รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

จิตมีหน้าที่รับความรู้สึกและนึกคิด การไปห้ามไม่ให้จิตคิด เป็นการแทรกแซงหน้ามี่ของจิต - มุมมือใหม่

ท่านผู้อ่านที่สงสัยว่า ทำไมผมจึงไม่เห็นด้วยกับการทำสมาธินั่งนิ่ง
ผมขอชี้แจงให้ท่านทราบว่า ผมไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการทำสมาธินั่งนิ่ง
แต่การทำสมาธินั่งนิ่งมี 2 ลักษณะ คือ

1. แบบนั่งนิ่งตัวแข็ง กดจิตให้นิ่ง ถ้าเป็นแบบนี้ผมไม่เห็นด้วย เพราะนั่นคือสมาธิแบบฤาษี หรือ บางอาจารย์เรียกว่า สมาธิหัวตอ คือ กดจิตจนนิ่งที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย สมาธิแบบนี้มันอันตราย ถ้าไม่มีอาจารย์ผู้รู้จริง (ผมเน้นว่า ผู้รู้จริงไม่ใช่รู้แค่อ่านตำรามาสอนใคร ) คอยกำกับดูแล แต่ถ้ามีอาจารย์ผู้รู้จริง คอยกำกับดูแล ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ท่านสามารถจะลองดูก็ได้

2.แต่ถ้านั่งนิ่งเป็นสมาธิแบบสัมมาสติ สมาสมาธิ ทีใช้อิริยาบทนั่ง ผมก็มีเขียนไว้ให้ท่านศึกษาที่เรื่อง การเจริญวิปัสสนาในอิริยาบทนั่งนิ่ง อ่านได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=08-2009&date=23&group=1&gblog=78


ในธรรมชาติของจิตนั้น จะรู้ความรู้สึกและนึกคิด นี่คือหน้าที่ของจิตที่จะกระทำงานของเขาเอง นักปฏิบัติต้องปล่อยให้จิตทำงานตามหน้าที่ของเขา โดยให้มีสัมมาสติ เป็นตัวควบคุม ไม่ให้จิตเตลิดจนเกินขอบเขตของเขาไป
การฝึกสัมมาสติ ก็เพื่อสิ่งนี้เองครับ

ในขณะการแห่งความรู้แจ้งเพื่อการดับทุกข์ตามแนวพุทธศาสนานั้น ก็เพื่อรู้ในขันธ์ 5 นักปฏิบัติต้องปล่อยจิตทำงานให้เป็นอิสระ คือ ให้รู้ความรุ้สึกและรู้การนึกคิด นี่คือกุญแจหลัก เมื่อนักปฏิบัติ ฝึกการควบคุมจิต ให้เขาอยู่ในกรอบแห่งขันธ์ 5 ก็เป็นปัญญาให้แก่จิตให้รู้เรื่องขันธ์ 5 อยู่เนือง ๆ สำหรับท่านที่ไม่ได้ฝึกจิต จิตจะไม่อยู่ในกรอบแห่งขันธ์ 5 แต่จะแส่ไปหาเรื่องภายนอกอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่เรียกกันว่า การส่งจิตออกนอก ครับ (การส่งจิตออกนอก เป็นเหตุให้จิตไม่รู้แจ้ง )

เมื่อจิตอยู่ในกรอบของสัมมาสติ ที่เฝ้ารู้ความจริงแห่งขันธ์ 5 อันเป็นปัญญาสะสมในเบื้องต้นอยู่เนือง ๆ เมื่อการรู้สุกงอม จิตจะมีขบวนการอีกอย่าง จิตจะโผล่งธรรมออกมาเอง เป็นการรู้แจ้งจริง ๆ ของจิตอีกครั้ง จิตจะเข้าใจขันธ์ 5 อันเนื่องจากการโผล่งตัวนั้น และเกิดการปล่อยวางตามลำดับในขันธ์ 5

ปรกติขันธ์ 5 เป็นทุกข์ ถ้าจิตไปยึดขันธ์ 5 ท่านก็จะรู้สึกทุกข์ด้วยเพราะการยึดติดนั้น แต่ถ้าจิตปล่อยวางขันธ์ 5 ท่านจะไม่รู้สึกทุกข์ไปกับขันธ์ 5 แต่จิตจะเห็นอาการทุกข์ของขันธ์ 5 เป็นไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเอง

ถ้าท่านอ่านขบวนการเกิดแห่งปัญญา ท่านคงมองออกว่า ทำไมผมจึงไม่สนับสนุน สมาธินั่งนิ่งตัวแข็ง นอกจากจะอันตรายต่อนักปฏิบัติที่ทำให้เป็นบ้าได้ง่าย ถ้าไร้ผู้ควบคุมผู้รู้จริงดูแลแล้ว มันยังไม่ใช่หนทางแห่งการรู้แจ้งด้วยครับ ในพระไตรปิฏก ก็มีการกล่าวถึง เจ้าชายสิทธัตถะ ที่ไปเรียนวิชากับดาบส และรู้ว่า นี่ไม่ใช่ทางแห่งการพ้นทุกข์ที่แท้จริง และได้ทรงค้นพบทางแห่งการรู้แจ้ง ดังที่มีอยู่ในอริยสัจจ์ 4 แล้ว เราในฐานะชาวพุทธ ก็สมควรจะเดินตามรอยพระศาสดาในเรื่องนี้ด้วย

ท่านคงเข้าใจในคำอธิบายนะครับ

แนะนำอ่านเพิ่มเติม
นักปฏิบัติอย่าคิดมากกับคำว่า .ตัณหา. แล้วท่านจะยิ่งทุกข์
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=12-2009&date=20&group=5&gblog=44




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2552
1 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 18:29:18 น.
Counter : 1090 Pageviews.

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 18:40:08 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.