โภชนาการทางเลือกข้ออักเสบ
โรคข้ออักเสบเป็นโรคที่พบบ่อย รู้จักกันในชื่อของข้อเสื่อม เป็นโรคที่มากับอายุ เกิดจากกระดูกอ่อนระหว่างข้อต่อเสื่อมสภาพลง ทำให้ข้อต่อกระดูกเสียดสีกัน และเกิดอาการอักเสบและปวดข้อ พบได้บ่อยในผู้ชายที่อายุต่ำกว่า 45 ปี แต่ในผู้หญิงที่อายุ 45 ปีขึ้นไปพบมากเป็น 10 เท่า ข้ออักเสบอีกชนิดหนึ่งคือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจำเซลตัวเองไม่ได้ก็จะเริ่มต่อต้านและจู่โจมเนื้อเยื่อตัวเองที่อยู่ส่วนปลายของกระดูก กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและมีผลให้เกิดอาการปวดทั่วร่างกายโดยเฉพาะตามข้อ
นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินพิกัด 20% ขึ้นไปเพิ่มความเสี่ยงโรคข้ออักเสบมากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกติถึง 3 เท่า ฉะนั้นผู้ที่อ้วนต้องลดน้ำหนักเพื่อลดภาระข้อต่อในการที่จะต้องรองรับน้ำหนักมาก เพียงการลดน้ำหนักลงเล็กน้อย เช่น 1/2 กิโล ก็จะบรรเทาอาการปวดลงได้อย่างมาก โดยช่วยลดน้ำหนักที่ข้อต่อจะต้องรองรับได้ถึง 2 กิโล โดยปกติการลดน้ำหนักเพียง 5% ร่วมกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดอาการปวด
อาหารต้านข้ออักเสบ
นักวิจัยชาวเยอรมันพบว่าการอดอาหารและตามด้วยอาหารมังสะวิรัต 3 เดือน ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของข้อได้ การหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ก็สามารถลดอาการจากโรคข้อเสื่อมได้ ทำนองเดียวกันนักวิจัยชาวสวีเดนพบว่าผู้ที่ทนทุกข์ทรมานกับโรคข้ออักเสบ หลังจากที่เปลี่ยนมาบริโภคอาหารเมดิเตอเรเนียนซึ่งประกอบไปด้วยผัก ถั่วต่างๆ ผลไม้ ซีเรียล ปลา และน้ำมันมะกอก แอลกอฮอล์ (โดยเฉพาะไวน์) เพียงเล็กน้อย และจำกัดไขมันอิ่มตัวให้น้อยที่สุดเพียง 3 เดือน พบว่าสามารถลดการอักเสบและทำให้ข้อต่อทำงานดีขึ้น
การบริโภคผัก ผลไม้ และสมุนไพรเป็นประจำจะเป็นประโยชน์ในการป้องกันโรคมากมายรวมทั้งข้ออักเสบ นักวิจัยจากอังกฤษพบว่าอาหารที่อุดมไปด้วยสารแคโรทีนอยด์ เบตาคริปโทแซนทิน และซีแซนทินจะช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ดีกว่าอาหารที่มีสารพิกเมนต์น้อย สีแดง ส้ม เหลืองจากผักและผลไม้เป็นแหล่งที่ดีของสารเหล่านั้น นักวิจัยแนะว่าเพียงแค่น้ำส้มวันละแก้วก็สามารถลดความเสี่ยงของข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ ล่าสุดนักวิจัยพบว่าเชอรี บลูเบอรี และแบล็คเบอรี มีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ช่วยบำบัดอาการจากโรคข้ออักเสบ นอกจากนี้กระเทียม หอม แขนงผัก และกะหล่ำปลีมีสารสารประกอบของกำมะถันซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาช่วยในการบำบัดอาการข้ออักเสบ
สมุนไพรบางชนิด เช่น ขิง มีฤทธิ์ลดอาการปวดและต้านการอักเสบ เชื่อกันว่าขิงช่วยลดอาการปวดข้อและข้ออักเสบและป้องกันกระเพาะจากผลข้างเคียงในผู้ที่ใช้ยาประเภทเอ็นเสด (NSAIDs) มีข้อมูลการวิจัยทางคลินิคที่แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากขิงช่วยลดอาการปวดจากโรคข้อเข่า
