เห็นความคิด เห็นจิตปรุงแต่ง คือ การเห็นความรู้สึกที่เป็นความคิด ความปรุงแต่ง - มุมมือใหม่
มันเป็นการยากที่ผมจะอธิบายเป็นคำพูดให้ท่านที่เป็นมือใหม่เข้าใจได้ว่า อาการที่ผมว่า เห็นความคิด หรือ เห็นจิตปรุงแต่ง นั้นมีลักษณะอย่างไร บทความนี้ ผมจะบอกท่านให้ท่านทำเอง เพื่อท่านจะได้สัมผัสมันทางอ้อมด้วยตนเอง แต่เป็นการสัมผัสที่คล้ายกับสิ่งที่ท่านต้องการจะเข้าใจว่า ลักษณะมันคืออย่างไร การเห็นความคิด หรือ การเห็นจิตปรุงแต่ง จะเป็นการที่รู้สึกได้ถึงพลังงานอะไรสักอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจ เมื่อคนทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้ฝึกฝนสัมมาสติ เมื่อเขาโกรธ เขาจะรู้ว่าเขาโกรธแล้วนะ แต่เป็นความโกรธที่เกิดขึ้นไปแล้ว เขารู้ได้ช้าและไม่เห็นพลังงานของความโกรธ คนที่ฝึกฝนสัมมาสติ จนจิตรู้ ได้แยกตัวออกมาแล้ว เวลาเขาโกรธขึ้นมา เขาจะเห็นพลังงานอย่างหนึ่ง ที่เรา ๆ ท่าน ๆ เรียกมันว่า ความโกรธ โผล่พลุ่งขึ้นมา และเขาก็จะรู้ว่า เขาโกรธแล้วนะ นี่คือความต่างระหว่างคนที่ฝึกฝนจน จิตรู้ แยกตัวได้แล้ว กับ คนที่จิตรู้ ไม่แยกตัว คนที่ จิตรู้ แยกตัว จะเห็นพลังงานที่เรียกว่า ความโกรธ แต่คนที่จิตรู้ ไม่แยกตัว จะไม่เห็นพลังงานนี้ มาจำลองเหตุการณ์เพื่อให้เห็นพลังงานที่ว่ากันครับ (การจำลองนี้ ไม่เหมือนของจริง แต่ก็ใกล้เคียง ) ขอให้ท่านไปยัง blog ที่นี่ก่อน//www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=30-05-2009&group=1&gblog=20 ขอให้ท่านลองลูบแขนดังที่ผมวาดรูปไว้ แล้วท่านสังเกตดู ตอนที่ฝ่ามือสัมผัสแขนของท่าน และลูบไปตามแขน ท่านรู้สึกถึงการลูบได้ใช่ไหม ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการลูบนั้น จะใกล้เคียงกับอาการที่ จิตรู้ เห็นพลังงานของความโกรธ หรือ เห็นพลังงานของความคิด ถ้าท่านยังไม่เข้าใจ ขอให้ท่านลอง ลูบดู แล้วหยุดลูบ แล้ว ลูบอีก แล้วหยุดอีก ขอให้ลูบแล้วหยุด อย่างนี้สัก 10 ครั้ง แล้วขอให้สังเกต ขณะที่ 1 >>>เมื่อก่อนลูบ ท่านจะไม่มีความรู้สึกของการสัมผัส ขณะที่ 2 >>>เมื่อท่านเริ่มลัมผัสแขนและลูบแขน ท่านจะมีความรู้สึกที่วูบวาบขึ้นมาเพราะการสัมผัสและการลูบ ขณะที่ 3 >>>เมื่อท่านหยุดลูบ ความรู้สึกที่วูบวาบนั้นได้หยุดลง ความรู้สึกที่เกิดขึ้น 3 ขณะที่กล่าวนี้ จะเหมือนกับอาการที่ จิตรู้ เห็นอาการโกรธ หรือ เห็นความคิด ที่เป็นพลังงาน ที่มันเป็นไตรลักษณ์ คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เมื่อท่านฝึกลูบแขน ดังที่ผมเขียนไว้ ท่านก็รู้สึกได้ถึงไตรลักษณ์ที่เกิดขึ้นจากการสัมผัส แต่ผมไม่บอกท่านเท่านั้นว่าเป็นไตรลักษณ์ เมื่อท่านฝึกบ่อย ๆ ท่านก็สัมผัสไตรลักษณ์ได้บ่อย ๆ อันเป็นการพัฒนากำลังสัมมาสติของท่านเองที่ได้จากการฝึกฝนนี้ ถ้าผมจะเปรียบเทียบทางโลกอีกทาง เพื่อให้ท่านเข้าใจ การเห็นความคิด เห็นอาการความโกรธ จะเหมือนกับว่า ท่านอยู่ในรถที่กำลังเกิดการชนกันขึ้น ท่านเห็นตลอดตั้งแต่ยังไม่ชน ในขณะที่ชน และหลังการชน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาที่เกิดเหตุ จะไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เห็นสภาพหลังการชนไปแล้ว ซึ่งเปรียบได้กับผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝน หรือ จิตรู้ ยังไม่เกิด ที่ไม่เห็นอาการก่อนชน และ ชนะที่ชน ที่เี่ี่ที่ยวนึกเอาเอง ตั้งข้อคิดต่าง ๆ ว่า จะต้องเกิดแบบนี้ แบบนี้ ซี่งเป็นการคิดเอาเองทั้งสิ้น ที่คิดอย่างไร ก็ไม่เหมือนของจริง ผมหวังว่า บทความนี้ ท่านจะมองออกว่า สิ่งที่ผมเขียนว่า การเห้นความคิด เห็นอาการจิตปรุงแต่ง เช่นความโกรธ มีลักษณะอย่างไร ถ้าไม่เข้าใจ ขอให้อ่านและทดลองลูบแขนด้วยตนเองอย่างทีผมเขียนไว้ ถ้าท่านไม่ทำการทดลองลูบแขนจริง ๆ ท่านจะไม่เข้าใจเลย เพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้น ต้องมาจากของที่เกิดจริงที่ตัวท่านเท่านั้น
Create Date : 19 มกราคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:20:43 น.
1 comments
Counter : 2173 Pageviews.
โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:18:23:49 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog
ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com
หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน