รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

จิตที่ไม่ได้ฝึก เหมือนเด็กใจแตก -มุมมือใหม่

เด็กใจแตก คำ ๆ นี้หมายถึง เด็กที่ไม่อยู่ในโอวาสของผู้ใหญ่ มักจะทำอะไรออกนอกทางอยู่เรื่อย ๆ มักจะเที่ยวเตร่ออกนอกบ้านเสมอ ผู้ใหญ่ตักเตือนสั่งสอนอย่างไรก็ไม่ฟัง จิตปุถุชน ที่ยังไม่ได้ฝึกฝนตามอริยมรรค จะเหมือนเด็กใจแตก

มาดูอาการของจิต ที่เทียบกับเด็กใจแตกกันครับ

1.เมื่อมีสิ่งเร้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตก็จะไหลเข้าไปยึดติดกับสิ่งเร้านั้นทันที เทียบกับเด็กใจแตก ก็คือ เพื่อนชวนไปนอกบ้าน ไปทำอะไรก็ไปทันที โดยไม่มีการไตร่ตรองใด ๆ ว่าสิ่ที่เพื่อนชวนไปมันเหมาะสมหรือไม่ ผิดกฏหมายบ้านเมืองหรือไม่

2.จิตที่ไม่ได้ฝึกฝน มักจมอยู่กับโมหะ ความไม่รู้สึกตัว เมื่อจิตจมอยู่กับโมหะ จิตก็ตกเป็นทาสของกิเลสทันที เทียบกับเด็กใจแตก ก็คือ เด็กใจแตก ที่วัน ๆ จมอยู่กับสุรา มัวเมาในยาเสพย์ติด เมาทั้งวันทั้งคืน ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย เพราะเมาค้างอยู่อย่างนั้น

****
สำหรับจิตที่ฝึกมาดีแล้ว จะเหมือนเด็กที่อยู่โอวาสของพ่อแม่
เมื่อ มีสิ่งเร้ามากระทบจิตทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตก็ยังอยู่กับฐานที่มั่น ไม่ไหลไปตามสิ่งเร้านั้น ถ้าเทียบกับเด็ก ก็เปรียบได้ว่า เพื่อนมาชวนออกไปนอกบ้าน จะไม่ไป แต่จะเล่นอยู่ภายในบ้านของตนเอง โดยมีผู้ใหญ่คอยกำกับดูแลการเล่นอยู่ ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ( ผู้ใหญ่ เปรียบได้เหมือน ความรู้สึกตัว )

***
เมื่อท่านเป็นมือใหม่ที่กำลังฝึกฝนการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 จิตของท่านจะยังเหมือนเด็กใจแตกอยู่ นั่นเพราะว่า ความคุ้นเคยของจิตที่หลงไหลไปกับสิ่งเร้าที่เข้ากระทบทางระบบประสาท ท่านไม่ต้องตกใจ ถึงกับตำหนิตนเองว่า ทำไมจิตถึงเป็นแบบนั้น ขอให้ท่านใจเย็น หมั่นฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ แบบไม่หวังผล เมื่อท่านฝึกฝนมาก ๆ เข้า (ภาษาพระ เรียกว่า วสี ) จิตใจที่หลงไหลไปตามสิ่งเร้า ก็จะค่อย ๆ เข้าที่เข้าทางไปทีละนิด ทีละนิด ท่านต้องใจเย็น และอดทน ในการฝึกฝน ไม่ใช่ฝึกเพียง 3 เดือน ไม่ได้อะไร ก็เลิกซะแล้ว ถ้าท่านมีลูก ขอให้ท่านพิจารณาดู ท่านจะสอนลูกตั้งแต่เด็กเล็ก จนลูกเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่ท่านสอนลูกเพียง 3 เดือน ก็หยุดสอน จริงไหมครับท่าน จิตใจก็เช่นกัน ท่านต้องบ่มเพาะจิตด้วยสติปัฏฐาน 4 ไปตลอด จนกระทั้ง จิตนั้นอยู่ในโอวาส ของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ซึ่งเมื่อจิตอยู่ในโอวาสแล้ว นั้นคือท่านชำนาญแล้ว ท่านจะมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเปรียบเหมือนกับว่า ท่านฝึกโดยไม่ต้องฝึก เพราะมันฝึกอยู่ในตัวตลอดเวลาแล้ว

ท่านอาจถามว่า จะต้องฝึกไปนานแค่ไหนกัน ถ้าไม่ใช่ 3 เดือน ผมตอบท่านไม่ได้ ในเรื่องนี้ แต่ถ้าท่านเป็นชาวพุทธ และเชื่อในองค์พระศาสดา ที่ท่านสอนในหนทางแห่งการพ้นทุกข์ที่แท้จริง ท่านก็สมควรที่จะเดินตามมิใช่หรือครับ มันจะนานสักเท่าใด ขอให้ท่านอย่าได้ใส่ใจ ฝึกไปเรื่อย ๆ นั้นแหละ เหมือนท่านกินข้าว ที่ท่านต้องกินทุกวัน

เมื่อท่านฝึกไปเรื่อย ๆ ท่านจะพบกับประสบการณ์ทางจิต ที่มีการพัฒนาของจิตขึ้นมาเรื่อย ๆ ผมบอกไม่ได้เช่นกันว่า ท่านจะพบอะไร เพราะแต่คนจะไม่เหมือนกัน แต่เมื่อไรก็ตามที่ท่านฝึกไปเรื่อย ๆ จนถึงวันหนึ่ง ท่านจะรู้ตัวเองว่า เด็กใจแตกนั้น บัดนี้ได้เลิกใจแตกแล้ว เขาจะอยู่กับบ้านไม่หนีไปเทียวเตร่ที่ไหนอีกแล้ว ท่านจะรู้ตัวของท่านเอง ท่านไม่ได้คิดไปอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าท่านจะต้องจากโลกนี้ไป ท่านจะไม่เสียดายชิวิตที่เกิดมาแล้วพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ความกลัวในโลกหน้าที่อาจจะลำบากก็จะไม่มีในใจท่าน เพราะจิตท่านเข้าใจและรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งเหล่านี้ มันออกมาจากจิตของท่านทั้งนั้น

ทั้งหมดนี้จะเป็นไป เมื่อ เด็กเลิกใจแตก ครับท่าน






 

Create Date : 27 ธันวาคม 2552
1 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:29:11 น.
Counter : 1265 Pageviews.

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 18:39:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.