ยารักษากระดูกพรุนกับการทำฟัน
เมื่อเวลาไปทำฟัน แพทย์มักจะถามว่าขณะนี้เรากินยาอะไรอยู่บ้าง บางท่านอาจสงสัยว่า อุดฟัน ใส่ฟัน จะไปยุ่งเกี่ยวข้องกับยารักษาโรคอื่นได้อย่างไร? ถ้ามองแบบผิวเผินไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่จริงๆ แล้วมียาหลายตัวที่มีผลต่อการทำฟัน โดยเฉพาะการถอนฟัน การผ่าตัดที่ลงลึกในขากรรไกร เพราะการหายของแผลนั้น ต้องเกี่ยวกับกระดูก คนที่เป็นโรคกระดูกพรุนก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่ต้องใช้ยารักษา ที่มีผลข้างเคียงต่อการทำฟัน ก็อยากย้ำว่า ต้องระวังมากๆ แต่ก่อนลงรายละเอียด ขอเล่าถึงเรื่องของกระดูกสักนิด
ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 30 ปี คนเราจะมีการสร้างกระดูกเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ความหนาแน่นของกระดูกขึ้นกับอาหาร กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน วิตามิน การออกกำลังกาย ปกติร่างกายเรามีการสร้างและการสลายของกระดูกตลอดเวลา แต่มีปริมาณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงอาย ุ
อายุ แรกเกิด 25 ปี การสร้างกระดูกมากกว่าการสลายกระดูก อายุ 25-30 ปี การสร้างกระดูกพอๆ กับการสลายของกระดูก อายุมากกว่า 35 ปี การสร้างกระดูกจะน้องกว่าการสลายตัวของกระดูก
ในภาวะปกติร่างกายจะมีสมดุลของการเสริมสร้างและสลายของมวลกระดูกในร่างกายหมุนเวียนตลอดเวลา โดยมวลกระดูกในวัยหนุ่มสาว 30-35 ปี จะมีมวลกระดูกสะสมในร่างกายสูงสุด เมื่อเกิดการเสียสมดุล มีการสลายของกระดูกมากกว่าการสร้างมวลกระดูกใหม่ การจะเกิดโรคกระดูกโปร่งบาง osteoporosis โรคนี้ทำให้กระดูกเปราะซึ่งเสี่ยงต่อการหักของกระดูกได้ง่าย ถ้าเกิดอุบัติเหตุล้มกระแทก หรือแม้ไม่มีการล้มกระแทก ก็เสี่ยงต่อการทรุดตัวของข้อกระดูกได้ บริเวณที่พบกระดูกหักได้บ่อย ได้แก่ กระดูกสันหลัง สะโพกและข้อมือ
จากสถิติทางการแพทย์มีคนอเมริกันกว่า 10 ล้านคนที่เป็นโรคกระดูกพรุน และ 34 ล้านคนกำลังเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ โรคกระดูกพรุนเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และส่วนใหญ่มักจะได้รับการรักษาด้วยกลุ่มยา bisphosphonates ซึ่งมียาเหล่านี้ เช่น alendronate, risedronate และ ibandronate จากการศึกษาพบว่ายากลุ่มนี้ช่วยลดการสูญเสียของกระดูก เพิ่มความหนาแน่นของกระดูกทำให้ลดอาการเสี่ยงต่อกระดูกหัก อย่างเช่น alendronate ช่วยลดความเสี่ยงของ กระดูกสะโพกแตก ในคนเป็นโรคกระดูกได้ถึง 46% ทีนี้มันมายุ่งกับฟันตรงไหน?
เหมือนหนีเสือปะจระเข้ครับ เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานที่น่าตกใจในคนที่รับประทานยา bisphosphonates จะมีอาการบางอย่างที่เกิดจากยาตัวนี้ มันเข้าไปสัมพันธ์กับการเกิดโรคกระดูกตาย (osteonecrosis ) ของขากรรไกร แม้ว่าจะเกิดได้ยากแต่ถ้าเป็นแล้วค่อนข้างจะมีการทำลายกระดูกอย่างน่าตกใจ
อาการของโรคกระดูกตาย ปวด บวม ติดเชื้อของกระดูกขากรรไกร เหงือก เป็นแผลแล้วไม่ยอมหาย ฟันโยก ขากรรไกรชา มีหนองไหล กระดูกขากรรไกรจะโผล่
จริงๆ แล้ว ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดในคนที่ใช้ยา bisphosphonates ทางเส้นเลือดมากกว่าการกิน ถ้าท่านได้รับยากลุ่มนี้ จะต้องแจ้งทันตแพทย์เมื่อมาทำฟัน โดยเฉพาะการถอนฟันอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกตาย อย่างไรก็ตามการดูแลรักษาสุขภาพฟันให้ดี ไม่ปล่อยให้ฟันผุ หรือโรคเหงือก จนต้องมาถอนฟันออกเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับคนกลุ่มนี้ เพราะท่านมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น ก็ย้ำกันอีกที
ถ้าได้รับยา ก็ต้องระวังเวลามาทำฟัน ดูแลสุขภาพฟันสม่ำเสมอ เพื่อลดอาการเสี่ยงดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูลความรู้จากพ.ต.ท.ทพ.พจนารถ พุ่มประกอบศรี //www.healthtoday.net
Create Date : 08 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 9:55:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1484 Pageviews. |
|
|
|
|
|