สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

สอนอย่างไรให้ลูกรู้ "ซ้าย - ขวา"





วัยทารกและเด็กเล็กถือเป็นวัยที่ว่ายวนอยู่กับพัฒนาการหลายอย่างที่จะหล่อหลอมให้เขาเติบโตขึ้นตามวัย ภาษาเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการที่ทำให้พวกเขาทั้งสนุก ทั้งค้นหาและเลียนแบบ พวกเขาจะฟังในทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในโสตประสาทโดยเฉพาะที่คุณพูด แล้วเจ้าตัวน้อยก็จะทำการเลียนแบบ นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงมีคำแนะนำออกมาไม่ให้เด็กเรียนรู้ภาษาจากเด็กด้วยกันเองเพราะตามธรรมชาติเด็กน้อยจะเรียนรู้ภาษาจากพ่อแม่ของเขาเอง

ดังนั้นคุณอยากให้ลูกพูดแบบใด วิธีการที่ดีที่สุดคุณต้องเป็นแบบอย่างให้ลูกเช่นนั้นด้วย เจ้าตัวน้อยไม่ได้เล็กเกินไปที่จะเรียนรู้ และหลายครั้งเขาอาจจะทำให้คุณถึงกับอึ้งไปกับภาษาที่เขาเข้าใจในแบบฉบับของเขาเอง แถมยังเจื้อยแจ้วออกมาชนิดที่ว่าคุณคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว

เช่นเดียวกับการสอนให้เขารู้จักซ้าย และขวา หลักการง่าย ๆ เบื้องต้นคือ พูดสองคำนี้ทุกครั้งที่คุณต้องใช้มัน แล้วเจ้าตัวเล็กของคุณจะค่อย ๆ ซึมซับและเลียนแบบไปทีละเล็กละน้อยเอง ลองมาดูขั้นตอนง่ายๆและทำตามกันดู

ขั้นที่หนึ่ง ทุกครั้งที่หอมแก้มลูกน้อย คุณอาจพูดประโยคที่ให้เขารับรู้ซ้ำๆว่า นั่น คือ ซ้าย หรือ ขวา เช่น “มาจุ๊บแก้มซ้าย. “มาจุ๊บแก้มขวา” หรือ เวลาเล่นจั๊กจี้ฝ่าเท้าลูก ก็ย้ำว่าเป็นเท้าซ้าย หรือเท้าขวา ไปด้วยทุกครั้ง

ขั้นที่สอง เรียนรู้ยามช้อปปิ้งในรถเข็น เวลาที่เข็นรถที่เอาลูกนั่งไปด้วย ระหว่างที่ผ่านชั้นวางสินค้าสารพัด ก็ชี้ชวนให้ลูกดูพร้อมพูดซ้าย ขวา บ่อย ๆ เช่น “ดูดอกไม้สีแดงที่ด้านขวานั่นสิลูก”

ขั้นที่สาม เมื่อลูกน้อยหัดคลาน คุณก็ลงไปนอนราบกับพื้นเล่นลูกบอลกับเขาแล้วบอก “เอ๊...ลูกบอลอยู่ไหนน้า...” “อ่อ...อยู่ใกล้แขนข้างซ้ายของลูกงัยจ๊ะ”

ขั้นที่สี่ ลูกน้อยวิ่งซน เวลาไปเดินซื้อของเจ้าจอมซนมักไม่อยู่นิ่ง คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย แต่เปลี่ยนเป็นส่งเสริมให้เขาเรียนรู้ซ้าย ขวา ด้วยการบอกให้เขานำทาง (ไหน ๆ ก็ไม่ยอมให้จับอยู่แล้ว) ทำเป็นเล่นเกมหาของไปซะเลย

ขั้นที่ห้า เดินหารถในลานจอด “โน่น รถเราอยู่ทางขวานั่นไง” (แต่อย่าลืมจับลูกให้ปลอดภัยก่อน เพราะรถอาจวิ่งเข้า ออก สวนมาเป็นอันตรายได้)

ขั้นที่หก เล่นเกมซ่อนหา ลูกหาเราไม่เจอ คุณอาจส่งเสียงบอกทาง “เลี้ยวขวาซิคะลูก”

ขั้นที่เจ็ด ยามที่จอมซนเริ่มหาของเล่นตัวเองไม่เจอ คุณต้องใจเย็น อย่าด่วนใจร้อนเดินไปหยิบให้ลูกเสียเองล่ะ ค่อย ๆ บอกเขา “อยู่ในลิ้นชักด้านขวามือไงจ๊ะ”

ขั้นที่แปด ชี้โน่นชี้นี่ให้ดูระหว่างนั่งไปในรถ “ลูกดูช้างทางขวานี่สิจ๊ะ”

ขั้นที่เก้า เมื่อลูกโตขึ้นอีกนิดก่อนวัยเรียน อาจทิ้งป้ายราคารองเท้าไว้ข้างใดข้างหนึ่ง หรือถ้าลูกเดินไม่สะดวก อาจหาของมาประดับเก๋ ๆ แทน เพื่อให้เขาจำได้ว่าทุกครั้งที่ก้าวย่างด้วยข้างที่มีป้ายหรือของประดับอยู่คือข้างซ้าย หรือ ขวาเสมอ ๆ นั่นเอง

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและข้อควรจำ

-คุณต้องอย่าเผลอใช้คำว่า “ตรงนั้น ตรงนี้ หรือ ตรงโน้น” แทน “ทางซ้าย” หรือ “ทางขวา” เด็ดขาด ยกเว้นว่าจะสอนลูกเรื่องระยะใกล้ ไกล

-ลูกอาจเกิดอาการหงุดหงิดกับบทฝึกที่เขาจะต้องแสดงออก แต่นั่นจะกลายเป็นการเรียนรู้โดยธรรมชาติและเข้าใจไปโดยทันที

-ถ้าลูกไปผิดทิศทาง คุณอย่าเผลอแสดงอาการผิดหวังหรือหงุดหงิดเด็ดขาด แต่ต้องไปทำให้เขาเห็นว่าทางไหนถูก

-อย่าสับสนเองเวลาคุณหันหน้าเข้าหาลูกว่าทางไหนกันแน่ คือ ซ้าย และ ขวาของลูก

พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของลูก ฉะนั้นหากต้องการให้ลูกเรียนรู้แบบไหน การกระทำและแสดงออกของพ่อแม่คือบทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับเขา




 

Create Date : 27 มกราคม 2552
0 comments
Last Update : 27 มกราคม 2552 19:46:04 น.
Counter : 1181 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.