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและข้ออักเสบ
มีผลิตภัณฑ์มากมายที่อ้างสรรพคุณในการลดอาการปวดจากข้ออักเสบ แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีข้อมูลการวิจัยน้อย ผลิตภัณฑ์ที่มีข้อมูลการวิจัยสนับสนุนและนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คือ คอนดรอยทิน (Chondroitin) กลูโคซามีน (Glucosamine) น้ำมันปลา เอ็มเอสเอ็ม (MSM = methylsulfonylmethane) และแซมมี (SAMe = S-denosylmethionine)
กลูโคซามีน เป็นสารธรรมชาติที่พบในร่างกาย ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันผลิตมาจากเปลือกหอย กุ้ง ปู ในรูปกลูโคซามีนซัลเฟต หรือ กลูโคซามีนไฮโดรคลอไรด์ การเสริมกลูโคซามีนช่วยกระตุ้นการสร้างสารสำคัญในกระดูกอ่อนและยังช่วยสร้างและซ่อมแซมกระดูกอ่อนจึงช่วยลดอาการในผู้ที่มีปัญหาข้ออักเสบ แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะทำมาจากเปลือกอาหารทะเล แต่ก็ไม่มีรายงายว่าก่อให้เกิดอาการแพ้ในผู้ที่แพ้อาหารทะเล
คอนดรอยทิน ผู้มีปัญหาข้ออักเสบส่วนใหญ่จะเลือกใช้ทั้งคอนดรอยทินและกลูโคซามีนร่วมกันซึ่งให้ผลดีแต่ก็ยังไม่มีข้อมูลว่าถ้าใช้ตัวใดตัวหนึ่งเพียงอย่างเดียวผลิตภัณฑ์ชนิดใดจะให้ผลดีกว่ากัน ขนาดในการเสริมสำหรับข้ออักเสบคือ คอนดรอยทินซัลเฟต วันละ 1500 มก.หรือ กลูโคซามีนซัลเฟต วันละ 1200 มก.ร่วมกับมัลติวิตามินที่มีวิตามินดี
แซมมี ในร่างกายคนเราสารชนิดนี้สร้างมาจากกรดอะมิโนเมทไทโอนีน เกี่ยวข้องกับปฎิกริยาชีวเคมีในร่างกายมากกว่า 40 ปฎิกริยา งานวิจัยมากมายในยุโรปพบว่าแซมมีให้ผลในการลดอาการปวดในโรคข้ออักเสบและมีผลข้างเคียงน้อย แต่จะต้องใช้ร่วมกับวิตามินบี6 บี12 และโฟเลทในการทำงาน ส่วนสรรพคุณอ้างที่ว่าช่วยสร้างกระดูกอ่อนยังไม่มีข้อมูลยืนยัน
เอ็มเอสเอ็ม เป็นสารประกอบกำมะถันที่มีในธรรมชาติใช้ในการสร้างโปรตีน คอลลาเจนและกระดูกอ่อน มีรายงานการวิจัยว่าช่วยในการบำบัดอาการปวดได้ดีเท่าๆกับยาเอ็นเสดส์
น้ำมันปลา ข้อมูลหลายรายงานพบว่าน้ำมันปลาช่วยลดการอักเสบและอาการเจ็บปวดของข้ออักเสบรูมาตอยด์ ขนาดในการเสริม น้ำมันปลาวันละ 3 กรัม สำหรับข้ออักเสบรูมาตอยด์
ปัญหาข้ออักเสบ
สามารถป้องกันได้และบำบัดได้ ในทางธรรมชาติบำบัด การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต โดยการเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง ซึ่งได้แก่อาหารจากพืชเป็นหลักโดยเฉพาะผักและผลไม้ หรืออาหารสไตล์เมดิเตอเรเนียน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดูแลน้ำหนักตัว ถ้าอ้วนลดน้ำหนัก เสริมมัลติวิตามินที่มีวิตามินดี ปรึกษาแพทย์ในการเสริมกลูโคซามีนซัลเฟต คอนดรอยทินซัลเฟต และน้ำมันปลา การเสริมผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอาจใช้เวลาถึง 2-3 เดือน จึงจะเห็นผล
Create Date : 29 ธันวาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 29 ธันวาคม 2551 15:16:05 น. |
Counter : 899 Pageviews. |
|
|
|