ้าน ไปทำอะไรก็ไปทันที โดยไม่มีการไตร่ตรองใด ๆ ว่าสิ่ที่เพื่อนชวนไปมันเหมาะสมหรือไม่ ผิดกฏหมายบ้านเมืองหรือไม่
2.จิตที่ไม่ได้ฝึกฝน มักจมอยู่กับโมหะ ความไม่รู้สึกตัว เมื่อจิตจมอยู่กับโมหะ จิตก็ตกเป็นทาสของกิเลสทันที เทียบกับเด็กใจแตก ก็คือ เด็กใจแตก ที่วัน ๆ จมอยู่กับสุรา มัวเมาในยาเสพย์ติด เมาทั้งวันทั้งคืน ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย เพราะเมาค้างอยู่อย่างนั้น
**** สำหรับจิตที่ฝึกมาดีแล้ว จะเหมือนเด็กที่อยู่โอวาสของพ่อแม่ เมื่อ มีสิ่งเร้ามากระทบจิตทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตก็ยังอยู่กับฐานที่มั่น ไม่ไหลไปตามสิ่งเร้านั้น ถ้าเทียบกับเด็ก ก็เปรียบได้ว่า เพื่อนมาชวนออกไปนอกบ้าน จะไม่ไป แต่จะเล่นอยู่ภายในบ้านของตนเอง โดยมีผู้ใหญ่คอยกำกับดูแลการเล่นอยู่ ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ( ผู้ใหญ่ เปรียบได้เหมือน ความรู้สึกตัว )
*** เมื่อท่านเป็นมือใหม่ที่กำลังฝึกฝนการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 จิตของท่านจะยังเหมือนเด็กใจแตกอยู่ นั่นเพราะว่า ความคุ้นเคยของจิตที่หลงไหลไปกับสิ่งเร้าที่เข้ากระทบทางระบบประสาท ท่านไม่ต้องตกใจ ถึงกับตำหนิตนเองว่า ทำไมจิตถึงเป็นแบบนั้น ขอให้ท่านใจเย็น หมั่นฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ แบบไม่หวังผล เมื่อท่านฝึกฝนมาก ๆ เข้า (ภาษาพระ เรียกว่า วสี ) จิตใจที่หลงไหลไปตามสิ่งเร้า ก็จะค่อย ๆ เข้าที่เข้าทางไปทีละนิด ทีละนิด ท่านต้องใจเย็น และอดทน ในการฝึกฝน ไม่ใช่ฝึกเพียง 3 เดือน ไม่ได้อะไร ก็เลิกซะแล้ว ถ้าท่านมีลูก ขอให้ท่านพิจารณาดู ท่านจะสอนลูกตั้งแต่เด็กเล็ก จนลูกเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่ท่านสอนลูกเพียง 3 เดือน ก็หยุดสอน จริงไหมครับท่าน จิตใจก็เช่นกัน ท่านต้องบ่มเพาะจิตด้วยสติปัฏฐาน 4 ไปตลอด จนกระทั้ง จิตนั้นอยู่ในโอวาส ของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ซึ่งเมื่อจิตอยู่ในโอวาสแล้ว นั้นคือท่านชำนาญแล้ว ท่านจะมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเปรียบเหมือนกับว่า ท่านฝึกโดยไม่ต้องฝึก เพราะมันฝึกอยู่ในตัวตลอดเวลาแล้ว
ท่านอาจถามว่า จะต้องฝึกไปนานแค่ไหนกัน ถ้าไม่ใช่ 3 เดือน ผมตอบท่านไม่ได้ ในเรื่องนี้ แต่ถ้าท่านเป็นชาวพุทธ และเชื่อในองค์พระศาสดา ที่ท่านสอนในหนทางแห่งการพ้นทุกข์ที่แท้จริง ท่านก็สมควรที่จะเดินตามมิใช่หรือครับ มันจะนานสักเท่าใด ขอให้ท่านอย่าได้ใส่ใจ ฝึกไปเรื่อย ๆ นั้นแหละ เหมือนท่านกินข้าว ที่ท่านต้องกินทุกวัน
เมื่อท่านฝึกไปเรื่อย ๆ ท่านจะพบกับประสบการณ์ทางจิต ที่มีการพัฒนาของจิตขึ้นมาเรื่อย ๆ ผมบอกไม่ได้เช่นกันว่า ท่านจะพบอะไร เพราะแต่คนจะไม่เหมือนกัน แต่เมื่อไรก็ตามที่ท่านฝึกไปเรื่อย ๆ จนถึงวันหนึ่ง ท่านจะรู้ตัวเองว่า เด็กใจแตกนั้น บัดนี้ได้เลิกใจแตกแล้ว เขาจะอยู่กับบ้านไม่หนีไปเทียวเตร่ที่ไหนอีกแล้ว ท่านจะรู้ตัวของท่านเอง ท่านไม่ได้คิดไปอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าท่านจะต้องจากโลกนี้ไป ท่านจะไม่เสียดายชิวิตที่เกิดมาแล้วพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ความกลัวในโลกหน้าที่อาจจะลำบากก็จะไม่มีในใจท่าน เพราะจิตท่านเข้าใจและรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งเหล่านี้ มันออกมาจากจิตของท่านทั้งนั้น
ทั้งหมดนี้จะเป็นไป เมื่อ เด็กเลิกใจแตก ครับท่าน
Create Date : 27 ธันวาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:29:11 น. |
Counter : 1265 Pageviews. |
|
|
|
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog
ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com
หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน