ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...
บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้
เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง
**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **
สมมุติว่าท่านเห็นสุนัข ขบวนการจะเริ่มต้นที่เกิดการเห็นขึ้นก่อน พอมีการเห็นแล้ว ก็จะเกิดขบวนการแปลการเห็นนั้น ๆ ว่าเป็นอะไร โดยมีการเชื่อมต่อไปยังสัญญาขันธ์ ถ้าสิ่งที่เห็นอยู่ มีการเห็นมาก่อนละมีการตั้งชื่อมาก่อน ท่านก็จะรู้ว่าสิ่งที่เห็นนี่คือสิ่งที่เรียกกันว่า .สุนัข.
แต่ถ้าเป็นเด็กทารก ที่ยังไม่รู้จักการเรียกสัตว์ตัวนี้ว่า .สุนัข. เด็กทารกจะเห็นเหมือนท่านทุกอย่าง เพียงแต่ไม่อาจเข้าใจได้ว่่า สิ่งที่เห็นนี้ เขาเรียกมันว่า .สุนัข.
ขบวนการนี้เข้าใจยากลำบากพอสมควร เพราะมันป็นความเคยชินในตนทั่ว ๆ ไปแล้ว เมื่อมีการเห็นสิ่งใด ได้ยินสิ่งใด ก็มีการแปลในสิ่งที่เห็นสิ่งที่ได้ยินทันทีอย่างรวดเร็ว และเกิดการเชื่อว่า สิ่งที่เห็นนี้ สิ่งที่ได้ยินนี่เป็นอย่างที่เห็น เป็นอย่างที่ได้ยินทันที
สมมุิติว่า มีคนมายืนด่าท่านที่หน้าบ้าน พูดด้วยถ้วยตำหยาบคาย ที่ชาวบ้านฟังก็รู้ว่า นี่คือคำด่าที่หลายคาย เมื่อท่านได้ยินเสียง สัญญาก็จะนำสิ่งทีได้ยินแต่ละคำมาตีความหมาย แล้วท่านก็เข้าใจได้ว่า เจ้านี่มันด่าฉันนี่ แล้วท่านก็จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปทันที
ในขบวนการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ ท่านจะเห็นขบวนการของ สัญญาขันธ์ และ สังขารขันธ์ ล้วนเป็นมายา เป็นไตรลักษณ์ เกิดแล้วดับไป ถ้าจิตไม่ไปยึดมันไว้ เมื่อท่านได้ยินเสียงและเข้าใจความเป็นมายาของสัญญาขันธ์ ของสังขารขันธ์ ท่านจะเข้าใจและจะไม่เกิดอาการน๊อตหลุดเมื่อได้ยินคำด่าันั้น ๆ นี่คือผลแห่งการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ การไม่ยึดมั่นในสัญญาขันธ์ การไม่ยึดมั่นในสังขารขันธ์ เพราะจิตไปรู้เท่าทันความเป็นมายาแล้วนั่นเอง
อนึ่ง การไปนั่งสมาธิให้จิตนิ่ง ไม่มีทางที่จะทำให้จิตเห็นความเป็นมายาของสัญญาขันธ์ ความเป็นมายาของสังขารขันธ์ได้เลย
ถ้าท่านเข้าใจให้ตรงในการปฏิบัติธรรม ท่านก็จะเข้าถึงธรรม
ถ้าท่านเข้าใจแบบฤาษีที่นั่งสมาธิให้จิตนิ่ง ท่านจะไม่มีทางเข้าถึงธรรมได้เลย เจ้าชายสิทธัตถะได้พบมาก่อนแล้วจากดาบสทั้ง 2 ที่ไปเรียนวิชาด้วย จึงหลีกลี้ไปเพื่อแสวงหาทางแห่งอริยมรรคด้วยตนเอง จนค้นพบทางและได้ประกาศสอนออกมาให้แก่ชาวโลก อันเป็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่แก่ชาวพุทธทั้งปวง