ดูอาการของจิต เป็นขั้นต้นของการดูจิต ดู 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกัน
ตามที่มีการสอนกันเรื่องดูจิตอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน รวมไปถึง จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน นั้น ที่กล่าวโดยย่อว่า จิตมีราคะ ก็ให้รู้ว่าจิตมีราคะ จิตมีโทสะ ก็ให้รู้ว่าจิตมีโทสะ จิตมีโมหะ ก็ให้รู้ว่า จิตมีโมหะ และ อื่น ๆ นั้น
อาการ โลภะ ราคะ โทสะ โมหะ ล้วนเป็นอาการของจิต ที่ยังไม่ใช่ .ตัวจิต. ถ้าจะว่ากัน สิ่งที่สอนกัน ก็คือให้ตามรู้ ตามดู อาการของจิต ยังไม่ใช่การดูจิตอย่างแท้จริง
ดังทีัี่ผมได้เขียนไว้ในหลาย ๆ ที่ใน blog ว่า การรู้ การเห็น อาการต่าง ๆ ของขันธ์ 5 นั้น ต้องเป็นการรู้ การเห็น ด้วย .จิตรู้. จึงจะได้ผลแห่งการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4
แต่ถ้าถึงแม้ว่า สิ่งที่สอนกัน คือ การดูอาการของจิต (ที่ยังไม่ใช่จิต) แต่อาการของจิต ก็คือ จิตตสังขาร อันเป็น 1 ในขันธ์ 5 เมื่อผู้ปฏิบัติดูอาการของจิตเหล่านี้ด้วย .จิตรู้. ย่อมเป็นการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์เช่นกัน ดังนั้นไม่ต้องไปตกใจว่า สิ่งที่สอนกันยังไม่ใช่การดูจิตอย่างแท้จริง
การดูอาการของจิต ด้วยจิตรู้ นั้นเป็นขั้นต้น ๆ ของการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ครับ
ทีนี้ ท่านอาจสงสัยว่า แล้วการดูจิตจริง ๆ เป็นเช่นไร ขอให้อ่านต่อไปครับ
เมื่อผู้ปฏิบัติมีความเพียร เฝ้าตามรู้ตามดูอาการของจิต ซึ่งเป็นไตรลักษณ์ อันเป็นการปฏิบัติในขั้นต้นไปมาก ๆ เข้า ก็จะเป็นปัญญาสะสมให้กับ .จิตรู้.
เมื่อ .จิตรู้. ได้สะสมปัญญามาก ๆ เข้า จะเกิดการปล่อยวางในขันธ์ 5 ขึ้น อาการปล่อยวางในขันธ์ 5 นั้น ถ้าจะเปรียบให้เห็นอย่างโลก ๆ ก็เหมือนคำที่ว่า .ตัดหางปล่อยวัด. ครับ หมายความว่า จิตรู้ ไม่ให้ความสำคััญใด ๆ อีกในขันธ์ 5 ถึงแม้จิตรู้จะเห็นอาการต่างๆ ของขันธ์ 5 แต่ไม่ให้ความสำคัญ ไม่จับยึดขันธ์ 5 อีก เมื่อ จิตรู้ เกิดอาการตัดหางปล่อยวัดใน ขันธ์ 5 แล้ว ผู้ปฏิบัติจะเกิดอีกอาการหนึ่งเกิดขึ้นในจิตใจ นั้นก็คือ จิตรู้ จะอยู่กับตัว จิตรู้ เอง จิตรู้ จะไม่วิ่งไปแส่หาขันธ์ 5 อีก เมื่อ .จิตรู้. อยู่กับตัว จิตรู้ เอง จิตรู้ เขาก็จะเห็นอาการต่าง ๆ ของตัว .จิตรู้. เอง อันเป็นการดูจิต จริง ๆ ( ขอให้เข้าใจความหมายของคำว่า ดูจิต ก่อนว่า ทีแท้ ดูจิตนั้น ไม่ได้ดูจริงๆ แต่เพราะ จิตรู้ มันอยู่ที่เดียวกันกับจิต ก็จะเห็นจิต เหมือนกับคำว่า ดู นั้นเอง )
การดูจิต ของจิตรู้ เป็นการดูตัวเองของ จิต ที่จิตรู้เห็นเอง ตามธรรมชาติ ไม่ได้จงใจหรือตั้งใจดูเลย ที่เกิดการดูตัวจิตเองอย่างนี้ได้ ก็เพราะจิตมันทิ้งขันธ์ 5 แล้ว จึงหดกลับตัวมันเอง เข้าไปอยู่ในตัวเอง ( อาจเข้าใจยากหน่อยในสภาวะธรรมที่เขียนนี้ ถ้าท่านไม่เห็นด้วยตนเอง )
เมื่อจิตรู้ ดูจิตเอง ก็จะเห็นสภาวะธรรมของตัวจิตอย่างแท้จริง
สภาวะอาการของจิตนั้น ก็จะมี อาการรู้ที่ปรากฏอยู่อย่างถี่ยิบ รู้ที่เป็นความว่าง รู้ที่ไร้ตัวตน
เมื่อ ผมเห็น จิตรู้ เขาดูจิต เอง ทำให้ผมเข้าใจคำสอนของพระวัดป่าที่ว่า ให้ดูผู้รู้ ว่านี่คือการดูจิตนี่เอง และทำให้ผมเข้าใจคำสอนของครูอาจารย์รุ่นเก่า ๆ ที่ว่า ให้อยู่กับรู้ ก็คือ การดูตัวจิตนี่เอง เป็นคำที่ใช้ต่างกัน แต่เป็นสิ่งเดียวกัน นอกจากนี้ ผมยังเข้าใจอีกว่า ถ้าท่านเป็นมือใหม่ ท่านจะไม่มีทางดูจิตได้ นอกจากดูอาการของจิต จนกว่า จิตเขาจะทิ้งขันธ์เสียก่อน แล้วต่อมาท่านจึงจะดูจิต เห็นจิตได้เองครับ เช่นเดียวกันกับคำสอนที่ว่า ให้ดูผู้รู้เช่นเดียวกัน ..
บทความนี้อาจอ่านแล้วเข้าใจยากสักหน่อย เพราะมันเป็นสภาวะธรรมล้วน ๆ แต่คิดว่า อาจเป็นประโยชน์แก่ท่านสักวันหนึ่ง
Create Date : 24 ธันวาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:29:40 น. |
Counter : 1148 Pageviews. |
|
|
|
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog
ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com
หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน