การเข้าถึงสภาวะนิพพาน ในความเห็นของผม
สภาวะนิพพานจะเข้าถึงได้ ต้องเข้าทางด้านปัญญาเท่านั้น ให้จิตเกิดการเข้าใจและเกิดปัญญาขึ้นมาเอง เมื่อจิตเข้าใจ เกิดการปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นในสมมุติบัญญัติ จิตก็จะถึงสภาวะนิพพาน คำถามที่มักเกิดบ่อยก็คือ ทำอย่างไร จิตจึงจะเข้าใจ และเกิดการปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นในสมมุติบัญญัติ เมื่อมีการฝึกฝนพัฒนาจิตรู้ จนจิตรู้เข้าใจความเป็นปรมัตถ์ธรรมของขันธ์ 5 ได้อย่างโชกโชนแล้ว และเข้าใจความเป็นมายาของสมมุติบัญญัติเป็นอย่างดีแล้ว นี่คือปัญญาขั้นต้นที่ป้อนให้แก่จิตเพื่อเป็นฐานของปัญญาเพื่อเข้าถึงนิพพานต่อไป ต่อไปจิตเขาจะดำเนินงานของเขาเอง ผู้ปฏิบัติไม่ต้องทำอะไรเลย เมื่อเข้าถึงสภาวะอะไรสักอย่างหนึ่ง จิตเกิดความรู้โพล่งขึนมา เข้าใจในปรมัตถ์ธรรม เข้าใจในสมมุตบัญญัติ เกิดการปล่อยวางทันทีในสมมุติบัญญัตินั้น ก็คือการเข้าสู่ภาวะนิพพาน หมดสิ้นของการยึดมั่นถือมั่นในจิตใจ เพราะเข้าใจดีแล้วถึงความไม่มีแก่นสารของสมมุติบัญญัติ เพราะเขาใจได้ดีถึงความเป็นไตรลักษณ์ ความเป็นอนัตตาแห่งปรมัตถ์ธรรม สรรพสิ่งล้วนเป็นของว่างเพราะเหตุนี้ ที่ไม่วางเพราะไม่เข้าใจเลยเกิดการไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่พบเห็นเข้านั่นเอง ที่จริงเรื่องการเข้าถึงนิพพาน ก็มีการเขียนไว้ในพระไตรปิฏก เช่น อนัตตลักษขณะสูตร ที่พระพุทธองค์โปรดปัจจัคคีย์ //www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=04&A=479&Z=575 แต่ด้วยความมืดบอดแห่งปัญญา ที่ยังยึดติดในสมมุติบัญญัติ ที่ทำให้เข้าใจว่า นิพพาน น่าจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ตามความคิดเองของคนไม่รู้จักนิพพาน จึงทำให้มองไม่ออกถึงทางที่เข้าสู่นิพพาน เมื่อเข้าใจนิพพาน จะเข้าใจได้ว่า การเข้าถึงนิพพานจะว่าง่ายก็ง่ายเหมือนเส้นผมบังภูเขา จะว่ายากก็ยากมากเพราะไม่รู้จัก ทั้ง ๆ ที่มันก็อยู่ของมันอย่างนั้นแหละที่มองไม่ออกเอง ครั้นจะเปรียบเทียบให้ฟัง ก็ยากยิ่งที่จะอธิบาย จึงพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ของง่ายก็เลยกลายเป็นยากไปด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ กรุณากลับไปอ่านที่หัวข้อเรื่องอีกทีนะครับ ถ้าท่านไม่อ่านหัวข้อเรื่องใหม่ ท่านอาจจะเข้าใจอะไรไปเอง จากที่อ่านบทความนี้ได้ครับ หมายเหตุ บทความนี้ต่อเนื่องจากบทความเรื่อง การเห็นขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวตน เป็นไตรลักษณ์ ต้องเห็นด้วยจิตรู้เท่านั้น//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=12-2009&date=16&group=5&gblog=40
Create Date : 17 ธันวาคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:30:12 น.
1 comments
Counter : 836 Pageviews.
โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:41:36 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog
ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com
หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน